ครอบครัว

แม่ของฉันเข้าห้องโดยไม่เคาะประตูและเห็นฉันกับพ่อเลี้ยงของฉัน

ไงทุกคนฉันชื่อ “เจนนีน” อายุ 17 ปีทั้งชีวิตของฉันมีคนคนนึงที่คอยอยู่เคียงข้างฉันเสมอคนที่ฉันรู้ว่าจะไม่มีวันทิ้งฉันนั้นคือแม่ของฉันเองแต่เมื่อไม่นานมานี้แม่ไล่ฉันออกจากบ้านแล้วมันก็หนึ่งเดือนแล้วนับจากวันนั้นที่เราคุยกันครั้งสุดท้ายแม่เป็นผู้หญิงที่เข้มงวดและชอบกุมอำนาจและพ่อก็มักจะพยายามหนีจากการเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเขาหาเงินเข้าบ้านและคิดว่าเท่านั้นมันก็เพียงพอแล้วมันจึงไม่น่าแปลกใจเลยที่วันนึงครอบครัวของเราก็แตกเมื่อพ่อบอกว่าในที่สุดเขาได้เจอเนื้อคู่จะทิ้งเราไปแน่นอนว่าแม่ใจสลายแล้วพ่อไม่เคยกลับมาอีกเลยแล้วเขาบอกว่าเขากำลังยุ่งกับชีวิตใหม่ตอนนั้นฉันอายุ 15 และฉันโทษแม่เกี่ยวกับทุกเรื่องที่เกิดขึ้นและฉันก็ทำเรื่องที่โง่ที่สุดที่วัยรุ่นคนนึงจะทำได้

ฉันพยายามประท้วงด้วยการย้อมผมสีเขียวเจาะร่างกายก็นะฉันทำทุกอย่างที่จะทำให้แม่ไม่พอใจแล้วฉันก็เริ่มเดทกับผู้ชายที่มีอายุมากกว่าแม่ไม่ชอบและพยายามกับบริเวณและขังฉันไว้ในห้องแต่ฉันก็ยังหนีออกไปไม่กลับบ้านจนเช้าใช้แล้วมันยากมากสำหรับแม่ที่มีลูกสาวอย่างฉันแต่คุณรู้ไหมว่าอะไรคือสิ่งที่แปลกฉันไม่เคยทำให้แม่รำคาญได้จริงๆเลยคือว่าถึงแม้ว่าคนอื่นในเมืองเล็กๆที่เราอยู่จะมองฉันเหมือนฉันเป็นพวกเพี้ยนแต่แม่ก็ไม่ได้สนใจและยังคงบอกเสมอว่าแม่รักฉันแต่แล้วความสัมพันธ์ของฉันกับผู้ชายคนนั้นก็จบลงเพราะฉันจับได้ว่าเขามีผู้หญิงคนอื่นฉันร้องไห้อยู่หลายวันแล้วมันก็ทำให้ฉันเข้าใจว่าแม่เจ็บปวดแค่ไหนเมื่อพ่อทิ้งแม่ไปหลังจากนั้นฉันกับแม่ก็สนิทกันอีกครั้งวันหนึ่งแม่บอกว่าเราจะมีแขกพิเศษมาทานอาหารเย็นด้วยเขาคือเพื่อนร่วมงานของแม่ที่ชื่อ “ทอม” พูดจริงนะฉันไม่ชอบเขาตั้งแต่นาทีแรกที่ฉันเจอเขาฉันว่าเขาดูเหมือนจะนิสัยดีเกินไปและเมื่อฉันสังเกตเห็นว่าแม่เป็นมิตรกับเขาเกินเหตุหัวเราะกับมุกตลกฝืดๆ ของเขาและเห็นเขาจับมือแม่เป็นครั้งคราวฉันก็เข้าใจแล้วว่ามันมีอะไรที่มากกว่าแค่มิตรภาพระหว่างพวกเขา

