ปัญหาสุขภาพ

ฉันกลายเป็นคนดังในโรงเรียนหลังจากฉันสูญเสียความทรงจำ

สวัสดีทุกคนฉันชื่อ “บี” ฉันเดาว่าคนที่ดีเหล่านี้ที่กลายมาเป็นผู้ปกครองของฉันบอกฉันทีว่ามันฟังดูแปลกใช่ไหมฉันไม่แน่ใจว่าตัวเองชื่ออะไรพ่อและแม่คือใครแม้กระทั่งคุณเป็นใครสิ่งแรกที่จำได้คือกลิ่นของหญ้าในทุ่งที่ฉันตื่นขึ้นมาฉันรู้สึกปวดหัวที่สุดในชีวิตหัวฉันต้องได้รับบาดเจ็บแน่ๆแต่มันเกิดอะไรขึ้นละฉันลุกขึ้นมานั่งและพยายามคิดว่าฉันมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรแต่ก็คิดไม่ออกฉันยืนขึ้นแล้วตัดสินใจกลับบ้านแต่จำไม่ได้ว่าบ้านอยู่ที่ไหนเมื่อคิดต่อไปอีกฉันก็ตระหนักได้ว่าฉันไม่รู้ชื่อของตัวเองฉันเริ่มตื่นตระหนกและเริ่มวิ่งไปเรื่อยๆมีบ้านบางหลังไม่ไกลจากที่ฉันตื่นขึ้นมาฉันไปที่นั่นแล้วเคาะประตูบ้านของคนแถวนั้นแล้วตะโกนขอความช่วยเหลือในที่สุดก็มีหญิงชราคนนึงอนุญาตให้ฉันเข้าไปในบ้านแล้วบอกให้ฉันเล่าให้ฟังว่าฉันเป็นใครแล้วเกิดอะไรขึ้นกับฉัน แต่ฉันจำชื่อและที่อยู่ตัวเองไม่ได้เธอดูสับสนส่วนฉันรู้สึกหวาดกลัวและอับอายที่ร้องไห้ต่อหน้า

เธอหญิงชราพยายามปลอบฉันและนำชาอุ่นมาให้ดูเหมือนเวลาผ่านไปและหลังจากที่รถตำรวจหลายคันมาถึงไปโรงพยาบาลได้คุยกับหมอมากมายและกลับไปพบกับครอบครัวใหม่ฉันก็ได้รับรู้เรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตของฉัน ฉันอาศัยอยู่ในแคนซัสกับพ่อแม่และน้องชายครอบครัวของเราอยู่ห่างไกลจากคำว่าสมบูรณ์แบบจริงๆพ่อแม่ของฉันกำลังจะหย่ากันซึ่งอ้างว่ามันเป็นเหตุผลที่แท้จริงเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับฉันในวันนั้นเมื่อทุกอย่างถึงจุดแตกหักหลังจากการทะเลาะกันยกใหญ่พ่อของฉันเก็บของทุกอย่างแล้วออกจากบ้านโดยปิดประตูเสียงดังแม่ทั้งเศร้าและโกรธร้องไห้หนักจะเก็บของทุกอย่างที่ทำให้คิดถึงพ่อใส่ถุงพลาสติกแล้วบอกให้ฉันเอาไปทิ้งข้างนอกบ้านให้เร็วที่สุดเธอไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะทำเองได้แล้วหลังจากนั้นปกติแล้วฉันใช้เวลาไม่กี่นาทีในการเอาขยะไปทิ้งนอกบ้านดูเหมือนครั้งนี้ฉันจะใช้เวลานานกว่าปกติผ่านไป 15 นาทีฉันก็ยังไม่กลับมา

