ฉันยอมสละตัวเองเพื่อช่วยชีวิต 30 ชีวิต

สวัสดีฉันชื่อ “อาบีเกล” อายุ 13 เมื่อรู้เร็วๆนี้ชีวิตของฉันได้เข้าสู่ความวุ่นวายเป็นอย่างมากฉันเริ่มคิดว่าฉันกำลังจะเป็นบ้าหลังแต่สิ่งแย่ๆเกิดขึ้นกับครอบครัวของฉันแต่ประเด็นคือฉันกลัวความฝันตัวเองและฉันก็มีเหตุผลด้วยไม่มีอะไรบ่งบอกถึงความทุกข์ยากในครอบครัวของฉันเลยแล้วฉันก็ใช้ชีวิตธรรมดาๆ กับพ่อแม่เป็นที่รักแม่ฉันเป็นแม่บ้านส่วนพ่อฉันทำงานบริษัทการค้าซึ่งได้เลื่อนขั้นได้นานไหมเนี่ย มันเจ๋งมากแต่พ่อก็ต้องไปออกทริปของบริษัทบ่อยๆทำให้ฉันกับแม่คิดถึงเขามากแต่หลังจากนั้นทุกสิ่งจะแย่ลงพ่อของฉันกำลังกลับมาจากเมืองอื่นซึ่งฉันตื่นเต้นมากคืนนั้นฉันเข้านอนดึกแล้วตอนที่หลับตาลงฉันเห็นบางอย่างที่น่าเหลือเชื่อ

ฉันกับพ่อกำลังดูดาวตกด้วยกันในป่าขณะที่เขากำลังบอกฉันเกี่ยวกับกลุ่มดาวแผ่นดินก็เริ่มสั่นสะเทือนพ่อฉันลื่นแล้วก็ตกลงไปในความมืดเขาเรียกชื่อฉันและขอความช่วยเหลือแต่ฉันไม่สามารถหายใจหรือขยับได้เลยจากนั้นก็มีแสงไฟสว่างวาบขึ้นมาและฉันพบว่าตัวเองนั่งอยู่บนเตียงดวงตาที่เบิกกว้างฉันใช้เวลาสักพักจึงตั้งสติได้ว่าเป็นเพียงแค่ฝันแต่หลังจากนั้นฉันก็นอนไม่หลับฉันรู้สึกว่าตัวเองยังคงได้ยินเสียงพ่อกำลังเรียกอยู่แล้วก็ไม่สามารถสงบสติได้เลยฉันก็เลยไปที่ห้องแม่และเล่าเกี่ยวกับฝันร้ายให้เธอฟังทั้งน้ําตาฉันกลัวมากแล้วรู้สึกอยากโทรหาพ่อเพื่อเช็คว่าเขาปลอดภัยดีแม่ฉันคิดว่ามันไม่ใช่ความคิดที่ดีเลยที่จะโทรไปรบกวนพ่อกลางดึกแต่ฉันก็ยังยืนกรานพ่อฉันแปลกใจมากที่ได้ยินคำถามว่าพ่อสบายดีนะคะตอน 3:00 น ซึ่งโล่งใจที่เขาไม่เป็นอะไร

พ่อกลับมาบ้านอย่างปลอดภัยฉันกับแม่ทำอาหารเย็นสุดพิเศษต้อนรับเขาแล้วก็เล่นมุกตลกเกี่ยวกับฝันของฉันเมื่อวานเช้าวันรุ่งขึ้นพ่อพาฉันไปโรงเรียนแล้วก็หยิบมาให้พร้อมกับพูดว่าสักวันเราจะไปตามหาป่าที่มีดาวตกด้วยกันนะจากนั้นพ่อก็หัวเราะกับมุกตลกของเขาแล้วก็ขับรถไปทำงานโดยที่ฉันไม่รู้เลยว่านี่เป็นครั้งสุดท้ายที่ฉันจะได้คุยกับพ่อฉันยังคงอยู่ที่โรงเรียนนะคะใยขณะที่แม่โทรมาหาแล้วก็พูดกับฉันด้วยเสียงสั่นเทาแม่บอกว่าพ่อรู้สึกไม่ค่อยดีตอนทำงานแล้วก็ถูกส่งไปยังโรงพยาบาลพอได้ยินอย่างนั้นเขาฉันแทบทรุดพ่อมีอาการที่เรียกว่ากระเพาะทะลุแล้วเมื่อตอนไปถึงโรงพยาบาลพ่อก็ชีวิตแล้วแม่กับฉันรู้สึกใจสลายเราสองคนร้องไห้กันหนักมากแม่ฉันมาเป็นคนที่สงสัยในสิ่งลี้ลับและเธอก็พูดขึ้นว่าแม่ไม่รู้เลยว่าลูกฝันเห็นเหตุการณ์ล่วงหน้าได้ด้วยแน่นอนที่ทำให้ฉันรู้สึกทรมานมากก็เป็นเรื่องบังเอิญที่เลวร้ายเหรอ

