ครอบครัว

มีคนขอให้ฉันดูแลเด็กผู้ชายที่ไม่รู้ที่มา กลายเป็นว่านั่นคือน้องต่างแม่ของฉัน

สวัสดีฉันชื่อ “นาตาลี” ปีที่ผ่านมาทุกสิ่งอย่างในครอบครัวของฉันเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิงเพราะปรากฏว่าพ่อของฉันมีลูกชายนอกสมรสอยู่อีกคน วันนึงเมื่อฉันอยู่บ้านขณะที่พ่อกับแม่ยังอยู่ที่ทำงานก็มีใครบางคนมาเคาะประตูฉันเปิดออกไปตรงนั้นมีคุณยายคนนึงกับเด็กชายตัวเล็กๆดูเหมือนเขาน่าจะอยู่แค่ 5 ขวบเด็กชายโบกมือให้ฉัน แล้วก็วิ่งเข้ามาในบ้านฉันสับสนงุนงง และหญิงชราคนนี้ก็อธิบายว่าเด็กคนนั้นจะมาอยู่ด้วยไม่กี่ชั่วโมงพอแม่ฉันตกลงและฉันต้องดูแลเขาฉันตกอยู่ในสภาพแบบว่าไงนะ แต่คุณยายลึกลับคนนี้เดินจากไปแล้ว โอเคคิดว่านะเด็กชายคนนี้มีชื่อว่า “โจชัว” เขาเป็นเด็กที่น่ารักและก็ทำตัวดีมากฉันเล่นกับเขาอยู่ครู่นึงแล้วก็ทำแซนวิชให้กินเขาเอาแต่ถามฉันว่าเมื่อไหร่คุณพ่อจะกลับบ้านฉันยิ่งสับสนหนักกว่าเดิมฉันโทรหาพ่อแม่แล้วตอนแรกพวกเขาก็ไม่รับ แต่แล้วในที่สุดพ่อของฉันก็รับละเขาไม่แฮปปี้เลยสักนิดเมื่อได้ยินว่าเพิ่งเกิดอะไรขึ้นที่บ้าน

ทันที่พ่อแม่ฉันกลับถึงบ้านพวกเขาก็มองไปยังเด็กน้อยเหมือนเป็นสิ่งมีชีวิตลี้ลับบางอย่าง พวกเค้าแค่จ้องมองเด็กคนนั้นเข้าไปบริเวณห้องครัวโดยไม่สนใจเด็กแม้แต่นิดเดียวและเริ่มกระซิบกระซาบกันแม่ของฉันโกรธจัดแล้วพ่อฉันก็เรียกได้ว่าตื่นตระหนกพวกเขาพยายามจะคุยกันเงียบๆ แล้วแต่แน่นอนว่าต้องมีอะไรสักอย่างไม่ปกติเกิดขึ้นเมื่อถึงจุดนึง “โจชัว” ก็หาทางเข้าไปใกล้พ่อฉันจนได้และถามเขาอายๆ ว่าคุณคือพ่อของผมหรือฮะเขายังคงถามคำถามต่อไปแต่พ่อของฉันก็แค่เอาแต่จ้องหน้าเด็กชายเหมือนพ่อหวาดกลัวเขา แม่เอามือปิดหน้าด้วยความอับอาย ส่วน “โจชัว” พยายามจะกอดพ่อชั้น แต่แทนที่พ่อจะกอดตอบพ่อขยับตัวหนีแล้วไม่ตอบรับอะไรเลยเขาแค่ยืนอยู่ตรงนั้น 

