ปัญหาสุขภาพ

ลูกพี่ลูกน้องฉันมีอาการป่วยทางจิตและไม่มีใครสังเกตเห็นเลย

ไงทุกคนฉันชื่อ “เฮรี่” อายุ 13 ปี ตั้งแต่เด็กเรารู้มาตลอดว่าความชั่วร้ายและความดีงามหมายถึงอะไร และฉันอยากเล่าเรื่องเกี่ยวกับปีศาจที่ดำมืดที่สุดเท่าที่ฉันเคยเผชิญในชีวิตให้พวกคุณฟัง

เรื่องทั้งหมดเริ่มจากหลังที่ฉันเข้ารับการผ่าตัดหัวใจ ฉันรอการผ่าตัดนี้มาตั้งแต่เกิดและทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดีดังนั้นจึงเป็นเวลาที่มีความสุขมากและเป็นการเริ่มต้นใหม่จริงๆสำหรับฉัน ฉันต้องการสถานที่เงียบสงบสำหรับพักฟื้นพ่อแม่จึงแนะนำให้ไปใช้เวลาช่วงฤดูร้อนที่ฟาร์มของป้าครอบครัวของป้าอาศัยอยู่ในเมืองเล็กๆเงียบสงบในแคลิฟอร์เนียฉันรอคอยให้การเดินทางครั้งนี้หมายถึงอย่างใจจดใจจ่อและได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น

ป้าของฉันเป็นผู้หญิงใจดีท่านมีลูก 2 คน “เจมมี่” อายุราวเดียวกับฉันและลูกน้อยที่เด็กกว่าฉันคิดว่าเราต้องสนุกกันมากแน่ๆ แต่ฉันก็ไม่ได้โชคดีขนาดนั้นตอนแรกทุกอย่างยอดเยี่ยมมากทุกคนมีความสุขและพยายามช่วยเหลือให้กำลังใจฉัน ลุงของฉันทำงานยุ่งมาก ป้าก็ใช้เวลามากมายกับ “ลุค” เพราะเค้ามีอาการเรื่องการพูดไม่คล่องป้าต้องพาเค้าไปบำบัดเรื่องการพูดเกือบทุกวัน ดังนั้นฉันจึงใช้เวลาส่วนใหญ่กับ “เจมมี่”

พ่อของฉันเคยบอกว่า “เจมมี่” ป็นลูกคนโปรดเป็นผู้ช่วยคนสำคัญของแม่เค้าและมือขวาและเขาก็ยินดีกับฉันมากด้วย เค้าพาฉันไปเที่ยวรอบๆ เมืองไปเล่าเรื่องที่โรงเรียนให้ฟังเขามั่นใจในตัวเองมากแล้วไม่กลัวอะไรเลยฉันชื่นชมเขาจริงๆ เขาทำให้ฉันถึง “ปีเตอร์แพน” แต่แล้วฉันก็เริ่มสังเกตเห็นอะไรแปลกๆ

เขาทำตัวดีมากเวลาที่อยู่บ้านแต่เวลาเราอยู่กันตามลำพังเขาจะบ่นว่ารำคาญน้องชายขนาดไหนแล้วพ่อแม่เขางี่เง่าใช้การไม่ได้ยังไงบ้าง ฉันรู้ว่าวัยรุ่นทุกคนก็เป็นแบบนี้แต่ วันหนึ่งเราเดินผ่านบ้านของเพื่อนบ้าน สุนัขของพวกเขาเห่าใส่เราอยู่หลังรั้วสุนัขตัวใหญ่มาก ฉันจึงกลัวขึ้นมานิดหน่อย แต่ “เจมมี่” ไม่เลยเขาเข้าไปใกล้รั้ว คุกเข่าและเริ่มเห่ากลับจากนั้นก็หัวเราะเป็นบ้าเป็นหลัง คุณอาจจะบอกได้ว่ามันเป็นแค่เรื่องตลกที่ไม่ขำเลยสักนิดแต่ฉันเห็นใบหน้าของเขา เขารู้สึกดีมากๆ

