ฉันถ่ายรูปส่วนตัวให้แฟนดูคนเดียว และเขาเอาไปโชว์ให้ทุกคนเห็น

เฮ้ชื่อของฉันคือ “อลิสัน” ความสัมพันธ์กับแฟนคนแรกของฉันก็จบลงแบบหายนะเมื่ออดีตแฟนหนุ่มปล่อยรูปถ่ายที่เป็นส่วนตัวมากๆ ของฉันบนอินเทอร์เน็ตแฟนเก่าฉันเรียกคำว่า “เจคอบ”

ตอนแรกก็เป็นผู้ชายที่ดีมากเขาตลกก็ช่างเอาใจใส่มากจริงๆ และมักจะทำเรื่องโรแมนติกให้ฉันซึ่งน่ารักมากแต่แล้วเขาก็เปลี่ยนไปเขาเผยธาตุแท้ของตัวเองออกมามากกว่าเขากลายเป็นคนหยาบคายและชอบโต้เถียงกับฉันได้ทุกเรื่องถ้าฉันอยากจะไปเจอเพื่อนเขาจะโกรธมากเลยโวยวายแต่เขาก็จะไปหาเพื่อนที่ฉันไม่ชอบขี้หน้าเกือบทุกวันฉันจึงรู้ทันทีว่าแบบนี้ไม่ดีแล้วแต่ฉันก็ยังคบต่ออีก 3 เดือน

ว่าพอเถอะเลิกกับเขาฉันเศร้ามากแต่นั่นเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องและฉันคิดว่าทุกอย่างจบลงแล้วแต่ก็ไม่ใช่เขาเริ่มส่งข้อความหาฉันเรื่องรูปที่ฉันเคยส่งให้เขา เขาบอกว่าจะเอารูปพวกนั้นไปแฉถ้าฉันไม่กลับไปคบกับเขาฉันกลัวมากจริงๆ และไม่รู้ด้วยว่าต้องทำยังไงฉันเริ่มวาดภาพในหัวว่าจะเป็นอย่างไรถ้าทุกคนเห็นรูปภาพพวกนั้นและนั่นก็น่ากลัวเอามากๆ ฉันไม่อยากกลับไปคบกับเขาและขอหลายครั้งมากก็อย่าทำแบบนี้แต่เขาก็ยังแบล็คเมล์ฉันอยู่อย่างนั้นตลอดเวลาเขาส่งข้อความหาฉันทั้งกลางวันกลางคืนและยังโทรมามากกว่า 50 ครั้งในแต่ละวันน่ากลัวมากๆ สุดท้ายฉันก็จนมุมแล้วกลับไปคบกับเขา

ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองคิดอะไรอยู่บางทีคงเป็นเพราะความกลัวหรืออะไรสักอย่างการไปออกเดทก็เลวร้ายมากตลอดเวลาเขาพยายามพิสูจน์ให้ฉันเห็นว่าฉันเป็นฝ่ายผิดที่ทิ้งเขาไปและฉันเป็นพวกหัวสูงหยิ่งยโสไปเองและจากนั้นเขาก็จูบฉันแต่ฉันบอกว่าไม่แล้วมันทำให้เขาโกรธมากจนตวาดใส่ฉันเพราะงั้นฉันเลยโดดขึ้นรถประจำทางหนีไปทั้งอย่างนั้นจากนั้นเขาก็ส่งข้อความมาหาฉันบอกว่านี่เป็นโอกาสสุดท้ายให้คิดใหม่

