ครอบครัว

แม่ฉันปิดบังความจริงว่าพ่อของฉันเป็นใคร

ไงทุกคน! ชื่อของฉันคือ คอร์ชนี่ ฉันอายุ 14 ปี บอกฉันสิคุณเคยปรารถนาอะไรสักอย่างมาตลอดหรือเปล่า แต่พอคุณได้มา สิ่งเดียวที่คุณต้องการก็คือหมุนเข็มนาฬิกาให้ย้อนกลับไป อืมม ฉันเป็นแบบนั้นล่ะ

ตลอดชีวิตนี้ฉันอาศัยอยู่ อลาบามา ที่นี่ไม่ใช่ นิวยอร์ก แต่เราก็มีทะเลอยู่ใกล้ๆ และฉันรักที่จะใช้เวลาว่างที่นั่น มหาสมุทรนั้นบรรจุทั้งความฝันและแม้กระทั่งด้านมืดของตัวฉันไว้ ฉันอาศัยอยู่ที่นั่นกับแม่และยาย พ่อของฉันเป็นเจ้าหน้าที่ FBI และต้องทำงานเป็นสายลับ ฉันจึงไม่เคยเห็นเขาเลยตลอดชีวิต แต่แม่บอกให้ฉันรอพ่อกลับมาบ้าน ละฉันก็รอ ทุกวัน สิ่งนี้คือความหมายในชีวิตของฉันของฉันตั้งแต่เด็ก แต่ดูเหมือนงานของพ่อจะสำคัญยิ่งกว่า วันหนึ่งฉันกลับมาจากโรงเรียน ฉันเห็นรองเท้าบูธของผู้ชายที่ทางเข้า นั่นจะใช่พ่อของฉันรึเปล่า ฉันเข้าไปที่ห้องครัวทั้งที่ยังขาสั่น ที่นั่นมีอาหารเย็นจัดเตรียมไว้พร้อมสัพ กระทั่งจุดเทียนเอาไว้และยังมีไวน์ด้วยไม่มีอะไรจะโรแมนติคแบบนี้อีกแล้ว แม่ฉันนั่งอยู่ที่โต๊ะกับผู้ชายคนนึงเขาไม่ได้ดูเหมือนเจ้าหน้าที่ FBI และไม่ได้ดูตั้งตารอคอยที่จะพบฉันซึ่งเป็นลูกสาวของเขา ความตกใจที่ทำให้ฉันพูดไม่ออก แน่นอนว่านั่นไม่ใช่พ่อฉัน

ฉันวิ่งตรงวิ่งเข้าห้องไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ และระเบิดเสียงร้องไห้โฮ เมื่อแม่เข้ามาคุยกับฉันในห้อง ฉันก็เรียกร้องให้แม่ของฉันอธิบาย ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าแม่จะทำแบบนี้กับพ่อได้และจากนั้นเธอก็สารภาพว่า

พ่อของฉันไม่ใช่เจ้าหน้าที่ FBI และไม่ได้ทำงานแต่งตัวอะไร แม่ไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่า พ่อรู้หรือไม่ว่ามีลูกสาว แม่บอกว่าแม่สร้างเรื่องที่เกี่ยวกับพ่อผู้กล้าหาญทั้งหมดเพื่อที่ฉันจะได้ไม่เศร้าและโดดเดี่ยว ที่จริงแล้วแม่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพ่ออยู่ไหน นั่นคือจุดเริ่มต้นชีวิตฉันทั้งชีวิตถูกทำลายลงโดยพริบตา ฉันตรงไปที่ทะเล และเริ่มคิดถึงทุกสิ่งทุกอย่างไม่สามารถสะกดกลั้นความโกรธที่มีต่อแม่หรือต่อพ่อ ผู้ซึงน่าจะมีชีวิตที่ดีอยู่ที่ไหนสักแห่งได้ ฉันรู้สึกโกรธแม้กระทั่งโลกทั้งใบ นั่นคือวันที่ฉันเกิดควาปรารถนาอย่างหนึ่ง ฉันอยากออกไปจากเมืองนี้ อยากให้ทะเลชะล้างความเศร้าไปทั้งหมด เช่นเดียวกับที่พลัดพาเมืองทั้งเมืองและคนทรยศเหล่านี้ไปด้วย และคำวิงวอนของฉันก็ได้รับการตอบรับภายในเวลานาน มันเริ่มขึ้นวันหนึ่ง เมื่อฉันอยู่ที่โรงเรียน ฉันจำได้ว่ากำลังมองออกไปนอกหน้าต่าง ลมพัดต้นไม้และพุ่มไม้ปลิวไปทั่ว สายไฟแกว่งไกว คูน้ำเริ่มมีน้ำท่วมเอ่อ จากนั้นก็ถนน และบริเวณสวน ทั้งหมดเกิดขึ้นรวดเร็วพอพอกับที่เกิดขึ้น เมื่อฉันกลับบ้านฉันไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าบ้านของฉันอยู่นั่นหรือไม่

