ฉันท้องเพื่อหนีจากครอบครัวที่น่ากลัวของฉัน
สวัสดีฉันชื่อ “รูบี้” ฉันเพิ่งเรียนจบจากโรงเรียนและแต่งงานแล้วและฉันก็ท้องอยู่ด้วยนี่คือที่มาว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นได้ยังไงทุกอย่างเริ่มต้นเมื่อหลายปีก่อนที่ฉันจะโตเป็นวัยรุ่นฉันกลับมาจากโรงเรียนในวันหนึ่งและเจอเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังจะออกจากอพาร์ทเม้นท์ของเราแม่ของฉันหน้าซีดเผือกและเห็นได้ชัดว่าเพิ่งหยุดร้องไห้ปรากฏว่าพ่อฉันถูกรถเมล์ชนและตอนนี้เราก็สูญเสียเขาไปแล้ว จะบอกว่ายังไงดีล่ะแน่นอนเป็นเรื่องยากที่เราจะผ่านพ้นเรื่องนี้ไปได้ทั้งสำหรับฉันและแม่เราเริ่มมานอนบนเตียงเดียวกันหลังจากเรื่องนี้เกิดขึ้นเพราะส่วนใหญ่ฉันจะฝันร้ายถึงเรื่องที่ต้องสูญเสียพ่อไปซ้ำแล้วซ้ำเล่า และแม่ฉันก็บอกว่าแม่ไม่อาจนอนหลับในห้องได้เมื่อไม่มีพ่อเกือบทุกคืนฉันจะได้ยินเสียงแม่ร้องไห้อยู่ในห้องน้ำฉันอยากช่วยแม่อยากให้แม่รู้สึกดีขึ้นแต่ก็ไม่รู้ว่าต้องทำยังไง ต้องใช้เวลาราว 1 เดือนหรืออาจมากกว่านั้นนิดหน่อยเพิ่งเริ่มต้นชีวิตปกติของเราอีกครั้งแต่หนนี้ฉันเริ่มสังเกตเห็นว่าแม่ฉันมีบางอย่างผิดปกติไป
แม่เริ่มดื่มเหล้าทุกวันแบบทุกวันจริงๆ ตอนแรกแม่บอกว่าแค่ช่วยให้หลับดีขึ้นและฉันก็เชื่อแม่แต่วันนึงฉันก็พบว่าแม่นอนหลับอย่างสงบสุขในตอนกลางวันซึ่งที่จริงก็หมายถึงแม่โดดงานสถานการณ์แบบเดียวกันเป๊ะเกิดขึ้นซ้ำอีกหลายหนจนถึงจุดนึงแม่ก็ทำให้ตัวเองถูกไล่ออกจาก 2 งานภายใน 5 หรือ 6 สัปดาห์ถัดมาแต่ละครั้งแม่จะบอกว่าเสียใจมากแล้วเริ่มพยายามเลิกเหล้าแต่เมื่อไม่มีเหล้าแม่ก็จะเริ่มกลายเป็นคนก้าวร้าวและก็อย่างที่คุณรู้ไม่เป็นมิตรเลยน่ะเรื่องนี้เกิดบ่อยซะจนถึงจุดหนึ่งเพื่อนบ้านเราก็เริ่มสงสัยว่าจะมีอะไรสักอย่างแล้วเรียกนักสังคมสงเคราะห์มาดูฉันใช้เวลา 111 วันอยู่ที่ศูนย์ดูแลเด็กเพื่อรอให้แม่ฉันบำบัดอาการของตัวเอง เมื่อแม่มารับฉันกลับบ้านแม่ดูผอมลงแต่สุขภาพโดยรวมแข็งแรงฉันไม่เคยลืมอารมณ์ที่เกิดขึ้นในตอนที่เห็นแม่ผ่านหน้าต่างวันนั้นได้เลยฉันคิดว่าความสุขของฉันจะชัดเจนจนเผื่อแผ่ไปถึงคนรอบข้างด้วยฉันเห็นว่าแม่ภูมิใจในตัวเองขนาดไหนที่เลิกนิสัยแย่ๆของตัวเองไปได้และฉันก็เช่นกัน