ฉันบอกว่าไม่และขอว่าอย่าแชร์รูปพวกนั้นออกไปหลังจากนั้นฉันบล๊อกช่องทางการติดต่อกับเขาทุกทาง แต่ฉันก็ยังกลัวเพราะไม่รู้ว่าเขาจะเอารูปฉันไปโพสต์หรือไม่ได้ ไม่นานฉันก็พบว่าเขาทำจริงๆ เขาส่งรูปของฉันไปให้เพื่อนๆ ของเขาแล้วก็หัวเราะกันเวลาที่ฉันเดินผ่านไปทางเดินโรงเรียนและเรียกชื่อฉัน ฉันอับอายมาก ที่มากกว่านั้นคือความกลัวพวกเขาเอาเรื่องของฉันไปพูดกันทั่วโชว์รูปให้คนอื่นๆ ดูและปั้นแต่งเรื่องของฉันออกมามากมายซึ่งทั้งหมดนั้นไม่ใช่เรื่องจริงเลยสักนิดฉันกลัวมากว่าคนอื่นจะปฏิบัติต่อฉันยังไงและจากนั้นฉันก็เห็น “เจคอบ” กับพวกเพื่อนของเขาที่ยิ้มกริ่มกันอย่างมีความสุขแน่นอนเขาบอกทุกคนว่านี่คือสิ่งที่ฉันสมควรได้รับฉันร้องไห้หนักมากแต่ก็ยังกลัวที่จะบอกใครสักคน

กระทั่งกับเพื่อนของฉันพวกเขาจะเห็นรูปนั้นแล้วก็ตามบางครั้งฉันก็ไม่อยากไปโรงเรียนและฉันก็ไม่อยากคุยกับใครเลยแต่ฉันก็ไม่สามารถบอกพ่อแม่ได้เพราะงั้นเลยยังต้องไป ฉันไม่อยากรอกระทั่งคนอื่นๆ ลืมเรื่องนี้จึงเลิกบล็อก “เจคอบ” และส่งข้อความหาเขาฉันบอกให้เขาหยุดทำเรื่องพวกนี้และลบทุกอย่างทิ้งไปฉันเก็บภาพบทสนทนาทั้งหมดบนหน้าจอของเราไว้จะเอาให้ตำรวจดูถ้าเขาไม่เลิกแต่เขาก็แค่หัวเราะใส่หน้าฉันและบอกฉันว่า

ฉันทำอะไรไม่ได้หรอกเพราะไม่มีใครช่วยฉันแน่ฉันจะมีภาพหน้าจอเป็นหลักฐานก็ตามจากนั้นฉันรู้ว่าฉันไม่มีทางเลือกอื่นแล้วนอกจากสารภาพกับพ่อแม่ถึงเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นฉันขอให้พ่อแม่ฟังเรื่องที่ฉันพูดได้ไม่อาจเริ่มเล่าได้โดยที่ไม่ร้องห่มร้องไห้ พ่อแม่ฉันกังวลใจมากแต่สุดท้ายฉันก็บอกทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันน่ากลัวมากที่เห็นว่าพ่อของฉันโกรธแค่ไหนพ่อตะโกนใส่ฉันว่าฉันทำแบบนั้นไปได้ยังไงเขาก็บอกว่าเขาจะลงโทษ “เจคอบ” ยังไงบ้าง แต่ที่จริงพ่อไม่ได้เรียกเขาว่า “เจคอบ” หรอกแต่ เอ่อ…คำอื่นน่ะ

ฉันเอาแต่ร้องไห้อย่างเดียวแล้วในตอนนั้นแล้วพ่อก็เดินกลับไปกลับมาในห้องแม่ของฉันตรงกันข้ามสงบนิ่งและบอกให้พ่อใจเย็นๆ เราต้องคิดกันว่าจะทำยังไงต่อไปหลังจากที่พ่อของฉันใจเย็นลงนิดหน่อยแล้วเราก็มาเริ่มคิดกันฉันไม่รู้จริงๆ ว่าต้องพูดอะไรเหมือนกับฉันทำให้พวกเขาผิดหวังมากพวกเขาตัดสินใจไปถามเพื่อนที่เป็นทนายเพื่อขอความเห็นฉันนอนไม่หลับทั้งคืนรอให้พ่อแม่ติดต่อทนายในวันรุ่งขึ้นสุดท้ายหลังจากพ่อแม่ถามไปเขาก็ตกใจมากกับสิ่งที่เกิดขึ้นในเบื้องต้นเขาอธิบายว่าถ้าเราตัดสินใจฟ้องจะต้องใช้เวลาพลังงานและอาจเป็นเงินจำนวนมากดังนั้นบางทีก็จึงควรหาทางอื่นแก้ปัญหานี้

