แม่ไล่ผมออกจากบ้านเมื่อแม่มีครอบครัวใหม่
ไงผมชื่อ “จอร์จ” ผมอายุ 16 ปีคุณอาจบอกว่าผมเป็นผู้ใหญ่ที่โตแล้วบางทีมันก็อาจจะจริงนะแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าผมทำใจกับเรื่องต่างๆได้หลังจากสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนที่ผมอายุ 10 ปี 6 ปีก่อนผมได้ประสบกับการหักหลังที่เลวร้ายที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้มันคือการหักหลังจากแม่ผมเองเรื่องราวของผมเริ่มขึ้นตั้งแต่ก่อนผมเกิดอีกผมทำลายชีวิตของแม่ผมขณะที่ผมอยู่ในท้องแม่ อืม..ผมเดาว่านั่นคือสิ่งที่แม่คิดความจริงก็คือแม่ท้องผมมันเกิดขึ้นค่อนข้างจะกระชั้นหันมากอย่างที่เห็นแม่ยังเป็นแค่วัยรุ่นและแทบเรียนไม่จบอยู่แล้วในตอนที่เจอพ่อผมในเวลานั้นเขาเป็นนักดนตรีร็อคไม่ใช่ดาวเด่นอะไรนะไม่ใช่เรื่องของผมไม่ใช่แบบนั้นวงของพ่อผมไม่ได้ดังอะไรแต่ก็ได้ไปทัวร์เมืองเล็กๆในสหรัฐอเมริกาอยู่ระหว่างนั้นเองที่พ่อแม่ผมได้พบกันชอบกันและหลังจากนั้นไม่กี่เดือนแม่ผมก็เพราะว่าตัวเองท้องเมื่อพ่อแม่ของแม่รู้เรื่องนี้พวกเขาสั่งให้แม่กำจัดตัวปัญหาออกไปแล้วพอแม่ปฏิเสธก็เลยตัดหางปล่อยวัดแม่พวกเขารู้สึกว่าในเมื่อแม่ไม่รอบคอบเองแม่ก็ควรไปหาพ่อเด็กซะแล้วนั่นก็คือตอนที่แม่ผมจากบ้านของพ่อแม่ไปตลอดกาลดังนั้นผมก็เลยไม่เคยพบคุณตาคุณยายของผมเลยแล้วพูดกันตามตรงนะผมไม่ได้เสียใจสักนิดถ้าเพียงแต่คุณตาคุณยายผมมีเมตตากว่านี้สักนิดชีวิตผมอาจแตกต่างออกไปโดยสิ้นเชิงเลยก็ได้
ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยแต่แม่ผมก็หาพ่อผมจนเจอเขามองท้องโตๆของแม่ด้วยความสงสัยแต่แน่ล่ะเขาไม่มีทางแต่งงานกับผู้หญิงที่เขาลืมไปแล้วดังนั้นเลยไม่ต้องพูดถึงผู้หญิงที่มีลูกติดมาด้วยแต่เขาก็สัญญาว่าจะจำไว้ว่ามีผมอยู่แล้วส่งเงินมาให้เมื่อมีโอกาสเรื่องนี้หมายความว่าพ่อผมก็ไม่รวยเหมือนกันแต่ในตอนนั้นสำหรับแม่ผมแค่นี้ก็เพียงพอแล้วเพราะตั้งแต่วินาทีนั้นช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดในชีวิตแม่ผมก็เริ่มขึ้นซึ่งหมายรวมถึงชีวิตผมด้วยเหมือนกันเพราะผมต้องพึ่งพาแม่เพียงคนเดียวแม่ผมไม่ได้เรียนมหาวิทยาลัยและยังไม่มีทักษะอะไรที่เป็นที่ต้องการดังนั้นการหางานจึงเป็นเรื่องที่ท้าทายสำหรับแม่มากแล้วจากนั้นผมก็เกิดอะไรๆก็ยิ่งแย่หนักกว่าเก่าเพราะผมต้องการการเอาใจใส่เราเปลี่ยนอพาร์ทเม้นท์จากที่หนึ่งไปสู่อีกที่เพราะแม่ไม่มีเงินจ่ายค่าเช่ามานานแล้วและไม่เพียงแต่เราต้องเปลี่ยนอพาร์ทเม้นท์ก็ยังต้องเปลี่ยนเมืองด้วยผมใช้ชีวิตในวัยเด็กตัวเองไม่ได้มากนะเว้นแต่บางทีอาจเป็นความหิวโหยรุนแรงตลอดเวลาและน้ำตาของแม่ผมในส่วนที่ต้องแบ่งอาหารที่ดูหน้าตาแปลกๆกับผมนั่นคือวิธีที่เราอยู่กันเมื่อ
