แม่ของฉันมีชู้และพ่อก็ไม่สนเลยสักนิด!
ไงเป็นยังไงกันบ้าง ฉันชื่อ “แอน” ฉันอายุ 16 ปีแล้วฉันมีเรื่องราวที่ช่วยสอนฉันว่าความสัมพันธ์ระหว่างชายหญิงไม่ได้เรียบง่ายขนาดนั้น และนี่คือตอนที่ฉันค้นพบว่าแม่ฉันนอกใจพ่อ และพ่อก็รู้เรื่องนี้ด้วย ฉันจะเล่าให้ฟังตั้งแต่แรก
ไม่นานมานี้น้องสาวของฉันเพิ่งเกิดและชีวิตของเราก็เปลี่ยนไปฉันไม่เคยรู้เลยว่าการเลี้ยงเด็กคนนึงจะต้องใช้เงินเยอะมากทั้ง ผ้าอ้อม, ของเล่น, รถเข็น พ่อเคยเป็นฟรีแลนซ์และทำเงินได้มากพอที่จะเลี้ยงดูเราทั้งหมดแต่ตอนนี้แม่ต้องออกไปหางานทำ จากนั้นแม่จึงไปทำงานเป็นนายหน้า แม่ขายอสังหาริมทรัพย์และจากในชีวิตของเราก็เริ่มขึ้น พ่อทำงานที่บ้าน และเลี้ยงน้องสาวของฉันส่วนฉันก็พยายามช่วยทุกอย่างเท่าที่ทำได้และะแม่จะวิ่งวุ่นไปรอบเมืองทั้งวันเพื่อพาผู้คนไปดูบ้าน
ตอนแรกฉันโกรธแม่ที่ใช้เวลากับการทำงานมากเกินไปนอกจากนี้ค่าคอมมิชชั่นที่แม่ได้ก็ยังน้อยมากแต่แล้วฉันก็ยอมรับได้ ยังไงซะแม่ก็กำลังพยายามหาเงินมาให้ครอบครัวของเรานี่แหละ และทุกอย่างก็เป็นไปด้วยดีจนกระทั่ง ฉันมีวิชาเต้นรำที่โรงเรียนแล้วเราตกลงกันว่าแม่จะไปรับฉันในตอนเย็นวันนั้น และเราได้ไหมเพื่อนทุกคนมีพ่อแม่มารับแม่ฉันก็อยู่ที่ไหนก็ไม่รู้แถมยังไม่รับโทรศัพท์อีก
ฉันยืนรออยู่ด้านนอกเกือบชั่วโมงจากนั้นรถจี๊ปคันใหญ่สีดำก็มาจอดหน้าต่างเลื่อนลง แม่ฉันก็ออกมาแล้วบอกให้ฉันขึ้นมานั่ง เมื่อฉันขึ้นรถฉันก็เห็นผู้ชายไม่คุ้นหน้าเป็นคนขับรถ ตลอดทางแม่คุยกับเขาอย่างเงียบๆ และหัวเราะคิกคักฉันรู้แต่ว่าแม่คนพยายามทำตัวสุภาพเพราะผู้ชายคนนี้ขับรถไปส่งเรา แต่แล้วฉันก็สังเกตเห็นรายละเอียดที่สำคัญมากแม่ไม่ได้สวมแหวนแต่งงานเกิดอะไรขึ้นกันแน่ผู้ชายคนนี้เป็นใครและเขามีความสัมพันธ์ยังไงกับแม่ฉัน
เมื่อเรามาถึงแล้วลงจากรถฉันถามแม่ว่าเขาเป็นใครแม่บอกว่าอย่าสนใจเลยเขาเป็นแค่เพื่อนร่วมงาน ไม่ต้องสนใจเนี่ยนะแม่จ๊ะจ๋ากับผู้ชายคนอื่นขณะที่พ่อนั่งอยู่ที่บ้านแล้วฉันควรต้องทำเป็นไม่สนใจเหรอ ฉันตัดสินใจถามแม่ต่อหน้าพ่อตอนมือค่ำเพื่อที่พ่อจะได้รู้ด้วย ฉันเริ่มแบบอ้อมๆ ว่า “แม่คะรถเป็นอะไรหรอคะทำไมต้องมารับหนูกับผู้ชายอีกคนนึงด้วย” แม่ตอบว่า “อ๋อ เครื่องยนต์มีปัญหาน่ะ มีไอน้ำพุ่งออกมาจากฝากระโปรงกลางถนนเลยแม่ต้องโทรเรียกรถยกมาเอาไปซ่อมโชคดีที่เพื่อนร่วมงานอยู่ไม่ไกลและยินดีขับรถมาส่งเรา”
