ผมยุ่งกับแฟนสาวของเพื่อนสนิทลับหลังเขา ช่างน่ารังเกียจจริงๆ!
ไงผมชื่อ “เอมเหม็ด” ความรักที่ผมมีต่อเด็กสาวคนหนึ่งบ่อนทำลายความสัมพันธ์ของผมกับคนอื่นๆมากมายและบอกตรงๆเลยว่ามันทำให้ผมทำตัวเป็นคนเลวผมเคยมีเพื่อนสนิทที่อยู่เคียงข้างกันมาทั้งชีวิตเขาชื่อ “แพทริค” เราเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่ชั้นอนุบาลแล้ว ผมก็นึกไม่ออกเลยว่าจะมีเพื่อนคนไหนดียิ่งกว่าเขาได้อีก
วันหนึ่งเขามีแฟนเธอมีชื่อว่า “ลิลลี่” เราไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยมากแล้วยังสนุกสนานตลอดถึงแม้ว่าผมจะรู้สึกแปลกๆนิดหน่อยประมาณว่าเป็นมือที่สามทั้งในแง่ของกับคู่รักและเพื่อนของพวกเขาและเพราะเหตุนั้นคุณคิดว่าอะไรจะเกิดขึ้นล่ะ ก็นะผมเริ่มชอบ “ลิลลี่” มากขึ้นจนเริ่มเรียกได้ว่าตกหลุมรักเธอผมพยายามหาช่วงเวลาที่มีแค่ผมกับเธออยู่กันตามลำพังถึงเป็นแค่ระยะสั้นๆยังเวลาที่ “แพทริค” ไปซื้อของหรืออะไรทำนองนั้นก็ตามแต่ผมรู้ว่าผมควรรู้สึกแย่กับเรื่องนี้แล้วก็มีเหตุผลอยู่ดีที่ผมไม่รู้สึกแบบนั้น “แพทริค” เล่นหูเล่นตากับผู้หญิงคนอื่นโดยไม่รู้สึกอะไรแล้วยังเล่าทุกอย่างให้ผมฟังทุกครั้งที่เขาเห็นผู้หญิงสวยๆสักคนเวลาเดินผ่านไปเขาจะพยายามเข้าไปหาเรื่องชวนคุยหรือพยายามจีบเธอและนี่ก็ทำให้ผมโกรธมากในเมื่อเขามีแฟนสาวสุดพิเศษอยู่แล้วแต่เขาก็ยังไปจีบผู้หญิงคนอื่นๆ อยู่ตลอดเวลา
ผมหมายถึงเรื่องนี้ทำให้ผมโมโหแต่พูดกันตามตรงผมก็ยังรู้สึกดีใจด้วยเหมือนกันเพราะผมเห็นว่านี่คือโอกาสที่จะทำให้พวกเขาเลิกรากันได้แทนที่จะบอกว่าบางทีเขาควรหยุดทำอะไรแบบนี้ผมสนับสนุนเขาหวังว่าจะนำไปสู่การเลิกรากับ “ลิลลี่” ทุกครั้งที่เขาจีบใครอีกคนผมจะพูดเสมอว่าผู้หญิงคนนั้นอาจชอบเขามากแค่ไหนผมหวังว่าด้วยเหตุนั้นเมื่อถึงจุดหนึ่ง “ลิลลี่” จะสังเกตเห็นหรืออ่านท่าทีของเขาออกต่ “ลิลลี่” เป็นคนอ่อนหวานน่ารักและเชื่อมั่นในตัว “แพทริค” โดยไม่มีเงื่อนไขและไม่เคยแม้แต่จะมองเขาในแง่ลบเลยดังนั้นในที่สุดผมจึงตัดสินใจบอกเธอไปตามตรงครั้งหนึ่งแล้วผมไปงานปาร์ตี้และที่นั่นมีผู้หญิงคนหนึ่งเขาถามว่าเขาควรจะชวนเธอคุยหรือไม่แล้วผมก็เชียร์เขาเขาคุยกับเธอเรา 10 นาทีได้ เธอหัวเราะหลายครั้งมากแล้วเขาก็ยืนใกล้ๆเธอแบบไกลมากมากกว่าที่ควรและยังดูเหมือนพวกเขาจะจูบกันได้ในทุกวินาทีผมเลยฉวยโอกาสถ่ายรูปไว้จำนวนหนึ่ง
ต่อมาเมื่อผมได้มีโอกาสอยู่กับ “ลิลลี่” ผมเอารูปเหล่านั้นให้เธอดูและเธอถึงกับตะลึงและแทบไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองผมโน้มน้าวเธอให้เลิกกับ “แพทริค” และเธอก็ทำตามทันทีทางโทรศัพท์เดี๋ยวนั้นเลยผมฟังน้ำเสียงที่เขาถามเธอว่าเพราะอะไรถึงทำแบบนี้แล้วเธอก็บอกเรื่องทั้งหมดกับเขา เขาโกรธจะพยายามโทรหาผมเป็น 10 ครั้งแต่ผมไม่คิดจะรับสายเขาในที่สุดเมื่อเราได้คุยกันเราต้องเถียงกันนานมากแล้วเขาก็บอกว่าเขาโกรธผมเพราะผมทำแบบนี้รับหลังเขาผมชอบ “ลิลลี่” มากจนไม่ได้คิดถึงสิ่งที่ตัวเองทำลงไปเลยดังนั้นอะไรๆก็ง่ายมาก “แพทริค” และผมเลิกคบหากันผมไม่ได้สนใจอะไรเพราะตอนนี้ผมได้มีโอกาสได้ใช้เวลาอยู่กับลิลลี่มากขึ้นแล้วบางทีเราอาจได้คบกันก็ได้หลังจากเรายังเจอกันอีกเกือบทุกวันแต่บางอย่างที่แตกต่างออกไปโดยสิ้นเชิงก็เกิดขึ้น
