เพื่อนกัน

พ่อของฉันต้องการกำจัดสุนัขแก่ของเราแต่แล้วบัดดี้ก็ได้ช่วยชีวิตเขาไว้

สวัสดีทุกคน ฉันคือ “ลูน่า” อายุ 14 ปีเราคงเคยได้ยินคำกล่าวที่ว่าใครทำอะไรมักจะได้อย่างนั้นเหมือนกับที่ บูมเมอแรง มันมักย้อนกลับมาที่คนกว้างเสมอแต่โชคไม่ดีที่พ่อของฉันเพิ่งจะได้รับผลของการกระทำนี้ด้วยตัวเขาเองดังนั้นวันนี้ฉันจึงอยากจะมาเล่าเรื่องนี้ให้คุณได้ฟังกัน

ครอบครัวของฉันมาจากไอโอวาพ่อของฉันมีธุรกิจเกษตรกรรมเกี่ยวกับการปลูกพืชผักต่างๆธุรกิจนี้เป็นสิ่งเดียวที่ช่วยดำรงชีพให้กับพวกเราดังนั้นเราจึงต้องปกป้องฟาร์มของเราจะความเสียหายอย่างดีที่สุดดังนั้นเราจึงมีเจ้า “บัดดี้” มันเป็นสุนัขที่น่ารักที่สุดฉันได้มันมาตอนอายุ 4 ขวบแล้วเราก็เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันมานานหลายปีมันไม่ได้เป็นแค่สัตว์เลี้ยงที่น่ารักเท่านั้นแต่มันยังเป็นผู้พิทักษ์ที่ดีที่สุดให้กับพวกเราด้วย

คืนนึงฉันตื่นขึ้นมาเพราะได้ยินเสียงอะไรแปลกๆเจ้า “บัดดี้” มันเห่าดังมากกว่าปกติฉันรีบไปที่ห้องพ่อกับแม่และพบว่าพ่อยืมต้องออกไปที่หน้าบ้านพร้อมกับปืนในมือแล้วพวกเราเปิดประตูหน้าบ้านออกไปแล้วเห็นว่า “บัดดี้” กำลังงับแขนของขโมยคนนั้นอยู่จนเขาไม่สามารถหลบหนีไปไหนได้โชคดีที่เขายังไม่ทันได้ขโมยอะไรไปแม้ว่าเรื่องนี้มันจะเกิดขึ้นมานานแล้วแต่นับตั้งแต่วันนั้น “บัดดี้” ก็กลายเป็นฮีโร่ในใจฉันเสมอมาแต่วันเวลาก็ช่างโหดร้ายกับมันเหลือเกิน

ผ่านมา 9 ปี “บัดดี้” จึงเริ่มแก่ลงมากแล้วแต่มันก็ยังคงดูแลฟาร์มของเราอย่างดีฉันเริ่มสังเกตเห็นว่ามันเริ่มเฉยชาและเบื่ออาหารมันไม่ตื่นเต้นกับอาหารที่มันเคยชอบเหมือนเคยฉันเริ่มกังวลและพ่อก็บอกว่ามันก็แค่แก่ลงเท่านั้นคงไม่ได้เป็นอะไรมากพูดตามตรงเพราะฉันเป็นคนที่ไม่ค่อยอ่อนโยนสักเท่าไหร่พอหมาของเราเริ่มแก่ลงเขาก็เริ่มอารมณ์เสียกับมันเพราะคิดว่ามันคงไม่มีประโยชน์อะไรกับเราอีกต่อไปฉันไม่รู้ว่าเขาคิดแบบนั้นได้ยังไง

วันหนึ่งฉันไปหา “บัดดี้” ที่พักของมันและพบว่ามันได้แต่นอนนิ่งๆและหายใจแรงมากมันแทบไม่สังเกตเห็นด้วยซ้ำว่าฉันมาหาฉันจึงรีบวิ่งไปหาพ่อทันทีและขอให้เขาพามันไปที่คลีนิคสัตว์แต่คุณเชื่อไหมว่าเขาปฏิเสธที่จะพามันไปแล้วพูดว่า “บัดดี้” มันเป็นหมาที่ดีนะแต่นี่แหละธรรมชาติของชีวิตมันคงจะง่ายกว่าถ้าเราจะหาสุนัขตัวใหม่มาแทนพอฉันได้ยินแบบนั้นน้ำตาของฉันก็พรั่งพรูออกมาอ้อนวอนเขาอยู่เป็นชั่วโมงเพื่อให้เขาช่วยขับรถพาเราไปที่คลีนิคแต่เขาก็ไม่รับฟังเลยจนกระทั่งฉันพูดว่าจะพามันเดินไปด้วยตัวเองนั่นแหละเขาถึงได้ยอมและหลังจากที่เรารอฟังผลตรวจของบัดดี้อยู่ที่หน้าห้องนานอยู่เป็นชั่วโมงๆ สัตวแพทย์วินิจฉัยว่า “บัดดี้” อาการไม่ค่อยดีเท่าไหร่เพราะมันต้องทรมานจากแผลในกระเพาะอาหารและมันต้องได้รับการผ่าตัดอย่างเร่งด่วนแต่ก็ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าการผ่าตัดจะช่วยอะไรได้มากนักแม้ว่าข่าวนี้มันจะทำให้รู้สึกเศร้าและหดหู่ใจอย่างมากแต่มันไม่มีประโยชน์อะไรที่จะมาคร่ำครวญอยู่เช่นนี้พวกเราต้องตัดสินใจทำอะไรสักอย่าง