แม่ผมมีรายได้แค่จัดงานชั่วคราวและเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลในเวลาเดียวกันก็ยังมีหวังว่าจะมีอะไรทำให้ชีวิตของแม่เข้าที่เข้าทางมากขึ้นผลของการใช้ชีวิตของแม่ “ลินซี่” เธอเกิดในตอนที่ผมอายุ 4 ขวบแล้วและยิ่งโชคดีน้อยกว่าผมอีกพ่อของเธอแค่หายไปเลยแม่ไม่รู้แม้กระทั่งนามสกุลของผู้ชายคนนี้ดังนั้นอีก 4 ปีถัดมาอะไรๆเช่นยิ่งเลวร้ายโลกเกือบจะอดอยากกันเลยด้วยคูปองอาหารมักไม่พอเพราะแม่หามาแทบไม่ได้แม่พยายามจะระวังและหลีกเลี่ยงไม่ให้นักสังคมสงเคราะห์คนไหนรู้เรื่องของเธอเพราะแม่กลัวว่าพวกจะพาลูกไปจากแม่ผมก็ไม่รู้ว่าเรื่องนี้จะจบอย่างไรถ้าไม่ใช่เพราะผู้ชายคนใหม่ในชีวิตของแม่ผมเขาไม่เหมือนผู้ชายคนไหนที่เคยมาติดพันแม่ก่อนหน้านี้เลยพวกเขาเจอกันในร้านที่แม่ผมทำงานเป็นพนักงานเก็บงานแล้วเริ่มคุยกันแล้วแม่ผมเองด้วยเหตุผลบางอย่างจึงเล่าเรื่องราวทั้งหมดในชีวิตให้เขาฟังและเขาก็เล่าเรื่องของตัวเองตอบแทนเขาชื่อ “ฮิวโก้” เขาอายุมากกว่าแม่ 14 ปีเขาสูญเสียภรรยาไปเมื่อไม่กี่ปีก่อนและตอนนี้เป็นพ่อหม้ายแต่สิ่งที่มีความหมายที่สุดก็คือเรื่องที่เขาเป็นคนแรกที่ไม่ตัดสินแม่จากอดีตและดูเหมือนเขาจะเป็นคนแรกด้วยที่เป็นห่วงเป็นใยและมีความสัมพันธ์ที่จริงจังกับแม่จริงๆ
ผมก็ไม่รู้ว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาพัฒนาไปอย่างไรเพราะ “ฮิวโก้” แทบไม่เคยมาหาเราที่บ้านแต่เขาจ่ายบิลทุกอย่างให้และช่วยแม่ผมได้ทุกทางเท่าที่ทำได้เกือบปีครึ่งต่อมาหลังจากที่คบกันเขาขอแม่แต่งงานและขอให้ย้ายไปอยู่ในบ้านของเขาแน่นอนว่าแม่ผมต้องตกลงหลังจากหลายปีที่ต้องย้ายจากอพาร์ทเม้นท์ให้เช่าที่หนึ่งไปอีกทีโดยไม่รู้ว่าจะมีเงินมาจ่ายค่าเช่าในเดือนถัดไปหรือไม่ความคิดแรกของแม่ก็คือตอนนี้แม่จะมีบ้านเป็นของตัวเองที่ๆ แม่สามารถอยู่ได้นานเท่าที่ต้องการไม่ต้องรีบวิ่งเข้าของหรือวิ่งไปเก็บข้าวของอีกแบบนั้นดูวิเศษไปเลยแม่เหมือนจะเป็นประกายไปด้วยความสุขอย่างแท้จริง “ลินซี่” ยังเล็กมากอยู่และรับความเปลี่ยนแปลงในชีวิตได้ง่ายแต่ผมเกือบ 10 ขวบแล้วแล้วผมก็เข้าใจว่าไม่นาน “ฮิวโก้” ก็จะมาเป็นพ่อเลี้ยงของผมแล้วพูดกันตามตรงนะผมกลัวเขาอย่างที่เห็นผมโตมาโดยไม่มีพ่อและการติดต่อกับพ่อผู้ให้กำเนิดของผมก็มีแค่โทรศัพท์สั้นๆซึ่งแม้ผมจะบอกให้ผมขอเงินพ่อแล้วตอนนี้ผมต้องอยู่กับผู้ชายที่เป็นผู้ใหญ่ซึ่งแค่เห็นเขาก็ทำให้ผมรู้สึกกลัวแล้ว