ที่นั่นมีคนมากมายกำลังมองหาข้าวของ และทีมกู้ภัยที่ค้นหาใต้เศษซากเพื่อหาผู้รอดชีวิต ฉันถึงขั้นชะงัก นี่อาจเป็นความผิดอะไรของฉันหรือเปล่าทีร้องขออะไรแบบนั้น หรือมันแค่ความบังเอิญครั้งมโหฬาร ฉันตรงไปที่สวนบ้านของตัวเอง และพบว่าตรงนั้นไม่มีบ้านของฉันอีกแล้ว มีแค่รถตำรวจ รถพยาบาล มีแค่รถคันหนึ่งมารับยายฉันไป ยายบาดเจ็บหนักมากในระหวางที่พายุเข้า เมื่อแม่เห็นฉัน แม่กอดฉันแน่นมาก และแม่บอกว่า ดีใจจริงๆ ที่หนูยังมีชีวิตอยู่ ตอนนั้นเราไม่มีเวลามานั่งเศร้า เราต้องเริ่มต้นใหม่ทั้งหมด แม่ฉันตัดสินใจย้ายไปนิวเจนซีย์ เพราะเรามีครอบครัวอยู่ที่นั่น แม่พยายามปลอบฉันว่า ทุกอย่างจะต้องเป็นไปด้วยดี และเราจะฝ่านเรื่องนี้ไปได้ เราทิ้งบ้านเกิดเดียวที่ฉันรู้จักไปด้วยหัวใจที่หนักอึ้ง มันดูเหมือนความฝันของฉันกลายเป็นความจริง แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างฉันกลับไม่รู้สึกดีใจแม้แต่น้อย ถึงแม้ว่าคุณลุงจะยินดีให้เราอยู่กับพวกเขา เราก็ยังต้องเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบาก ในบ้านไม่มีพื้นที่เพียงพอ แม่ยายและฉันต้องแบ่งห้องเล็ก ๆ อยู่ด้วยกัน

