ปัญหาสุขภาพ

พ่อของผมบอกว่ามีคนสะกดรอย เราหัวเราะกันจนกระทั่งพ่อหายตัวไป

ไงพวกผมชื่อ “แดเนียล” นี่คือเรื่องที่ผมอยากเล่าให้ฟัง พ่อผมหายตัวไปเกือบปีแล้ว แล้วผมก็รู้สึกผิดกับเรื่องนี้ด้วย ผมจะเริ่มเล่าตั้งแต่แรกพ่อของผมเป็นคนที่มองโลกในแง่ดีที่สุดในโลก

เท่าที่ผมจำได้เขาเป็นคนที่มีออร่าความสุขอยู่ตลอดเวลา แต่ทุกสิ่งก็เปลี่ยนไปหลังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อประมาณหนึ่งปีที่แล้ว เขาไม่ได้กลับบ้านหลังเลิกงานคือหนึ่ง ตอนแรกแม่และผมคิดว่าไม่มีอะไร แต่จนสามทุ่มแล้วพ่อก็ยังไม่ปรากฏตัว

ตอนนั้นเราจึงเริ่มโทรหาเพื่อนๆ และเพื่อนร่วมงานของพ่อไม่มีใครรู้เลยว่าพ่อไปไหนจากนั้นแม่ก็หาเบอร์โทรศัพท์เจ้านายพ่อพบแล้วโทรหาเขาเจ้านายพ่อทำให้เราประหลาดใจมาก เมื่อบอกว่าวันนั้นพ่อก็ไม่ได้ไปทำงานแล้วไม่รับโทรศัพท์ตอนนั้นแหละเราถึงเริ่มกังวลจริงๆ แล้วเกิดอะไรขึ้นพ่อไปอยู่ไหนมาทั้งวันเราโทรหาตำรวจเจ้าหน้าที่ 2 คนมาหาเราแล้วเริ่มถามคำถามเกี่ยวกับพ่อ

ไม่นานหลังจากนั้นพวกเขาก็พบตัวพ่อ พ่ออยู่โรงพยาบาลผมและแม่จึงรีบไปที่นั่น เมื่อเราไปถึงโรงพยาบาลแล้วได้พบพ่อในที่สุดเขากำลังหลับอยู่เต็มไปด้วยรอยพกช้ำรอยแผลมีเศษแก้วติดตามเสื้อผ้าและแขนเสื้อของพ่อเกือบขาด

หมอบอกว่าเขามีอาการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรงและความทรงจำระยะสั้นบางส่วนอาจหายไปแต่ทุกอย่างปกติดีเจ้าหน้าที่กล่าวว่าพวกเขาพบพ่อนอกเมืองดูเหมือนเขาจะขับรถด้วยความเร็วสูงสูญเสียการควบคุมและลงเอยด้วยการไถลลงข้างทางเขาโชคดีมากที่รอดชีวิตจากอุบัติเหตุแบบนี้ได้เราใช้เวลาทั้งคืนอยู่ที่โรงพยาบาล และเมื่อพ่อตื่นแล้วก็ถามเขาว่าเกิดอะไรขึ้นและคำตอบของพ่อก็ทำให้เราตกใจมากเขาบอกว่าเขาลื่นตกถนนถูกรถอีกคันชนเป็นคำให้การที่รุนแรงมากตำรวจจึงเริ่มสืบสวน พวกเขามาที่บ้านเราหลายหนและถามคำถามมากมายประมาณเดือนที่แล้วพวกเขาส่งจดหมายมาให้เราตามผลการสรุปของผู้เชี่ยวชาญ

ตามที่เอกสารบอกบนรถของพ่อไม่มีรอยสีจากรถคันอื่นพูดง่ายๆ ก็คือไม่มีใครของพ่อ พ่อโกรธขึ้นมาเขาบ่นว่าตำรวจไม่ทำอะไร และย้ำว่าเขาพูดความจริงแต่แม่เองก็โมโหแม่เชื่อว่าตำรวจคิดว่าพ่อโกหกและกำลังปิดบังอะไรสักอย่างอีกอย่างเขาไปอยู่ไหนมาทั้งวันทำไมถึงไม่ไปทำงานสำหรับคำถามเหล่านี้ก็ตอบแค่ว่าจำไม่ได้ เพราะงั้นบางครั้งพ่อแม่ของผมจึงทะเลาะกันเพราะเรื่องนี้แล้วผมก็ไม่รู้ว่าใครถูกแต่ผมรู้ว่าพ่อทำตัวแปลกๆ เขาจะปิดม่านหน้าต่างไว้เสมอและปิดโทรศัพท์บ่อยๆ ดูเหมือนพ่อกลัวอะไรสักอย่างแต่พ่อไม่ยอมบอกว่าอะไรรวมแล้วบรรยากาศในบ้านจึงประหลาดมาก แต่แล้วก็มีอะไรบางอย่างที่ทำให้ผมกลัวมากจริงๆ