แล้วคุณรู้ไหม “ฮิวโก้” ก็กลายเป็นคนแบบที่ผมคิดว่าเขาเป็นจริงๆยังไม่ถึงเดือนตั้งแต่ที่เราย้ายไปอยู่ด้วย เขาก็บอกแม่ผมว่า “จอร์จ” ต้องไปอยู่กับพ่อแท้ๆของเขาพ่อเลี้ยงผมไม่ได้พยายามปรับคำพูดให้ฟังดูนุ่มนวลเลยด้วยซ้ำเขาพูดตรงๆว่าเขาจะไม่รับผมเป็นลูกชายของเขาเองบอกแม้กระทั่งว่าการที่ผมอยู่ในบ้านหลังนี้ทำให้เขารู้สึกไม่ค่อยพอใจ แม่ผมตกตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วไม่อยากทั้งตอบตกลงหรือไม่ตกลงกับเขาได้ผมคิดว่าไม่กลัวจะสูญเสียสามีมากพอๆกับกลัวที่จะสูญเสียลูกชายและทันทีที่แม่ผมท้องและเลิกพูดเรื่องนี้ซึ่งเป็นข้ออ้างที่ว่าแม่จะได้ไม่ต้องรับความเครียดเพราะอาจเป็นอันตรายต่อทารกได้นี่เรื่องนี้เป็นข้อโต้แย้งหลักๆของ “ฮิวโก้” เลยเขาอยากได้ลูกที่มีสายเลือดของเขาเองเขาก็เลยพยายามแบ่งทุกอย่างไปจากแม่ผมเขาให้ผมทำงานบ้านทุกอย่างแล้วถ้าไม่ให้ผมไปเข้าใกล้แม่ช่วงใกล้คลอด “ฮิวโก้” มั่นใจมากว่าผมเป็นคนที่ทำให้แม่กระวนกระวายแล้วไม่สบายใจเสมอและนั่นยังแค่เริ่มต้น
สิ่งที่เลวร้ายที่สุดคือแรงกดดันทางจิตใจที่เขามาทำกับผมเสมอไม่ว่าผมจะทำอะไรเขาจะไม่เคยพอใจแล้วผมจะผิดตลอดผมต้องได้เกรดที่ยอดเยี่ยมในโรงเรียนคงต้องออกกำลังกายจนกว่าจะเหนื่อยทำอะไรไม่ไหวไม่อย่างนั้น “ฮิวโก้” จะตอบว่าผมเรียกผมว่าเจ้าโง่และคนอ่อนแอพ่อเลี้ยงไม่เคยตีผมก็แรงกดดันทางจิตใจที่เกิดจากเขาเกือบจะแย่และหนักหน่วงเท่า “ฮิวโก้” เรียกผมว่าไอ้ลูกแหง่และเด็กขี้แงแต่ไม่ใช่เรื่องจริงเลยผมรับมือทุกอย่างแบบลูกผู้ชายนะสาบานได้สิ่งเดียวที่ผมไม่อยากทนได้ก็คือในตอนที่พ่อเลี้ยงผมเริ่มพูดเรื่องแย่ๆถึงพ่อที่แท้จริงของผม ผมไม่รู้ว่าทำไมจะเรื่องนี้มากเกินไปและผมก็อาละวาดและเริ่มร้องไห้ทุกครั้งที่ได้ยินและอย่างที่คุณคงเดาได้เรื่องนี้ยิ่งทำให้พ่อเลี้ยงผมไฟลุกพรึบกว่าเดิมและทำให้เขายิ่งโกรธมากขึ้นผมใช้ชีวิตในกลุ่มนรกนั่นจนกระทั่งแม่ผมให้กำเนิดลูกของพ่อเลี้ยงเขาเป็นเด็กผู้ชายแม่ผมไม่ได้ตาบอดแล้วก็เห็นด้วยว่าสามีของแม่ปฏิบัติต่อผมอย่างไรและตอนนี้อยู่ก็มีลูกของตัวเองแล้วแม่เลยรู้ว่าเรื่องมีแต่จะแย่ลงและตอนนั้นเองแม่ผมถึงตัดสินใจได้แม่โทรหาพ่อผมและอธิบายสถานการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นเขาเข้าใจทุกอย่างแล้วบอกว่าจะมารับผมไป
