ผมช่วยเพื่อนรักโดยให้เงินทั้งหมดที่ผมมี แต่เขากลับโกหก!

สวัสดีผม “ริกกี้” คุณเคยช่วยเหลือใครจนตัวเองต้องเดือดร้อนบ้างไหมผมนี่แหละเจอมากับตัวเองและนี่คือเรื่องราวที่ผมจับผู้ร้ายได้แต่ผมกลับปล่อยเขาไปเรื่องราวมันเกิดขึ้นเมื่อเพื่อนใหม่ของผมที่ชื่อ “ไมค์” ได้ย้ายเข้ามาในโรงเรียนของเราตามปกติแล้วการปรับตัวใหม่มันเป็นสิ่งที่ยากเสมอแล้วมันยิ่งแย่เข้าไปใหญ่เพราะเขาเป็นคนขี้อายและพูดน้อยด้วยเหตุนี้เหล่าเพื่อนๆหัวโจกทั้งหลายจึงเริ่มแกล้งเขา

ผมรู้สึกสงสารและอยากช่วยเขาบางทีอาจเป็นเพราะผมเข้าใจความรู้สึกเขาดีดังนั้นเราจึงเริ่มพูดคุยจนสุดท้ายกลายเป็นเพื่อนกันเราใช้เวลาที่โรงเรียนและที่ชั้นเรียนดนตรีด้วยกันบางครั้งผมก็ชวนเขามาเล่น xbox ที่บ้านหรือออกไปเที่ยวเล่นด้วยกันเราสองคนสนิทกันอย่างรวดเร็วและผมก็มีความสุขกับเขามากเพราะ “ไมค์” เป็นเหมือนเพื่อนคนเดียวที่ผมมีปัญหาระหว่างมิตรภาพของเรามันเริ่มขึ้นหลังจากวันเกิดผมพ่อแม่ผมให้เงินเป็นของขวัญวันเกิดแล้วผมตัดสินใจว่าจะเอามันไปซื้อกีตาร์ตัวใหม่ผมดีใจสุดๆและตื่นเต้นมากจึงชวน “ไมค์” มาที่บ้านเพื่อให้เขามาช่วยผมเลือกดูทางอินเตอร์เน็ตด้วยกันว่าจะซื้อรุ่นไหนดีแล้วสุดท้ายเราก็เจอตัวที่ดีที่สุดใช่แล้วมันคือ Fender stratocaster มันไม่ใช่แค่กีต้าร์ธรรมดาแต่มันคือกีต้าร์ในฝันของผมแล้วมันก็ค่อนข้างแพงทีเดียว

ผมต้องการเช็คให้แน่ใจว่าผมมีเงินอยู่พอที่จะซื้อมันผมเลยเอากล่องใส่เงินออกมานับและเยี่ยมไปเลยอีกไม่นานผมก็จะได้กีต้าร์ตัวใหม่ที่ดีที่สุดและบางทีเราอาจจะตั้งวงดนตรีด้วยกันผมตื่นเต้นมากจะยิ่งมีความสุขมากกว่าที่ได้แบ่งปันความรู้สึกดีกับ “ไมค์” เพื่อนรักของผมดังนั้นผมกับพ่อจึงพากันไปที่ร้านขายเครื่องดนตรีที่ความฝันผมรออยู่ที่นั่นผมสัมผัสและหยิบมันขึ้นมาแล้วลองลีดมันโอ้..พระเจ้ามันยอดมากผมไม่ลังเลที่จะซื้อมันคนขายเอามันไปใส่กล่องที่เหลือแค่จ่ายเงินให้เขาผมหยิบกล่องขึ้นมาแล้วนับเงินแล้วผมต้องแปลกใจเมื่อพบว่าเงินขาดไป 200 ดอลลาร์ผมกับพ่อพากันยืนงงและเขาเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นสรุปแล้วคือวันนั้นเราไม่ได้ซื้อกีต้าร์นั้นกลับมาอันที่จริงแล้วผมไม่คุยกับพ่อแม่มานานมากแล้วถูกตำหนิเรื่องที่ผมไม่จัดการเรื่องการเงินของตัวเองให้ดีแต่ปัญหาก็คือผมสาบานได้ว่าไม่ได้ใช้มันเลยแต่มันหายไปซะอย่างนั้นสัปดาห์ก่อนหน้านี้อยู่ครบในกล่องแล้วผมก็ไม่ได้แต่มันไม่แต่บาทเดียว