และดูเหมือนไม่มีอะไรในโลกที่จะตลกกว่าการหยอกเจ้าหมานั่นอีกแล้วระหว่างทางกลับบ้านเขาพูดว่าพรุ่งนี้เราเอาสารหนูไปวางให้มันกินดีไหมฉันตอบรับได้แค่หัวเราะคิกคักด้วยท่าทีกระวนกระวายฉันพยายามจะคิดว่าไม่มีอะไรต้องกังวลและไม่รบกวนป้าด้วยเรื่องนั้นจะดีกว่าแต่ทุกวันฉันก็ไม่อาจหยุดคิดเรื่องในวันนั้นได้เลยไม่กี่วันถัดมาขณะที่เราเดินเที่ยวไปรอบๆ “เจมมี่” โพร่งขึ้นมาว่า “ฮ่าา น่าเบื่อชะมัด เธออยากจะทำอะไรที่สนุกๆ หน่อยไหม” ฉันเกือบจะพูดว่า “ไม่” แต่เขาจับมือลากฉันไปที่ไหนสักแห่งจากตัวบ้านเราวิ่งไปตลอดทางแล้วเขาก็หยุดกึกฉันประหลาดใจเพราะเรากำลังยืนอยู่บนสะพานเหนือทางด่วนและฉันก็ทำได้แค่เดาว่ามีเรื่องสนุกอะไรอยู่แถวนี้ “เจมมี่” เปิดกระเป๋าเป้ฉันเห็นว่าในนั้นเต็มไปด้วยก้อนหินก้อนใหญ่มากจากนั้นก็เห็นรถตู้เข้ามาใกล้เขาจับมือฉันและพูดอย่างร่าเริงว่า “ดูนะ”

ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากจริงๆ  เขาขว้างหินก้อนหนึ่งไปแล้วมันกระแทกตรงเป้าก่อนเห็นกระทบกระจกหน้ารถคนขับเหยียบเบรคแล้วรถก็หยุดฉันได้ยินเสียงเด็กทารกร้องไห้ฉันทำได้แค่ยืนตัวแข็งเป็นหินหน้าปากค้างพูดอะไรไม่ออกแล้ว “เจมมี่” ก็หัวเราะจนท้องแข็งแล้วกระซิบบอกฉันว่า “วิ่ง” ฉันไม่รู้เลยว่าฉันทำอะไรอยู่ฉันวิ่งไปในขณะที่รู้สึกว่าน้ำตาแห่งความหวาดกลัวไหลลงมาอาบแก้มทำไมฉันถึงไม่ทำอะไรเลยเหมือนตกอยู่ในมนต์สะกดอันชั่วร้ายไม่มีผิดเมื่อเราหยุดนิ่ง “เจมมี่” ถามฉันด้วยน้ำเสียงเปลี่ยนชัยชนะ “เธอชอบเรื่องสนุกเมื่อกี้บ้างไหม” “เรื่องสนุก!! มีเด็กอยู่ในรถพวกเขาอาจจะเจ็บและหวาดกลัวเขาเรียกมันว่าเรื่องสนุกงั้นหรอ”

ฉันบอกว่าเขาต้องบ้าไปแล้วฉันบอกเขาอีกว่าเขาต้องบอกพ่อแม่ว่าทำอะไรลงไปไม่อย่างนั้นฉันจะบอกเองแต่แล้วเขาก็สงบลงยิ้มชั่วร้ายและตอบกลับอย่างเย็นชาว่าฉันไม่ได้ทำคนเดียวสักหน่อยเธอก็ทำด้วยแล้วเธอก็ไม่ได้ห้ามฉันพ่อกับแม่ของเธอคงชอบที่ได้ฟังเรื่องกันแน่แล้วฉันก็อึ้งไปเลยจากตอนนั้นฉันไม่สงสัยอีกแล้วว่า “เจมมี่” จะต้องมีอะไรผิดปกติแน่นอน แล้วฉันต้องทําอะไรสักอย่างฉันไม่มีความกล้าที่จะบอกเรื่องนี้กับป้าต่อให้ฉันทำป้าก็คงไม่เชื่อเพราะ “เจมมี่” ดูเหมือนจะเป็นนักแสดงชั้นเลิศเขาเล่นบทบาทลูกชายแสนดีมาได้ตั้งหลายปีดังนั้นฉันเริ่มสืบด้วยตัวเองฉันต้องหาหลักฐานเปิดโปงเขา แต่เขาระวังตัวมาก ฉันตามลูกพี่ลูกน้องคนนี้ทุกฝีก้าวและสังเกตว่าเขาจะใช้เวลา 2-3 ชั่วโมงพิมพ์อะไรสักอย่างหน้าแล็ปท็อปทุกคืนฉันต้องรู้ให้ได้ว่าในแล็ปท็อปนั้นมีอะไรนั่นเป็นโอกาสเดียวแล้วแต่ฉันไม่มีทางเข้าไปดูได้ถ้าไม่มีรหัสผ่านฉันคิดว่าคงหมดหนทางแล้วหนึ่งในสิ่งที่เป็นความสนใจปกติของ “เจมี่” คือการสร้างสิ่งของด้วยไม้ขีดเขาภูมิใจอย่างมากและหนึ่งในผลงานชิ้นเอกของเขาคือเครื่องตกแต่งห้องนั่งเล่นชั้น 1

