เพื่อนกัน

เพื่อนสนิทผมบอกทุกคนว่า ผมเป็นเกย์ เพื่อแฟนเธอจะได้ไม่หึง

สวัสดีทุกคนผมชื่อ “เคเน็ต” ตอนนี้ผมอายุ 16 ปีปกติแล้วผมไม่ค่อยอยากจะเปิดเผยเรื่องส่วนตัวให้ใครฟังมากนักแต่มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับเพื่อนสนิทของผมที่ชื่นชอบช่องนี้มากซึ่งเธอเลิกคุยกับผมไปแล้วผมทำบางให้เธอไม่พอใจผมรู้ผมทำตัวเหมือนคนงี่เง่าผมเลยคิดว่าทำไมเราไม่เล่าเรื่องนี้ซะเลยเผื่อว่าถ้าเธอมาเห็นและเธออาจจะเห็นใจและให้โอกาสผมอีกครั้งก็ได้ “ลิลลี่” กับผมเป็นเพื่อนกันมาแบบนานมากเธออาศัยอยู่ฝั่งตรงข้ามกับบ้านของผมในย่านคาวเดอะแซค เราซี้ตัวติดกันมากตอนเราอยู่ได้ 5 ขวบเราหัดปั่นจักรยานด้วยกันและเมื่อเราอายุ 10 ขวบเราสร้างบ้านต้นไม้แสนอบอุ่นขึ้นมาในสวนหลังบ้านด้วยกันกับพ่อของผม

สิ่งที่ผมต้องการจะพูดคือพวกเราสนิทกันมากสนิทเหมือนญาติแต่ไม่ใช่แบบแฟนแน่ๆแต่แล้วมันก็มีเรื่องที่เลวร้ายที่สุดเกิดขึ้นจนได้อย่างน้อยผมล่ะที่คิดแบบนั้นเมื่อ 6 เดือนที่แล้วเธอได้พบหนุ่มคนหนึ่งชื่อ “ลิค” คุณต้องนึกไม่ออกแน่ๆว่าเขาน่าขยะแขยงแค่ไหนสำหรับผมเขาเป็นแฟนประเภทประจบประแจงเลียแข้งเลียขาเอาใจพ่อแม่ของเธอแต่พอลับตาพวกเขานายคนนี้ห่างไกลคำว่าคนดีมากๆบอกได้เลย พูดตามตรงผมกับเขาเราเกลียดขี้หน้ากันตั้งแต่แรกเห็นแม้ว่า “ลิลลี่” กับผมเราสนิทกันมากแค่ไหนเธอก็อยากให้เรา 2 คนทำความรู้จักกันให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เธอตื่นเต้นเสมอเวลาที่เธอพูดถึงเขาเช่น “ลิค” น่ารักมากเขาเปิดประตูรถให้ฉันด้วยและ “ลิค” ใจดีมากเขาชอบแมวด้วยเหมือนฉันเลยและอื่นๆ เพราะงั้นผมเลยเหม็นขี้หน้าเขาก่อนที่เราจะเจอกันซะอีกเรื่องจริงก็คือ “ลิลลี่” ไม่มีเวลาออกไปเที่ยวกับผมอีกแล้วเธอมัวยุ่งอยู่กับการตกหลุมรักเธอเรียกอย่างนั้นไม่ก็ออกไปเที่ยวกับ “ลิค” และเพื่อนๆของเขาผมยังคงเสียใจสงสารตัวเองซึ่งถูกทิ้งให้อยู่คนเดียว