ฉันไม่รู้เลยว่าฝันของฉันเป็นลางบอกเหตุฉันมีโอกาสได้ป้องกันไม่ให้เรื่องเลวร้ายเกิดขึ้นแต่ฉันก็ทำมันล้มเหลวฉันรู้สึกแย่สุดๆที่ไม่สามารถจัดการกับมันได้ฉันเริ่มคิดว่าหรือเป็นเพราะฝันที่ทำให้เกิดเรื่องขึ้นก็เลยพยายามทำให้ตัวเองตื่นให้นานที่สุดเพราะฉันกลัวที่จะฝันเรื่องอื่นๆอีกสุดท้ายฉันกลายเป็นโรคนอนไม่หลับและจมปลักอยู่กับความหดหู่แม่พยายามทำให้ฉันสบายใจแล้วก็ปลอบโยนว่าไม่ใช่ความผิดของฉันแต่มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลยเธอพาฉันไปหาหมอแต่ก็ไม่มีจิตแพทย์คนไหนหรือยานอนหลับใดๆที่ช่วยฉันได้ทางโรงเรียนรับรู้ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นกับฉันและเพื่อนร่วมชั้นก็เริ่มซุบซิบนินทาลับหลังบางคนช่วยอย่างจริงจังว่าฉันมีพลังเหนือธรรมชาติแล้วเรื่องขอให้ฉันทำนายอนาคตซึ่งไม่ได้ช่วยฉันรู้สึกดีขึ้นเลยแม้แต่นิดเดียวมันเป็นแค่เรื่องไร้สาระแต่ทั้งหมดทั้งมวลนี้ทำให้ฉันเชื่อมั่นถึงสิ่งที่ตัวเองเป็นเข้าไปอีกแล้วคุณเชื่อไหมโชคชะตาก็มอบโอกาสให้ฉันอีกครั้ง

ฤดูร้อนมาเยือนแล้วเราต้องไปเข้าค่ายประจำปีของโรงเรียนแม่ยืนยันให้ฉันไปเพื่อให้สมองผ่อนคลายและมันก็เกิดขึ้นอีกครั้งฉันกำลังนอนอยู่ที่โซฟาเอาฉันหลับตาฉันเห็นก็ต้องเรียนสีเหลืองกำลังขับไปตามถนนแล้วฉันก็ตระหนักได้ว่าตัวเองอยู่ในรถคันนั้นพร้อมกับเพื่อนร่วมชั้นแต่พวกเขาทั้งหมดกำลังหลับอยู่ส่วนฉันกำลังนั่งอยู่ข้างๆเพื่อนสนิทฉันเริ่มเขย่าตัวเธอไม่มีทีท่าว่าจะตื่นทันใดนั้นตาของเธอก็เบิกโพลงมันขาวโพลนแล้วก็ดูน่ากลัวฉันมองไปรอบๆเห็นสายตาประหนึ่งดวงตาของซอมบี้นับล้านจ้องมาที่ฉัน ฉันกรีดร้องแล้วก็ตื่นขึ้นที่โซฟาเวลาผ่านไปสักพักถึงดึงสติตัวเองกลับมาได้คราวนี้ฉันจะไม่พลาดอีกมีหลายชีวิตที่ฉันต้องช่วยฉันต้องเตือนพวกเขาโชคดีที่พวกเรามีคาบโฮมรูมหลังจากเลิกเรียนในวันนั้นขณะที่ครูยกเรื่องการเข้าค่ายขึ้นมาพูดฉันกระโดดออกจากเก้าอี้แล้วก็ขอพูดอะไรบางอย่าง