พ่อแม่ฉันจึงติดต่อพ่อแม่ของ “เจคอบ” แล้วเราทั้งหมดก็ไปเจอกันเป็นสถานการณ์ที่น่ากระอักกระอ่วนมากพ่อแม่ของเขาตะลึงเมื่อได้ยินเรื่องทั้งหมดและพ่อฉันพยายามอย่างมากที่จะอยู่ห่างๆ “เจคอบ” “เจคอบ” นั่งอยู่ตรงนั้นดูสับสนเหมือนเด็กน้อยพยายามพูดว่าเขาไม่ได้ทำและฉันเป็นฝ่ายโกหกจากนั้นทนายก็เอาภาพหน้าจอให้ทุกคนดูซึ่งนั้นทำให้เขาหมดทางแก้ตัวฉันต้องบอกว่าฉันดีใจมากที่เห็นว่าเขาหวาดกลัวแค่ไหน หลังจากที่เขาทำแบบนั้นกับฉันทนายบอกว่า

“เจคอบ” ต้องลบรูปทั้งหมดและคนที่มีรูปพวกนี้ก็ต้องลบออกด้วย หรือพูดอย่างนึงก็คือทุกคนอาจต้องติดร่างแหไปเช่นนั้นเราจะติดต่อตำรวจและจากนั้น “เจคอบ” ก็คงจะต้องเจอเรื่องยุ่งยากมากๆ แน่เรารอจนแน่ใจว่า “เจคอบ” โทรหาเพื่อนส่วนใหญ่ของเขาต่อหน้าเราและบอกกับทุกคนด้วยน้ำเสียงที่อับอายว่าให้ลบรูปทิ้งไปไม่อย่างนั้นพวกเขาอาจมีปัญหาได้ ฉันมีความสุขมาก แต่พูดกันตรงๆ ฉันไม่อาจทำอะไรกับรูปที่อยู่บนอินเตอร์เน็ตได้

เพื่อทนายของพ่อแม่ฉันทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้แล้วแต่ก็ใช่ฉันไม่รู้หรอกว่ายังมีคนที่มีรูปพวกนี้อีกไหมแต่อย่างน้อยใจ “เจคอบ” ก็ได้รับผลของการกระทำของเขาแล้วพ่อแม่ฉันยอมจบเรื่องแต่พ่อแม่ของเขายึดทุกอย่างที่เขามีอย่างโทรศัพท์ได้ยังตามไปรับส่งเขาที่โรงเรียนทุกวันฉันยังคงรู้สึกไม่ดีทุกเรื่องที่ว่าทุกคนรู้กันหมดแล้วว่าเกิดอะไรขึ้นดังนั้นฉันเลยตัดสินใจทำเรื่องประหลาดไป

ฉันเขียนเล่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นตั้งแต่ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างแล้วบอกว่าเรื่องนี้อาจเกิดกับใครได้เราควรระมัดระวังให้มากกว่านี้และไม่ควรพยายามใช้เหตุผลกับคนอย่างนั้นแต่ให้ร้องขอความช่วยเหลือในทันทีคนอื่นๆ ให้กำลังใจฉันอย่างมากพวกเขาคิดว่าฉันกล้าหาญมากจริงๆ ที่แก้ไขเรื่องนี้อย่างตรงไปตรงมาแล้ววันหนึ่งเขาก็มาหาฉันบอกว่าเขาขอโทษแต่คุณรู้อะไรไหมฉันบอกเขาว่าเขาคุณอยู่ห่างๆ ฉันฉันไม่อยากเจอปัญหาเพราะเขาไม่ได้เสียใจจริงๆ หรอกเขาแค่กลัวและฉันก็ไม่ต้องการยกโทษให้คนแบบนั้น

แบ่งปันเรื่องราวนี้เพื่อให้ทุกคนรู้ว่าเราไม่ควรหวาดกลัวเวลาตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้และต้องหาทางแก้ทันทีไม่ใช่เราอยู่เฉยๆ เรื่องนี้สำคัญมาก