ครอบครัวเรื่องเล่าของเรา

คุณปู่เปิดเผยความลับครอบครัวของเราก่อนตาย

ไง! ฉันชื่อซินเธีย อายุ 13 ปี ปัจจุบันอาศัยอยู่กับพ่อและแม่ อือ…. หมายถึงจนกระทั่งไม่นานมานี้ละนะ แม่ของฉันท้องและไม่นานก็จะให้กำเนิดน้องชาย ไม่ไม่ใช่แบบนั้นซะทีเดียว โอ๊ะ! ยังไงให้ฉันเล่าใหม่ตั้งแต่แรกเถอะนะ

เมื่อ 6 เดือนก่อนหน้านี้ ครอบครัวของเราก็ยังเป็นครอบครัวธรรมดาที่มีความสุข คุณย่าของฉันพาเมร่าและแม่ของฉันที่มีความสัมพันธ์ที่ค่อนข้างเฉยชาต่อกัน  พวกเขาทำเหมือนอีกฝ่ายไม่มีตัวตนน่ะ แต่พวกเขามักเป็นแบบนี้และฉันชินแล้ว ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่เราไปเยี่ยมคุณย่า ฉันจะไปกับพ่อเสมอและแม่จะไม่ไปด้วย คุณย่าของฉันเรียกได้ว่าเป็นคนอ่อนหวานหรือน่ารักมากเวลาคุยด้วย แต่ฉันรู้อยู่ตลอดว่าท่านใจดีมาก สิ่งเดียวที่ฉันรู้สึกน่าเศร้าคือการที่ท่านต้องอยู่ตามลำพังตัวคนเดียว ทันทีที่ฉันเกิดปู่และย่าก็หย่ากันเขาไปอยู่ยุโรปแล้วเราก็ไม่ได้ข่าวคราวของเขาอีกเลย อือ..อย่างน้อยนี้ก็คือเรื่องที่ฉันรู้ตอนเด็ก และได้ยินเวลาถามถึงปู่แล้วพอฉันโตขึ้นฉันก็เลิกถามไป

พ่อแม่ฉันอยากมีลูกคนที่ 2 แต่นานแล้วก็ยังไม่สำเร็จซักที เมื่อแม่ตั้งท้องในที่สุดเราจึงดีใจกันมากแล้วเรื่องนี้ก็ยิ่งทำให้เรามีความสุขมากขึ้น เมื่อพ่อบอกว่า “ถ้าน้องเกิดมา เราจะย้ายไปบ้านหลังใหม่ซึ่งใหญ่และดีกว่าที่อยู่ตอนนี้” ชีวิตช่างแสนงดงาม แต่แล้วก็มีบางอย่างผิดพลาด ผ่านไปไม่กี่เดือนฉันสังเกตเห็นว่าทั้งพ่อและแม่ต่างกระสับกระส่ายและกลัดกลุ้ม พอฉันถามว่า “เกิดอะไรขึ้น” พวกเขาไม่ยอมให้ฉันยุ่ง ดังนั้นฉันจึงโทรหาย่าแพม แล้วถามว่ามีอะไร คุณย่าฉันบอกว่า ฉันโตพอที่จะรู้แล้วและอธิบายให้ฟังว่า

พ่อฉันนำบ้านไปจำนองธุรกิจมีข้อผิดพลาดและตอนนี้ก็มีปัญหาการชำระหนี้ เธอยังเสริมอีกว่าสิ่งที่ดีที่สุดที่ฉันทำได้คือเลิกรบเร้าพ่อด้วยการถามนู้นถามนี้ในเมื่อเขารู้สึกแย่พอแล้ว ดังนั้นฉันเลยไม่ได้คำตอบจากพ่อ ไม่ถามเพราะฉันไม่อยากให้เขารู้สึกแย่กว่าเดิมแต่ฉันก็ถามแม่ไม่ได้เหมือนกัน ฉันไม่มีสิทธิ์ทำให้แม่กังวลเพราะอาจเป็นอันตรายต่อเด็กได้ ทั้งหมดที่ฉันทำได้คือคาดเดาทุกอย่างจะเป็นไปด้วยดีหรือไม่ และอีกไม่นานเราจะถูกโยนออกจากบ้านละไปเป็นขอทาน เพราะงั้นฉันเลยคิดว่าบางทีฉันอาจต้องเรียนร้องและเต้นเพื่อหาเงินบ้าง เพื่อหาเลี้ยงน้องชายและตัวฉันเอง พ่อและแม่เศร้ามากขึ้นและหงุดหงิดมากขึ้นในแต่ละวันและยังไม่ยอมเล่าอะไรให้ฉันฟัง ดังนั้นฉันเลยแอบฟังว่าพวกเขาคุยอะไรกัน ฉันรู้ว่ามันไม่ดีแต่ฉันไม่มีสิทธิ์รู้เลยหรอว่าเกิดอะไรขึ้น คุณรู้ไหมตอนแรกฉันไม่เข้าใจเลยว่าพวกเขาพูดอะไรกัน เสียงของพ่อแม่ดูสับสนและคุยกันถึงอะไรสักอย่างเกี่ยวกับเงินและคุณปู่