ตอนนั้นพ่อผมละทิ้งอาชีพดนตรีที่ไร้จุดหมายของเขาแล้วและทำงานเป็นผู้จัดการในออฟฟิศแห่งหนึ่งเขาดูแตกต่างจากที่ผมเคยวาดภาพตลอดหลายปีมานี้โดยสิ้นเชิงผมก็เลยกลัวตอนที่ต้องขึ้นรถเขาและทิ้งครอบครัวจริงๆของผมไปแต่คุณรู้อะไรมั้ยช่วงเวลานั้นคือตอนที่ชีวิตจริงและชีวิตปกติของผมได้เริ่มต้นขึ้นแน่นอนว่าหลังย้ายไปผมยังคงตื่นกลัวและตึงเครียดอยู่นานใช้นี่คือพ่อผมแต่ผมไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเขาเลยแล้วไม่รู้ด้วยว่าเขาจะทำอะไรบ้างแต่คุณรู้อะไรมั้ยไม่นานหลังจากนั้นเขาก็สารภาพกับผมว่าเขารู้สึกแบบเดียวกันพ่อผมครอบครัวอื่นไม่มีลูกคนอื่นนอกจากผมแล้วก็ไม่มีประสบการณ์ของการอยู่กับเด็กๆด้วยผลก็คือเขาเรียกยุทธศาสตร์ที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เขาเริ่มปฏิบัติต่อผมเหมือนเราเป็นเพื่อนกันแน่หรอว่าเราทั้งคู่รู้ว่าใครใหญ่กว่าแต่เขาไม่เคยยกเรื่องนี้ขึ้นมาย้ำและไม่เคยพยายามทำให้ผมรู้สึกอับอายขายหน้าและสิ่งแรกที่เขาทำเมื่อเราไปถึงบ้านเขาก็คือให้กีตาร์ตัวเก่าของเขากับผมและยังสอนคอร์ดง่ายๆให้ผมเลยด้วยถ้านายคุ้นเคยกับมันแล้วฉันสุดสัปดาห์เราจะไปเล่นกันในโรงรถด้วยกันเขาบอกผมแบบนั้นผมทำตามแล้วเขาก็รักษาสัญญา
ตอนนี้หลายปีผ่านไปแล้วแล้วผมเริ่มคิดว่า “ฮิวโก้” เป็นแค่ฝันร้ายในวัยเด็กของผมตอนนี้ผมเป็นผู้ใหญ่แล้วแล้วยังจำได้ว่าเขาเคยทำให้ผมร้องไห้อย่างไรความพอใจที่น่ารังเกียจแบบไหนกันที่ทำให้ผู้ใหญ่คนหนึ่งแสดงอำนาจเหนือเด็ก 10 ขวบและทำให้เขาทุกข์ทรมานผมหวังว่าเขาจะปฏิบัติต่อลูกชายของตัวเองแตกต่างออกไปใช้ตอนนี้ผมรู้อะไรเกี่ยวกับชีวิตครอบครัวของแม่ผมน้อยมากเลยขณะที่ผมเติบโตขึ้นมาผมก็ยังคงไม่อาจยกโทษที่ไม่หักหลังผมได้ดังนั้นก็เลยไม่ติดต่อกับแม่มากนักบางครั้งผมจะเขียนไปหา “ลินซี่” ผมหวังว่าเธอจะโชคดีกว่าผมแต่ผมก็ยังไม่คิดว่าเธอจะมีความสุขดีในครอบครัวนั้นและหวังว่าผมจะพาเธอออกมาทันทีที่ผมโตพอได้
นี่คือเรื่องราวของผมช่วยบอกผมหน่อยนะว่าคุณเคยตกเป็นเป้าของการสร้างแรงกดดันทางจิตใจในครอบครัวไหมแล้วอย่าลืมแบ่งปันเรื่องของผมล่ะบางทีประสบการณ์ของผมจะช่วยใครสักคนได้