เพื่อนกัน

ฉันหลอกเพื่อนว่าฉันเป็นมะเร็งเพื่อเรียกร้องความสนใจ

สวัสดี ฉันชื่อ “เด็บบี่” อายุ 13 ปีฉันอยากจะบอกคุณว่าเมื่อเร็วๆนี้ฉันคิดถึงเพื่อนๆมากจึงสร้างเรื่องราวเกี่ยวกับตัวเองเพื่อเรียกร้องความสนใจจากเพื่อนอีกครั้งแต่ฉันควรจะมีแผนสำรองด้วยอย่างแรกเลยจนกระทั่งไม่นานแบบนี้ฉันมีกลุ่ม 3 คนซึ่งประกอบไปด้วยตัวฉันและเพื่อนสนิท “โซฟี่” และ “ลีโอ” พวกเราเป็นเพื่อนกันตั้งแต่อนุบาลซึ่งฉันคิดว่าพวกเราจะเป็นเพื่อนกันตลอดชีวิตแต่เมื่อต้นปีนี้ “โซฟี่” และ “ลีโอ” รู้ตัวว่าพวกเขารักกันมากกว่าเพื่อนและตัดสินใจคบกันแล้วรู้ไหมเกิดอะไรขึ้นพวกเขาทั้งสองมีความสุขดีในขณะที่ฉันรู้สึกว่าตัวเองเป็นส่วนเกินแน่นอนฉันรู้ว่าบางครั้งพวกเขาก็ต้องการจะอยู่ด้วยกันตามลำพังเพียงสองคนแต่กลับกลายเป็นว่าพวกเขาต้องการที่จะอยู่ด้วยกันตลอดเวลา

ฉันหมายถึงโดยที่ไม่มีฉันน่ะวันหนึ่งฉันรู้สึกว่าตัวเองเหงามากและไม่อยากจะมีความรู้สึกแบบนี้เลยมันเริ่มต้นขึ้นตอนที่ฉันกำลังนั่งรอ “โซฟี่” และ “ลีโอ” มาที่บ้านเพื่อกินพิซซ่าและดูหนังด้วยกันฉันเตรียมทุกอย่างพร้อมและนั่งรออย่างมีความหวังจากนั้นก็ได้รับข้อความจาก “โซฟี่” ว่าเธอและ “ลีโอ” ขอโทษฉันเป็นอย่างมากพวกเขาลืมบอกฉันว่าวันนั้นเป็นวันครบรอบที่คบกันได้ 1 เดือนซึ่งหมายถึงพวกเขาก็จะไม่มานั้นเองเรื่องนี้ทำให้ฉันโกรธมากไม่เพียงแต่ไม่แฟร์ที่ปล่อยให้ฉันรอเก้อแบบนั้นแต่ฉันเจ็บใจแทนที่จะโทรมาขอโทษกลับส่งข้อความมาแทนแน่นอนฉันเดินไปทั่วห้องด้วยความหงุดหงิดใจแต่เอาเถอะฉันทำอะไรไม่ได้นอกจากนั่งลงดูหนังและกินพิซซ่าอย่างสนุกสนานตามลำพังด้วยความสัตย์จริงนี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ฉันดูหนังในค่ำคืนวันศุกร์โดยไม่มีพวกเขาทั้งสองและนี้ทำให้ฉันรู้สึกแปลกๆในใจ

ไม่บ่อยนักที่ “โจนาธาน” น้องชายของฉันจะเข้ามาในห้องเพื่อแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ทั้งหมดสรุปได้ว่าความคิดหลักของ “โจนาธาน” คือฉันเป็นผู้แพ้ที่แม้กระทั่งเพื่อนของฉันตกหลุมรักกันฉันกลับไม่มีคนดูหนังด้วยสักคนและเมื่อเขาสังเกตเห็นว่าฉันกินพิซซ่าเปปเปอร์โรนีคนเดียวทั้งหมดเขาทำนายได้เลยว่าโชคชะตาของฉันต่อจากนี้คือฉันจะอ้วนขึ้นเป็นคนขี้เหงาเลยไม่มีใครรักฉันจริงๆแน่นอนฉันตวาดใส่เขาก็อยากอยู่คนเดียวแต่ฉันหยุดคิดในสิ่งที่น้องพูดไม่ได้เลยถ้าเกิด “โซฟี่” และ “ลีโอ” ลืมฉันไปตลอดชีวิตขึ้นมาจริงๆล่ะซึ่งนี่หมายความว่าความรักของพวกเขาเป็นต้นเหตุให้ความสัมพันธ์แบบเพื่อนต้องจบลงอย่างนั้นหรอ

