เพื่อนกัน

พ่อแม่เกลียดฉันและรักเพื่อนฉัน เธออาศัยอยู่กับพวกเขา!

ไงฉันชื่อ “บาบาร่า” และฉันอายุ 17 ปีแล้วตอนนี้เมื่อคิดอะไรอะไรได้ฉันก็เข้าใจแล้วว่าเรื่องราวของฉันประหลาดมากแค่ไหนเรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับฉันและ “ซาบรีน่า” หน้าเพื่อนรักของฉันซึ่งกลายเป็น เอิ่มมาลองฟังดูแล้วกันฉันพบกับ “ซาบรีน่า” ที่โรงเรียนเมื่อราว 1 ปีก่อนฉันมีปัญหานิดหน่อยเรื่องการเรียนและเพื่อให้จำนวนแต้มในเกรดเฉลี่ยของตัวเองเพิ่มขึ้นฉันจึงลงเรียนวิชาเลือกในวิชาจิตวิทยาพูดกันตรงๆนะฉันคิดว่าคนพวกเดียวที่จะเรียนจิตวิทยาในโรงเรียนจะต้องเป็นพวกแปลกๆและเด็กเนิร์ดแต่กลายเป็นว่าวิชานี้ไม่ได้แย่ขนาดนั้นมีคนแปลกๆและเด็กเนืร์ดจริงแต่อาจารย์ที่สอนน่าสนใจในเรื่องตลกนิดหน่อยด้วยและฉันก็ได้พบกับเด็กผู้หญิงเจ๋งๆคนนึงในระหว่างชั้นเรียนครั้งที่ 2 นั่นคือ “ซาบรีน่า” อย่างที่คุณคงเดากันได้

ฉันไม่เคยเห็น “ซาบรีน่า” ในโรงเรียนมาก่อนเธอเพิ่งมาเรียนที่นี่ได้ไม่นานเพิ่งย้ายมาที่นี่ไม่ใช่พระย้ายบ้าน บ้านของเธออยู่ไกลออกไปในพื้นที่ที่ไม่ใช่ย่านที่ดีนักแต่เธอได้เกรดดีมากจนย้ายมาเรียนโรงเรียนเราได้ในขณะเดียวกัน “ซาบรีน่า” ก็ไม่มีตรงไหนเหมือนพวกเด็กเนิร์ดเลยเธอสงบนิ่งเงียบขรึมและมีนิสัยที่ชอบยิ้มแบบไม่เห็นฟัน อืม…พูดสั้นๆก็คือฉันชอบ “ซาบรีน่า” ทันทีที่เห็นด้วยเหตุผลบางอย่างฉันจึงไม่มีเพื่อนในโรงเรียนมัธยมปลายเลย “ซาบรีน่า” ก็เลยได้ตำแหน่งนั้นอย่างรวดเร็วและก็อย่างที่ฉันบอกไปเธออยู่ไกลจากโรงเรียนมากและเพราะเธอต้องใช้เวลานานเหมือนช่วยชีวิตเลยแค่ให้มาถึงโรงเรียนดังนั้นเธอก็เลยมักจะมาอยู่ค้างที่บ้านฉันพ่อแม่ฉันไม่ได้ถือสาเลย ก็นะอย่างเวลาที่ฉันออกไปจากห้องนั่งเล่นไปคุยโทรศัพท์และทิ้ง “ซาบรีน่า” ดื่มชากับพ่อแม่เธอไม่ได้มองฉันเพื่อขอร้องอย่างเงียบๆ เพื่อขอร้องให้ฉันอยู่เป็นเพื่อนเธอกับพ่อแม่ฉันด้วยซ้ำดูเหมือนเธอจะสนุกสนานกับการคุยกับพวกเขาจริงๆและฉันก็ไม่เคยสนใจด้วยว่าพวกเขาคุยอะไรกันบางที อืม..ตอนนั้นฉันควรจะสนใจนะ 