แม่เลยบอกให้ “แกรี่” น้องชายของฉันออกไปดูว่าฉันกำลังทำอะไรอยู่และเขาก็พบว่าฉันหายไปตอนแรกแม่ไม่ได้กังวลมากเธอคิดว่าฉันไปเดินเล่นเพื่อทำให้สมองปลอดโปร่งหลังจากเหตุการณ์ย่ำแย่เมื่อกี้กำลังจะ 2-3 ชั่วโมงผ่านไปพวกเขาก็เริ่มตามหาฉันน้องชายฉันต้องวิ่งไปรอบๆละแวกบ้านเขาไปทุกที่ที่คิดว่าฉันน่าจะอยู่แม่โทรถามเพื่อนฉันและผู้ปกครองของพวกเขาแต่ไม่มีใครเห็นหรือว่าฉันอยู่ที่ไหนตกเย็นนี้มันหน้าชัดแล้วว่ามีบางอย่างเลวร้ายเกิดขึ้นกับฉันทุกคนช่วยกันตามหาทั้งตำรวจเพื่อนบ้านและเพื่อนๆแม้กระทั่งพ่อแม่ก็โทรหาและแน่นอนเขารีบกลับมาที่บ้านในขณะที่พ่อแม่กำลังสิ้นหวังเพราะเขาก็ได้แจ้งว่ามีคนพบชั้นในพื้นที่ห่างออกไปประมาณ 5 กิโลเมตรจากบ้านแม่บอกว่าตอนที่เจอฉันนั่งอยู่บนเตียงที่โรงพยาบาลตระหนักได้ทันทีว่ามีอะไรบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้นฉันยังจำการพบกันครั้งนั้นได้ตอนนั้นฉันพยายามเรียบเรียงความคิดและเรื่องความทรงจำกลับมาจากนั้นฉันเห็นผู้หญิงที่กำลังร้องไห้คนนึงวิ่งมาหาเธอกอดฉันแล้วพูดชื่อฉันหลายรอบมาก “บี” 

มันเป็นเรื่องที่น่างงมากฉันไม่รู้สึกอะไรเลยผู้คนที่เรียกตัวเองว่าพ่อแม่ของฉันเป็นคนที่ฉันไม่รู้จักเลยจึงทำให้พวกเขาทรมานสุดๆแต่จิตแพทย์และนักประสาทวิทยาและบอกว่าอาการของฉันมีแนวโน้มไปในทางที่ดีขึ้นถึงแม้นี่จะเป็นการพูดแบบไม่เต็มปากเต็มคำก็ตามแต่จะเกิดอะไรขึ้นละ ฉันกลับไปบ้านแล้วเริ่มต้นใหม่ฉันสำรวจภายในบ้านห้องของฉันมองดูข้าวของรูปภาพและโซเชียลมีเดียฉันอ่านข้อความที่คุยกับเพื่อนพยายามกู้ความทรงจำกลับมาแต่ดูเหมือนฉันกำลังอ่านเรื่องราวชีวิตของอีกคนนึงมันแปลกมากที่ต้องเรียนรู้ว่าตัวเองเคยเป็นคนยังไงเคยสนใจและคิดอะไรบ้างเวลาผ่านไปเนื่องจากความรู้ทั่วไปและความเข้าใจในการใช้ชีวิตของฉันไม่ได้หายไปหมอเลยคิดว่ามันเป็นเรื่องดีถ้าฉันเริ่มไปโรงเรียนอีกครั้งฉันรู้สึกหวาดกลัวเพราะไม่ค่อยแน่ใจว่าตัวเองยังจำเกี่ยวกับหลักสูตรของโรงเรียนได้ไหมแต่พวกเขาคิดว่ามันอาจมีผลกระทบเชิงบวกต่อความทรงจำของฉันแต่ก็นะโชคไม่เข้าข้างเลยทุกคนในโรงเรียนรับรู้เรื่องราวของฉันกลับกลายเป็นว่าฉันเป็นคนดังในโรงเรียนหรืออะไรทำนองนั้นมีเป็นฝันร้ายชัดๆ