ระหว่างทางกลับบ้านฉันและพ่อได้แต่นั่งเงียบต่อมาเมื่อถึงบ้านฉันก็ได้ยินพ่อกับแม่โต้เถียงอะไรบางอย่างกันอยู่ในห้องนั่งเล่นฉันมั่นใจว่ามันจะต้องเป็นเรื่องการผ่าตัดของ “บัดดี้” ฉันจึงแอบเข้าไปใกล้มากขึ้นเพื่อที่จะได้ยินสิ่งที่พวกเขากำลังคุยกันแต่แล้วฉันก็ต้องได้ยินคำพูดที่แสนโหดร้ายว่าพวกเขากำลังจะเอามันไปปล่อยในเช้าวันรุ่งขึ้นฉันแทบไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน “บัดดี้” ที่เป็นสุนัขที่ซื่อสัตย์ที่สุดกับเราเสมอแต่พ่อกลับมีความคิดที่จะกำจัดมันอย่างไม่ใยดีแม่เองก็ไม่เข้าข้างฉันอีกต่อไปเธอไม่ต่อต้านอะไรพ่อทั้งนั้นแต่ฉันจะทำเองฉันจะไม่ยอมปล่อยให้มันเกิดขึ้นแบบนั้นแน่นอน

ฉันโทรไปหาเพื่อนสนิทของฉันและขอความช่วยเหลือจากเขาฉันรู้ว่าฉันไม่มีปัญญาหาเงินมาให้พอกับค่าผ่าตัดได้แต่ฉันก็รวบรวมเงินเก็บทั้งหมดที่มีและ “ปีเตอร์” เองก็ช่วยสมทบให้ด้วยส่วนนึงเขายังแนะนำอีกว่าให้จัดตั้งกองทุนสำหรับ “ปีเตอร์” และโพสต์ลงบนอินเทอร์เน็ตนี่แหละคือความหมายของคำว่าเพื่อนแท้ฉันคิดว่าพ่อคงจะไม่ยอมช่วยเราแม้แต่สตางค์เดียวและตอนนี้เราไม่มีเวลามากแล้วเราจะต้องนำ “บัดดี้” ไปไว้ในที่ปลอดภัยเพราะอาจจะทำตามแผนที่เค้าวางไว้ได้ในทุกเมื่อดังนั้นเราจึงตัดสินใจที่จะนำมันกลับไปไว้ที่คลินิกสัตว์และหวังว่าคุณหมอที่นั่นจะเมตตาสุนัขที่น่าสงสารของเราเช่นกัน

ฉันแอบออกจากบ้านตั้งแต่เช้ามืดเพื่อที่จะได้ไม่มีใครเห็น “ปีเตอร์” กับฉันต้องช่วยกันอุ้ม “บัดดี้” เริ่มมันเริ่มเดินไม่ค่อยไหวแล้วคลินิกก็ค่อนข้างไกลจากบ้านเราจึงต้องพากันขึ้นรถโดยสารนานเป็นชั่วโมงกว่าจะไปถึงที่นั่นสัตวแพทย์จำ “บัดดี้” ได้แล้วพวกเราก็บอกเขาว่าเรามีเงินเท่าไหร่และเล่าให้เขาฟังถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นพวกเราบอกเขาเกี่ยวกับเรื่องกองทุนและถามว่าเขาสามารถช่วยเหลือพวกเราได้ยังไงบ้างเขาถอนหายใจแล้วพูดว่าเงินที่เรามีมันยังไม่ถึงครึ่งค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดเลยด้วยซ้ำและไม่ควรปล่อยให้ “บัดดี้” ต้องรอนานไปกว่านี้ฉันกำลังจะร้องไห้โฮจนกระทั่งเขาพูดขึ้นมาว่าอย่าเพิ่งหมดหวังกับอะไรง่ายๆ