พูดตามสัตย์จริงฉันยังเคยกระทั่งใช้เรื่องที่ว่าเพราะพ่อแม่ฉันชอบเพื่อนฉันมากฉันก็เลยใช้ “ซาบรีน่า” ไปส่งข้อความให้พวกเขาเป็นข้อมูลที่ถูกต้องนะไม่นานก่อนหน้านี้ฉันพบผู้ชายคนหนึ่งที่ชื่อ “มิช” เป็นคนที่ยอดเยี่ยมมากเหมือนกันเขาอายุ 18 แล้วได้เป็นสมาชิกของกลุ่มนักบิดในท้องถิ่นและยังคลั่งไคล้งานอดิเรกของตนเองเอามากๆฉันเข้าใจอย่างรวดเร็วๆฉันอยากอยู่กับ “มิช” ฉันก็ต้องมีมอเตอร์ไซค์ฉันหลงรักความเร็วและความรู้สึกถึงอิสรภาพนั่นไม่นานก็เลยไม่ใช่แค่เพราะ “มิช” อีกต่อไปฉันก็อยากมีมอเตอร์ไซค์เช่นกันและฉันก็มีแผนแล้วด้วยเพื่อนบ้านของเราคือคุณ “วอยนุชกี้” กำลังจะขาย อินเดี้ยน รุ่นเก่าซึ่งจอดฝุ่นเครอะอยู่ในโรงรถของเขามานานแล้วฉันไม่แน่ใจว่ามีข้อจำกัดอะไรบ้างแต่คุณ  “วอยนุชกี้”  บอกฉันว่ามอเตอร์ไซค์คันนี้แค่ต้องไปให้ร้านดูเร็วๆสักรอบเพื่อให้ขับได้อีกครั้งฉันก็เลยตัดสินใจซื้อเงินแต่เก็บของฉันไม่พอฉันต้องโน้มน้าวพ่อแม่ให้ช่วยฉันซื้อ “ซาบรีน่า” เข้าใจทุกสิ่งที่เกิดขึ้นทันทีและตกลงจะช่วยตอนนั้นฉันคิดว่าทุกอย่างคงเรียบร้อยได้แต่แล้วอะไรสักอย่างก็ผิดพลาดหลังจะคุยกับ “ซาบรีน่า” พ่อแม่ฉันก็ห้ามไม่ให้ฉันคิดเรื่องมอเตอร์ไซค์อีกเลยคุยเหตุผลบางอย่างพวกเขาบอกว่ามอเตอร์ไซค์อันตรายมากทั้งที่ก่อนหน้านี้พวกเค้าไม่ได้ต่อต้านความชอบใหม่ของฉันนี่เลยไม่ได้ต่อต้านทั้งมอเตอร์ไซค์และ “มิช” แต่ตอนนี้พูดเขาก็ห้ามไม่ให้ฉันไปพบเขาเหมือนกันนะตัดสินใจแบบที่ฉันไม่คิดมาก่อนเลยว่าเขาจะเป็นคนที่ส่งอิทธิพลแย่ๆให้แก่ฉัน

ฉันทะเลาะกับพ่อแม่หนักมากและเลิกคุยกับพวกเขาที่จริงเราคุยกันเฉพาะเวลาที่ “ซาบรีน่า” มาบ้านเมื่อเธอพบว่าปัญหาขัดแย้งของพวกเราคืออะไรเธอบอกว่าเธอประหลาดใจมากกับสิ่งที่พ่อแม่ฉันแสดงออก ทั้งความขัดแย้งและการสั่งห้ามแปลกๆนี้แต่ตอนนั้นฉันก็เกือบจะเป็นผู้ใหญ่แล้วและตัดสินใจเองได้ว่าฉันควรคบใครแล้วฉันควรขี่มอเตอร์ไซค์หรือไม่ฉันเห็นด้วยกับเพื่อนเต็มที่แต่ฉันไม่มีเงินไปซื้อมอเตอร์ไซค์และ “มิช” เองก็ไม่อยากคบฉันอีกต่อไปแล้วคุณก็รู้ก่อนหน้านั้นความสัมพันธ์ของฉันกับพ่อแม่ก็ไม่ได้ใกล้ชิดยังไม่ได้โอเคกันมากนักและฉันคิดเสมอว่าพวกเขาก็แค่คนธรรมดาและตอนนี้ด้วยเหตุผลบางอย่างความสัมพันธ์ของเราก็ยิ่งขัดแย้งกันรุนแรงกว่าเดิมเรามีข้อขัดแย้งกันตลอดเวลาฉันบอกพ่อแม่ว่ามีเรื่องมากมายที่ฉันเสียใจทีหลังแต่พวกเขาก็กลับตอบฉันกลับแรงๆเป็นเพราะ “ซาบรีน่า” ฉันจึงสามารถข้ามผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ไปได้โชคดีที่เธอเริ่มมาค้างคืนที่บ้านของเราบ่อยขึ้นและเมื่อเธออยู่ด้วยก็เหมือนจะทำให้สภาพบรรยากาศในบ้านปลอดโปร่งขึ้นเรายังทานข้าวด้วยกันที่โต๊ะได้แต่ฉันมักเงียบเป็นส่วนใหญ่ฟัง “ซาบรีน่า” และพ่อฉันคุยกันอย่างออกรสออกชาติเรื่องหนังแนวทดลองก่อนหน้านั้นฉันไม่เคยรู้ว่าพวกเขาต่างชอบแนวนั้นสำหรับฉันฉันไม่เข้าใจหนังแนวทดลองสักนิดแล้วดูส่วนใหญ่ฉันก็คิดว่าพวกนั้นน่าเบื่อมากแต่พ่อแม่ฉันก็เอาแบบไม่พอใจเสียจนบางครั้งฉันก็เริ่มคิดไปแล้วว่าพวกเขาอยากให้ “ซาบรีน่า” เป็นลูกสาวของพวกเขาไม่ใช่ฉัน