 “โจชัว” เริ่มตกใจแล้วก็สับสนเอาแต่หันมามองที่ฉัน พ่อและก็แม่ฉันรู้สึกเสียใจแทนเขานะแต่สิ่งที่มากยิ่งกว่าคือฉันกำลังพยายามหาคำตอบอยู่ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ไม่นานหญิงชนาคนนั้นก็กลับมาแล้วก็พาเด็กน้อย  “โจชัว” ที่น่าสงสารแล้วกำลังสับสนกลับบ้าน แม่ของฉันโกรธมากซะจนแทบไม่มองหน้าหญิงชราแต่ก็พยายามเก็บอารมณ์ พ่อฉันขึ้นเสียงใส่เธอถามว่า คิดว่ากำลังทำอะไรอยู่อ่ะ ส่วนเธอก็ตอบกลับอย่างสงบว่าคุณควรรับผิดชอบต่อสิ่งที่คุณทำถ้าคุณอยากเจอลูกชายของคุณนี่คือที่อยู่ของฉัน เธอส่งเศษกระกาษให้พ่อแล้วจากไป “โจชัว” โบกมือให้เราทุกคนด้วยความกระวนกระวายแต่ฉันเป็นคนเดียวที่โบกมือตอบฉันถามคำถามเป็นร้อยๆข้อทันทีแต่พ่อแม่แค่ทำเป็นไม่ได้ยินฉันและถกเถียงกันแบบเงียบๆต่อไปแม่ฉันหยิบกระดาษที่อยู่ไปจากพ่อขยำเป็นก้อนแล้วก็โยนลงถังขยะหลังจากนั้นแม่ก็เข้าไปในห้องพ่อตามไปด้วยเพิกเฉยต่อทุกคำถามที่ฉันถามฉันกลับไปที่ห้องของตัวเองแล้วก็พยายามจะแอบฟังพ่อแม่คุยกันผ่านกำแพงแต่พูดอย่างตรงไปตรงมาเลยนะนี่ก็เห็นได้ชัดอยู่แล้วมันเรื่องอะไร

ฉันไม่อยากเชื่อเลยว่าพ่อของฉันจะนอกใจ เมื่อฉันรู้ว่าฉันจะไม่ได้คำตอบอะไรจากพ่อแม่แน่ ฉันก็เลยไปหยิบที่อยู่ขึ้นมาจากถังขยะ ไม่กี่วันถัดมา ฉันตรงไปที่บ้านของหญิงชราเธอมีสีหน้าเหมือนก่อนหน้านี้ยังคงสงบนิ่งและเก็บอารมณ์ฉันถามเธอว่าฉันจะพบน้องชายของฉันได้หรือเปล่าเธอก็พยักหน้าเมื่อฉันขึ้นไปห้องของ “โจชัว” เขาดีใจมากที่เห็นฉันแล้วก็กอดฉันด้วยเขาเป็นเด็กน่ารักทันใดนั้นเขาก็ต้องเอาของเล่นแล้วก็ภาพวาดต่างๆที่เขาวาดให้ฉันดูและเราก็เล่นเกมกันทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่นจนกระทั่งตอนนึงที่เขาถามคำถามซึ่งฉันไม่ค่อยสะดวกใจตอบอย่างเมื่อไหร่คุณพ่อจะมาละครับ? พี่เป็นพี่สาวของผมหรอ? นั่นคือแม่ของผมหรือเปล่า? ฉันชอบเล่นกับเขานะแต่ฉันไม่อาจจะตอบคำถามอะไรเขาได้เลย