เราทั้งคู่ตกลงกันว่าคงเป็นเรื่องยากถ้าจะใช้ชีวิตในอพาร์ทเม้นท์เดิมและอยู่กับเพื่อนบ้านเดิมๆเราเลยเก็บข้าวของและย้ายไปที่เมืองอื่นเพื่อเริ่มต้นในสภาพแวดล้อมใหม่ทั้งหมดมันเป็นเมืองเล็กๆที่มีถนนและบ้านหลังเล็กฉันจำได้เลยว่าฉันตื่นตากับทัศนียภาพแค่ไหนขณะที่แม่ขับรถพาเราไปยังบ้านหลังใหม่ฉันรู้ว่าชีวิตที่นั่นจะต้องต่างออกไปดีกว่าเดิมและฉันก็คิดไม่ผิดถึงอย่างนั้นก็ช่วงระยะหนึ่งล่ะตอนนี้แม่ต้องทำงานหนักเพื่อหาเลี้ยงเราทั้งสองคนในเมื่อเราต้องตั้งหลักถึงบ้านที่เรามาอยู่นี้จะเป็นบ้านหลังเล็กๆแต่ก็ยังแพงกว่าอพาร์ทเม้นท์ที่เดิมนิดหน่อยที่นั่นไม่มีรั้วสวยๆสีขาวเหมือนที่มีในถนนย่านนั้นหรอกนะและยังไม่มีพื้นที่เลยด้วยเราเลยไม่อาจทำสวนหรือทำอะไรรอบบ้านได้แต่ฉันก็ภูมิใจในบ้านของเราจริงๆแล้วรักที่นี่ตั้งแต่วินาทีแรกที่เห็นเราแบ่งรั้วใช้กับเพื่อนบ้านนิสัยดีบ้านหนึ่งนั่นคือครอบครัว “กอนซาเลซ” และบางครั้งพวกเขายังช่วยดูแลฉันเวลาที่แม่ต้องทำงานดึกด้วยพวกเขามีลูก 5 คนแต่มีแค่คนเดียวเอ็นริโก้ที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกับฉันและไม่นานเราก็กลายเป็นเพื่อนกันและเป็น “กอนซาเลซ” ยังทำให้ฉันนึกถึงพ่ออย่างมากด้วยหนวดและดวงตากระจ่างใส
จากนั้นเมื่อฉันอายุได้ 13 ปีคิดว่านะแม่ของฉันบอกว่าแม่ตกหลุมรักฉันเริ่มอยู่ค้างที่บ้าน “กอนซาเลซ” หลายครั้งและคุณนาย “กอนซาเลซ” ก็เอาแต่บอกว่าแม่ฉันมีสิทธิ์ที่จะมีชีวิตส่วนตัวดังนั้นฉันจึงไม่ควรโกรธแม่ก็ไม่ใช่แม่หรอกที่ฉันโกรธแต่เป็นแฟนของแม่ต่างหาก “บ๊อบ” เป็นคนเลวร้ายเขาไม่ได้สูงหรือหน้าตาดีเลยนะที่จริงแล้วเขาทำให้ฉันนึกถึงสุนัขล่าเนื้อฉันเอาแต่สงสัยว่าทำไมแม่คนสวยของฉันถึงชายตามองเค้าฉันวิงวอนพระเจ้าขอให้มีอะไรสักอย่างแยกพวกเขาออกจากกันแต่ดูเหมือนฉันจะเป็นคนที่อธิษฐานได้แย่มากเพราะไม่นานหลังจากนั้นพวกเขาก็แต่งงานกันและเขาก็ย้ายมาอยู่กับเราขณะที่แม่ฉันดูเหมือนจะมีความสุขดี ชีวิตของฉันกลับกลายเป็นฝันร้ายฉันจะเล่าตัวอย่างให้คุณฟังสักนิดแล้วคุณจะเข้าใจอันดับแรกสุดเลยคือ “บ๊อบ” ไม่ชอบเสียงอะไรเลยดังนั้นไม่ว่าเมื่อไหร่ที่เขาอยู่ที่บ้านฉันควรจะนั่งเงียบในห้องของตนหรือออกไปจากบ้านและเขายังคิดด้วยว่าฉันไม่ใช่เด็กอีกต่อไปแล้วแล้วบังคับให้ฉันทำงานบ้านแล้วก็ทำนองว่ารับใช้เขาอ่ะฉันไม่เคยลืมครั้งแรกที่เขาออกคำสั่งเรื่องแซนวิสเลยเขาบอกให้แม่ฉันเอามาให้เห็นได้ชัดว่าเขาไม่รู้เลยสักนิดว่าแม่ออกไปจ่ายตลาดแล้วและพอฉันบอกเขาไปว่าแม่ไม่อยู่เขาก็บอกให้ฉันเอามือเที่ยงมาให้ฉันงุนงงแล้วไปหยิบมาแต่หลังจากนั้นเพราะฉันเล่าทุกอย่างให้แม่ฟังแม่บอกว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่ที่ฉันต้องหาอะไรให้พ่อเลี้ยงกินแล้วบางทีฉันอาจจะเห็นด้วยกับแม่ถ้าไม่ใช่เพราะเรื่องนี้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า
อย่างที่รู้ฉันรักแม่มากและคิดเสมอว่าแม่ควรมีความสุขแต่ครั้งนี้ฉันสงสัยจริงๆว่าเจ้า “บ๊อบ” นี้เป็นเจ้าชายของแม่จริงหรอฉันพยายามคุยกับแม่เรื่องนี้แต่แม่แน่ใจว่าแม่รักเขาแล้วจากนั้นหลังจากเวลาผ่านไปสักพักแม่ก็บอกว่าท้องฉันตื่นเต้นกับข่าวนี้มากเพราะฉันเห็น “เอ็นริกโก้” เพื่อนของฉันและครอบครัวขนาดใหญ่ที่น่ารักของเขามาตลอดและคิดว่าฉันอยากมีอะไรแบบนั้นในอนาคตบ้างแต่ “บ๊อบ” ห่างไกลจากการมีความสุขที่จะได้รู้ว่าเป็นพ่อคน วันแล้ววันเล่าเขายิ่งหงุดหงิดงุ่นง่านและซึมเซาเขากลับบ้านดึกแล้วเอาเมาหลายหนแต่บ่อยกว่านั้นคือออกจากบ้านไปเลยฉันเห็นแม่ฉันเศร้าใจกับพฤติกรรมของเขาและพวกเขายังทะเลาะกันบ่อยมากไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหารค่ำที่เย็นแล้วหรือเข้าหากางเกงไม่เจอครั้งแล้วครั้งเล่าฉันสังเกตเห็นรอยฟกช้ำบนตัวแม่แต่แม่บอกว่าแม่แค่ซุ่มซ่ามเองฉันยังคงไม่รู้ว่าทำไมแม่ถึงอยากมีลูกถ้า “บ๊อบ” ต่อต้านมากขนาดนี้
ไม่ว่ายังไงแม่ก็ยังออกไปทำงานแล้วฉันก็ยังคงช่วยแม่จัดการงานบ้านก็ยิ่งท้องโตมากเท่าไหร่ก็ยิ่งเคลื่อนไหวก้มตัวและทำอะไรๆได้ลำบากบางครั้งแม่ก็รู้สึกไม่ดีเอามากๆดังนั้นฉันจึงหยุดเรียนและไปทำงานแทนแม่ที่ร้านเพื่อที่แม่จะได้ไม่ตกงานที่นั่นมีผู้ชายจากที่ทำงานแม่ชื่อ “คลาว” ใช้เขาเป็นรักแรกจริงๆของฉันและผู้ชายที่ทำให้โชคชะตาฉันผลิกผันเลยแต่คุณต้องรอจนกว่าจะถึงตอนจบนะถึงจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นถึงยังงั้นเขาก็รู้ว่าฉันแค่มาทำงานแทน “สเตซี่” เราตัดสินใจไม่พูดว่าฉันเป็นลูกสาวของแม่และนี่คือความจริงข้อเดียวที่ฉันบอกเขาเกี่ยวกับชีวิตตัวเองฉันโกหกเรื่องพ่อแม่เมื่อเราคุยกันเรื่องครอบครัวฉันจะพูดถึงพวกก “กอนซาเลซ” เหมือนเป็นครอบครัวจริงของฉัน ฉันแต่งเรื่องทุกอย่างขึ้นมาที่น้องพ่อแม่ชีวิตฉัน ฉันเห็นเลยว่า “คลาว” ตื่นเต้นแค่ไหนที่ได้ฟังเรื่องราวเกี่ยวกับครอบครัวและเรื่องอื่นๆ ดังนั้นฉันก็เลยโกหกต่อไปเรื่อยๆเวลาผ่านไปเราเริ่มเจอกันทุกวันเพราะยิ่งยากที่แม่จะมาทำงานในสภาพนั้นได้และไม่นานฉันก็รู้ว่าเขาชอบฉันเหมือนกันหมายถึงชอบมากเลย
วันหนึ่งฉันกลับมาบ้านและแม่กับ “บ๊อบ” กำลังโต้เถียงกันที่ชั้นบนดังมากฉันพยายามปิดประตูให้เงียบที่สุดเท่าที่จะทำได้และย่องเข้าไปในห้องตัวเองแต่ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงกระแทกหนักๆและหลังจากนั้นไม่กี่วินาทีแม่ฉันก็ตกลงมาจากบันได “บ๊อบ” พุ่งตามลงมาขณะที่ตะโกนบอกให้ฉันเรียก 911 มือฉันสั่นระริกและแค่นาทีเดียวก็เห็นภาพแม่จากไปและความกลัวที่เกาะกุมหัวใจฉันตามที่หมอบอกข้อเท็จจริงที่ว่าแม่ตกลงมาจากบันไดนั้นทำให้ทารกเสียชีวิตในครรภ์ฉันคงไม่ต้องบอกคุณนะว่าข่าวนี้เป็นสิ่งที่ทำให้แม่ฉันเศร้าโศกเสียใจมากขนาดไหนแต่คุณรู้อะไรไหมสิ่งที่น่าสนใจและน่ากลัวนิดหน่อยคืออะไรแม่ฉันไม่ได้บอกตำรวจว่าเป็น “บ๊อบ” ที่ทำให้แม่ตกลงมาจากบันไดชั้นก็ไม่ได้บอกเหมือนกันเพราะฉันไม่เห็นว่าเขาทำนี่เป็นแค่ข้อสงสัยของฉันเอง ฉันตัดสินใจคุยเรื่องนี้กับแม่ทำนองว่าพยายามต่อตะล่อมไปเรื่อยๆว่าเขาจงใจทำหรือไม่แต่แม่ไม่อยากฟังแม่จะทำตัวแบบว่าไม่ใช่หรอกจ๊ะ ยายหนูมันเป็นแค่อุบัติเหตุที่แม่ตกลงมาแม่ยังบอกเลยว่าทุกคนมีวิธีต่างกันในการรับมือกับความเศร้าแต่ฉันสงสัยจริงๆว่า “บ๊อบ” เศร้าจริงๆหรือเปล่าที่จริงอารมณ์ของเขาดูดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดและฉันไม่อาจอยู่ที่ได้เลยว่าเป็นเพราะจะไม่มีทารกอยู่ที่บ้านอีกต่อไปแล้วและนับแต่นั้นฉันก็เริ่มพยายามอยู่ให้ห่างจาก “บ๊อบ” หรืออย่างน้อยก็คือพยายามหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับเขาแบบตัวต่อตัว
