แม่หักหลังทิ้งเราไปและพ่อฉันก็กลายเป็นคนติดเหล้า
สวัสดี! ฉันคือ เจนนี่ เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้มันเป็นเรื่องน่าเศร้านิดหน่อย พ่อของฉันติดเหล้า แต่อย่าพึ่งคิดว่าฉันจะเล่าเรื่องความรุนแรงในบ้านนะ ฉันรักพ่อมากเขาอาจเป็นคนที่นิสัยน่ารักที่สุดคนหนึ่งเท่าที่ฉันเคยพบและบางทีนี้คงเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาดื่ม ให้ฉันเล่าประสบการณ์ของฉันให้คุณฟังนะ
ชีวิตของฉันปกติดีมากๆจนกระทั่งอายุได้ 12 ปี ฉันมีพ่อแม่ที่น่ารัก แม่ของฉันเป็นผู้หญิงที่กระตือรือร้นและพ่อก็เป็นผู้ชายที่สุภาพสงบนิ่ง ฉันเหมือนแม่มากกว่าและโตมาก็เป็นเด็กกระฉับกระเฉงและก็มองโลกในแง่ดี แต่แล้ววันหนึ่งทุกอย่างก็เปลี่ยนไป แม่ฉันบอกว่าเธอเจอผู้ชายคนใหม่และจะย้ายไปอยู่ต่างเมืองกับเขาและที่ยิ่งกว่านั้นคือ เธอบอกว่า “เจนนี่แม่ไม่ได้อยากไปต่อสู้ในศาลเพื่อให้หนูอยู่กับแม่” แม่คิดว่าหนูอยู่กับพ่อจะดีกว่า หนูอยู่ที่นี้มาตลอดชีวิตและนี้ก็คงดีกว่าสำหรับทุกฝ่าย’’ ฟังดูดีเนอะที่ได้ยินแม่บอกแบบเนี้ยว่าไหม ถ้าคุณคิดว่านี้คือปัญหาที่แย่ที่สุดของฉันแล้ว ฉันยังมีอย่างอื่นเล่าอีกนะ ฉันถูกแม่หักหลังและก็โกรธมาก ถามจริง!นี้คือวิธีที่ปฏิบัติกับลูกหลอ!? แล้วทำไมเธอถึงเป็นคนตัดสินใจว่าอะไรคือสิ่งที่ดีสำหรับฉันละ แต่ยังไงก็ตามถ้าแม่ไม่ต้องการฉันฉันก็ต้องปรับตัว นี้คือที่มาที่ทำให้ฉันอยู่ด้วยกันกับพ่อ เค้าเศร้ามากพ่อผู้น่าสงสาร ฉันเดาว่ามันคงไม่น่าชื่นมืดนักที่ผู้หญิงที่คุณรักตัดสินใจว่าไม่ต้องการคุณอีกต่อไปและเค้าก็เริ่มผ่อนคลายด้วยการดื่มวันละแก้วสองแก้วตอนช่วงค่ำ “ขอโทษด้วยเจนนี่ เพื่อทำให้พ่อรู้สึกดีขึ้น “ลูกถือไหม’’
ฉันเป็นใครถึงจะได้ไปห้ามผู้ชายที่โตเต็มวัยแล้วจะมาดื่มอะไรนิดๆหน่อยๆทุกคืนละ และนี้ก็คือความผิดพลาดของฉัน 1 ในข้อบกพร่องที่หาได้ยากของพ่อ ก็คือการขาดความมุ่งมั่น ตอนนั้นฉันยังเล็กมากและยังไม่รู้สึกตัวได้เร็วพอ ตอนที่ฉันรู้ว่าเรามีปัญหามันก็สายเกินไปแล้ว จาก 2 แก้วกลายเป็น 4 แก้ว จาก 4 แก้วกลายเป็น 8 แก้ว จากนั้นพ่อก็จะหลับไปบนเก้าอี้นวมและฉันต้องพาเขาไปที่ห้องนอนและเขาก็หลับไปบนพื้น จากนั้นก็เริ่มขาดงาน พ่อบอกว่ารู้สึกดีขึ้นไม่รู้สึกไรค่าและโดดเดี่ยว ฉันว่าตอนนั้นเค้าคงอยู่หางจากอาการซึมเศร้าแค่ก้าวเดียว แต่..พูดตรงๆนะ ฉันอยากไห้เค้าทานยา เพื่อรับมือกับอาการทากกว่าที่จะดื่ม จนไม่รู้สติ แต่ฉันคิดว่านั่นมันยังโอเค ตราบใดก็ตามที่เค้ายังรู้สึกดีขึ้นไง..