ฉันฟังอยู่อย่างนั้นจนกระทั่งเข้าใจ กลายเป็นว่าคุณปู่ของฉันพึ่งเสียชีวิตเมื่อไม่นานมานี้ เขาทิ้งพินัยกรรมเอาไว้ และตามพินัยกรรมฉันเป็นคนเดียวที่ได้รับมรดกก้อนใหญ่แต่มีเงื่อนไขเพียงอย่างเดียวคือฉันต้องอ่านจดหมาย 1 ฉบับ พูดกันตรงๆฉันมีความสุขมากเสียจนเกือบจะออกจากที่ซ่อนแล้วร้องกรี๊ด ใช่เลย! มรดกในพินัยกรรมจะแก้ปัญหาทุกอย่างของเราได้ แต่ฉันไม่ได้ทำอย่างนั้นและเข้าใจว่าพ่อกับแม่ไม่อยากให้ฉันอ่านจดหมาย ถึงจะพูดซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าเราต้องการเงินก้อนนั้นและต้องการอย่างมากด้วย ฉันกลับไปที่ห้องของตัวเองเงียบๆเข้านอน ตอนที่ยังไม่หลับก็ คิดถึงสิ่งที่ทำให้พ่อแม่กังวล ตอนนี้ฉันโตแล้วไม่ว่าปู่จะเขียนอะไรจดหมายนั้นคงไม่ทำให้ฉันกลัวและตอนนี้ฉันอยากช่วยครอบครัวด้วยเงินที่ปู่ทิ้งไว้ให้ และในวันถัดมาฉันก็บอกเรื่องทั้งหมดนี้ออกไปตอนมื้อเช้านั้นเลย ฉันนึกว่าพวกเขาจะดีใจ แต่พ่อแม่กลับดูตกตะลึงและเห็นได้ชัดว่าไม่อยากพูดเรื่องนี้

จากนั้นฉันจึงโทรหาย่าแพมและเล่าทุกอย่างให้ฟัง แต่คุณรู้ไหมปฏิกิริยาของย่าแปลกประหลาดมาก ท่านเริ่มหัวเราะในขณะเดียวกันเสียงของท่านก็ไม่ได้ดูเหมือนรู้สึกว่านี้เป็นเรื่องน่าขันอะไรจนสุดท้ายจึงบอกว่า “ได้เลยหลานรัก ย่าจะไปที่นั่นเลยและทำทุกอย่างเพื่อโน้มน้าวพวกเขาเอง” และย่าก็มาจริงๆฉันคิดว่านี้คงเป็นครั้งแรกในชีวิตฉันเลย ที่นี้ไม่ได้ทำให้ฉันรู้สึกมีความสุขซักนิด ย่าดูมุ่งร้ายและมีชัยเพราะเหตุผลอะไรซักอย่าง และก็เริ่มคุยกับพ่อแม่เหมือนหลุดออกมาจากโลกมืดเป็นพึงความพอใจอย่างไร้ความปราณีเมื่อดูจากสถานการณ์ทั้งหมด แต่ท่านทำอย่างที่พูดจริงๆว่าจะช่วยโน้มน้าวพวกเขา ท่านบอกว่า “พวกเธอคิดหรอว่าจะเก็บความลับนี้ไว้ได้ตลอดไป และหลังจากนั้นก็เริ่มหัวเราะอีกครั้งแต่ฉันก็สังเกตเห็นน้ำตาของท่าน ฉันยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นจนกระทั่งทนายของปู่มาถึงและยื่นจดหมายที่ฉันต้องอ่านต่อหน้าเขาให้