วันหนึ่ง “ลิลลี่” โทรหาผมบอกว่า “แพทริค” เปลี่ยนไปแล้วและพวกเขาจะกลับไปคบกัน โอ้วว ผมโกรธขึ้นมาเลยล่ะแต่นั้นยังไม่หมดเธอบอกอีกว่าเธอไม่อาจเป็นเพื่อนกับผมได้แล้วเช่นกันเพราะ “แพทริค” ไม่ยอม ผมไม่อยากจะเชื่อเลยผมคิดว่าบางทีผมอาจจะลองแย่งเธอกลับมาก็ได้แต่แล้วผมก็ตัดสินใจว่าผมก้าวต่อไปข้างหน้าดีกว่าเมื่อคิดย้อนถึงทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำลงไปและคิดว่าผมเป็นคนที่ย่ำแย่ขนาดไหนแทนที่จะใช้เวลาทำอะไรที่มีประโยชน์ผมกลับใช้พลังงานทั้งหมดไปกับการพยายามหาทางคบกับ “ลิลลี่” เพราะฉะนั้นผมเลยหันมาตั้งใจเรียนสนใจงานอดิเรกเล่นกีฬาและหาเพื่อนใหม่ๆ ผมมีความมั่นใจมากขึ้นและได้เพื่อนใหม่มากมายหนึ่งในนั้นคือ “เคส”
ซึ่งเป็นผู้หญิงที่เจ๊งมากผมเริ่มจะชอบเธอคิดว่าเธอก็ชอบผมด้วยเหมือนกันเพราะเธอมาส่งข้อความหาผมก่อนแล้วโทรหาผมชวนไปไหนมาไหนจากนั้นวันนึงในที่สุดผมก็เลยขอเธอเป็นแฟนแล้วฉันก็ตอบตกลงผมมีความสุขมากคิดว่านี่คงเป็นจุดจบของเรื่องราวแต่ก็ไม่ผมเริ่มทำเรื่องโง่เง่าอีกครั้งหนึ่งนั้นเป็นช่วงเวลาหลายเดือนที่ยอดเยี่ยมแล้วจากนั้น “ลิลลี่” ก็ส่งข้อความถึงผมเธอพึ่งเลิกกับ “แพทริค” เพราะท้ายที่สุดเขาก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงตัวเองเลยอะไรๆยังเหมือนก่อนหน้านี้เธอพยายามมาตลอด 6 เดือนที่ผ่านมาให้โอกาสเขาเพื่อที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองแต่เขาก็ทำเรื่องผิดพลาดแบบเดิมซ้ำแล้วซ้ำเล่าผมเริ่มคุยกับเธอแล้วยังสบายใจมากด้วยเพราะตอนนี้ผมมี “เคส” แล้วก็อย่างที่คุณคงรู้ผมเป็นแค่เพื่อนของ “ลิลลี่” หรือนั่นก็คือสิ่งที่ผมคิดว่าวันหนึ่งเธอชวนผมออกไปข้างนอกแล้วผมก็ตอบตกลงไม่ได้คิดแม้แต่น้อยว่าจะมีความหมายอะไรเราใช้เวลาค่ำวันนั้นด้วยกันอย่างสนุกสนานและพูดกันตามตรง ก็มีบรรยากาศแบบโรแมนติกนิดๆด้วย
ต่อมาผมเล่าเรื่องทั้งหมดให้ “เคส” ฟังไม่ได้คิดสักนิดว่าเธออาจจะไม่ชอบใจและใช่เธอไม่ชอบแน่นอนว่าเธอไม่ได้พูดออกมาผมพยายามบอกให้เธอมั่นใจว่า “ลิลลี่” นี่เป็นแค่เพื่อนแล้วผมไม่ได้รู้สึกอะไรกับเธอแล้วแล้วผมก็คิดแบบนั้นจริงๆ และอย่างที่คุณคงพอเดาได้ผมเริ่มจะกลับมามีความรู้สึกกับ “ลิลลี่” ครั้งแต่ผมก็มีความรู้สึกดีๆกับ “เคส” เช่นกันนี่น่าสับสนมากจริงๆแล้วทำให้ผมรู้สึกแย่กับพวกเธอทั้งคู่แต่ผมไม่รู้อยู่ดีว่าควรทำอย่างไรดังนั้นหลักเหตุผลของผมเลยบอกให้ผมเลิกไปไหนมาไหนกับ “ลิลลี่” และให้ความสนใจแต่ความสัมพันธ์ระหว่างผมกับ ”เคส” ซึ่งตอนนั้นกำลังไปได้ด้วยดีแต่แน่ละผมไม่ได้ทำแบบนั้นแถมยังเริ่มเข้าไปเที่ยวกับ “ลิลลี่” วันนึงผมพา “ลิลลี่” ไปงานปาร์ตี้ใช้เลยไม่ใช่ “เคส” แต่เป็น “ลิลลี่” ผมชอบเวลาที่ได้อยู่กับเธอและนั่นเป็นค่ำคืนที่ยอดเยี่ยมมากจนกระทั่ง “แพทริค” ปรากฏ