แล้ว “ลิลลี่” ใจดีและใจเย็นเสมอได้รับปากว่าจะหาเวลามาหาผมบ้าง เธอรักษาสัญญานะอย่างมากก็ 2 ครั้ง คืนนั้นเรานัดกันไปดูหนังที่โรงหนังในเมืองแล้วผมคิดว่ามันคงสนุกถ้าได้ไปกับ “ลิลลี่” เหมือนวันเก่าๆนึกออกนะผมเลยรอเธออยู่ตรงทางเข้าซื้อตั๋วหนังแล้วป๊อปคอร์นเรียบร้อยแล้วผมก็รู้สึกเขินๆ เล็กน้อยเหมือนเรากำลังจะมาเดทกันยังไงไม่รู้ผมดีใจมากเมื่อเห็นเธอกำลังเดินเข้ามาในโรงหนังแล้วเธอก็บอกว่าเราต้องซื้อตั๋วอีกใบเพราะว่า “ลิค” จะขอร่วมวงด้วยเขากำลังหาที่จอดรถผมสงสัยจังว่าที่เขาอยากดู Adventure ภาคใหม่ใจจะขาดเนี่ยมันจริงไหมยังกับว่าเขาไม่เคยดูมาก่อนใช่แน่นอนมันทำให้ผมฉุนมากๆ เพราะว่าพวกเขากุมมือกันแล้วก็กระหนุงกระหนิงตลอดเวลาเป็นเอามากชนิดที่ผมต้องลุกหนีออกไปกลางเรื่องตอนนี้ผมเข้าใจแล้วว่าทำแบบนั้นมาดูเด็กเกินไปหน่อยแต่ตอนนั้นผมเกือบได้ปะทะกับไอ้บ้า “ลิค” นั่นแล้ว

 “ลิลลี่” โทรมาหาผมในคืนนั้นเธอบอกว่าขอโทษที่พา “ลิค” ไปด้วยกันทั้งๆ ที่รู้ว่าผมไม่ชอบแต่เธอยังบอกอีกว่าผมซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของเธอควรจะสนับสนุนความสัมพันธ์ของพวกเขาเพราะทั้งคู่รักกันและเธอก็มีความสุขแล้วผมยังโกรธเธออยู่ผมก็รู้สึกเธอพูดถูกเพราะงั้นผมเลยรับคำเชิญของเธอว่าจะไปปาร์ตี้ที่ “ลิค” กำลังจะจัดขึ้นและทำตัวให้สมกับเป็นผู้ใหญ่ แต่ดันไปเห็นว่าเค้ากำลังจูบกันหรืออะไรซักอย่าง แหวะผมเกือบที่จะทำลายทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยมีร่วมกับ “ลิลลี่” ในปาร์ตี้ครั้งนั้นก็ดูสิเธอเป็นคนเริ่มก่อนจริงๆแต่ยังไงก็ตามเมื่อไปถึงผมก็สังเกตเห็นว่าถ้าจะให้พูดนะก็คือความเปลี่ยนแปลงทัศนคติครั้งใหญ่ของ “ลิค” ที่มีต่อผมอย่างน้อยเขาก็เป็นมิตรหรือไม่ก็พยายามที่จะไม่แสดงออกว่าเขาเกลียดผมอย่างที่เคยแต่แล้วผมก็ได้ยินกลุ่มเพื่อนของเขากำลังซุบซิบอะไรบางอย่างเกี่ยวกับผม “ลิลลี่” และใครบางคนที่เป็นเกย์

ในตอนท้ายผมก็ฟังไม่ออกว่าเกิดอะไรขึ้นรอบๆตัวผมเพื่อนงี่เง่าของ “ลิค” คนหนึ่งเดินมาหาผมแล้วบอกว่าน้องชายเขาก็เป็นเกย์เหมือนกันแล้วเขาพาให้เรามารู้จักกันได้อะไรนะ “ลิลลี่” ดูเหมือนจะสับสนมากและขอโทษเมื่อผมไปถามเธอตรงๆว่าทำไมทุกคนถึงคิดว่าผมเป็นเกย์เธอหน้าเปลี่ยนเป็นสีแดงแล้วบอกว่าเพราะเธอบอกทุกคนว่าผมเป็น ผมยืนนิ่งอ้าปากค้างในขณะที่ “ลิลลี่” พยายามแก้ตัวสำหรับข่าวลือไร้สาระอันนี้สุดท้ายเธอขอให้ผมช่วยแกล้งเป็นเกย์ต่อไปเพื่อว่า “ลิค” สุดที่รักของเธอจะได้หยุดกวนใจเธอแล้วหยุดหึงผมสักทีคุณรู้อะไรไหมผมรู้สึกอยู่เหนือกว่าเขาแล้วตอนนี้ยังรู้อีกว่าเขามองผมเป็นศัตรูและข่าวลือปลอมๆ ของผมกำลังจะทำให้เขาสงบลงนี่แปลว่า “ลิลลี่” กับผมมีโอกาสออกไปเที่ยวบ่อยขึ้นเพราะงั้นผมเลยรับปากว่าจะแกล้งทำเพื่อที่จะรักษามิตรภาพของเอาไว้แต่ผมผิดถนัดที่คิดว่าแค่ที่ปาร์ตี้ที่เดียวที่ผมจำเป็นต้องเสแสร้งเพื่อนของเด็กคนหนึ่งดันเป็นลูกชายของเพื่อนของพ่อผมและคุณคงเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น 2-3 วันผมถึงก็ต้องคุยกับพ่ออย่างจริงจัง