ฉันรู้สึกถึงดวงตานับร้อยที่จับต้องมาทุกๆครั้งที่ฉันเดินในโถงกลางแม้ฉันจะสามารถทำโจทย์สมการคณิตศาสตร์ได้แต่ฉันไม่สามารถจำตารางสูตรคูณหรือสะกดคำได้เลยเพื่อนร่วมชั้นต่างซุบซิบโดยไม่ทำ ทัรใดนั้นมีผู่ชายคนนึงเดินมาฉันแล้วถามว่า เธอจะหลอกพวกเราทำไม “บี” บอกความจริงพวกเราเถอะพวกเขารู้จักฉัน แต่ฉันไม่รู้จักพวกเขา ฉันเลยตกใจมีผู้หญิงคนนึงโศกเศร้ามากๆคืนนั้นฉันได้รับข้อความในมือถือว่าเธอเมินฉันทำไมอย่างน้อยเธอก็น่าจะบอกฉันผู้หญิงคนนั้นชื่อ “ซานร่า” เธอต้องเป็นเพื่อนสนิทของฉันแน่ๆดังนั้นฉันจึงนัดเจอกับเธอฉันแอบออกจากบ้านพวกเรานัดเจอกันที่สวนสาธารณะฉันบอกเธอทุกอย่างที่ฉันจำได้ฉันหวังว่าเธอจะเชื่อและช่วยฉันแต่ตลอดเวลาที่ฉันพูดเธอกลับมองมาด้วยสายตาหวาดระแวงเธอพูดกับฉันว่าเธอคิดว่าฉันจะเชื่อจริงๆหรอกลับกลายเป็นว่าเรื่องที่ฉันเล่าไม่ทําให้เธอประทับใจเลยเธอโกรธฉันมากและพูดว่าไม่เชื่อที่ฉันพูดสักคำเดียวกันทุกอย่างเป็นเรื่องไร้สาระเธอยังพูดอีกด้วยว่าไม่คิดเลยว่าฉันจะทำตัวต่ำแบบนี้เพื่อให้ตัวเองเป็นที่นิยมเพิ่มขึ้นในโรงเรียนในภายหลังกลับกลายเป็นว่าทุกคนในโรงเรียนก็คิดเหมือนกันหมดรวมถึงครูด้วยคิดว่าฉันพยายามเรียกร้องความสนใจไม่มีใครคุยกับฉันอีกเลยและพยายามตีตัวห่างจากฉัน 

ฉันรู้สึกเครียดขึ้นทุกวันแล้วรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเองแถมฉันยังเหลือตัวคนเดียวอีกมีอยู่ครั้งหนึ่งในทางคณิตศาสตร์มันเกิดขึ้นอีกครั้งเพื่อนร่วมชั้นจั้งมาที่ฉันนะหัวเราะคิกคักทำให้ฉันไม่มีสมาธิแล้วจู่ๆครูก็ถามคำถามฉันขึ้นมาซึ่งฉันตอบไม่ได้จากนั้นมีคนตะโกนขึ้นมาว่า ฮ๋อ เธอมีอาการหน้ามืดอีกแล้วล่ะสิแล้วทุกคนก็เริ่มหัวเราะฉันที่นั่งอยู่ตรงนั้นรู้สึกว่าหายใจลำบากขึ้นเรื่อยๆและหลังจากนั้นฉันลืมตาขึ้นมาเห็นตัวเองนอนอยู่บนพื้นกลางห้องเรียนมือฉันเต็มไปด้วยรอยช้ำผมยุ่งเหยิงเพื่อนร่วมห้องวิ่งไปยังมุมห้องแล้วมองฉันด้วยสายตาหวาดกลัวครูก็ยืนอยู่กับพวกเขาซึ่งพูดไม่ออกฉันรู้สึกขายหน้าเกินกว่าที่จะพูดอะไรฉันไม่รู้เลยว่าตัวเองทำอะไรลงไปแล้วเพราะอะไรหลังจากจบคาบครูเดินมาที่ฉันแล้วถามอย่างนุ่มนาลว่าต้องการให้ช่วยอะไรไหมฉันรู้สึกอับอายมากเลยหลังจากนั้นฉันต้องไปหาจิตแพทย์ของโรงเรียนเขาถามฉันว่าจำอะไรที่เกิดขึ้นในห้องเรียนได้บ้างไหมฉันพยายามคิดอย่างหนักแต่คิดไม่ออกเขาบอกว่าตอนนั้นแม้กระทั่งครูยังรู้สึกกลัวเลยฉันมีอาการชักรุนแรงคุณหมอแนะนำให้ฉันพักอยู่ที่บ้านสักระยะทำให้ฉันไม่มีอะไรทำนอกจากอยู่ในห้องนั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยฉันถูกทรมานด้วยความคิดเกี่ยวกับว่าฉันทำอะไรลงไปทุกคนในห้องถึงว่ากลัวแล้วทำไมฉันถึงจำอะไรไม่ได้อีกแล้วฉันใช้เวลาทั้งหมดนอนอยู่บนเตียงและอ่านหนังสือซึ่งแม่บอกว่าก่อนหน้านี้ฉันไม่ใช่คนชอบอ่านหนังสือเลย