ทันทีที่เขากลับฉันตัดสินใจคุยกับแม่เกี่ยวกับเรื่องนี้คืองี้นะฉันว่ามันเร็วไปที่น่าจะมีความสัมพันธ์ใหม่แล้วจริงๆแล้วฉันไม่อยากให้เขาทำให้แม่เสียใจฉันก็รู้ว่าฉันอาจจะดราม่ามากไปหน่อยฉันถึงกับเอาข้อโต้แย้งสุดโปรดของแม่ที่ว่าแล้วคนอื่นจะคิดยังไงมาแย้งแม่แต่แม่ใจเย็นมากแล้วบอกว่าเพราะแม่สนับสนุนฉันที่เป็นวัยรุ่นมาตลอดแม่ก็หวังว่าฉันจะสนับสนุนความสัมพันธ์ใหม่ของแม่เช่นกันเพราะฉันรู้ว่าแม่เป็นคนยังไงฉันก็เข้าใจได้ว่าแม่จะทำอย่างที่อยากทำอยู่ดีฉันคิดว่าอย่างน้อยฉันก็ไม่ต้องสุงสิงกับ “ทอม”  ตลอดเวลาแต่ไม่นานนักและก็บอกว่าเขาจะย้ายเข้ามาอยู่กับเราไม่ใช่แค่ฉันต้องใช้ชีวิตร่วมกับผู้ชายคนนั้นเท่านั้นแต่แม่ยังบอกด้วยว่าจากพฤติกรรมที่ไม่ดีของฉันมันก็ชัดเจนว่าฉันจำเป็นต้องได้รับอิทธิพลที่ดีจากผู้ชายดีๆจึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าชีวิตของฉันได้เปลี่ยนไปเมื่อไหร่ก็ตามที่ฉันอยากออกไปข้างนอกกับเพื่อน “ทอม” ก็จะเป็นคนที่คอยถามฉันว่าฉันจะทำอะไรแล้วจะกลับบ้านเมื่อไหร่และถามประมาณว่าวันนี้เป็นไงบ้างและที่โรงเรียนเป็นไงบ้างแล้วพยายามเล่าเรื่องโง่ๆเมื่อตอนที่เขาเป็นเด็กให้ฉันฟังมันน่ารำคาญและทำให้ฉันรู้สึกแย่

วันหนึ่ง “แองเจอริก้า” เพื่อนของฉันมาหาฉันที่บ้านเราอยู่ในครัวตอนที่ทอมกลับมาบ้านจากที่ทำงานเร็วกว่าปกตินิดหน่อยถึงแม้ว่ามันจะเป็นครั้งแรกตั้งแต่ที่เขาย้ายเข้ามาอยู่กับเราที่เขาได้เจอเพื่อนของฉันแต่ “ทอม” ก็ตัดสินใจที่จะไม่กวนเราแล้วไปดูทีวีที่ห้องนั่งเล่น “แองเจอริก้า” ทำหน้าตาเจ้าเล่ห์เธอเล่าเรื่องที่น่าสนใจให้ฉันฟังวันนี้ก่อนที่เธอจะมาหาฉันเธอแวะไปร้านกาแฟและเห็น “ทอม” กำลังจีบพนักงานเสิร์ฟอยู่แต่ตอนนั้นเธอไม่รู้ว่าเขาคือใครฉันรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีอะไรที่ไม่ปกติฉันคิดว่าเรื่องนี้ควรค่าแก่การบอกแม่และในวันนั้นตอนที่เราทั้ง 3 กำลังกินข้าวเย็นแล้วคุยกันเรื่องวันนี้เป็นยังไงบ้างฉันก็บอกแม่เรื่องของ “ทอม” กับพนักงานเสิร์ฟที่ “แองเจอริก้า” เล่าให้ฉันฟัง แหงล่ะในตอนแรกเขาพยายามที่จะปฏิเสธและแกล้งทำเป็นนึกถึงช่วงนั้นในร้านกาแฟแล้วบอกว่าเขาไม่ได้จีบพนักงานเสิร์ฟแค่อยากทำดีกับเธอเท่านั้น