เขาออกไปจากห้องและพูดคุยกับเพื่อนร่วมงานเพราะเขากลับมาเขาก็บอกว่า “บัดดี้” สามารถพักอยู่ที่นี่ได้จนกว่าเราจะรวบรวมเงินได้เขายังแนะนำอีกว่าเราควรจัดตั้งกองทุนที่คลินิกนี้เพื่อจะได้รวบรวมเงินให้ครบได้เร็วขึ้นแล้วบอกพวกเราว่าอย่ายอมแพ้เด็ดขาดฉันมีความสุขและซาบซึ้งกับคุณหมอคนนั้นมากเขาทำให้ฉันกลับมามีความหวังอีกครั้งแน่นอนว่าเพราะฉันกลับมาจากคลีนิคพ่อก็โกรธฉันมากเพราะฉันไม่เคยออกจากบ้านไปโดยไม่ขออนุญาตหรือโดยไม่มีเขาออกไปด้วยมาก่อนฉันฝ่าฝืนกฎของเขาแต่แล้วในที่สุดเขาก็ยอมรับและปล่อยให้เราทำในสิ่งที่เราต้องการ

ในเวลาเพียงแค่ 1 สัปดาห์เราก็ระดมเงินทั้งหมดได้ครบพนักงานของคลินิกทุกคนก็ช่วยบริจาคให้พวกเราด้วยพวกเขาคุ้นเคยกับ “บัดดี้” ในช่วงสัปดาห์นั้นและเห็นว่ามันเป็นสุนัขที่ยอดเยี่ยมและน่ารักแค่ไหนการผ่าตัดประสบความสำเร็จและไม่นานหลังจากนั้น “บัดดี้” ของเราก็ได้กลับมาบ้านแม่ของฉันมีความสุขมากแต่ฉันก็คิดว่าสิ่งที่ฉันทำยังทำให้พ่อก็โกรธอยู่และการกลับมาของบัดดี้ครั้งนี้มันก็ทันเวลาพอดีกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นกับครอบครัวเราวันหนึ่งเมื่อฉันกลับมาบ้านหลังเลิกเรียนฉันก็เห็นว่ามีรถพยาบาลจอดอยู่ใกล้บ้านของเราฉันรีบเข้าไปในบ้านและพบว่าพ่อนอนอยู่บนเตียงแล้วรายล้อมไปด้วยหมอ “บัดดี้” อยู่ในห้องนั้นแล้วมันได้ทำในสิ่งที่ยิ่งใหญ่เหลือเกิน

อุบัติเหตุมันเกิดขึ้นเมื่อพ่อของฉันขึ้นไปซ่อมหลังคาบ้านเขาเสียการทรงตัวและตกลงมาขาทั้งสองข้างและกระดูกไหปลาร้าของพ่อหักกลายเป็นว่า “บัดดี้” ที่เข้ามาพบและพาแม่มายังจุดที่เกิดเหตุหลังจากการผ่าตัด 2 ครั้งพ่อของฉันก็กลับมาบ้านเขารู้ว่าเขาจะต้องใช้เวลามากในการที่จะกลับมายืนได้อีกครั้งแต่เขาก็มีความสุขที่อย่างน้อยเขาก็ยังมีชีวิตอยู่ “บัดดี้” ไม่ยอมห่างออกจากเขาเลยเอาแต่นอนเฝ้าอยู่แทบเท้าของเขาตอนนี้ฉันคิดว่าพ่อคงรู้แล้วว่าควรจะให้ความสำคัญกับใครอย่างไรและรู้ว่ามิตรภาพที่แท้จริงนั้นคืออะไรตอนนี้เขาคงจะสำนึกผิดกับพฤติกรรมของตัวเองฉันเองก็เสียใจที่เหตุการณ์นี้มันต้องเกิดขึ้นแต่อย่างน้อยมันก็ทำให้เขาได้เข้าใจสิ่งเหล่านี้

สำหรับฉันเองฉันเชื่อเราทุกคนต่างต้องชดใช้ในการกระทำของตัวเองและหากเราทำอะไรไปเราก็มักจะได้ผลแบบนั้นกลับมาเช่นกันแน่นอนว่านี่มันเป็นเรื่องที่น่าเศร้ามากโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับพ่อของฉันแต่มันก็ถือเป็นบทเรียนราคาแพงสำหรับพวกเรา

คุณเคยตระหนักว่าคุณเคยทำอะไรผิดพลาดมาแล้วบ้างไหมอย่าลังเลที่จะแบ่งปันเรื่องราวของคุณในคอมเม้นต์คุณสามารถพูดคุยและแชร์เรื่องราวนี้ให้กับเพื่อนๆของคุณและคำสอนที่ว่าทำดีได้ดีนั้นมันเป็นจริงเสมอ 

เรื่องเล่าที่เกี่ยวข้อง

5 1 vote
Article Rating
Subscribe
Notify of
guest
0 Comments
Inline Feedbacks
View all comments
Back to top button
0
Would love your thoughts, please comment.x
()
x

ปิดโปรแกรมบล็อคโฆษณา

กรุณาปิดโปรแกรมบล็อคโฆษณาก่อนนะ เพราะเว็บจะอยู่ได้ก็จากป้ายโฆษณา