สุดท้ายเขาก็เหนื่อยมากจบหลับไป หญิงชราถามว่าฉันอยากได้ชาซักถ้วยหรือไม่ และฉันก็ตัดสินใจว่า ในที่สุดก็ถึงเวลาที่จะได้รู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น ฉันเตรียมคำถามมากมายกับเธอ แต่เธอกลับตกลงบอกทุกสิ่งทุกอย่างซะเองโดยไม่คิดจะปิดบังรายละเอียดใดๆ ประกฏว่าพ่อของฉันเป็นชู้กับลูกสาวของเธอซึ่งอายุราว 20 ปี ฉันตะลึงไปเลยเพราะไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อนแต่ทันใดนั้นฉันก็จำได้ว่าพ่อกับแม่ฉันเคยตรึงเครียดและโกรธเกรี้ยวอย่างมากเมื่อ 5 ปีที่แล้ว แน่ละว่าแม่ฉันต้องรู้เรื่องนี้ดังนั้นการนอกใจครั้งนั้นจึงจบลงเมื่อผู้หญิงคนนี้ตั้งท้องแล้วพ่อฉันไม่อยากยุ่งกับเรื่องนี้ต่อไป หญิงสาวคนนั้นหัวใจสลายและไม่ต้องการเด็กเช่นกันดังนั้นเธอจึงย้ายไปอยู่ที่ไหนสักแห่งโดยไม่บอกใครเลยว่าจะไปอยู่ไหน ไม่บอกแม้แต่แม่ของเธอ หญิงชราดื้อดึงเช่นเดียวกับลูกสาวจึงตกลงใจเลี้ยงดูหลานชายตามลำพังโดยไม่ยอมติดต่อพ่อของฉันเด็ดขาดเธอเลี้ยงดูเขามาพร้อมสามีตอนที่พูดถึงเขาหญิงชราดูจะมีความอ่อนไหวขึ้นมาเล็กน้อยเขาเป็นคนอบอุ่นใจดีมากคนนึงแต่เขาเสียชีวิตเมื่อหลายเดือนก่อนแล้วตอนนี้การเลี้ยงเด็กตามลำพังได้ยากเกินไปสำหรับเธอ เธอก็เลยลังเลก่อนสนใจติดต่อพ่อฉันในที่สุดเพราะเธอต้องการความช่วยเหลือ

แน่ละว่าเธอไม่ได้ร้องขอมาตรงๆ เพราะว่านั้นไม่ใช่วิธีของเธอระหว่างที่ฉันเดินกลับบ้านฉันตะลึงกับเรื่องราวทั้งหมดพ่อของฉันไม่ใช่คนอย่างที่ฉันคิดว่าจะเป็นเลยฉันเคยเคารพเทิดทูนเขาแล้วตอนนี้เขาดูจะกลายเป็นอีกคนที่ต่างออกไปโดยสิ้นเชิงแต่ฉันเชื่อว่าเขาจะต้องทำสิ่งที่ถูกต้องดังนั้นฉันเลยตัดสินใจคุยกับพ่อ เมื่อพ่ออยู่บ้านคนเดียวฉันถามพ่อว่าพ่อนอกใจแม่ได้ยังไงแล้วพ่อทิ้งลูกชายตัวเองไว้คนเดียวแบบนั้นได้ยังไงเขาไม่รู้ว่าแม่ของ  “โจชัว” ทิ้งลูกไป แล้วอยากจะให้ความใส่ใจแค่เฉพาะครอบครัวของเราแต่ทุกอย่างที่พ่อพูดก็เป็นได้แต่คำแก้ตัวฉันผิดหวังในตัวพ่อแต่ก็อยากให้โอกาสเขาด้วยเหมือนกันฉันบอกพ่อว่าตอนนี้เขาสามารถดูแลเด็กชายคนนี้ได้แล้วเพราะเห็นได้ชัดเลยว่า “โจชัว” ต้องการพ่อ พ่อของฉันเห็นด้วยแต่เขาก็ไม่อยากทำอะไรให้ชัดๆ ลงไปเช่นกัน