ดังนั้นผมจึงพยายามคิดหาคำตอบด้วยการนึกย้อนไปถึงเรื่องราวเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาและโชคร้ายที่ผมพบต้นเหตุของเรื่อง “ไมค์” เข้ามาในห้องผมและเขาก็เห็นว่าผมเก็บกล่องไว้ที่ไหนเขาจะต้องเป็นคนที่หยิบเงินจากกล่องไปตอนที่ผมเผลอแน่ๆโธ่เอ๊ยผมไม่คิดเลยว่าจะเป็นเขาเราเป็นเพื่อนกันแท้ๆเขาไม่น่าทำกันได้ผมต้องการจะเก็บปัญหาไว้คนเดียวโดยไม่อยากบอกให้พ่อแม่รู้ดังนั้นในวันรุ่งขึ้นผมจึงรีบตื่นแล้วไปหา “ไมค์” ทันทีผมบอกกับเขาว่าฉันรู้นะว่านายเงินไปแล้วฉันต้องการมันคืนมาผมหวังว่าเขาจะพูดอะไรประมาณว่าเขาไม่ได้เป็นคนเอาไปแต่ผมคิดผิดเขาเริ่มขอโทษผมและสารภาพตามตรงว่าเขาเป็นคนเอาเงินไปแต่ผมยิ่งเซอร์ไพรส์มากเข้าไปเองตอนที่เขาอธิบายเหตุผลให้ผมฟัง

เขาบอกว่าครอบครัวของเขากำลังมีปัญหาพ่อเขาดื่มหนักมากแล้วไม่สามารถเลี้ยงดูเขาได้ดังนั้น “ไมค์” ถึงทำทุกอย่างด้วยตัวเองไม่ว่าจะเป็นการซื้อของทำอาหารทำงานบ้านและยิ่งไปกว่านั้นคือพวกเขาไม่มีเงินเลยเขาอายเกินกว่าที่จะขอความช่วยเหลือดังนั้นเขาจึงหยิบเงินของผมไปและคิดว่าจะนำมาคืนให้ทีหลังหากอะไรๆมันดีขึ้นแล้วตอนนี้เขาก็เสียใจมากที่เขาทำเกินไปแน่นอนว่าหลังจากที่ฟังแล้วผมโกรธเขาไม่ลงในสิ่งที่เขาทำลงไปเห็นได้ชัดว่าเขาต้องการความช่วยเหลือและผมจำเป็นต้องช่วยเพื่อนรักของผม ผมรู้สึกสงสาร “ไมค์” และอยากจะช่วยเขาเท่าที่จะทำได้แต่ผมก็เป็นแค่เด็กนักเรียนคนหนึ่งเท่านั้นผมจะทำได้แค่ไหนเชียวผมจึงได้ให้เงินค่าขนมเพื่อให้เขาไว้ซื้ออะไรกินแต่นั่นก็ไม่ได้ช่วยอะไรได้มาก

2-3 สัปดาห์ต่อมาเขาบอกผมเกี่ยวกับข่าวร้ายว่าพ่อของเขามีปัญหาทางสุขภาพเพราะการดื่มสุราอย่างหนักและเขาต้องเข้าโรงพยาบาลค่าใช้จ่ายในการรักษามันสูงมากและพวกเขาก็ไม่มีเงินเก็บเลย “ไมค์” ทุกข์ใจมากแล้วไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงดีต่อไปเขาบอกว่าถ้าเข้าไปที่หน่วยงานช่วยเหลือด้านสังคมพ่อของเขาจะต้องเสียสิทธิ์ในการเลี้ยงดูและเขาจะต้องหาผู้ปกครองคนใหม่มาดูแลผมรู้สึกว่าเป็นคนเดียวที่จะช่วยเขาได้ดังนั้นผมจึงตัดสินใจถามพ่อกับแม่โดยตรงเพื่อช่วยเหลือ “ไมค์” แต่พวกเขากลับปฏิเสธพวกเขาบอกว่า “ไมค์” สามารถมากินข้าวหรือมาพักค้างคืนกับเราได้ถ้าอะไรๆในบ้านเขามันแย่นักแต่พวกเขาจะไม่ช่วยเหลือเรื่องเงินให้กับคนแปลกหน้าเด็ดขาดแต่ “ไมค์” ไม่ใช่คนแปลกหน้าสำหรับผมเขาเป็นเพื่อนรักแล้วผมก็ไม่มีใครอีกแล้วนอกจากเขาคนเดียวไม่ว่ายังไงผมก็ต้องช่วยเขาไม่ได้แล้วผมรู้ว่าจะต้องทำยังไงที่ผมต้องทำคือขโมยบัตรเครดิตของแม่ผมรู้รหัส PIN ของเธอก็เห็นเธอกดมานับครั้งไม่ถ้วนแล้วผมก็จะเบิกเงินออกมาให้ “ไมค์” แล้วแม่ก็คงคิดว่าเธอแค่ทำบัตรหายผมรู้ว่าการขโมยมันเป็นสิ่งไม่ดีโดยเฉพาะขโมยเงินจากพ่อแม่แต่ผมทำไปด้วยเหตุจำเป็นดังนั้นผมจึงไม่ลังเลเลย

