ครอบครัวเรื่องเล่าของเรา

พ่อแม่ขังฉันเอาไว้ในห้องใต้ดินนานหลายวัน เพราะฉันเป็นเด็กไม่ดี

สวัสดี ฉันชื่อ แอน ฉันถูกรับเลี้ยงเป็นลูกอุปถัมภ์ตอนที่ฉันอายุ 13 เพราะพ่อแม่ทารุณกรรมฉันและฉันไม่เคยรู้มาก่อนเลย

พ่อแม่ของฉันออกจะ..ประหลาดมาก พวกเขาขังฉันไว้ในห้องใต้ดินขังจริงๆเลยนะ เวลาที่ฉันทำอะไรผิดโดยทั่วไปคือถ้าทำอะไรแตกหรือนอนดึกเกินไปหรือแม้กระทั่งพูดเสียงดังเกินไป พวกเขาจะส่งฉันลงไปอยู่ห้องใต้ดินโดยไม่เคยอธิบายว่าฉันทำผิดตรงไหน ฉันนั่งอยู่ตรงนั้นท่ามกลางความมืดแสงสว่างเดียวที่ส่องลอดมาคือแสงจากหน้าต่างบานเล็กที่เอื้อมไม่ถึง ตอนที่ฉันอายุ 6 หรือ 8 ขวบฉันไม่เข้าใจเลยว่าเกิดอะไรขึ้น สิ่งเดียวที่ฉันมีเวลาลงไปอยู่ในนั้นก็คือจินตนาการ ฉันมีกระทั่งเพื่อนในจินตนาการฉันเคยคุยกับเขาแต่แล้วพ่อแม่ก็บอกว่าห้ามทำแบบนั้นเหมือนกัน นั่นแหละเมื่อฉันโตขึ้นอายุราว 12 ปี ฉันก็ไม่ถูกส่งลงไปอยู่ห้องใต้ดินบ่อยเท่าตอนที่ยังเป็นเด็กแต่พ่อแม่สร้างระบบสไตรท์ขึ้นมา ถ้าฉันทำผิด 3 ครั้งฉันต้องลงไปอยู่ห้องใต้ดิน ตอนนั้นเองที่ฉันเริ่มเห็นจริงๆว่าพ่อแม่คุยกันอย่างไรหรือพูดให้ตรงกว่านั้นก็คือพวกเขาไม่คุยกันเลย พวกเขาแค่นั่งเงียบๆไม่ปริปากพูดกันเลยสักคำหรือถ้าคุยแม่จะเป็นฝ่ายตะโกนและพ่อก็ไม่สนใจ พวกเขายิ่งเข้มงวดขึ้นกว่าเดิมด้วยฉันไม่ได้รับอนุญาตให้ไปไหนหลังเลิกเรียนและไม่ได้รับอนุญาตให้คุยกับเด็กผู้ชาย ฉันต้องนั่งอยู่ในห้องหลังเลิกเรียนและอยู่เงียบๆพวกเขาไม่สนใจฉันเลย ถ้าฉันได้เกรดพอใช้ได้แค่นั้นก็เพียงพอแล้วสำหรับเขา ฉันเห็นว่าเด็กวัยรุ่นคนอื่นๆที่โรงเรียนเป็นอย่างไร พวกเขาพูดคุยและหัวเราะกันแต่ฉันก็ทำไม่ได้เพราะฉันกลัวพ่อแม่ พวกเขาห้ามไม่ให้ฉันบอกใครเกี่ยวกับเรื่องในครอบครัว พวกเขาบอกว่าเรื่องในบ้านควรจะอยู่แค่ในบ้าน คนเดียวที่ฉันเคยคุยก็คือเด็กผู้ชายที่ชื่อเจมส์ ฉันพยายามหลบหลีกเขาเพราะฉันไม่ได้รับอนุญาตให้คุยกับเด็กผู้ชาย แต่เขาก็ยังพยายามต่อไป เขามาจากครอบครัวแย่ดังนั้นเราเลยมีอะไรให้คุยกัน เขาเล่าให้ฟังว่า ชีวิตในบ้านของเขานั้นเลวร้ายแค่ไหน และฉันก็เริ่มเข้าใจฉันไม่ได้ดีไปกว่าเขา สิ่งที่บ้าบอมากคือ ฉันไม่แม้แต่จะเข้าใจว่าสิ่งนั้นเป็นเรื่องแย่