พ่อบอกว่าเขาจะใช้เวลาอยู่กับ “โจชัว” บ้างแต่ไม่ใช่ในบ้านของหญิงเสียสติคนนั้นดังนั้นเราเลยไปพบ “โจชัว” ที่สนามเด็กเล่นหรือสวนสาธารณะ “โจชัว” มีความสุขเสมอเวลาได้พบพ่อของฉันและพยายามคุยพยายามเล่นกับพ่อตลอด และพ่อของฉันก็พยายามเหมือนกัน ถึงจะไม่จริงใจซะทั้งหมดก็ตามบางครั้งเขาก็จะมาอยู่ที่บ้านของเราแต่เฉพาะเวลาที่แม่ของฉันไม่อยู่บ้านเท่านั้นแม่ไม่อยากเจอ “โจชัว” หรือแม้แต่ได้ยินเรื่องของเขา ฉันเดาว่ามันคงเจ็บปวดเกินไปสำหรับแม่และเด็กชายตัวน้อยนี่ก็คือสิ่งย้ำเตือนการทรยศหักหลังของพ่อฉันเสียใจแทน “โจชัว” เพราะเค้าเป็นเด็กน้อยน่ารักมากคนหนึ่งแต่แล้วอะไรๆ ก็ยิ่งเลวร้ายลงไปอีก ไม่นานหลังจากนั้นพ่อฉันก็เลิกไปหา “โจชัว” รวมถึงเลิกคุยกับฉันกับแม่ด้วยเข้ามาอยู่ที่ทำงานจนดึกดื่นเสมอเพราะมีงานที่ต้องทำมากมายทุกคนรู้ว่าคำโกหกเพราะเค้าไม่เคยทำแบบนั้นมาก่อน แต่เราก็ไม่เคยยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูดกัน แม่ทำเหมือนทุกอย่างปกติดีแต่ฉันก็ยังเห็นอยู่ดีว่าแม่โศกเศร้าเสียใจขนาดไหนฉันยังคงไปหา “โจชัว” เพราะฉันรู้สึกผิดอย่างมากอย่างไรเสียเขาก็เป็นน้องชายต่างแม่ของฉันแล้วเขายังมีความสุขที่ได้เจอฉันเสมอแต่ในนั้นก็ยังมีความผิดหวังอยู่นิดหน่อยเพราะพ่อเขาไม่อยู่ด้วยแล้วเขาก็ไม่ได้รับอนุญาตให้มาที่บ้านของเราอีกต่อไปเพราะแม่ฉันสั่งห้าม แม่เกลียด “โจชัว” 

วันนึงเรากำลังเล่นอยู่ด้วยกันที่สนามเด็กเล่นไม่ไกลจากบ้านของเรานัก “โจชัว” ตกลงไปในสระน้ำกว้างๆเขาเปียกตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วก็ต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที ฉันไม่มีทางเลือกนอกจากพาเขาไปที่บ้านแล้วขอยืมเสื้อผ้ากับแม่เมื่อเราไปถึงแล้วฉันบอกแม่เรื่องนี้แม่ปฏิเสธและบอกว่าเขาควรไปเปลี่ยนเสื้อที่บ้านของตัวเองซึ่งอยู่ในระยะทางประมาณ 1 ชั่วโมงจากบ้านเราฉันพยายามพูดให้แม่เปลี่ยนใจ แต่แม่เอาแต่พูดซ้ำๆว่าไม่การได้ยินแบบนี้เจ็บปวดมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับ “โจชัว” เขาไม่อาจจะเข้าใจได้เลยว่าทำไมแม่ต่อต้านเขาขนาดนี้แล้วทำไมแม่ถึงไม่แม้แต่มองหน้าเขาเวลาพูดด้วยตลอดทางกลับบ้าน “โจชัว” ตระหนกแล้วหนาวอย่างมากเราไม่สามารถเรียกรถแท็กซี่ได้ก็เลยนั่งรถเมล์ไปเมื่อในที่สุดเรากลับถึงบ้าน “โจชัว” อยู่ๆ เขาก็หยุดแล้วเริ่มทำอะไรสักอย่างบนพื้นหญ้าหลังจากนั้น 1 นาทีจึงยื่นช่อดอกแดนดิไลออนให้ฉันและขอให้ฉันเอาให้แม่เพราะเขาคิดว่าเขาทำให้แม่โมโหเพราะอะไรสักอย่างฉันไม่อยากเชื่อเลยว่าเขาจะน่ารักขนาดนี้แล้วยังคิดได้ว่าทั้งหมดเป็นความผิดของเขาเอง ตอนฉันอายุ 5 ขวบ ฉันไม่อาจทำอย่างนี้ได้เลย หลังจากนั้นฉันตรงกลับบ้าน ให้ช่อดอกไม้กับแม่แล้วบอกว่า “โจชัว” อยากให้หนูให้แม่ 