ตัวเขาเห็น “ลิลลี่” กับผมและเข้ามาพูดกับผมตรงๆเขาถามผมว่าทำไมผมถึงออกมากับแฟนเก่าของเขาขณะที่มีแฟนของตัวเองอยู่แล้วเขาพูดเสียงดังมากจนทุกคนมองไปที่เราและนั่นก็น่ากระอักกระอ่วนสิ้นดีโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับ “ลิลลี่” ผมพยายามอธิบายว่าผมมากับเธอในฐานะเพื่อนเท่านั้นแต่เขาพูดเสียงดังขึ้นดังขึ้นและยังโกรธหนักกว่าเก่าสถานการณ์ทั้งหมดนี้กลายเป็นหายนะอย่างสมบูรณ์เรายืนอยู่ใกล้สระว่ายน้ำและ “แพทริค” ก็ผลักผมเบาๆแต่มากพอที่จะทำให้ผมเสียหลักล้มเลยตกลงไปในสระว่ายน้ำในวินาทีแห่งความตื่นตระหนกผมจับเขาไว้และนั่นแหละโดนทั้งคู่ร่วงลงไปในสระทุกคนต่างหัวเราะใส่เราเมื่อเราคลานขึ้นมาจากสระได้ผมก็ตระหนักว่า “ลิลลี่” หายไปแล้วเพราะเธออับอาบขายหน้าอย่างมาก
และใช่ผมกับ “แพทริค” ก็ยังคงโกรธกันเหมือนเดิมไม่แม้แต่จะพูดอะไรกันเลยสักคำเราออกจากงานทั้งที่อับอายโกรธเกรี้ยวแล้วเปียกปอนเมื่อผมเจอ “เคส” ครั้งถัดไปเธอโกรธผมมากจริงๆผมพยายามกล่าวขอโทษแต่เธอเลิกกับผมเดี๋ยวนั้นเลยแล้วผมก็ต้องมองเธอจากไปทั้งน้ำตาผมไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรหลังจากนั้น “เคส” เป็นคนที่ยอดเยี่ยมมากและผมก็สูญเสียเธอไปเพราะไม่สามารถตัดสินใจเรื่องง่ายๆได้ผมคิดว่าจะไปไหนมาไหนกับ “ลิลลี่” ต่อไปแต่นั่นก็ทำให้รู้สึกไม่ดีเช่นกันดังนั้นผมเลยส่งข้อความหาเธอว่าเราคงต้องเลิกไปไหนมาไหนกันนับจากนี้นานเป็นสัปดาห์ที่ผมไม่ได้ไปไหนอีกเลยนอกจากโรงเรียนผลการเรียนของผมตกลงแล้วผมยังรู้สึกเศร้าอยู่ตลอดเวลาไม่ใช่แค่เพราะสูญเสีย “เคส” แต่เพราะผมเป็นคนเลวแล้วผมก็ทำสิ่งเดียวกับที่ “แพทริค” ทำลงไป
แล้วเมื่อผมถูกทิ้งไว้ตามลำพังโดยสมบูรณ์ “แพทริค” เริ่มกลับมาคุยกับผมที่โรงเรียนมากขึ้นเราเริ่มพูดถึงเรื่องนี้และเรื่องน่าขันอย่างกลับมาเป็นเพื่อนกันอีกครั้งทั้งที่เพิ่งเดือนที่แล้วมานี่เองที่ผมคิดว่าเราไม่อยากกลับไปเป็นเพื่อนกันได้อีกแต่ก็นั่นแหละคนเรายกโทษให้แก่กันได้เสมอเราสัญญาว่าจะไม่มีใครทำเรื่องแบบนี้อีกอย่างเช่นถ้าคนหนึ่งเริ่มทำอย่างที่เคยทำอีกคนต้องหยุดเอาไว้เรายังสัญญาต่อกันอีกด้วยว่าก็จะพยายามเป็นคนที่ดีขึ้นในความหมายของคนทั่วไป
คุณเชื่อไหมว่าคนเราสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองและเป็นคนที่ดีขึ้นได้แบ่งปันความคิดของคุณลงในช่องคอมเม้นต์และแบ่งปันวิดีโอนี้เพื่อที่จะได้ไม่มีใครทำเรื่องผิดพลาดแบบเดียวกับที่ผมทำ