เมื่ออายุ 13 ปีพ่อแม่ขังฉันอีกครั้งและฉันก็ตระหนักว่าตอนนี้ฉันสูงพอที่จะเปิดหน้าต่างได้แล้ว เพราะเจมส์ฉันถึงอยากเปลี่ยนแปลงบางสิ่งบางอย่างและนี้ก็เป็นโอกาสเล็กๆของฉันแล้ว ฉันคลานออกมาทางหน้าต่างและเดินไปตามถนน ฉันมีความสุขมากที่พบวิธีที่ไม่ต้องนั่งอยู่ห้องใต้ดินมืดๆแล้ว นั่นเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในชีวิตของฉันตอนนั้นเลย ฉันกลับมาทันเวลาที่บทลงโทษใกล้สิ้นสุดลงและไม่มีใครสังเกตเห็นอะไร ดังนั้นฉันจึงเริ่มทำแบบนี้เรื่อยๆ บางครั้งเจมส์จะแวะมาหาและเราก็คุยกันนานเป็นชั่วโมง พ่อแม่ของเขาไม่สนหรอกว่าเขาอยู่ที่ไหน มันเป็นเช่นนั้นนานเป็นเดือนแต่แล้วเจมส์ก็หายตัวไป ฉันเดาว่าพ่อแม่ของเขาคงย้ายไปแล้วและฉันไม่สามารถติดต่อเขาได้อีก เพราะฉันถูกห้ามไม่ให้ใช้โซเชียลมีเดีย ฉันยังทำแบบเดิมต่อไปเพียงลำพัง แต่แล้ววันหนึ่งพ่อแม่ก็จับได้ ฉันคลานกลับเข้ามาแล้วเห็นพ่อยืนอยู่กลางห้องใต้ดินในความมืด ฉันกลัวมากและพยายามจะพูดอะไรสักอย่างแต่ฉันก็พูดไม่ออก พ่อพาฉันไปหาแม่แล้วพวกเขาก็บอกให้ฉันออกไปจากบ้าน บอกว่า “ถ้าอยากจะอยู่แบบคนเร่ร่อนก็ไปเป็นคนเร่ร่อนซะ!” ฉันขอร้องไม่ให้พวกเขาโยนฉันออกจากบ้านแต่ไม่มีใครฟังที่ฉันพูด ฉันร้องห่มร้องไห้ในแบบที่ไม่เคยทำมาก่อน เพราะฉันไม่เคยร้องไห้หนักเท่านี้ ฉันแค่คุ้นกับชีวิตที่เป็นแบบนั้น แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนั้นมันหนักเกินไปสักหน่อยกระทั่งกับตัวฉันเอง ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าพวกเขาแค่อยากทำให้ฉันกลัวและไม่ได้โยนฉันออกไปจริงๆ แต่ย้อนกลับไปตอนนั้นมันน่ากลัวมากจริงๆ

ฉันไม่รู้จะไปไหนก็เลยตรงไปที่โรงเรียน พูดกันตามตรงแล้วนั่นเป็นสถานที่เดียวที่ฉันรู้จัก ตอนนั้นเป็นเวลากลางคืนฉันพยายามทำตัวล่องหนให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ โรงเรียนปิดตอนกลางคืน แน่ละเพราะงั้นฉันเลยต้องรออยู่ที่นั่นทั้งคืน ฉันซ่อนอยู่หลังพุ่มไม้และพยายามหลับแต่ก็ไม่ได้ผล ฉันกังวลและกลัวเกินไป ฉันคิดว่าพ่อแม่ไม่ได้คิดว่าฉันจะไปจริงๆ และไม่รออยู่ที่สวนจนกว่าพวกเขาจะเปลี่ยนใจ แต่ฉันก็ไม่มีโทรศัพท์พวกเขาเลยโทรหาฉันไม่ได้ และบางทีก็คงไม่ทำด้วย

หลังจากในคืนอันหนาวเหน็บและยาวนานยามของโรงเรียนก็มาเปิดประตู เขาสังเกตเห็นฉันนอนอยู่ในพุ่มไม้และตรงมาพร้อมไฟฉาย และถามด้วยความโมโหว่า “เธอมาทำอะไรตรงนี้” ฉันบอกเขาว่า “หนูขอโทษ ได้โปรดเถอะค่ะหนูไม่มีที่ไปแล้ว” เขาพาฉันไปที่ออฟฟิศทันทีให้ดื่มชาและอาหารอะไรก็ได้ที่หาได้ เขาดูฉันดื่มชาและกิน จากนั้นจึงถามว่าเกิดอะไรขึ้น ฉันบอกว่า ฉันพูดไม่ได้ แต่เขาบอกว่าฉันต้องพูด ดังนั้นฉันจึงบอกว่า ฉันทะเลาะกับพ่อแม่และพวกเขาก็บอกให้ฉันออกไปจากบ้าน เขาฟังและไม่รู้ว่าจะพูดว่าอะไร แต่เปลี่ยนเรื่องคุยไปเลย อย่างเรื่องโรงเรียนเรื่องเพื่อนเพียงเพื่อให้ฉันสงบลงแต่ชัดเจนว่าคำตอบของฉันเป็นการบอกว่าฉันไม่โอเค ทันทีที่ผู้อำนวยการมาถึงยามก็พาฉันไปพบเขา แล้วถามคำถามฉันอีกตามที่ฉันรู้ในภายหลัง พ่อแม่ฉันจะทำตัวเหมือนปกติเวลาที่มาโรงเรียนและโดยทั่วไปพวกเขาจะบอกว่า ฉันมีปัญหาด้านการเรียนรู้และนั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้ฉันเป็นคนเงียบๆ เขาจึงตกตะลึงมากเมื่อได้ฟังเรื่องจริง ต่อมาฉันถูกพาตัวไปพบผู้ให้คำปรึกษาและคุยกับเขานานหลายชั่วโมง ฉันลังเลมากที่จะตอบคำถามในตอนแรก แต่แล้วก็ค่อยๆเปิดใจอย่างช้าๆและบอกเรื่องของตนกับเขาทีละนิด เขาบอกให้ฉันกลับไปที่บ้านและทำตัวเหมือนปกติทุกอย่าง ฉันจึงกลับบ้านและพ่อแม่ก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