จากจดหมายนี้ฉันถึงได้รู้ว่าปู่ของฉันที่จริงแล้วคือ พ่อของฉันเอง! ปู่พึ่งอายุ 50 ตอนที่พบแม่ของฉัน เธอเป็นนักศึกษาของเขาและอยู่ในช่วงวัย 20 กว่า และเขาตกหลุมรักเธอ เธอรู้สึกเหมือนกันพวกเขาเริ่มคบกัน เมื่อพวกเขาพบว่าเธอตั้งท้องฉัน เขาจึงอยากหย่ากับภรรยาย่าแพมของฉันเอง เพื่อไปแต่งงานกับแม่ แต่ตอนที่พวกเขากำลังจะทำให้ทุกอย่างถูกต้อง แม่ก็พบกับลูกชายของเขา ตอนนั้นคือพ่ออายุ 18 ปีและพวกเขาตกหลุมรักกันอย่างลึกซึ้งจนไม่อยากอยู่กับปู่ของฉัน อือ..กับพ่อที่แท้จริงของฉันอีก เมื่อแม่บอกไปแบบนั้นเขารับแทบไม่ได้ สุดท้ายจึงขอให้ภรรยาตามกฎหมายไปยุโรปกับเขาแต่เธอปฏิเสธตามที่เขียนไว้ในจดหมาย เธอไม่อาจให้อภัยเขาได้และอีกอย่าง 1 คือไม่อยากทิ้งลูกชายผู้เป็นที่รักไปจากนั้นปู่ของฉัน เอ่อ..พ่อที่แท้จริงของฉันจึงตัดสินใจย้ายไปยุโรปตามลำพัง เขาคิดว่าถ้าเขาหายไปมันจะดีสำหรับทุกฝ่าย

ฉันตกตะลึงและก็ยังช็อกไม่หายแบบว่าฉันต้องพยายามเรียบเรียงใหม่ว่าคนในชีวิตของฉันเป็นใครบ้าง ปู่คือพ่อของฉันย่าคือแม่เลี้ยงพ่อพี่ชายฉันและอีกไม่นานหลานชายของฉันก็จะถือกำเนิด ทั้งหมดกลายเป็นว่าแม่คือคนเดียวที่เป็นอย่างที่ฉันรู้ว่าเป็น นั่นคือแม่ของฉันแต่ฉันก็ยังไม่อาจเลิกคิดได้ว่าอะไรที่ทำให้แม่ทำลายชีวิตของคนดีๆ 2 คน คือพ่อที่แท้จริงของฉันและภรรยาของเขาย่าแพม กระทั่งตอนนี้ฉันยังไม่แน่ใจเลยว่าฉันจะยังเรียกท่านว่าย่าหรือคาดหวังให้ท่านรักฉันจริงๆได้หรือป่าว และตอนนี้สุดท้ายเราก็ได้ไปอยู่บ้านหลังใหม่ฉันอนุญาตให้พ่อแม่ เอ่อ..ไม่ว่าพวกเขาจะเป็นใครก็ตามนั่นแหละ ใช้เงินนี้ได้เพื่อจ่ายค่าจำนองแต่พูดกันตามตรงฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอนาคตทุกอย่างจะเป็นอย่างไร บางทีหลังจากเด็กเกิดมาบางอย่างอาจจะเปลี่ยนแปลง

ช่วยให้กำลังใจฉันด้วยการกดไลค์และบอกฉันในช่องคอมเมนต์ด้วยนะว่าฉันควรทำอย่างไรในสถานการณ์พิลึกพิลั่นแบบนี้ ช่วยกดไลค์ แชร์ และคอมเมนต์กันด้วยนะ

เรื่องเล่าที่เกี่ยวข้อง

5 1 vote
Article Rating
Subscribe
Notify of
guest


0 Comments
Inline Feedbacks
View all comments
Back to top button
0
Would love your thoughts, please comment.x
()
x

ปิดโปรแกรมบล็อคโฆษณา

กรุณาปิดโปรแกรมบล็อคโฆษณาก่อนนะ เพราะเว็บจะอยู่ได้ก็จากป้ายโฆษณา