แม่กลับไปทำงานแล้วถึงจะเป็นเรื่องยากสำหรับฉันแต่ฉันต้องเลิกกับ “คลาว” ฉันยังคงกลัวว่าเขาจะรู้ความจริงดังนั้นจึงแต่งเรื่องราวว่าครอบครัวดีๆของฉันและฉันจะไปยุโรประยะหนึ่งแล้วเราจะไม่อาจพบกันได้อีกแต่ในเดือนถัดมาฉันก็พบว่าฉันท้อง ฉันรีบไปคุยกับ “คลาว” แต่ “คลาว” ไม่เชื่อฉันเขาบอกว่านั่นไม่ใช่ลูกเขาแล้วบอกว่าฉันอาจท้องระหว่างทริปยุโรปของฉันและตอนนี้ก็แค่อยากให้เขาช่วยรับผิดชอบฉันทั้งเสียใจก็ไม่รู้จะทำยังไงและยังไม่มีอะไรให้ทำนอกจากบอกแม่ทุกสิ่งทุกอย่างฉันคิดว่าคงดีกว่าถ้าข่าวนี้ทำให้แม่โกรธหรืออะไรสักอย่างแต่แม่กลับเป็นตรงกันข้ามแม่แค่เดินออกจากห้องไปเงียบๆหลังจากนั้นฉันพบว่าแม่เมาและนอนหลับอยู่บนโซฟาแม่กลับไปดื่มเหล้าอีกแล้วแน่ล่ะว่า “บ๊อบ” รู้ว่าแม่ฉันเคยติดเหล้าและเขาก็โมโหมากๆที่กลับบ้านมาในวันนั้นและเห็นทุกอย่างเชื่อฉันเถอะว่าฉันไม่ได้มีเจตนาจะทำให้ชีวิตของเราแย่มากกว่าที่เป็นอยู่แต่ทุกอย่างเป็นความผิดของฉันอย่างน้อยก็พูดแบบนั้นตอนที่ฉันบอกเขาว่าฉันท้องเขาโกรธจัดเสียจนฉันคิดจริงๆว่าเขาจะหาวิธีกำจัดเด็กออกอีกครั้งจะเป็นอย่างไรถ้าเขาผลักฉันตกจากบันไดโดยไม่เจตนาแล้วจากนั้นเขาก็ตะโกนว่าถ้าตั้งใจจะคลอดเด็กคนนี้เขาจะส่งเด็กเข้าระบบอุปถัมภ์
ฉันกลัวมากแล้ววิ่งหนีไปยังบ้านของพวก “กอนซาเลซ” ฉันร้องไห้หนักมากสั่นไปหมดทั้งตัวฉันไม่รู้ว่าต้องทำยังไงเลยถ้าคุณนาย “กอนซาเลซ” ไม่กอดฉันเอาไว้และพยายามทำให้ฉันใจเย็นลงคืนนั้นฉันแทบนอนไม่หลับพยายามจะคิดว่าฉันต้องทำอะไรต่อแต่ในวันต่อมาเรื่องประหลาดใจอีกอย่างก็รอฉันอยู่เรากำลังทานมื้อเช้าด้วยกันได้ตอนที่อยู่ๆ “เอนริกโก้” ก็ตัดสินใจขอฉันแต่งงานคุณและคุณนาย “กอนซาเลซ” เงียบกริบถึงพวกเขาจะไม่ได้ดูประหลาดใจมากเท่านั้นก็ตาม “เอนริกโก้” บอกว่าถ้าว่างแผนที่สมบูรณ์แบบไว้ให้เราแล้วในอีก 2 เดือนฉันจะอายุครบ 16 แล้วเราจะสามารถแต่งงานกันได้โดยไม่ขอความเห็นชอบจากพ่อแม่โดยเฉพาะเมื่อคิดถึงเรื่องที่ฉันท้องอยู่แล้วนี่เป็นทางเดียวที่ฉันจะหนีจากสิทธิ์ของ “บ๊อบ” ที่มีต่อฉันและเด็กได้เขาบอกด้วยว่าเขาจะรับความเสี่ยงนี้เองอย่างน้อยก็ระยะหนึ่งจนกว่าฉันจะรู้ว่าฉันอยากทำอะไรกับชีวิตไม่มีคำพูดใดที่จะอธิบายความชื่นชมที่ฉันมีต่อครอบครัวนี้ได้เลยพวกเขาช่วยฉันไว้แล้วแต่งงานกันและย้ายไปอยู่ที่บ้านของคุณยาย “เอนริกโก้” เพื่อไปให้ไกลจาก “บ๊อบ” ไม่มีครอบครัวคนไหนของฉันไปงานแต่งงานของเราและไม่มีโทรศัพท์จากพวกเขาเลยและเท่าที่ฉันเข้าใจชีวิตของพวกเขาไม่ได้เปลี่ยนไปมากนักหลังจากที่ฉันจากมา