เราไม่มีเงิน แม่ผู้ยากจนต้องออกไปหางานทำเพื่อเลี้ยงชีพ ฉันต้องเข้าโรงเรียนใหม่ และเลี้ยงดูยาย แต่ความคิดที่ว่าฉันร้องขอจึงทำให้เกิดสิ่งเหล่านี้ คือสิ่งที่ทำให้ฉันเจ็บปวดเจียนตายที่สุด ฉันปรารถนาให้คนมากมายที่ฉันรักต้องเผชิญความยากลำบากถึงเพียงนี้ได้อย่างไร ฉันเห็นแม่กลับบ้านดึกทุกคืน แม่เหน็ดเหนื่อยสายตัวแทบขาด แต่ถึงอย่างนั้นก็ พยายายามชวนฉันคุย คุณยายอาการแย่สุด เคยใช้ชีวิตอยู่ริมทะเลอย่างสงบสุขตลอด ตอนนี้ยายนั่งเงียบๆอยู่ในห้องดูทีวีตลอดทั้งวัน สำหรับฉันโรงเรียนใหม่ถือว่าใช้ได้ แต่ฉันไม่รู้ว่ารู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของที่นี่ ฉันคิดถึงบ้านมาก มากจริง ๆ กลางดึกคืนหนึ่งขณะที่ทุกคนกำลังหลับใหล แม่บอกให้ฉันไปที่ห้องครัว เรานั่งอยู่ด้วยกันที่โต๊ะ ทันใดนั้นแม่ก็ดึงมือฉันไป และให้เศษกระดาษแผ่นหนึ่ง เอาล่ะตอนนี้แม่พูดอย่างรวดเร็ว ฉันสงสัยและนี่มันคืออะไร และแม่ก็ตอบว่า แม่หวังว่านี่คือกุญแจที่ลูกกำลังตามหา และเดินออกไป ฉันมองเศษกระดาษนั้นและพบว่าเป็นเบอร์โทรศัพท์กับคำว่า พ่อ คืนนั้นฉันนอนไม่หลับเลย ใจหนึ่งก็อยากโทร แต่บางอย่างก็รั้งฉันไว้ เศษกระดาษที่มีเบอร์โทรศัพท์ในกระเป๋าฉันดูราวกับหินหนักอึ้ง

วันแล้ววันเล่าฉันก็ยังไม่อาจรวบรวมความกล้าโทรไปได้ ระหว่างนั้นคริสมาสตร์อีพกำลังมากถึง แม่และฉันไปซุปเปอร์มาร์เกตุเพื่อซื้ออาหาร เราพูดคุยและหัวเราะกัน ระหว่างทางกลับบ้าน เราไปที่สวนใกล้แม่น้ำ ฉันมองไปยังแม่ และรู้สึกขอบคุณแม่มาก ๆ ฉันเพิ่งตระหนักในตอนนี้เองว่าความฝันและความปรารถนาทั้งหมดของฉันไม่มีอะไรเลย สิ่งเดียวที่ฉันต้องการคือให้ครอบครัวอยู่อย่างมีความสุขและปลอดภัย ดังนั้นฉันจึงโพล่งออกมาว่า หนูจะไม่โทรไป หยิบเศษกระดาษออกจากกระเป๋า และขว้างทิ้งลงไปแม่น้ำ แม่ดูประหลาดใจอย่างยิ่ง แต่ฉันคิดว่าตอนนี้จึงเป็นเวลาปลอดโปร่งโล่งใจของเราทั้งคู่ ฉันไม่รู้ว่าต่อไปนี้จะเกิดอะไรขึ้น หรือเราจะไปอยู่ที่ไหน แต่สิ่งที่ฉันแน่ใจมากคือ ฉันกำหนดความสำคัญของตัวเองใหม่ แน่นอนว่าโลกนี้ไม่มีเวทมนต์วิเศษ และฉันไมใช่ต้นเหตุของการเกิดเฮอริเคน แต่ฉันเชื่อว่าเราทุกคนต้องระวังความฝัน และความปรารถนาของตัวเองให้ดี เพราะบางทีมันอาจกลาย เป็นความจริงขึ้นมา

คุณเคยเสียใจกับคำขอและความฝันของตัวเองไหม คำขอของคุณนำไปสู่หายนะหรือเปล่า ถ้าคุณมีเรื่องราวที่อยากแบ่งปันอย่าลืมเขียนในช่องคอมเม้นต์ และฉันยินดีมากที่คุณแบ่งปันเรื่องราวของฉันกับเพื่อนของคุณ รักษาตัวเองด้วยนะ! คอร์ชนี่ เอง

เรื่องเล่าที่เกี่ยวข้อง

0 0 votes
Article Rating
Subscribe
Notify of
guest
0 Comments
Inline Feedbacks
View all comments
Back to top button
0
Would love your thoughts, please comment.x
()
x

ปิดโปรแกรมบล็อคโฆษณา

กรุณาปิดโปรแกรมบล็อคโฆษณาก่อนนะ เพราะเว็บจะอยู่ได้ก็จากป้ายโฆษณา