สำหรับฉันปฏิกิริยาของเขาเป็นการแสดงที่น่าสมเพชมากแน่นอนว่าฉันไม่คิดหรอกว่าเขาจะพูดว่าใช้แล้วผมอยากหาคนที่จะนอกใจด้วยนะแต่ฉันคิดว่าฉันได้ส่งสัญญาณให้แม่รู้แล้วว่าเขาไม่ใช่คนที่ซื่อสัตย์แต่แม่ไม่ได้พูดอะไรเรื่องจีบเลยมันจริงสินะที่ผู้คนพูดกันกว่าความรักทำให้คนจาบอด สัปดาห์ถัดมาก็มีอีกเรื่องที่มีน้ำหนักพอเกิดขึ้นฉันอยู่บ้านคนเดียวในขณะที่มีคนมาเคาะประตูคุณนาย “แดเนียล” ซึ่งเป็นหญิงชราพื้นบ้านของเรานั่นเองเธอขอให้ฉันเตือนพ่อเลี้ยงคนใหม่ของฉันว่าเขาสัญญากับเธอว่าจะช่วยเธอจัดการกับโรงรถเพราะเช้าวันนั้นทอมออกจากบ้านไปเพื่อไปทำงานต่างเมืองเป็นเวลา 2 วันฉันจึงบอกเธอว่าพอเขากลับมาฉันจะบอกเขาให้แต่คุณนาย “แดเนียล” ดูจะประหลาดใจที่ได้ยินเช่นนั้นกลายเป็นว่าเมื่อ 1 ชั่วโมงที่แล้วเธอเห็นรถของเขาใกล้กับร้านขายยาเลยทำให้เธอตัดสินใจมาที่บ้านเพื่อเตือน “ทอม” เรื่องสัญญา

อะห้า มันต้องมีอะไรแน่ๆแน่นอนว่าฉันบอกทุกอย่างกับแม่ในทันทีที่แม่กลับถึงบ้านฉันคิดว่ามันจะทำให้แม่สงสัย “ทอม” สักนิดก็ยังดีแต่กลับผิดพลาดอีกครั้งแม่ไม่ได้ดูกังวลเลยแม้แต่น้อยถ้ากลับโกรธฉันแม่บอกว่าคุณนายแบบนี้ต้องเข้าใจผิดแน่เพราะเธอแก่มากแล้วก็คงจะสนหลังจากนั้นฉันก็ตระหนักว่าฉันต้องหาอะไรที่รุนแรงพอที่จะโน้มน้าวให้แม่เชื่อว่าเธอกำลังเดทกับคนผิดอยู่ทันใดนั้นฉันก็นึกไอเดียออกเนื่องจากฉันไม่มีเงินจ้างนักสืบเอกชนอะไรพวกนั้นเพื่อจับผิด “ทอม” ตอนนอกใจแต่ฉันสร้างสถานการณ์ขึ้นเองได้ฉันสร้างแอคเคาท์ปลอมใน เฟสบุ๊ค ทำเป็นว่าเป็นสาวสวยอายุน้อยชื่อ “ลิซ่า” ที่อยากรู้จักเขาอะไรแบบนั้นฉันอัพโหลดรูปของคนแปลกหน้าสุดสวยคนนี้ซึ่งอาจจะทำให้ “ทอม” สนใจแผนของฉันคือจีบเข้าทางออนไลน์และนัดเจอเขาที่โรงแรมม่านรูดสักที่และพาแม่ฉันไปที่นั่นโดยบังเอิญแม่จะได้เห็นว่าเขาหักหลังแม่

ในตอนแรกแผนของฉันเป็นไปอย่างสมบูรณ์ทุกวันเลยทั้งสัปดาห์นั้นเราส่งข้อความจีบกันไปมาและข้อความบางข้อความของเขาก็ค่อนข้างน่าอายจนทำให้ฉันหน้าแดงแต่เมื่อฉันตัดสินใจจะนัดและขอให้เขาจองห้องในโรงแรมม่านรูดฉันก็ทำแผนพังพินาศวันหนึ่งขณะที่ฉันกำลังเดินกลับบ้านจากโรงเรียนโทรหาฉันและบอกว่าเขาต้องส่งอีเมลเรื่องงานแต่คอมของเขาพังแล้วขอใช้คอมของฉันแต่เมื่อฉันวางสายฉันก็จำได้ว่าฉันลืมล๊อคเอ้าจากแอคเคาท์ปลอมของ “ลิซ่า” ถ้าเขาเห็นล่ะฉันไม่ได้เป็นนักวิ่งที่ดีหรอกนะแต่วันนั้นฉันว่าฉันชนะการแข่งมาราธอนได้แน่ฉันวิ่งเร็วสุดๆเลยเมื่อฉันถึงบ้านผมก็นั่งอยู่ในห้องนอนของฉันเหมือนกับว่าเขานั่งรอฉันอยู่ฉันรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นและนั่นเป็นสิ่งที่ฉันกลัวเขาบนหน้าจอคือหน้าเฟสบุ๊คที่เราแชทคุยกันและในช่วงขณะนั้นฉันไม่รู้ว่าฉันคิดอะไรอยู่แต่ฉันต้องรีบไปที่คอมเพื่อพยายามลบโปรไฟล์นั้นทิ้งเขาพยายามหยุดชั้นแล้วเราก็ล้มลงบนเตียงของฉันและในตอนนั้นเองแม่ของฉันที่คงจะได้ยินเสียงก็เห็นเรา 2 คน