แม่มองชอบดอกไม้นั้นอยู่นานโดยไม่ยื่นมือมาแตะต้องใบหน้าของคนแสดงอารมณ์เกิดแปลกๆจากนั้นก็รับไปแล้วโยนลงถังขยะ ฉันโกรธขึ้นมาเพราะฉันเป็นคนที่เห็น “โจชัว” เก็บดอกไม้เหล่านั้นทั้งที่ตัวเปียกโชกนั้นหนาวสุดๆในตอนค่ำระหว่างที่ฉันเดินผ่านถังขยะ ฉันก็สังเกตเห็นว่าช่อแดนดิไลอ้อนไม่อยู่ในนั้นแล้วหลังจากเรื่องนี้แม่ฉันก็ต้องอดทนกับ “โจชัว” มากขึ้นแม่ยอมให้เขาอยู่ที่บ้านเราเป็นครั้งแรกจากนั้นก็เริ่มทำอาหารให้แล้วเพียงแค่ 1 เดือนผ่านไปแม่ก็เริ่มคุยกับเขามากขึ้นแม่ยังคงต้องต่อสู้กับความรู้สึกของตัวเองแล้วก็ยังยากที่จะมองดู “โจชัว” อยู่ดีแต่แม่ก็รู้แล้วว่าเรื่องทุกอย่างไม่ใช่ความผิดของ “โจชัว” ฉันดีใจเหลือเกินที่เห็นความเปลี่ยนแปลงทั้งหมดนี้ให้ทางตรงกันข้ามพ่อของฉันไม่ชอบที่เป็นแบบนี้สักนิดเมื่อเขาพบว่าแม่ฉันเริ่มชอบ “โจชัว” เขาโกรธมาก เขาบอกแม่ว่าสิ่งที่แม่ทำในจินตนาร้ายเพื่อที่จะย้ำเตือนสิ่งที่พ่อทำลงไปแม่ไม่แม้แต่จะพยายามตอบคำถามนี้เพราะถึงตอนนั้นแม่สูญเสียความนับถือทั้งหมดที่มีต่อพ่อไปแล้ว จากนั้นพ่อของฉันก็ห้ามไม่ให้เราไปเจอ “โจชัว” เพราะนั่นคือลูกชายของเขาฉันไม่อยากอดทนกับพ่อแม่ที่ไม่เคยฟังหรือตอบคำถามอะไรฉันเลยอีกต่อไปแล้วดังนั้นฉันเลยอยากแสดงความคิดเห็นของตัวเองบ้าง  หลังจากเริ่มโต้เถียงกันอีกครั้งฉันก็โผล่เข้าไปและตะโกนใส่พ่อว่า พ่อไม่ได้ใส่ใจ “โจชัว” เลยซักนอกพ่อไม่เคยแคร์ใครเลยนอกจากตัวเอง และทุกครั้งเค้าก็จะพูดแค่อย่ามายุ่งและแม่ แม่ฉันแค่ทำเป็นไม่สนใจพ่อแม่เหนื่อยล้าละ