ฉันมองไปที่จอทีวีซึ่งกำลังเล่นหนังอยู่หนึ่งในตัวละครหลักได้รู้ว่าเพื่อนของเขากำลังจะตายเพราะมะเร็งจึงทำให้เขาวิตกกังวลเกี่ยวกับเธอมากนี่มันโดนใจฉันเลยถ้าเกิดฉันมีชีวิตเหลืออยู่อีกแค่ไม่กี่เดือนล่ะ 2 คนนั้นยังจะไม่สนใจฉันอยู่หรือเปล่าฉันคิดเรื่องนี้ซ้ำไปซ้ำมามันหยุดไม่ได้จริงๆและในรุ่งเช้าฉันก็ตื่นขึ้นมาด้วยแผนที่เพอร์เฟ็คสุดๆซึ่งจะทำให้ “โซฟี่” และ “ลีโอ” ต้องไปเที่ยวกับฉันอีกถึงแม้พวกเขาจะไม่ไปเที่ยวกับฉัน ฉันก็รู้ว่าสองคนนั้นเป็นเพื่อนที่ดีและยังคงแคร์ฉันอยู่ดีพวกเราตัดสินใจนะเจอกันที่ห้างเมื่อฉันเห็นพวกเขา “ลีโอ” กำลังมอง “โซฟี” ด้วยสายตาที่สื่อว่าเธอเป็นสิ่งมีชีวิตที่สวยงามที่สุดบนดาวดวงนี้แล้วก็มองเธอแบบนี้เป็นประจำแต่เขาไม่แม้แต่จะสังเกตเห็นฉันตอนเดินเข้าไปโดยมั่นใจว่าแผนของฉันจะไม่ไร้ความหมายแน่ๆฉันบอกพวกเขาว่ามีเรื่องซีเรียสต้องคุยกันจากนั้นฉันบอกพวกเขาไปว่าฉันป่วยเป็นมะเร็งตับได้ระยะหนึ่งแล้วและอยากบอกพวกเขามาโดยตลอดแต่พวกเขาสองคนเริ่มคบกันฉันจึงไม่อยากทำลายช่วงเวลาสุดพิเศษนี้ 

โอ้ ฉันอยากให้คุณเห็นสีหน้าของพวกเขาจริงๆ “ลีโอ” ดูเศร้ามากส่วน “โซฟี” เริ่มร้องให้ฉันรู้สึกถึงชัยชนะภายในใจโดยที่ตอนนั้นยังคงรักษาสีหน้าเศร้าไว้อยู่ช่วงระยะเวลา 1 ตอนที่ฉันจินตนาการว่าตัวเองกำลังทุกข์ทรมานจากโรคร้ายแรงเหมือนว่ากำลังจะตายในอีกไม่นานฉันก็รู้สึกผิดต่อตัวเองซึ่งตอนนั้นน้ำตาก็เอ๋อขึ้นมาฉันหมายถึงฉันควรจะไปทำอาชีพเป็นนักแสดงหรืออะไรทำนองเนี้ยจากนั้นทั้งสองก็เริ่มถามคำถามฉันมากมายเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพการรักษาและแนวโน้มในอนาคตคุณมั่นใจได้เพราะฉันเตรียมการอย่างจริงจังเกี่ยวกับการโกหกเล็กๆน้อยๆนี้โดยการหาและอ่านข้อมูลในอินเทอร์เน็ตมากมายแม้กระทั่งชื่อยาและผลข้างเคียงจากการกินยาฉันก็เรียนรู้มาก่อนนี่ฟังดูน่าเชื่อถือมากๆเลยใช่ไหมล่ะ