เกิดขึ้นผมกลับมาบ้านหลังเลิกเรียนกำลังทำการบ้านในตอนที่ได้ยินประตูหน้ากระแทกอย่างแรงผมลงไปด้านล่างเลยเห็นพอเขาดูว่ากลัวตาเบิกกว้างและหายใจติดขัดเมื่อเขาเริ่มหายใจหายคอได้แล้วในที่สุดพ่อก็บอกว่าพ่อเห็นอีกแล้วรถคันนั้นจากนั้นพ่อก็วิ่งไปที่โต๊ะแล้วเขียนอะไรบางอย่างลงในกระดาษเขาพยายามจะได้ป้ายทะเบียนของรถคันนั้นก็จำไม่ได้พ่อพยายามมากจริงๆ เขาเดินไปรอบๆ บ้านอย่างกระวนกระวายบอกว่าในที่สุดแม่จะได้เชื่อสักทีแต่แม่ไม่เชื่อไม่มีหลักฐานอะไรเลยพวกเขาเลยโต้เถียงกันอีกรอบแล้วผมก็เข้าใจแม่นะสามีของแม่ทำตัวแปลกๆ

เห็นได้ชัดว่ากำลังปกปิดอะไรสักอย่างแน่ล่ะว่าแม่ต้องไปเชื่อคำพูดพ่อตั้งแต่ตอนนั้นพ่อใช้เวลาอยู่หน้าคอมนานมากเขาค้นหาอะไรบางอย่างเป็นบทความออกมาแขวนกระดาษไว้ในโรงรถและติดรูปกับเอกสารมากมายบนนั้นเขาทำแม้แต่ติดตั้งกล้องวงจรปิดรอบบ้านเห็นได้ชัดว่าพ่อมุ่งมั่นที่จะพิสูจน์ให้แม่แล้วผมเห็นให้ได้ว่าเขาพูดถูกถึงจะดูเหมือนว่าระแวงไปเองมากกว่าแต่นี่ก็คือพ่อผมเขาตั้งใจทำทุกอย่างเสมอและเราก็ใช้ชีวิตกันแบบนี้อยู่ 2 เดือนตอนค่ำ พ่อจะนั่งอยู่ในโรงรถและดูวีดีโอจากกล้องวงจรปิดผมยังหวังว่าพ่อจะยอมรับว่าเขาคิดไปเองหรือบอกเราเสียทีว่าทำไมวันนั้นเขาไม่ไปทำงานไป

แต่ครั้งหนึ่งตอนมื้อค่ำหรือพูดให้ถูกก็คือผมทานมื้อค่ำกับแม่ขณะที่พ่ออยู่ในโรงรถเราก็ได้ยินเขาตะโกนว่า “บิงโกฉันหาเจอแล้ว วู้หู้!”  เขาเข้ามาในห้องครัวพร้อมกระดาษในมือบอกว่ารถที่ชนเขาผ่านเข้ามาในกล้องวงจรปิดแล้วตอนนี้ก็ได้เลขทะเบียนมาแล้วแค่โทรหาเพื่อนของพ่อที่สถานีตำรวจไม่กี่ครั้งคดีนี้ก็จะปิดลงได้ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกลับนำไปสู่การทะเลาะเบาะแว้งอีกครั้งและคราวนี้พ่อก็หมดความอดทนผมพยายามจะคิดว่าพ่อเป็นฝ่ายผิดสิ่งที่เกิดขึ้นชวนให้สับสนมากทำไมรถคันนั้นถึงขับผ่านบ้านเราพ่อรู้ได้อย่างไรว่าใช้รถคันเดียวกันเพื่อที่สถานีตำรวจคืออะไรแต่พ่อแค่ตะโกนว่าเมื่อเค้าค้นพบความจริง แม่และผมต้องมาขอโทษเค้าแล้วก็จากไปใช้ก็ได้ยินเสียงติดเครื่องรถแล้วพ่อก็ไปทั้งอย่างนั้นแม่ผมเสียใจมากบอกว่าความดื้อดึงและคำโกหกของพ่อจะทำลายความสัมพันธ์ของเราแต่แม่ก็เหนื่อยหน่ายกับเรื่องนี้มากแล้ว

