ครอบครัว

แม่และฉันทะเลาะกันเพราะแย่งผู้ชาย อนาถจริง!

สวัสดีทุกคน ฉันชื่อ “คลาริซ่า” เรื่องที่ฉันกำลังจะเล่าให้คุณฟังเรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้วก็ยังเป็นเรื่องที่ทำให้แม่และฉันไม่คุยกันเลยนานหลายสัปดาห์กับผู้ชายคนหนึ่งทุกอย่างเกิดขึ้นในตอนที่ฉันอายุ 16 ปีตอนนั้นฉันอยู่กับคุณยายเพราะแม่ฉันทำงานอยู่ต่างเมืองจากการโยกย้ายตำแหน่งตามปกติคุณยายของฉันเป็นครูสอนภาษามาตลอดชีวิตและพอเกษียณเธอก็เริ่มสอนภาษาฝรั่งเศสและอิตาลีที่บ้านวันหนึ่งก็เหมือนเช่นทุกวันฉันกลับมาบ้านหลังเลิกเรียนและพบคุณยายกับนักเรียนคนใหม่ที่กำลังเรียนอยู่ในห้องนั่งเล่นฉันถึงกับแปลกใจกับนักเรียนคนนี้เขาเป็นผู้ชายตัวสูงและหล่อเหลาเอามากๆ โอ้พระเจ้าเขาสมบูรณ์แบบไปเลยสำหรับฉันนั้นเป็นครั้งแรกจริงๆที่ฉันเกิดต้องตาใครสักคนซึ่งอาจเป็นรักแรกหรือคุณจะเรียกว่ายังไงก็ตามแต่ แต่ฉันรู้ว่าฉันไม่อาจหยุดคิดถึงเขาได้ขึ้นได้

คุณยายบอกฉันอย่างสุภาพว่าขอให้ฉันขึ้นไปชั้นบนแต่ฉันก็ยังจับประกายความสนใจในตาของเขาก่อนที่ฉันจะเดินออกจากห้องได้หลังจากนั้นฉันพบว่าเขาชื่อ “อเล็กซ์” และเขาพยายามเรียนภาษาฝรั่งเศสอย่างหนัก โอ้ใช้เลยแล้วตั้งแต่ที่เขาเริ่มเรียนฉันก็พบว่าเขามาบ้านเราบ่อยมากและยังไม่อยู่ค่อนข้างนานทีเดียวที่บ้านไม่มีประตูคั่นระหว่างห้องนั่งเล่นและห้องครัวและเวลาไหนก็ตามที่เข้ามาเรียนฉันก็จะรู้สึกอยากได้ชาสักถ้วยหรืออ่านอะไรสักอย่างอยู่ในห้องครัวเพื่อที่จะได้มองพ่อรูปหล่อได้ถนัดมากกว่าเดิม แน่ละฉันเขินเกินกว่าจะเข้าหาเขาแล้วไปพูดด้วยหรือแสดงออกให้เขารู้ความรู้สึกของฉันหรืออะไรก็ตามนอกจากนี้เขายังอายุมากกว่าฉันหลังจากนั้นคุณยายของฉันถึงบอกว่าเขาอายุ 24 ปีแล้วแต่ก็อย่างที่คุณรู้ระหว่างเราไม่ได้มีช่วงอายุที่แตกต่างอะไรกันนักแล้วฉันก็ได้เฝ้าแต่เพ้อฝันอยู่เสมอว่าเราจะตกหลุมรักซึ่งกันและกันเดินเล่นด้วยกันในสวนจับมือกันอะไรแบบนั้นแหละฉันแน่ใจว่าความรู้สึกของฉันสังเกตได้ง่ายมากเพราะไม่นานคุณยายก็ค้นพบทุกสิ่งอย่างเช่นฉันคิดยังไงกับ “อเล็กซ์” แล้วคุณยายก็จะแบบขยิบตาให้ฉันและยิ้มอะไรทำนองนั้น