ท้ายที่สุดตอนที่พวกเราจะกลับบ้านกันฉันบอกให้พวกเขาสัญญาว่าจะไม่บอกเรื่องนี้กับใครถึงจะทำให้พวกเขาสาบานว่าจะแกล้งทำเป็นไม่รู้อะไรเลยโดยเฉพาะต่อหน้าพ่อแม่ฉันก็นะเพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงไม่ให้พวกเขาเศร้าสร้อยกับสถานการณ์นี้ไปมากกว่าเดิมแน่นอนฉันให้ “โซฟี่” และ “ลีโอ” มาที่บ้านฉันอีกไม่ได้และบอกพ่อแม่ตัวเองว่าทั้งสองคนนี้กำลังไม่สบายอยู่นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาทุกอย่างก็กลับไปสู่ตอนที่มันยังดีอยู่ฉันแฮปปี้มากที่ได้รับความสนใจจากเพื่อนสุดๆไม่ว่าจะเป็นข้อความ เธอรู้สึกยังไงบ้างหรือโทรมาถามว่าวันนี้เธอสบายดีไหม “โซฟี่” ฉลาดกว่าฉันนิดหน่อยเธอทำการบ้านให้ฉันเป็นครั้งคราวและความต้องการของเธอเองโดยที่ฉันไม่ต้องขอเลยส่วน “ลีโอ” ก็นำของอร่อยๆมาปรนนิบัติพวกเราทุกอย่างเยี่ยมสุดๆ

จนกระทั่งน้องชายตัวแสบตัดสินใจแกล้งฉันและทำลายทุกอย่างเหมือนอย่างที่เคยตอนที่ฉันกำลังนอนอยู่เจ้าบ้านี่แอบเข้ามาในห้องฉันด้วยนะลูกบอลบันเชมาด้วยซึ่งน้องชายคิดว่ามันจะตลกมากถ้าเอาบอลมาติดไว้ที่ผมฉันแล้วให้ผมมันพันกันฉันจะได้พลาดรถโรงเรียนตอนเช้าและต้องเดินไปโรงเรียนแทนและใช้เลยฉันไม่สามารถเอาเจ้าของโง่ๆนี่ออกจากผมได้ในตอนเช้าคุณคิดภาพออกไหมว่าฉันต้องตัดมันออกและต้องตัดให้สั้นเพื่อกำจัดมันทิ้งให้หมด โอ้ ในชีวิตนี้ฉันไม่เคยคิดโกรธใครเท่านี้มาก่อนเลยลองเดาดูว่าเกิดอะไรขึ้นต่อไปเมื่อฉันไปถึงที่โรงเรียนด้วยทรงผมใหม่เอี่ยมใช่มันโยงไปถึงเรื่องที่ฉันป่วยและนี้ทำให้ “โซฟี่” และ “ลีโอ” คิดทันที่ว่าฉันตัดผมเพราะเริ่มผมร่วงหลังจากทำคีโมและฉันยังไม่พร้อมจะโต้แย้งความสงสัยของพวกเขา

จากนั้นก็มีใครบางคนหัวเราะให้กับทรงใหม่ของฉันจึงทำให้ “โซฟี่” รีบเข้ามาปกป้องฉันและพูดว่าฉันกำลังต่อสู้กับโรคร้ายอยู่ในตอนนั้นฉันรู้สึกว่ากำลังเป็นจุดสนใจซึ่งเป็นครั้งแรกในชีวิตเลยนี่มันเหมือนกับมีวันเกิดซึ่งกินเวลาเนิ่นนาน 2-3 สัปดาห์ผ่านไปไม่กี่วันฉันรู้สึกเอ็นจอยกับการเป็นจุดสนใจของเพื่อนร่วมชั้นและอาจารย์ทุกคนถามว่าฉันเป็นยังไงบ้างและอาจารย์อนุญาตให้ฉันหยุดเรียนได้ทุกเมื่อที่ต้องการหรือแม้แต่ตอนที่ไม่ได้ทำการบ้านมาและอ้างว่าต้องไปโรงพยาบาลแต่วันนึงฉันได้รู้ว่าอาจารย์ “ชาริตี้” ที่สอนคณิตศาสตร์ก็เคยมีประสบการณ์ต่อสู้กับโรคมะเร็งเช่นกันเธอรอดชีวิตมาได้และตัดสินใจมาเป็นผู้สนับสนุนฉันและครอบครัวซึ่งสิ่งนี้มันทำให้ชีวิตฉันพังคืนวันศุกร์อาจารย์มาปรากฏตัวที่หน้าบ้านคิดดูสิว่าพ่อแม่ฉันจะตกใจแค่ไหนเมื่อเธอมาบอกเพื่อเล่าเกี่ยวกับประสบการณ์ของตัวเองและทำให้พ่อแม่มั่นใจว่าฉันจะต้องผ่านมันไปให้ได้และใช้ชีวิตที่เหลือกับทุกๆอย่างได้อย่างเต็มที่