เขาปฏิเสธที่จะเชื่อผมแต่ก็ด้วยเหตุผลอะไรก็ไม่รู้ที่ทำให้เขาเลือกเพื่อนของเขาแทนผมเริ่มที่จะได้ยินเขาพูดอะไรแย่ๆหลายอย่างสรุปก็คือผมกลายเป็นความผิดหวังครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดของพ่อไปแล้วและเขาก็ไม่เคยอับอายขายหน้าเท่าเรื่องของผมมาก่อนเลยในชีวิตและอีกมากมายผมรู้ว่าผมถูกและค่อนข้างมั่นใจว่าวันหนึ่งเมื่อเค้าใจเย็นลง ผมคงมีโอกาสได้อธิบายทุกอย่างที่เกิดขึ้นผมไม่ได้คุยกับพ่อเลยถึง 2 วันจนมาถึงช่วงหนึ่งเมื่อผมพยายามที่จะบอกพ่อว่าผมไม่ใช่เกย์ครั้งเขาก็เริ่มโมโหขึ้นมาอีก “ลิลลี่” เข้ามาหาเธอรู้ว่าพ่อกับผมมีปัญหากันและขอโทษที่เธอทำให้ผมเดือดร้อนเธออยากจะช่วยอธิบายทุกอย่างให้พ่อฟังแต่เมื่อผมเปิดประตูแล้วเห็นเธอผมเกิดมีความคิดว่าบ้าๆ ขึ้นมาในสมองที่ผมอธิบายได้แค่ว่ามันเกิดขึ้นตามสัญชาตญาณแล้วผมก็จูบเธอ ผมไม่รู้ว่าทำไมผมถึงกล้าทำแบบนั้นแล้วผมก็เสียใจที่ทำลงไปเธอตอบผมเข้าที่หน้าด่าผมว่าไอ้บ้าแล้วเดินหนีไปหลังจากที่เธอตะโกนใส่ผมรีบวิ่งตามไปขอโทษแล้วบอกว่าผมไม่ได้ตั้งใจที่จะจูบเธอ

แล้วผมก็เห็นยืนอยู่ตรงนั้นเขาคงมาหา “ลิลลี่” และทันเห็นเธอข้ามถนนหนีผมไปเขาคงได้ยินหมดทุกอย่างเมื่อผมบอกพ่อถึงเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นเขาก็บอกว่าผมมันบ้าก็คงถูกของพ่อตอนนี้เท่าที่ผมรู้ “ลิค” ทิ้ง  “ลิลลี่” ผมไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขาเพราะ “ลิลลี่” เมินเฉยใส่ผมทุกครั้งที่ผมพยายามที่จะทักทายเธอผมรู้ว่าผมทำทุกอย่างพังแต่ผมอยากให้ “ลิลลี่” กลับมาเป็นเพื่อนกันอีกครั้งไม่ว่าคนที่เธอตัดสินใจจะคบจะเป็นใครในวันข้างหน้า

งั้น “ลิลลี่” ถ้าตอนนี้เธอดูอยู่ขอร้องล่ะมาคุยกันนะพวกคุณทุกคนผมต้องการคำแนะนำมากๆคุณจะทำยังไงถ้าหากเป็นผมอย่าลืมกดไลค์และแชร์ด้วยนะ 

เรื่องเล่าที่เกี่ยวข้อง

0 0 votes
Article Rating
Subscribe
Notify of
guest
0 Comments
Inline Feedbacks
View all comments
Back to top button
0
Would love your thoughts, please comment.x
()
x

ปิดโปรแกรมบล็อคโฆษณา

กรุณาปิดโปรแกรมบล็อคโฆษณาก่อนนะ เพราะเว็บจะอยู่ได้ก็จากป้ายโฆษณา