มีอยู่ครั้งหนึ่งฉันทำเรื่องน่าขายหน้าสุดๆให้ตัวเอง โอ้..แค่คิดยังรู้สึกว่าน่าอายสุดๆไปเลยวันนึงคุณยายบอกให้ฉันช่วยเติมปุ๋ยลงในแปลงดอกไม้ของเราแล้วระหว่างที่ฉันกำลังใส่ปุ๋ยฉันก็ทำปุ๋ยเลอะไปทั้งตัวแล้วนั้นก็นั้นก็แบบคุณนึกออกใช่ไหมปุ๋ยคอกอ่ะ แล้วเพราะฉันทำเสร็จก็เข้าไปในบ้านเหงื่อไหลโชกไปหมดแล้วก็เห็น “อเล็กซ์” เห็นได้ชัดว่าเขาเพิ่งมาและฉันไม่ได้สังเกตเห็นเขาเลยแล้วเขาก็เห็นฉันเลอะไปทั้งตัวแถมกลิ่นอย่างแย่มากเขายกมือปิดปากปิดจมูกเพราะฉันแล้วจากนั้นก็รีบหันกลับไปเรียนฉันรีบวิ่งขึ้นไปชั้นบนและพยายามหลีกเลี่ยงการอยู่ในห้องเดียวกับเขาไปอีกตั้งหลายวันฉันอายมากจริงๆนะจากนั้นแม่ของฉันก็กลับมาที่บ้านจากที่หมดเวรย้ายไปทำงานอีกครั้งหนึ่งและฉันจะแทบจะรอเล่าเรื่องทุกอย่างเกี่ยวกับผู้ชายคนนี้ให้แม่ฟังไม่ไหวเราสนิทสนมกันมาตลอดฉันพูดได้เลยว่าเราเป็นเหมือนเพื่อนกันมากกว่าเหมือนจะเป็นแม่กับลูกสาวหลังจากนั้นเราก็วางแผนจะออกไปทานมื้อเที่ยงที่ร้านกาแฟไปช้อปปิ้งและไปร้านเสริมสวยกันก็อย่างนั้นแหละพิถีพิถันออกสักหน่อย 

แล้วเมื่อกลับมาถึงบ้าน “อเล็กซ์” ก็กำลังจะกลับพอดีชั่วโมงเรียนตามปกติของเขากับคุณยายฉันเพิ่งหมดลงสำหรับฉันนั้นเป็นครั้งแรกที่เราได้เผชิญหน้ากันหลังจากเรื่องปุ๋ยคอกที่เกิดขึ้นตอนนั้นและทันใดนั้นหน้าฉันก็แดงแจ๋ในทางตรงกันข้ามเขาดูจะอยู่ในอารมณ์ขันเขาเล่นมุกเรื่องที่ฉันดูดีมากยังจำได้ไหมก็ฉันเพิ่งออกมาจากร้านเสริมสวยนี่ถึงอย่างนั้นรูปแบบไปเสริมสวยมาก็ไม่ได้น่าจดจำมากเท่ากับครั้งล่าสุดที่เขาเพิ่งเจอฉันไปนั่นแหละก็คือตอนที่ตัวฉันเพิ่งไปผจญภัยในแปลงดอกไม้ไงแต่พอเขาเห็นฉันแดงไปหมดทั้งตัวตั้งแต่หัวจรดเท้าทันใดนั้นเขาก็อ้างว่าแม้แต่ดินบนเสื้อผ้าและกลิ่นไม่พึ่งประสงค์ครั้งก่อนก็ยังไม่อ่านกลบความสวยแบบนี้ได้และนั่นทำให้ฉันยิ่งหน้าแดงกว่าเดิมจากนั้นเขาก็ชมแม่ฉันและเดินจากไปส่วนฉันก็คิดว่าว้าวเขาช่างเป็นสุภาพบุรุษอะไรอย่างนี้