แน่นอนว่าในตอนแรกเธอตัวแข็งเพราะความสับสนอยู่ตรงประตูแต่หลังจากนั้นไม่กี่วินาทีฉันก็เห็นในดวงตาของแม่ แม่คิดว่าฉันกับ “ทอม” กำลังจะมีคุณก็เข้าใจนะและสีหน้าของแม่ก็เปลี่ยนเป็นความโกรธสุดๆแหงล่ะฉันพยายามจะอธิบายทุกอย่างกับแม่และฉันชี้ไปที่คอมของฉันและ “ทอม” ก็พยายามพูดบางอย่างแต่แม่ที่กำลังโกรธอย่างที่ฉันได้บอกไปก็ไม่สนใจเราเลยคุณแน่ใจได้เลยว่าพอแม่อ่านข้อความที่เราส่งห่างกันก็เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นแม่ไล่ “ทอม” ออกจากบ้านในทันทีและไม่ยอมพูดกับฉันแม้ล๊อคตัวเองอยู่ในห้องฉันรู้สึกเสียใจกับแม่จริงๆและสิ่งที่แม่ทำก็เข้าใจได้แต่ในขณะเดียวกันฉันก็รู้สึกชนะที่ในที่สุดฉันก็จัดการเรื่องที่ฉันพยายามอย่างหนักมาเป็นเวลานานได้สำเร็จยังไงก็ตามความสุขของฉันอยู่ได้ไม่นานวันต่อมาเมื่อฉันกลับบ้านจากโรงเรียนฉันก็สะดุดกระเป๋าเดินทางของฉันแล้วฉันก็เห็นแม่ แม่ดูอารมณ์เสียแต่ก็ยังใจเย็นมากแม่บอกว่าแม่เบื่อหน่ายกับความไม่ปกติของฉันและไล่ฉันออกจากบ้านตอนนี้ฉันอยู่กับ “แองเจอริก้า” ไม่มีเงินและไม่มีเสื้อผ้าตัวอื่นนอกจากเสื้อผ้าที่แม่แพ็คให้ฉันพ่อกับแม่ให้วัยรุ่นจอมยุ่งยากอย่างฉันไปอยู่กับพ่อและภรรยาหมายของพ่อฉันคุกเข่าขอร้องแม่ให้ยกโทษให้ฉันไปแล้วแต่แม่ไม่อยากคุยกับฉันเป็นเวลา 1 เดือนแล้วฉันไม่อยากเป็นภาระกับครอบครัวของเพื่อนฉันว่าคงถึงเวลาที่ฉันต้องหางานทำแล้ว

เรื่องก็เป็นอย่างนี้ฉันจะรอฟังว่าคุณคิดยังไงและให้คำแนะนำได้ในช่องคอมเม้นและอย่าลืมกดติดตามช่องนี้มีเรื่องราวอื่นๆที่น่าสนใจอีกมากมายรอคุณอยู่ 

https://open.spotify.com/episode/7CEi4TKeBClxGABahLmCqQ?si=s_lnzgxuS8Otr2UOhe7qsg

เรื่องเล่าที่เกี่ยวข้อง

0 0 votes
Article Rating
Subscribe
Notify of
guest
0 Comments
Inline Feedbacks
View all comments
Back to top button
0
Would love your thoughts, please comment.x
()
x

ปิดโปรแกรมบล็อคโฆษณา

กรุณาปิดโปรแกรมบล็อคโฆษณาก่อนนะ เพราะเว็บจะอยู่ได้ก็จากป้ายโฆษณา