คืนนึงฉันรอจนกระทั่งเขาเริ่มกิจวัตรหน้าคอมลอบเข้าไปในห้องนั่งเล่นและทุ่มผลงานของเขาลงพื้นจากนั้นฉันกลับออกมาเสียงนั้นดังมากทุกคนจึงตื่นแล้วลงมาดูว่าเกิดอะไรขึ้นลูกน้อยเริ่มร้องให้ “เจมมี่” เรือของพี่ฉันซ่อนอยู่หลังประตูเห็น “เจมมี่” ผู้ออกจากห้องแล้ววิ่งลงบันไดไปชั้นมีเวลาไม่มากนักไม่กี่วินาทีหลังจากนั้นฉันก็ไปดูที่หน้าจอแล็ปท็อปของเขาเขาเขียนเรื่องลงในบล็อกลับของเขาเกี่ยวกับเรื่องที่ขว้างก้อนหินเหนือสะพานวันนั้น

และกลายเป็นว่านั้นยังไม่ใช่สิ่งชั่วร้ายที่สุดที่เขาเคยทำในบล็อกเต็มไปด้วยอุบัติเหตุทำนองนี้ยังมีวีดีโอตอนฉันกดเล่นฉันเห็น “ลุค” น้อยบนจอเขานั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ด้วยสีหน้าหวาด “เจมมี่” บังคับให้ “ลุค” ดูหนังสยองขวัญและดูภาพน่ากลัวน่ากลัวฉันยังได้ยินเสียงเขาหัวเราะอยู่ในกล้องทุกครั้งที่ “ลุค” เริ่มร้องให้ฉันตื่นตะลึงสุดขีดแต่ก็ไม่อาจหยุดดูได้ไม่ต้องสงสัยเลยว่า “ลุค” ที่น่าสงสารต้องมีอาการพูดไม่คล่องเด็กน้อยหวาดกลัวมากและไม่แม้แต่จะบอกเรื่องนี้กับแม่ฉันไม่ได้ยินเลยว่า “เจมมี่” กลับมาที่ห้องแล้ว

โชคดีที่ป้าและลุงของฉันมากับเขาด้วยดังนั้นคนคงนึกภาพได้นะว่าสีหน้าของพวกเขาตอนเห็นฉันดูคอมพิวเตอร์ของ “เจมมี่” นั้นมันเป็นยังไงพูดแบบหนึ่งนั่นก็คือชัยชนะ “ลุค” น้อยไม่ต้องทนรับความทรมานอีกต่อไปและความจริงถูกเปิดเผยเรื่องนี้ทำให้ป้าของฉันหัวใจสลายเธอร้องไห้ไม่หยุดแน่นอนว่าไม่มีใครส่ง “เจมมี่” เข้าคุกจากอุบัติเหตุครั้งนั้นเพราะเค้ายังอายุต่ำกว่าเกณฑ์และโชคดีที่วันนั้นไม่มีใครได้รับบาดเจ็บร้ายแรงแต่ลุงของฉันก็ต้องจ่ายค่าเสียหายให้ครอบครัวนั้นฉันไปจากแคลิฟอร์เนียด้วยหัวใจหนักอึ้งและไม่อยากเชื่อว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้นกับครอบครัวฉัน

 คุณเคยมีเพื่อนหรือญาติที่เคยทำอะไรแปลกๆ หรือกระทั่งเรื่องน่ากลัวไหมคุณหยุดพวกเขายังไงถ้าประสบการณ์ของฉันช่วยได้แบ่งปันเรื่องนี้กับคนที่คุณสบายใจได้เลยและโปรดจำไว้เสมอว่าความดีย่อมชนะความชั่ว 

เรื่องเล่าที่เกี่ยวข้อง

0 0 votes
Article Rating
Subscribe
Notify of
guest
0 Comments
Inline Feedbacks
View all comments
Back to top button
0
Would love your thoughts, please comment.x
()
x

ปิดโปรแกรมบล็อคโฆษณา

กรุณาปิดโปรแกรมบล็อคโฆษณาก่อนนะ เพราะเว็บจะอยู่ได้ก็จากป้ายโฆษณา