โศกนาฏกรรมของมนุษย์อย่างเราๆ เริ่มต้นขึ้นเมื่อเค้าตัดสินใจว่าจะเลิกทำไห้ฉันกลัวเวลาที่อยู่ที่บ้าน และควรไปดื่มนอกบ้าน เชื่อฉันเหอะ.. สังคมของคนติดเหล้าเป็นอะไรที่เลวร้ายที่สุด เค้าไปบาร์สกปรกซอมซ่อ ผับที่ไม่ชวนเข้าไกล้และ สถานที่แออัดแย่ๆอื่นๆที่เค้าจะไปดื่มกับพวกคนติดเหล้า แล้วคุยกันถึงชีวิตอันแสนเศร้าของพวกเค้า อย่าคิดว่าพ่อมีปัญหาใช้ความรุนแรงหรืออะไรแบบนั้นนะ พ่อก็ยังเป็นพ่อที่ใจดีและชั่งเอาใจใสคนเดิม เค้าร้องไห้และขอไห้ฉันไห้ฉันยกโทษไห้แล้วบอกว่าจะเลิก แต่เค้าทำไม่ได้.. ปัญหาคือเค้าเริ่มใช้เวลาอยู่ที่นั่นตลอดทั้งคืน และคลานกลับบ้านแทนที่จะเดิน บางครั้งกลับมาพร้อมรอยฟกช้ำ บางครั้งลืมว่าต้องกลับบ้าน ในกรณีนั่นฉันต้องนั่งแท็กซี่ไปตามผับต่างๆด้วยตัวเองเพื่อมองหาพ่อ ไม่ใช้สิ่งแวดล้อมที่ดีเลยสำหรับเด็กผู้หญิงวัยรุ่นคนนึง ลองนึกภาพว่าฉันต้องเรียนรู้การโน้มน้าวเพื่อนฝูงพ่อ ไห้ปล่อยพ่อกลับบ้านและบางครั้งยังต้องพกไม้เบสบอลไปด้วย เพื่อไห้คนอื่นๆเข้าใจตัวฉันมากขึ้น ทุกคนจึงรู้ว่า เจนนี่น่ะ ไม่ใช้สาวน้อยที่พวกเค้าจะล้อเล่นด้วยได้ แน่นอนว่าฉันพยายามรักษาสภาพจิตใจของตัวเองเอาไว้ แต่มันยากแม้ว่าฉันจะเป็นคนที่แข็งแกร่งแค่ไหน ฉันรู้สึกเศร้าและก็โดดเดี่ยวมากความรู้สึกนั้นยิ่งเพิ่มพูนขึ้นทุกวัน
วันหนึงฉันไปบาร์ที่พ่อไป และก็มีผู้ชายตัวใหญ่อ้างว่าพ่อไม่จ่ายเงิน พ่อแถบไม่มีสติแล้ว ฉันก็ไม่มีเงินดังนั้นจึงบอกว่าพ่อจะมาจ่ายวันหลัง แต่ฉันไม่สามารถโน้มน้าวเค้าได้ ฉันจำไม่ได้แน่ชัดว่าหาทางออกมาจากที่นั่นมาได้ยังไง แต่ฉันพาพ่อกลับบ้านในสภาพสิ้นหวัง ฉันไม่เห็นความหวังใดๆอีกเลย และคิดว่าฉันต้องใช้ชีวิตปีหน้าทั่งปี ไปกลับการตามหาพ่อขี้เมาของฉัน นี้คือทางตันแล้ว วันถัดมาฉันอยากบอกพ่อว่า ฉันจะทิ้งเค้าไว้แล้วก็ไปหาแม่หรือไปที่อื่น เพราะฉันรับไม่ไหวอีกแล้ว “ฉันร้องไห้” แล้วพ่อก็มองฉันอย่างตื่นตกใจสุดขีด ฉันไม่แน่ใจว่าเค้าเคยเห็นฉันร้องไห้หรือป่าว นี้เองที่จะเป็นจุดเปลี่ยน พ่อรู้แล้วว่าจะทำแบบนี้ต่อไปไม่ได้อีก เป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นพ่อมีความมุงมั่น ในวันเดียวกันนั้นเค้าไปศูนย์บำบัดคนติดสุรา วันต่อมาเป็นวันเกิดครบอายุ 15 ปีของฉัน และฉันก็ตัดสินใจอยู่กับพ่อต่ออีกสักนิด และดูว่าเค้าจะอยู่แบบไม่ดื่มได้หรือไม่ กลายเป็นว่าชีวิตสวยงามมาก แม้จะไม่มีเหล้าเค้าพูดซ้ำๆทุกวัน พูดขอโทษตลอดเวลาสำหรับช่วงเวลา 3 ปีแห่งนรกนั้น แต่ฉันไม่ได้โกรธเคืองอะไร ฉันยังได้อะไรบางอย่างที่มีประโยขน์มากในช่วงเวลาที่น่ากลัวนั่น
ตอนนี้ฉันเป็นนักมวยปล้ำ และยังมีพรสวรรค์เลยที่เดียว พวกเค้าบอกว่าฉันมีลักษณะของคนที่เป็นนักรบ ฉันรู้เลยว่าบาร์แห่งไหนที่ฉันเป็นแบบเนี่ย พ่อมาไห้กำลังใจฉันทุกครั้งที่ลงแข่ง หลังจากไปบำบัดที่ศูนย์ แน่นอนว่าเค้าไม่ดื่มเลย และฉันรู้ว่าแม้สถานการณ์จะแย่ยิ่งกว่าที่คุณคิดไว้ แต่ความหวังก็ยังมีอยู่เสมอ
ทุกคน!! ถ้าคุณชอบเรื่องราวของฉันช่วยกดติดตามช่องนี้และแชร์ ทิ้งคอมเมนต์ไว้เพื่อไห้ทุกคนรู้ว่าคุณคิดยังไง กับปัญหาของฉัน