ดูเหมือนแม่จะเตรียมคำตอบไว้แล้วฉันโมโหมากขึ้นและถามตรงๆ ว่า “ทำไมแม่ไม่สวมแหวนแต่งงาน” คำถามนี้ดูจะทำให้แม่ตกอยู่ในภาวะกระอักกระอ่วมมาก แม่มองฉันแว๊บนึงด้วยสายตารำคาญใจและตอบว่า “แม่พยายามจะจัดการรถเองก่อนหน้านี้และถอดแหวนออกไม่ให้มันสกปรก” ฉันมองไปทางพ่อแต่ดูเหมือนพ่อจะไม่ได้ฟังเลยเขาดูเหนื่อยและโศกเศร้าฉันถามว่า “พ่อคะคิดยังไง” แต่แล้วแม่ก็ขัดฉันบอกว่า “มื้อเย็นพอแค่นี้” และไล่ฉันกลับห้องจากวินาทีนั้นฉันก็เริ่มสงสัยว่าผู้ชายในรถจี๊ปจะเป็นมากกว่าแค่เพื่อนร่วมงาน ฉันตัดสินใจว่าจะยังไม่บอกเรื่องที่ฉันสงสัยกับพ่อไม่จำเป็นต้องทำให้เขาโกรธในเมื่อฉันยังไม่มีหลักฐานที่ชัดเจน เช้าวันถัดมาตอนมื้อเช้าแม่และฉันออกจะมึนตึงใส่กันแม่พยายามไม่สบตาฉันเรานั่งกันเงียบๆ และทันใดนั้นโทรศัพท์แม่ก็ดังแม่บอกว่าเป็นเรื่องงาน และต้องรับสายจากนั้นก็เข้าไปในห้องนอนชั้นรู้ว่านั่นไม่ใช่แค่งานแน่ฉันอยากฟังบทสนทนาจึงเกิดความคิดดีๆ ได้ฉันไปที่ห้องของน้องสาวและเปิดเบบี้มอนิเตอร์เครื่องนี้ทำงาน 2 ด้านงานให้ฉันจะได้ยินบทสนทนาชัดเจนแม่สุภาพมากฉันไม่สงสัยเลยว่าแม่กำลังคุยกับเพื่อนร่วมงานคนนั้นและฉันได้ยินรายละเอียดที่สำคัญอย่างหนึ่งเขาจำได้แม่บอกว่า “ที่ร้าน “รอสซี่” 20:00 น นะจ๊ะจุ๊บๆ ไว้เจอกันค่ะ”
ร้าน “รอสซี่” ร้านอาหารที่ดูดีมากแห่งหนึ่งในตัวเมืองถ้างั้นแม่ก็ไปเดทเหรอ หืม?? เอาเถอะ ฉันจะต้องไปทำร้ายเดทนี้ให้ได้ ฉันรู้ที่อยู่และเวลานัดหมายของพวกเขาแต่ฉันตัดสินใจไปให้ช้ากว่าครึ่งชั่วโมงเพื่อที่จะได้จับพวกเขาระหว่างเดทกันอยู่ เมื่อฉันไปถึงฉันเห็นรถของแม่ และรถจี๊ปของผู้ชายที่มารับฉันวันเรียนเต้นรำ อ้อ รถแม่เสียงั้นสินะ