แล้วจากนั้นทุกอย่างก็เกิดขึ้นรวดเร็วแค่พริบตาเดียวฉันออกจากบ้านมาไม่ฉันไม่ได้หนีออกจากบ้านไปอยู่ข้างถนนก็แค่ย้ายไปอยู่กับป้าพ่อแม่ฉันไม่ได้ใส่ใจเลยพ่อฉันยังบอกด้วยซ้ำว่าฉันไปแล้วคงจะดีกว่าและแม่ฉันก็เสริมว่าฉันโตเป็นผู้ใหญ่แล้วและได้เวลาดูแลตัวเองสักทีในเวลาเดียวกันพ่อแม่ยังสัญญาว่าจะให้การสนับสนุนฉันแต่รู้ไหมในความเป็นจริงป้ากลับเป็นคนเดียวที่ช่วยเหลือฉันจริงๆพูดกันตรงๆนะความไม่สนใจใยดีจากพ่อแม่ทำให้ฉันเจ็บปวดจริงๆการย้ายไปอยู่ในสถานที่ใหม่ทำให้ฉันยุ่งมากฉันก็เลยไม่ได้รับข่าวคราวใดๆจากบ้านชั่วระยะหนึ่งแต่หลังจากฉันจัดการที่ทางของตัวเองในบ้านป้าลงตัวแล้วทันใดนั้นฉันก็พบว่า “ซาบรีน่า” ย้ายไปอยู่ในบ้านพ่อแม่ฉันไม่คาดคิดมาก่อนละซิใช่ไหมฉันยังประหลาดใจมากด้วยและกระทั้งกลับไปบ้านเพื่อคุยกับพ่อแม่และพบว่าตอนนี้ “ซาบรีน่า” อยู่ในห้องของฉันใช่แล้วในห้องของฉันแม่บอกว่า “ซาบรีน่า” ต้องออกจากบ้านมาคุณยายของเธออายุมากแล้ว แล้วเริ่มความจำเสื่อมก็เลยเป็นเรื่องยากสำหรับ “ซาบรีน่า” ที่จะอยู่กับคุณยายเพราะเพื่อนรักของฉันต้องเรียนหนักมากจริงๆอีกอย่างก็ยังต้องการเกรดดีๆเพื่อให้ได้รับทุนการศึกษาเพราะเธอไม่อาจจ่ายค่าเรียนมหาวิทยาลัยได้