ตัวฉันสั่นไปหมดตอนอยู่หน้าห้องเรียนแล้วก็บอกทุกคนให้ยกเลิกการไปเข้าค่ายครั้งนี้ไม่ว่ากรณีใดๆก็ตามโดยฉันได้เล่าความฝันของตัวเองให้ฟังแล้วก็เชิญพวกเขาว่าเราทั้งหมดอยู่ในอันตรายแน่นอนผลตอบรับที่ฉันได้รับเป็นไปตามที่คาดหมายทุกคนมองฉันเหมือนกับว่าฉันบ้าไปแล้วจริงๆไม่มีใครเชื่อแล้วก็ไม่มีใครฟังฉันเลยแต่ฉันบอกให้พวกเขาตายไม่ได้จึงต้องคิดวิธีที่จะหยุดการเข้าค่ายครั้งนี้ให้ได้ในวันเดินทางตอนที่ทุกคนรวมตัวกันใกล้ๆโรงเรียนฉันไม่รอให้คนขับเดินออกห่างจากรถและแอบเข้าไป ฉันขับรถไม่เป็นแต่ก็เริ่มกดปุ่มมั่วๆจนเจอปุ่มปิดประตูรถแน่นอนทุกคนสังเกตเห็นแล้วก็เห็นฉันอยู่ในรถพวกเขาเริ่มทุบประตูหน้าต่างแต่ฉันไม่รู้ไปไหนกันแน่ใจว่าฉันกำลังทำสิ่งที่ถูกต้องแต่ฉันก็ทำพลาดอีกครั้งกลายเป็นว่ามันไม่ใช่เรื่องยากที่จะเปิดประตูรถเลยเมื่อคนขับรถกลับมา

เขาเข้ามาได้อย่างง่ายดายครูโกรธฉันมากแล้วก็ลงโทษไม่ให้ฉันไปด้วยฉันก็เลยไม่มีอะไรที่สามารถจะทำได้แล้วนอกจากยืมเพื่อนๆห่างออกไปและเข้าใกล้ความตายเรื่อยๆฉันหมดหวังแล้วกลับบ้านเปิดทีวีแล้วนั่งลงพร้อมรอฟังข่าวร้ายเกี่ยวกับอุบัติเหตุบนถนนหรืออะไรทำนองนั้นหน่ะ ฉันนั่งอยู่แบบนี้แล้วก็คอยดูทีวีกับเขาได้จนกระทั่งดึกแล้วก็เผลอหลับเป็นที่สุดเช้าวันต่อมาไม่มีอะไรข่าวร้ายเกิดขึ้นเลยหรือ 1 วันหลังจากนั้นก็ไม่มีคนที่เป็นเพื่อนฉันกลับจากค่ายก็ไม่มีและแม้แต่ 1 เดือนหลังจากนั้นก็ยังไม่มีคุณไม่รู้หรอกว่าฉันดีใจแล้วโล่งใจแค่ไหนฉันร้องไห้ด้วยความยินดีเมื่อพวกเขายังมีชีวิตอยู่

ตอนนี้เพื่อนของฉันพยายามสนับสนุนฉันก็ดีใจที่ฉันพยายามอย่างแน่วแน่ที่จะช่วยชีวิตพวกเขาทั้งหมดแต่ฉันต้องเอาเรื่องเหล่านี้ออกจากหัวแล้วก้าวข้ามมันไปให้ได้ยังไงก็ตามมันเป็นอะไรที่พูดง่ายกว่าทำฉันนอนหลับได้สบายมากขึ้นแต่ก็ยังมีความรู้สึกกลัวและกังวลเพราะว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับพ่อที่น่าสงสารของฉันหวังว่าเวลาจะช่วยเยียวยาฉันให้ดีขึ้นบางครั้งฉันก็ชอบที่จะจินตนาการถึงพ่อที่ตามหาป่าแห่งเวทมนตร์ซึ่งเต็มไปด้วยดาวตกเจอสักวันคงได้เจอพ่อที่นั่น

คุณเคยฝันเห็นเหตุการณ์ล่วงหน้าบ้างไหมคุณทำยังไงล่ะฉันจะดีใจมากที่คุณเล่าประสบการณ์ของคุณให้ฉันฟังอย่าลืมแชร์วีดีโอนี้ให้กับเพื่อนด้วยนะฉันจะรอฟังเรื่องเล่าของคุณ