พ่อแม่พยายามให้กำลังใจมากเท่าที่จะทำได้แต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรฉันรู้สึกเหมือนเป็นเอเลี่ยนที่อยู่ในโลกที่ไม่รู้จักซึ่งทุกคนต่างต่อต้านชั้นครั้งหนึ่งแม่มาหาฉันที่ห้องแล้วบอกว่ามีคนมาหาฉัน ฉันคิดไม่ออกเลยว่าเป็นใครเพราะฉันไม่มีเพื่อนฉันรู้สึกประปลาดใจมากที่เห็น “ซานร่า” อยู่ที่ห้องโถงเธอรู้สึกผิดมากและขอคุยกับฉันพวกเราขึ้นไปชั้นบนแล้วเธอก็ร้องไห้ออกมาเธอขอให้ฉันยกโทษให้เรื่องที่เธอไม่เชื่อฉันเธอบอกว่าตอนนี้เธอเชื่อฉันแล้วซึ่งฉันเองก็ไม่โกรธเธอเลยฉันรู้สึกมีความสุขมากที่เธอมาหาและรวบรวมความกล้าขอให้เธอบอกฉันว่าเกิดอะไรขึ้นในวันนั้น .ซานร่า” หน้าซีดดูเธอไม่อยากพูดถึงเรื่องวันนั้นแต่ในที่สุดก็ยอมบอกวันนั้นฉันกรีดร้องขึ้นมาทำร้ายทุกอย่างที่อยู่รอบๆและพูดภาษาแปลกๆด้วยน้ำเสียงที่น่ากลัวเหมือนหนังสยองขวัญฉันไม่รู้ว่าทำไมแต่การที่ “ซานร่า” มาหาทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้นตอนนี้อย่างน้อยฉันก็มีเพื่อนจากอดีตแล้วอาการหน้ามืดของฉันยังเกิดขึ้นเรื่อยๆคิดว่าคงต้องมีชีวิตอยู่กับมันและยอมรับสิ่งที่เป็นฉันมีครอบครัวที่น่ารักและ “ซานร่า” ครูในโรงเรียนและเพื่อนร่วมชั้นก็เข้าใจฉันรวมถึงยอมรับสถานการณ์นี้แล้วพวกเขาช่วยฉันจัดการกับปัญหาเหล่านี้ถ้าเกิดฉันลืมบางอย่าง “ซานร่า” จะบอกว่าเกิดอะไรขึ้นเสมอฉันมีบล็อกส่วนตัวซึ่งฉันเขียนทุกอย่างที่เกิดขึ้นในแต่ละวันเพื่อให้แน่ใจว่าฉันจะไม่ลืมอะไรไปส่วนพ่อแม่ของฉันแน่นอนว่าพวกเขากำลังมีความทุกข์และคำว่าหย่าร้างก็ไม่เคยถูกพูดถึงอีกมันน่าเศร้าที่พวกเขาแบ่งปันความโศกเศร้าไม่ใช่ความรักต่อกันซึ่งนำพวกเขากลับมาอยู่ด้วยกันแล้วมันเป็นอะไรที่เศร้าสำหรับฉันที่ไม่สามารถรู้สึกได้ถึงความสุขที่แท้จริงของการเจอกันอีกครั้งเพราะฉันไม่มีความทรงจำที่อบอุ่นเกี่ยวกับวัยเด็กของฉันอีกแล้วหวังว่าฉันจะจำได้แม่บอกว่าพ่อเป็นทุกอย่างสำหรับฉันเสมอแต่ความจำทุกอย่างของฉันถูกทำลายไปก่อนนะฉันไม่ยอมแพ้ง่ายๆหรอกแต่สักวันหนึ่งฉันจะผ่านมันไปได้

หวังว่าคุณจะไม่เคยเจอประสบการณ์แบบนี้นะบอกให้ฉันดูหน่อยสิว่าเรื่องของฉันกินใจคุณบ้างไหมฉันยินดีรับฟังทุกความคิดเห็นและขอบคุณที่รับฟังนะ “บี” 

https://open.spotify.com/episode/33SBNUaBbdq2vZ3HGYsh2b?si=LCPzaRz5Qy6fh6r5eOe_FA

เรื่องเล่าที่เกี่ยวข้อง

0 0 votes
Article Rating
Subscribe
Notify of
guest
0 Comments
Inline Feedbacks
View all comments
Back to top button
0
Would love your thoughts, please comment.x
()
x

ปิดโปรแกรมบล็อคโฆษณา

กรุณาปิดโปรแกรมบล็อคโฆษณาก่อนนะ เพราะเว็บจะอยู่ได้ก็จากป้ายโฆษณา