เมื่อฉันเห็น “ซาบรีน่า” ในห้องของฉัน ฉันแทบหมดเรี่ยวแรงจริงๆนะเพื่อนฉันก็มองฉันด้วยแววตาสงบนิ่งและยิ้มแบบไม่เห็นฟัน โอ้พระเจ้าฉันเคยคิดว่าฉันชอบยิ้มของเธอมากก่อนหน้านี้ตอนนี้เธอทำให้ฉันนึกถึงงูพิษและงูตัวนี้ก็บอกว่าพ่อแม่ฉันเป็นคนชวนให้เธอย้ายมาอยู่เองหลังจากที่รู้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วฉันรู้ว่า “ซาบรีน่า” ต้องอยู่กับคุณยายแต่ฉันไม่ได้ยินเรื่องที่ว่ายายเธอแก่ชราจนความจำเสื่อมเลยนะมีอะไรสักอย่างไม่ปกติฉันเลยต้องสืบหาความจริงฉันรู้ที่อยู่บ้านของ “ซาบรีน่า” ก็เลยเรียกรถแท็กซี่ไปบ้านเธอขึ้นแท็กซี่เป็นทางเลือกที่ดีกว่าพื้นที่นั้นเลวร้ายมากเช่นเดียวกับตัวบ้านที่นั่นอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ย่ำแย่และเห็นได้ชัดว่าต้องการการบูรณะใหม่ฉันรู้ว่าครอบครัวของ “ซาบรีน่า” ไม่ได้ร่ำรวยแต่ฉันก็ไม่รู้เลยว่าพวกเขาจะจนมากขนาดนี้ฉันเดินกลับไปกลับมาตรงหน้าบ้านที่ดูแย่สุดๆหลังนึงเป็นนานซึมซับรายละเอียดสุนัขในย่านนั้นเห่าเสียงดังแต่ฉันไม่กลัวฉันก็กลัวแหละแต่เพียงเพราะฉันเห็นสถานที่แห่งนี้ในที่สุดฉันจึงไปหน้าประตูและยังไม่แน่ใจดูเหมือนที่นี่ไม่มีกระทั่งกริ่งให้กด ฉันได้ยินเสียงเอี๊ยดอ๊าดดังมาฉันเคาะอีกครั้งไม่มีอะไรเกิดขึ้นฉันกำลังคิดจะไปอยู่แล้วแต่ประตูเปิดกะทันหันและหญิงชราคุณยายของ “ซาบรีน่า” ก็ออกมาแล้วคุณรู้ไหมเธอดูไม่เหมือนหญิงบ้าเสียสติเลยสักนิดหญิงชราถามฉันว่าฉันชื่ออะไรและเมื่อเธอรู้ว่าฉันคือ “บาบาร่า” ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านที่หลานสาวเธออยู่ตอนนี้เธอจึงเชิญฉันเข้าไปดื่มชากับคุกกี้ตอนแรกฉันก็กลัวเพราะจำได้ว่า “ซาบรีน่า” เคยเล่าเรื่องของยายเธอไว้และฉันก็ไม่อยากเข้าไปในบ้านมืดทึมที่ดูเหมือนทิ้งร้างหลังนี้แต่ความศรัทธาในคำพูดของเพื่อนฉันหายไปหมดแล้ว

ดวงตาของหญิงชราก็ดูใจดีถึงจะดูเศร้าด้วยเหมือนกันและเศร้ามากฉันยอมรับคำเชิญแล้วรู้ไหมข้างในนั้นทุกอย่างกลับกลายเป็นแตกต่างจากสิ่งที่ฉันคิดโดยสิ้นเชิงทุกอย่างในบ้านหลังนี้ราคาถูกมากและเก่าแต่หญิงชราก็จัดการทำให้บ้านสะอาดและเป็นระเบียบได้และขณะที่เรากำลังจิบชาเธอจึงเล่าว่าพ่อแม่ของ “ซาบรีน่า” จากไปตั้งแต่เธออายุแค่ 2 ขวบไม่พวกเขาไม่ได้ตายจากแต่พวกเขาแค่จากไปทิ้งลูกสาวของพวกเขาไว้กับคุณยายคนเดียวและตลอดไป “ซาบรีน่า” มีฝันแค่อย่างเดียวคือการมีพ่อแม่ที่น่ารักและร่ำรวยในขณะเดียวกัน “ซาบรีน่า” ก็ไม่ได้รักคุณยายหรือให้ความเคารพเธอเลยว่าโตเป็นวัยรุ่นเธอทำทุกอย่างเพื่อปฏิเสธคุณยายและหนีออกจากบ้านหลายครั้งตอนนี้ “ซาบรีน่า” อายุมากขึ้นแล้วการทะเลาะเบาะแว้งอย่างไรจุดจบก็ยังคงดำเนินต่อแต่ความเย็นชาของหลานสาวยิ่งน่าเจ็บปวดสำหรับผู้หญิงคนนี้มากขึ้นด้วยเหตุผลบางอย่าง  “ซาบรีน่า”  โทษคนยายที่ทำให้พ่อแม่ทิ้งเธอไป แต่เธอก็ไม่ได้พยายามตามหาพ่อแม่เช่นกัน แต่ไม่ตามหาความอบอุ่นในครอบครัวของคนอื่นแทน ในพ่อแม่ของฉัน คุณเข้าใจมั้ย พ่อแม่ฉันหน่ะจากนั้นฉันเลยเข้าใจทุกอย่าง 