หลังจากวันนั้นไม่กี่วันคนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเด็กมาที่บ้านและเริ่มสืบสวน พ่อแม่โกรธจนคลั่งพวกเขากรี๊ดร้องและพยายามข่มขู่นักสังคมสงเคราะห์ ฉันไม่เคยเห็นพวกเขาโกรธเกรี้ยวเท่านั้นมาก่อน ปกติเขามักมีแต่ความเย็นชา พวกเขาจบเรื่องนี้ไปด้วยการพาฉันไป และพนักงานรักษาความปลอดภัยคนเดียวกับที่ช่วยฉันก็พาฉันไปอยู่ที่บ้านนานหลายวัน เขามีภรรยาและลูกชายวัยรุ่น 2 คนที่อายุมากกว่าฉัน พวกเขาไม่ได้ร่ำรวยหรือมีอะไรแต่เป็นดี ฉันรู้สึกไม่สบายใจอย่างมากที่ได้รับอนุญาตให้พูดและอือ..ทำตัวเหมือนคนปกติ ตอนนั้นฉันไม่อาจเชื่อใจเขาได้เพราะเขาไม่ได้ทำตัวเหมือนพ่อแม่ฉัน เขา ภรรยาและลูกๆดีกับฉันมาก พ่อแม่ฉันพยายามมาหาฉันที่โรงเรียนและเอาตัวฉันไป แต่ยามก็ไม่ยอมให้พวกเขาทำแบบนั้น พวกเขาพยายามทุกวิถีทางเพื่อเอาตัวฉันกลับไป ไม่ใช่เพราะคิดถึงฉันแต่เพราะพวกเขาไม่ต้องการเผชิญหน้ากับผลของการทารุณกรรมฉันนานหลายปี หลังจากผ่านไปหลายเดือนบางทีอาจจะเกือบปี ฉันได้รับการอุปถัมภ์จากครอบครัวนี้ ฉันยังจำได้ว่าฉันยืนขึ้นให้การในศาลกับพวกเขาอย่างไร และไม่อยากเชื่อสิ่งที่เกิดขึ้นเลย ทั้งยังจำได้ว่าเราทั้งหมดไปฉลองกันที่ร้านพิซซ่า ฉันมีความสุขมากแต่ขณะเดียวกันก็รู้สึกไม่เชื่อนัก ฉันเคยถามพวกเขาว่าทำไมถึงรับฉันมาดูแล พวกเขายิ้มและบอกว่า “เพราะหนูเป็นเด็กดีไงละแอน” และทุกอย่างก็จบลง ฉันยังพยายามค้นหาเจมส์และหวังว่าเขาจะโชคดีเหมือนฉัน แต่ตอนนี้ฉันแค่มีความสุขที่ได้อยู่ท่ามกลางผู้คนดีๆและทันทีที่พวกเขาล่วงรู้ปัญหาของฉันก็ตรงเข้ามาช่วยโดยไม่ลังเล

ได้โปรดเถอะอย่าเก็บเงียบไว้คนเดียวถ้าคุณอยู่ในสถานการณ์แบบเดียวกับฉัน หาใครสักคนที่คุณบอกเขาได้ พยายามขอความช่วยเหลือ ไม่ว่าอย่างไรผู้ใหญ่ก็จะช่วยเรา ช่วยกดไลค์ แชร์และคอมเมนต์กันด้วยนะ

เรื่องเล่าที่เกี่ยวข้อง

0 0 votes
Article Rating
Subscribe
Notify of
guest
0 Comments
Inline Feedbacks
View all comments
Back to top button
0
Would love your thoughts, please comment.x
()
x

ปิดโปรแกรมบล็อคโฆษณา

กรุณาปิดโปรแกรมบล็อคโฆษณาก่อนนะ เพราะเว็บจะอยู่ได้ก็จากป้ายโฆษณา