แต่ผมเป็นห่วงพ่อมากดึกดื่นแล้วพ่อไปไหนผมมีความรู้สึกว่าเรื่องแย่ๆ จะต้องเกิดขึ้นแล้วผมก็คิดถูกคืนนั้นพ่อไม่กลับมาผมบอกแม่ให้โทรหาตำรวจเผื่อว่าพ่อจะเกิดอุบัติเหตุอีกครั้งแต่แม่โกรธพ่อมากเสียจะไม่ฟังอะไรเช้ามาพ่อก็ยังไม่กลับผมจึงโทรหาตำรวจเองนานหลายสัปดาห์ที่เราคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกวันตามหาพ่อในเมืองแล้วเหมือนไปใกล้และเราก็ยังไม่พบอะไรพอกลายเป็นบุคคลหายสาบสูญผมบอกไม่ถูกเลยว่าตอนนั้นผมรู้สึกอย่างไรคนคนหนึ่งที่ผมรักและเติมเต็มชีวิตผมด้วยเสียงหัวเราะกับความมองโลกในแง่ดีอยู่ๆ

ก็หายตัวไปผมสิ้นหวังและคิดว่าพ่อตายแล้วผมเศร้าใจมากจริงๆ เกือบปีต่อมาเราก็ได้รับโทรศัพท์แม่เป็นคนรับสายจากนั้นน่ะแม่ก็เปลี่ยนสีทันทีมีคนพบพ่อของเราในอีกรัฐในโรงพยาบาลเราไปหาเขาทันทีผมแทบจำพ่อตัวเองไม่ได้เขาดูแทบจะเหมือนคนจรจัด

ผมและหนวดรุงรังสกปรกสวมเสื้อผ้าเก่าขาดเรื่องกลายเป็นว่าเขามีอาการผิดปกติทางจิตและอาการลุกลามมากขึ้นอาการนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุแต่เพราะความบังเอิญนี้เขาจะมีอาการหวาดระแวงและทำให้โรคลุกลามขึ้นเพราะจำเราได้และรู้ว่าบ้านของเราอยู่ไหนแต่เขาตั้งใจว่าจะต้องหาตัวคนที่ชนพ่อตกถนนเมื่อปีก่อนให้ได้ตอนนี้ผมรู้สึกผิดที่ปล่อยให้พ่อจากไปในคืนนั้นเขาต้องการความช่วยเหลือหรืออย่างน้อยก็แค่มีคนรับฟังตอนนั้นทุกอย่างบ่งชี้ว่าเขาไม่ได้มีสุขภาพจิตอย่างคนปกติ

แต่แม่แล้วผมแค่ไม่ฟังเขาเลยคิดว่าเขาโกหกใช่ต้องโทษเราทั้งคู่พ่อของผมต้องเจ็บปวดเพราะความไม่ใส่ใจของเราตอนนี้เรากำลังอยู่ในขั้นตอนการบำบัดอันยาวนานแล้วทุกอย่างก็คงจะเรียบร้อยดีแต่ทั้งหมดนี้จะไม่เกิดขึ้นเลยค่ะถ้าเราเอาใจใส่คนที่เรารักให้มากกว่านี้

ขอบคุณที่รับชมจนจบนะทุกคนบอกผมด้วยว่าคุณคิดอย่างไรในช่องคอมเม้นต์อย่าลืมแบ่งปันวิดีโอนี้กับเพื่อนของคุณและเอาใจใส่คนที่คุณรักอย่างสม่ำเสมอด้วยล่ะ 

เรื่องเล่าที่เกี่ยวข้อง

0 0 votes
Article Rating
Subscribe
Notify of
guest
0 Comments
Inline Feedbacks
View all comments
Back to top button
0
Would love your thoughts, please comment.x
()
x

ปิดโปรแกรมบล็อคโฆษณา

กรุณาปิดโปรแกรมบล็อคโฆษณาก่อนนะ เพราะเว็บจะอยู่ได้ก็จากป้ายโฆษณา