เช้าวันรุ่งขึ้นผมแอบหยิบบัตรออกมาจากกระเป๋าของแม่เมื่อเธอมาส่งผมที่โรงเรียนผมกลับไม่ได้เข้าชั้นเรียนแต่กลับไปที่ตู้ atm ที่ใกล้ที่สุดแทนแล้วเบิกเงินจำนวน 2000 ดอลลาร์จากนั้นผมก็หักบัตรทิ้งขยะไปจากนั้นผมไปที่โรงเรียนแล้วนำเงินไปให้ “ไมค์” แล้วบอกว่าทุกอย่างจะต้องโอเคเขาซาบซึ้งในน้ำใจที่ผมไม่ต่อเขามากและเงินนี้ก็มีความหมายต่อเขาเหลือเกินเพราะเขาจะสามารถนำไปช่วยชีวิตพ่อของเขาได้แต่แล้วผมก็ต้องพบกับปัญหาจนได้ 1 ชั่วโมงต่อมาแม่มารับผมที่โรงเรียนเธอโกรธมากกลายเป็นว่าทันทีที่มีการแจ้งเตือนว่ามีการเบิกเงินจากบัญชีไปเธอก็รู้ว่าบัตรหายไปดังนั้นเธอจึงโทรไปที่ธนาคารและได้รับข้อมูลว่ามีการกดเงินที่ตู้ ATM ใกล้โรงเรียนเธอรู้ได้ทันทีว่าจะต้องเป็นฝีมือผมและนั่นจึงทำให้ผมต้องตกที่นั่งลำบากและต้องพูดคุยกับพวกเขาอย่างจริงจัง

พวกเขาตะคอกใส่ผมอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อนพูดตามตรงผมกลัวมากมันเหมือนกับว่าพวกเขาแทบอยากจะฆ่าผมให้ตายพอเขารู้ว่าผมเอาเงินไปให้กับเพื่อนพวกเขาจึงหาที่อยู่ของ “ไมค์” แล้วพวกเราก็ไปที่บ้านเขาด้วยกันและนี่ทำให้ผมได้รับความผิดหวังที่สุดในชีวิตเมื่อพวกเราไปถึงบ้านแล้วเคาะประตูมีชายคนอื่นมาเปิดประตูให้เราไม่ลงไปไม่ผิดบ้านแน่ชายคนนั้นคือพ่อของไหมซึ่งเขาดูสุขภาพแข็งแรงและปกติดีทุกอย่างดังนั้นพ่อแม่ของผมจึงเล่าทุกอย่างให้เขาฟัง “ไมค์” จนมุมเขากลัวและสารภาพทุกอย่างพ่อของเขาตกใจมากที่ได้ยินเรื่องราวทั้งหมดแน่นอนเขารู้ว่าตอนแรกลูกชายของเขาได้ขโมยเงินจากผมไปและจากนั้นก็เริ่มกุเรื่องเพื่อให้ผมเอาเงินมาให้เขาเพิ่มมันถือเป็นการก่ออาชญากรรมและเขาต้องได้รับผลพ่อกับแม่ผมยืนยันที่จะไปแจ้งตำรวจแต่ผมแค่อยากให้เรื่องนี้มันจบเพื่อพ่อของ “ไมค์” จะได้ไม่ต้องทุกข์ใจไปมากกว่านี้กับสิ่งที่เขาทำและผมเองก็ไม่อยากให้มันเป็นปัญหาใหญ่

ดังนั้นเราจึงตกลงกันว่าเขาจะจ่ายเงินคืนให้เราทั้งหมดเท่าที่ “ไมค์” ต่อไปพูดตามตรงผมไม่ได้แคร์เรื่องเงินเลยแต่ที่ผมแคร์ที่สุดคือการที่ผมต้องเสียเพื่อนรักไปแม้ว่าสิ่งที่เขาทำมันจะไม่เรียกว่าเพื่อนเลยก็ตามบางทีเขาอาจจะทำดีกับผมในตอนแรกเพื่อให้ผมไว้ใจและจากนั้นก็ค่อยวางแผนหลอกผมที่หลังผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันแต่เท่าที่รู้คือตอนนี้ผมได้รับบทเรียนแล้วว่าไม่ควรไว้ใจใครง่ายๆและแน่นอนผมควรจะฟังคำพูดของพ่อแม่เพราะถ้าผมฟังคำเตือนเขาสักนิดเรื่องนี้ก็จะไม่มีวันเกิดขึ้น

ขอบคุณทุกคนที่รับฟังผมหวังว่าเหตุการณ์แบบนี้จะไม่เกิดขึ้นกับพวกคุณและคุณกำลังตั้งใจจะช่วยเหลือเพื่อนเรื่องไหนบ้างหรือเปล่าบอกให้ผมรู้ในคอมเม้นได้นะแล้วอย่าลืมแชร์เรื่องราวที่ให้กับเพื่อนๆของคุณด้วยนะครับ