หลังจากวันนั้นเราคุยกันเรื่อง “อเล็กซ์” ตลอดและแม่ของฉันเห็นด้วยว่าเขาดูดีสะกดสายตามากจริงๆและคุณยายยังบอกด้วยว่าเขาฉลาดมากและฉันก็ไม่รู้ว่าทำไมแต่เรื่องนี้ทำให้ฉันภูมิใจแทนเขามากเหมือนเขาเป็นแฟนฉันแล้วหน่ะนะดังนั้นเราเลยมาถึงข้อสรุปที่ว่าฉันควรจะคุยกับเขานะแล้วคุณยายสัญญาว่าวันต่อไปตอนที่พวกเขาเรียกหนังสือกันคุณยายจะลองให้โอกาสฉันสักครั้งวันนั้นฉันตื่นเต้นมากจริงๆฉันเข้นสมองคิดอย่างหนักเพื่อหาความคิดที่ดีอะไรสักอย่างว่าฉันจะคุยอะไรกับเขาดีแล้วฉันควรจะทำตัวยังไงหมายถึงจะยืนฝั่งไหนแบบไหนหรือจะขยับเข้าไปใกล้เขาอีกนิดหรือนั่งบนโซฟาข้างๆเขาจากนั้นเมื่อเขามาถึงคุณยายก็บอกให้เขารอสัก 5 นาทีแล้วฉันจะเป็นคนคอยอยู่เป็นเพื่อนระหว่างที่คุณยายไปจัดการกับอะไรที่ค้างคาอยู่ดังนั้นเราเลยนั่งอยู่ด้วยกันและฉันก็รู้สึกประหม่าเอามากๆเพราะฉันลืมทุกอย่างที่ตั้งใจจะบอกเขาไปหมดเลยแต่โชคดีที่เขาไม่ใช่คนขี้อายอะไรแล้วเริ่มเป็นฝ่ายเปิดบทสนทนาให้

เห็นได้ชัดว่าหลังจากวันนั้นการสนทนาและมีปฏิสัมพันธ์กับเขาทุกอย่างก็เริ่มกลายเป็นเรื่องง่ายขึ้นและไม่นานเราก็เป็นเพื่อนกันบน Facebook  “อเล็กซ์” ยังให้คำแนะนำฉันมากมายว่าฉันควรดูหนังเรื่องอะไรหรือควรอ่านหนังสือเล่มไหนใช้เลยกลายเป็นว่าเขาเป็นผู้ชายที่พิเศษมากจริงๆไม่ใช่แค่ดูดีอย่างกับรูปปั้นกรีกอย่างฉลาดมากๆอีกด้วยแน่ละไม่มีเรื่องโรแมนติกหรือรักๆใคร่ๆจริงจังอะไรในบทสนทนาของเราเขาถามฉันเรื่องแม่โรงเรียนและเพื่อนๆฉันและกระทั่งว่าฉันมีแฟนอยู่แล้วหรือเปล่าคุณก็รู้ใช่ไหมว่าฉันหมายถึงอะไรและสำหรับฉันคำถามนี้เป็นเสมือนสัญญาณว่าบางทีเขาอาจจะชอบฉันเหมือนกันแต่แล้วอะไรบางอย่างก็ผิดพลาดไปผิดพลาดไปหมดเลยล่ะแม่ฉันกลับมาบ้านอีกครั้งแต่ครั้งนี้พูดก็พูดแม่ดูเบิกบานช่างฝันทุกอย่างเป็นไปตามปกติอย่างที่ควรเป็นเว้นอย่างเดียวคือแม่ได้รับข้อความบนโทรศัพท์อยู่ตลอดและอ่านข้อความยิ้มๆพอฉันถามว่าใครส่งมาหาแม่ แม่ก็บอกว่าไม่มีนี่แล้วเปลี่ยนเรื่องไป 