หลังจากครั้งนั้นในที่สุดแม่ก็เลยยอมบอกฉันว่ากำลังคิดอะไรหลังผ่านไปหลายเดือนกับความเงียบงันแม่อยากหย่าขาดจากพ่อ แม่ยกโทษให้เขาที่นอกใจเธอเพราะแม่ต้องการครอบครัวที่มีพ่อแต่ตอนนี้การเห็นเธอวิ่งหนีจากทุกสิ่งที่เป็นความรับผิดชอบของตัวเองแล้วโทษทุกคนที่อยู่รอบข้างเป็นสิ่งที่ไม่ต้องการอีกต่อไป แม่รู้สึกเสียใจมากที่ปฏิบัติต่อ “โจชัว” อย่างเลวร้ายแต่แม่ก็ไม่อาจมองหน้าตัวโดยไม่คิดถึงสิ่งที่พ่อฉันทำลงไปได้ เรื่องนี้เป็นเรื่องยากที่สุดสำหรับฉันเพราะฉันก็ยังคงรักพ่อฉันยังเชื่อว่าเค้าจะเป็นคนที่ดีขึ้นได้ จากนั้นในที่สุดพ่อก็มาคุยกับฉันแต่นั่นยังห่างไกลจากการพยายามเป็นคนที่ดีขึ้นพ่อบอกฉันว่าเค้านอกใจแม่เพราะแม่ฉันไม่ได้เคารพหรือรักเขาอีกต่อไปแล้วพ่อขอให้ฉันไปอยู่กับเขาหลังจากหย่ากับแม่ฉันนึกถึง “โจชัว” การเห็นว่าเขาอยากเจอพ่อแม่แค่ไหนแล้วเรื่องนี้ก็ทำให้ฉันรู้สึกคลื่นไส้เพราะฉันก็รู้สึกแบบเดียวกันเขาไม่เคยทำตัวเป็นบ้านของเราเลยดังนั้นฉันก็เลยปฏิเสธไปอย่างน้อยที่สุดแม่ฉันก็ได้พยายามแล้ว

หลังจากนั้นฉันพบว่าพ่อเตรียมจะพา “โจชัว” ไปแต่ยายของเขาไม่ยอมแต่และก็ยังโทรเรียกตำรวจเป็นเรื่องตลกเหมือนกันที่ได้เห็นว่าตอนนี้พ่อกำลังพยายามมากแค่ไหนเมื่อรู้แล้วว่าไม่มีใครต้องการเขาต่อไปแล้วพ่อแม่หย่ากันละ แล้วนับแต่นั้นมาฉันได้พบพ่อครั้งหรือสองครั้งเองถึงยังงั้นฉันยังไปหา “โจชัว” บ่อยๆเขาจะมาอยู่ที่บ้านเราแล้วเราทั้งคู่ก็รักเขา เขายังเรียกแม่ว่าแม่ แม่จะยิ้มทุกครั้งที่เขาทำแบบนั้นถึงตัวเองเจ็บปวดอยู่ดีเวลาที่เขาถามว่าพ่อไปไหนเหรอฮะ แล้วฉันก็ไม่รู้ด้วยว่าเขาอยู่ไหนฉันหมายถึงเขาไปใช้ชีวิตอยู่ไหนแล้วแต่ฉันก็ยังหวังว่าเขาจะเปลี่ยนแปลงตัวเองได้แล้วทั้งหมดนี้ก็ยังทำให้เราเจ็บปวดอยู่ตัวนี้

เรื่องนี้ยาวมากทีเดียวขอบคุณนะที่รับฟังบอกฉันในช่องคอมเม้นต์หน่อยว่าคุณคิดยังไงแล้วอย่าลืมกดติดตาม 

เรื่องเล่าที่เกี่ยวข้อง

0 0 votes
Article Rating
Subscribe
Notify of
guest
0 Comments
Inline Feedbacks
View all comments
Back to top button
0
Would love your thoughts, please comment.x
()
x

ปิดโปรแกรมบล็อคโฆษณา

กรุณาปิดโปรแกรมบล็อคโฆษณาก่อนนะ เพราะเว็บจะอยู่ได้ก็จากป้ายโฆษณา