“ซาบรีน่า” เป็นคนยุแยงให้ความร้าวฉานและการทะเลาะระหว่างฉันกับพ่อแม่เกิดขึ้นแทนที่จะพูดกับเขาเหมือนอย่างที่ฉันขอเธอ เธอทำไปเพื่อเข้าไปแทนที่ฉันในครอบครัวฉันเองใช่นี่ฟังหนูบ้านะแต่จะจำเรื่องที่จะเล่าตอนแรกสุดจนถึงตอนนี้ได้ไหมคุณปะติดปะต่อทุกอย่างเข้าด้วยกันได้หรือยังฉันก็แค่ไม่เข้าใจอย่างหนึ่งทำไมพ่อแม่ฉันถึงทรยศฉันทำไมพวกเขาให้ยายผู้หญิงเสียสตินั่นเข้าไปแทนที่ฉันในชีวิตของพวกเขา พวกเขาก็เหลือฉันจริงๆหรอฉันไม่อาจคิดว่าฉันเป็นลูกสาวที่เลวร้ายขนาดนั้นเลยนะถึงฉันจะพ่ายแพ้ให้คนอุดมคติอย่าง “ซาบรีน่า” ก็ตาม หลังกลับไปบ้านหลังจากที่คุยกับคุณยายของ “ซาบรีน่า” ไปบ้านของฉันไม่ใช่บ้านของคุณป้าช่วงนั้นเป็นช่วงเย็นแล้วพ่อและแม่ฉันกำลังทำอาหารเย็นกับ “ซาบรีน่า” มื้ออาหารอันยอดเยี่ยมกับบทสนทนาอันชาญฉลาดมุกตลกและบรรยากาศที่เพอร์เฟคส่วนหน้าคลื่นไส้เรื่องนี้ทำให้ฉันโกรธจัดและตอนนั้นเองฉันก็กล่าวโทษ “ซาบรีน่า” ที่บุกรุกเข้ามาในบ้านของเราว่าเธอสร้างความเชื่อถือของพ่อแม่ฉันบนคำโกหกจากนั้นก็บอกพ่อแม่ทุกอย่างว่าวันนี้ฉันไปรู้อะไรมาแต่พ่อแม่ไม่เชื่อฉันพวกเขาไปเจอคุณยายของ “ซาบรีน่า” มาแล้วแต่ก็ยังคิดว่าสติของเธอไม่สมประกอบและสำหรับฉันฉันทำตัวเหมือนเด็กที่ถูกตามใจจนเคยตัวนี่มันบ้าชัดๆฉันเพิ่งไปพบคุณยายของ “ซาบรีน่า” มาแล้วเธอก็ยังอยู่สติสมบูรณ์นี่นาแล้วใครกันแน่ที่สติไม่สมประกอบกันฮะแล้วฉันก็ต้องกลับไปหาคุณป้าร้องไห้ไปตลอดทางกลับบ้านเธอพูดกันตรงๆฉันยังไม่รู้เลยว่าจะทำยังไงต่อ

คุณคิดยังไงกับสถานการณ์ของฉัน ฉันควรพูดกับพ่อแม่อีกครั้งไหมหรือปล่อยให้เป็นแบบนี้แล้วรอให้พวกเขาค้นพบทุกสิ่งด้วยตัวเองฉันจะรอคำตอบของคุณนะ 

เรื่องเล่าที่เกี่ยวข้อง

0 0 votes
Article Rating
Subscribe
Notify of
guest
0 Comments
Inline Feedbacks
View all comments
Back to top button
0
Would love your thoughts, please comment.x
()
x

ปิดโปรแกรมบล็อคโฆษณา

กรุณาปิดโปรแกรมบล็อคโฆษณาก่อนนะ เพราะเว็บจะอยู่ได้ก็จากป้ายโฆษณา