“อเล็กซ์” ยังคุยกับฉันนิดหน่อยอยู่อย่างนั้นในตอนที่เขามาที่บ้านเพื่อเรียนกับคุณยายแต่ครั้งนี้เขาสนใจเรื่องแม่ฉันมากจริงๆหมายถึงเขาเอาแต่ถามฉันว่าเธอเป็นอย่างไรมีความสุขดีไหมแล้วพอถึงจุดหนึ่งฉันก็เริ่มสงสัยว่าที่จริงเขาชอบแน่ไม่ใช่ฉันฉันหมายถึงแม่ฉันยังอายุน้อยอยู่แม่มีฉันตอนอายุแค่ 17 ปีก็เลยยังสวยมากๆและ “อเล็กซ์” กับฉันก็ไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกันแต่เรื่องนี้ก็ทำให้ฉันเจ็บปวดอยู่ดีดังนั้นฉันตัดสินใจถามแม่ไปตรงๆว่าใช่ “อเล็กซ์” หรือไม่ที่ส่งข้อความหาแม่และครั้งนี้แม่ก็ไม่มีทางหลบเลี่ยงไม่ตอบฉันได้อีกฉันอยู่ในสภาพแบบว่าไงนะฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าผู้ชายที่ฉันตกหลุมรักจะชอบแม่มากกว่าฉันและยิ่งกว่านั้นแม่ก็ดูจะไม่ถือสาซะด้วยแต่ต้องรอจนกระทั่งฉันบอกคุณก่อนว่าพวกเขาออกไปเดทกันจริงๆมาแล้วฉันไม่ควรได้รู้เรื่องนี้แน่ล่ะฉันจะวาดเลยแต่คุณรู้ไหมว่าอะไรที่ทำให้หน้าหงุดหงิดยิ่งกว่าเรื่องพวกนี้ทั้งหมดแม่ฉันไม่คิดเลยว่าตัวเองเป็นฝ่ายผิดในสถานการณ์แบบนี้แม่บอกว่ามันเป็นชีวิตของแม่และตัวเลือกของแม่ที่จะไปออกเดทกับผู้ชายดีๆเพราะแม่เป็นผู้หญิงที่เป็นผู้ใหญ่แล้วส่วนฉันน่ะยังและสำหรับฉันเขาก็แก่เกินไปที่จะสนใจอะไรในตัวฉันด้วยฉันสงสัยสุดเลยว่าทำไมแม่ไม่คิดว่าตัวเองแก่เกินไปสำหรับเขาแล้วก็ยังมีถ้อยคำต่อว่ากันอีกมากมายสาดกลับไปมารวมถึงหยดน้ำตาอีกเป็นกองของฉัน

ใช้สิแล้วเราก็จบการโต้เถียงนี้ด้วยการไม่พูดกับอีกฝ่ายเลยไม่มีคำพูดใดจะบรรยายได้ว่าฉันเคืองและโศกเศร้าเสียใจแค่ไหนที่เรื่องทั้งหมดนี้เกิดขึ้นไม่ใช่แค่เพราะรักแรกของฉันซึ่งพูดไปแล้วก็คือเขาไม่ได้รู้สึกแบบที่ฉันคิดว่าเขารู้สึกแต่กลับไปรู้สึกต่อคนที่ใกล้ชิดและเป็นที่รักที่สุดของฉันแม่ของฉันเองซึ่งอยู่ๆก็กลายเป็นคู่แข่งแย่งผู้ชายคนเดียวกันกับฉันบอกตามตรงฉันเคยคิดว่าพ่อแม่ปกติคนไหนๆก็ตามจะให้อะไรก็ได้กับลูกแต่ครั้งนี้ดูเหมือนว่าแม่ฉันจะเลือกผู้ชายไม่ใช่ฉันเมื่อแม่ฉันออกไปทำงานในวันถัดมาเรายังคงไม่พูดกันแล้วเพราะคุณยายค้นพบสิ่งที่เกิดขึ้นตอนแรกคุณยายเข้าข้างแม่และนี่ยิ่งทำให้ฉันหงุดหงิดขึ้นมาอีกรอบฉันพยายามอธิบายความรู้สึกของฉันให้คุณยายฟังเหมือนอย่างคนที่โตแล้วแต่ด้วยเหตุผลอะไรสักอย่างทั้งหมดที่ฉันพูดได้ก็คือทุกอย่างไม่ยุติธรรมสุดๆแล้วจากนั้นฉันก็ร้องไห้เป็นเด็กๆ แต่แล้วคุณยายก็บอกฉันว่าตอนที่แม่ฉันออกไปเดทกับ “อเล็กซ์” เขาแกล้งทำเป็นลืมกระเป๋าตังค์และข้าวของอื่นๆดังนั้นแม่ฉันก็เลยต้องจ่ายทุกอย่างนั่นแหละบางทีนี่อาจเป็นเหตุผลที่เขาไม่ได้คบกันสักทีแล้วก็ทำให้เขาไม่ได้ดูมีเสน่ห์มากเท่ากับที่ฉันเคยคิดอีกแล้ว