ฉันโกรธมากเมื่อเดินไปที่หน้าต่างทายสิว่าฉันเห็นอะไรแม่ของฉันและผู้ชายคนนั้นนั่งทานมื้อค่ำสุดโรแมนติกที่มีทั้งเทียนและไวน์ฉันยืนอยู่ตรงนั้นนานเป็นนาทีแล้วทันใดนั้นเขาก็โน้มตัวไปหาแล้วจูบแม่ฉันทนเก็บความโมโหไม่ได้อีกต่อไปแล้วฉันตรงไปที่ร้านอาหารและเริ่มตะโกนใส่แม่ว่า “แม่ทำแบบนี้ได้ยังไงพ่ออยู่คนเดียวดูแลลูกของแม่ระหว่างที่แม่มาออกเดทเนี่ยนะ แม่ทำแบบนี้กับพ่อและหนูได้ยังไง” ชั่วขณะนั้นผู้ชายคนนั้นก็ยืนขึ้นแล้วถามด้วยท่าทางสับสนว่า “อะไรนะพ่อ “แมรี่” ไหนคุณบอกว่าคุณหย่าแล้วไงทำไมคุณถึงโกหกผม” เราอยู่เงียบๆ อยู่อย่างนั้นครู่หนึ่งจากนั้นแม่ก็บอกว่า “รอฟ” ฉันแต่งงานแล้วค่ะ ฉันมีลูกสาว 2 คนขอโทษด้วยฉันควรบอกคุณก่อนหน้านี้และแม่ก็คว้าตัวฉันออกไปข้างนอกดันฉันเข้าไปในรถแล้วเราก็กลับบ้านกันระหว่างนั่งรถฉันพูดแค่ประโยคเดียวว่า “แม่ต้องบอกเรื่องทุกอย่างกับพ่อเดี๋ยวนี้” เมื่อเรากลับมาถึงฉันตะโกนตั้งแต่หน้าประตูว่า “พ่อคะแม่มีอะไรจะบอก” แม่เริ่มอธิบายว่า “เธอพบว่าฉันเป็นชู้กับผู้ชายที่ฉันอยากขายบ้านให้” พ่อถอนหายใจเศร้าๆ แล้วบอกว่า “ถึงเวลาที่เราต้องคุยกันเรื่องยากๆ กันแล้ว”
เราทั้งหมดนั่งลงและพอแม่ก็บอกฉันทุกอย่างกลายเป็นว่าพ่อรู้อยู่แล้วว่าแม่นอกใจนั่นเพราะพ่อให้แม่ทำเองแม่บอกว่าแม่กำลังพยายามขายบ้านที่แพงมากให้ผู้ชายคนนี้เขาเป็นคนใจแข็งและดื้อดึงถ้าได้ค่าคอมมิชชั่นบ้านหลังนี้จะพอให้เราอยู่ได้ทั้งปีเพราะงั้น แม่เลยถามพ่อว่า “ถ้าแม่ล่อลวงให้ผู้ชายคนนี้ให้ความร่วมมือซื้อบ้านได้พ่อจะว่าอะไรไหม” และตอนนี้ข้อตกลงนั้นก็ล่มไปแล้วเพราะฉันแต่ฉันยังโกรธและสับสนและแม่คิดว่าเดทนี้จะจบลงยังไง “แม่จะไปที่บ้านเขาไหม” แม่ไม่ได้ตอบอะไร
จากนั้นพ่อก็เข้ามาแทรกและบอกว่านี่เป็นการตัดสินใจร่วมกันได้มันก็ยากสำหรับพ่อเหมือนกันดังนั้นฉันจึงต้องเป็นผู้ใหญ่ให้มากพอยอมรับการตัดสินใจของพวกเขา ฉันยังไม่รู้ว่าต้องรู้สึกยังไงกับเรื่องนี้ ทางนึงคือผู้ชายคนอื่นขณะที่อีกทางนึงแม่ก็ทำเพราะรักครอบครัว นี่มันประหลาดสุดๆ พวกเขาบอกว่ายอมรับว่ามันเป็นความคิดที่งี่เง่าพวกเขาเสียใจแล้วจริงๆ และจะไม่ทำแบบนั้นอีก นี่เป็นบทเรียนที่ดีสำหรับเราทั้งหมด ฉันได้เรียนรู้ว่าความสัมพันธ์บางทีก็เป็นเรื่องซับซ้อนมากและพ่อแม่ฉันก็ได้รู้ว่าครอบครัวสำคัญกว่าเงินทอง
คุณจะทำยังไงถ้าพ่อแม่ของคุณตัดสินใจแบบเดียวกันนี้เขียนลงในช่องคอมเม้นท์ขอบคุณที่ติดตามชมอย่าลืมกดไลท์และแชร์วีดีโอให้กับเพื่อนๆด้วยนะ