ฉันไม่รู้จะเอาหน้าไปซุกไว้ที่ไหนตอนที่บทสนทนากำลังดำเนินไปในเมื่อฉันเห็นสีหน้าที่สับสนสุดๆของพ่อแม่หน้าของฉันก็แดงแต่ด้วยความอับอายมีเป็นช่วงเวลาที่เปิดเผยความจริงเกี่ยวกับฉันหลังจากนั้นพ่อแม่เรียกฉันคุยอย่างซีเรียสและลงโทษฉันอย่างหนักที่สุดสำหรับการโกหกครั้งนี้แน่นอนฉันได้รับบทลงโทษที่สาสมจากพ่อแม่พวกท่านยึดโทรศัพท์ของฉันไปทั้งเดือนไม่ให้ฉันเล่นอินเทอร์เน็ตหรือเหนือสิ่งอื่นใดฉันต้องทำความสะอาดทุกห้องในบ้านด้วยตัวคนเดียวรวมถึงห้องของโจนาธานตัวแสบด้วย เจ้าน้องบ้าวิ่งไปรอบๆบ้านทำท่าเหมือนสัตว์ที่กำลังดีใจและดูเหมือนว่าเขาจะไม่เคยมีความสุขทั้งวันนี้มาก่อนอีกทั้งพยายามทำให้ห้องสกปรกและเลอะเทอะถึง 2 ครั้งต่อวันไม่เพียงแต่จะโยนของทิ้งไว้ทุกๆที่จะพยายามทิ้งของที่กินเหลือเอาไว้ทั่วเมื่อผ่านไป 2-3 วันมันก็เริ่มส่งกลิ่นเหม็น 

อี๋น่าขยะแขยงสุดและลองเดาสิว่าใครต้องเก็บมันพอถึงวันจันทร์อาจารย์ “ชาริตี้” ก็บังคับให้ฉันบอกความจริงกับคนทั้งโรงเรียนอย่างที่รู้กันการพูดในที่สาธารณะเป็นฝันร้ายที่สุดสำหรับฉันแล้วตอนนี้ไม่เพียงแต่ต้องยืนอยู่ท่ามกลางสายตาผู้คนที่จับจ้องมาแต่ยังต้องสารภาพอะไรบางอย่างซึ่งเป็นอะไรที่เจ็บแค้นใจมากและฉันรู้สึกเหมือนตัวเองจะเป็นลมฉันไม่เคยรู้สึกอับอายมากเท่านี้และนี่เป็นสิ่งที่แย่ที่สุดในชีวิตของฉันเลย “โซฟี่” และ “ลีโอ” หยุดติดต่อกับฉันทุกครั้งที่ฉันเห็นเขาหลังจากวันที่ฉันไปสารภาพความจริงสายตาของสองคนนั้นเต็มไปด้วยความขยาดและเกลียดชังพวกเขาไม่แม้แต่จะฟังคำอธิบายของฉันเลยพูดตรงๆนะตอนนี้ฉันเข้าใจแล้วว่าตัวเองงี่เง่าขนาดไหนที่พยายามทำตามแผนโง่ๆนั่นอย่างไรก็ตามฉันส่งจดหมายขอโทษไปหา 2 คนนั้นซึ่งพยายามบอกพวกเขาเกี่ยวกับความรู้สึกฉันรวมถึงเหตุผลที่ฉันต้องทำแบบนี้ทั้งสัปดาห์ผ่านไปตั้งแต่วันที่พวกเขาได้รับจดหมายแต่ก็ยังไม่มีคำตอบจากทั้งคู่อยู่ดี

ฉันหวังว่าสุดท้ายแล้วพวกเขาจะยกโทษให้ฉันตอนนี้ฉันพร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้กลับมาเป็นเพื่อนกันอีกครั้งหากคุณชอบเรื่องราวของฉันอย่าลืมกดไลค์และกดติดตามช่องนี้ด้วยนะ 

เรื่องเล่าที่เกี่ยวข้อง

0 0 votes
Article Rating
Subscribe
Notify of
guest
0 Comments
Inline Feedbacks
View all comments
Back to top button
0
Would love your thoughts, please comment.x
()
x

ปิดโปรแกรมบล็อคโฆษณา

กรุณาปิดโปรแกรมบล็อคโฆษณาก่อนนะ เพราะเว็บจะอยู่ได้ก็จากป้ายโฆษณา