ฉันจะพูดยังไงดีฉันรู้สึกแย่ที่แม่ของฉันต้องไปออกเดทแย่ๆแต่ก็ต้องยอมรับว่าฉันดีใจที่แม่และ “อเล็กซ์” เข้ากันได้ไม่ดีนักดูเหมือนความยุติธรรมก็ยังพอมีอยู่หมายถึงแม่นก็ไม่ควรขโมยผู้ชายที่ฉันชอบนะบางทีคุณคงสงสัยแล้วว่าฉันตกลงกับแม่ได้ยังไงแน่นอนในที่สุดเราก็จบเรื่องนี้กันได้และนั่นก็เป็นอีกเรื่องที่ควรจะเล่าให้คุณฟังตรงนี้เอาล่ะวันหนึ่งเมื่อ “อเล็กซ์” มาถึงบ้านเพื่อเรียนอีกครั้งหนึ่งฉันกำลังอยู่ในครัวแต่ครั้งนี้ไม่ได้ตั้งใจจะลงไปฉันไม่อยากเจอเขาแค่ฉันทำอาหารไม่เสร็จแล้วคุณยายก็เริ่มถามเขาถึงคำถามในวิชาเรียนบางอย่างเช่นบทสนทนาตลกๆและสถานการณ์ต่างๆเป็นภาษาฝรั่งเศสตอนแรกฉันแทบไม่ได้ฟังพวกเขาเลยแต่พอถึงจุดนึง ฉันก็รู้ว่าการเรียนครั้งนี้บางทีอาจเป็นครั้งสุดท้ายของพวกเขาแล้วฉันไม่อยากเชื่อหูตัวเองเลยแต่ว่าหมายถึงฉันไม่ได้เก่งภาษาฝรั่งเศสมากเท่ากับที่คุณยายของฉันอยากให้ฉันทำได้แต่ฉันก็สามารถบอกได้แน่ๆว่าคำต่างๆจำนวนหนึ่งนั่นคืออะไรดูเหมือนคุณยายจะพยายาม 

เอ่อ..สร้างสถานการณ์ว่ากำลังอยู่ในร้านอาหารซึ่งผู้ชายลืมกระเป๋าตังค์แล้วตอนนี้เขาก็ต้องขอให้คู่เดทจ่ายทุกสิ่งทุกอย่างฉันหันมองพวกเขาก็ช่วยไม่ได้คุณยายฉันดูเจ้าเล่ห์ถึงจะพยายามทำเหมือนไม่รู้เรื่องระหว่างเขาและการพบปะที่ไม่น่าพึงพอใจกับแม่ฉันเลยก็ตามแต่ปฏิกิริยาของ “อเล็กซ์” เป็นอะไรที่คุณน่าจะอยากเห็นเลยล่ะฉันรู้เลยว่าครั้งนี้เขาอับอายและพนันได้เลยว่ายิ่งกว่าครั้งที่ฉันตกอยู่ในสภาพที่ทั้งตัวมีแต่ปุ๋ยคอกอย่างในความคิดของเขาเสียอีกฉันรีบวิ่งไปโทรหาแม่และเล่าให้แม่ฟังทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นลืมไปสนิทเลยว่าเรากำลังเหมือนจะทะเลาะกันอยู่แล้วใช่เลยในทางหนึ่งผู้ชายคนหนึ่งทำให้เราสองคนเลิกพูดกันในตอนแรกแล้วจากนั้นก็กลายเป็นสิ่งแรกที่ทำให้เรากลับมาพูดกันอีกครั้ง

นั้นแหละเรื่องราวของฉันคราวนี้แบ่งปันความคิดของคุณในช่องคอมเม้นต์ได้นะแล้วอย่าลืมกดติดตามช่องนี้ล่ะ 

เรื่องเล่าที่เกี่ยวข้อง

0 0 votes
Article Rating
Subscribe
Notify of
guest
0 Comments
Inline Feedbacks
View all comments
Back to top button
0
Would love your thoughts, please comment.x
()
x

ปิดโปรแกรมบล็อคโฆษณา

กรุณาปิดโปรแกรมบล็อคโฆษณาก่อนนะ เพราะเว็บจะอยู่ได้ก็จากป้ายโฆษณา