ครอบครัว

พ่อผมให้ผมนอนริมถนนราวกับคนคนจรจัด

เฮ้ ไงทุกคนผมชื่อ “อเล็กซ์” และผมอายุ 14 ปีผมอยากบอกพวกคุณเกี่ยวกับเหตุการณ์ช่วงหนึ่งที่เปลี่ยนชีวิตของผมไปโดยสิ้นเชิงเรื่องทั้งหมดเริ่มขึ้นเมื่อหลายปีก่อนเมื่อพ่อแม่ของผมหย่ากันแล้วแม่ผมบอกว่าหลังจากนี้พ่อผมจะไม่มีสิทธิ์ได้พบผมอีกต่อไปผมต้องบอกก่อนว่าผมคาดหวังมาตลอดว่าเรื่องทำนองนี้จะเกิดขึ้นพ่อแม่ของผมทะเลาะกันตลอดเวลาที่จริงพวกเขาก็ทะเลาะกันมานานตั้งแต่ผมจำความได้แล้ว แล้วสำหรับผมพวกเขามักทำตัวแบบตำรวจดีตำรวจเลวเสมอแม่ผมจะตะคอกดุว่าผมเรื่องอะไรสักอย่างจากนั้นพ่อผมก็จะซื้อไอศกรีมให้และทำให้ผมใจเย็นลงแต่ระหว่างที่พวกเขาทะเลาะกันครั้งสุดท้ายแม่บอกว่าแม่จะยึดสิทธิ์การเลี้ยงดูของผมไปจากพ่อและยังห้ามไม่ให้เขาได้พบผมอีกเลย

สิ่งที่เลวร้ายที่สุดก็คือแม่ทำแบบนั้นไปแล้วจริงๆพ่อผมไม่มีหน้าที่การงานมั่นคงและยังไม่มีบ้านให้อยู่หลังจากหย่าร้างดังนั้นแน่นอนที่สุดว่าศาลต้องริบสิทธิ์การเลี้ยงดูผมไปจากเขาวันถัดมาพ่อผมไปรับผมที่โรงเรียนแล้วบอกว่าเราคุยกันพ่อบอกผมว่าผมมีสิทธิ์ที่จะเรียกว่าผมอยากอยู่กับใครจากนั้นเสนอว่าผมมีโอกาสไปอยู่เมืองอื่นกับพ่อและเริ่มต้นชีวิตใหม่แน่ละว่าผมตอบตกลงตอนนั้นแม่ของผมคือปีศาจร้ายที่ต้องการจะเอาพ่อไปจากผมดังนั้นเราจึงเก็บข้าวของทั้งหมดที่จำเป็นและเตรียมตัวจะออกไปอยู่แล้วในตอนที่ผมถามเขาว่าเราไม่ควรบอกแม่เหรอว่าเรากำลังจะไปแล้วแต่พ่อรับรองว่าเขาคุยกับแม่เรียบร้อยแล้วนั่นแหละคือตอนที่ผมได้บอกลาบ้านเกิดของผม

ระหว่างที่เราขับรถกันไปตามถนนใหญ่พ่อบอกผมว่าเราจะทำอะไรบ้างก็บอกว่าเราจะไปอยู่ที่บ้านของเพื่อนพ่อนานสัปดาห์หนึ่งจนกว่าเขาจะหางานได้จากนั้นเราจะไปเช่าอพาร์ทเม้นท์หาโรงเรียนให้ผมแล้วจากนั้นเราจึงไปจัดการเรื่องการหย่าและสิทธิ์การเลี้ยงดูอะไรนั่นฟังดูเป็นแผนที่ดีพ่อดูกระตือรือร้นแล้วก็วนกระวายและความกระตือรือร้นของเขาก็ส่งผ่านมาถึงผมด้วยผมคิดว่าเราคงอยู่ได้ดังนั้นจึงหลับตาแล้วเผลอหลับไปเตรียมพร้อมที่จะพบเจอสิ่งใหม่ๆในชีวิตเราไปถึงบ้านของเพื่อนหลังจากตะวันตกดินไปแล้วแต่โชคไม่ดีที่เขาไม่อยากให้เราพักอยู่กับเขาได้เขามีครอบครัวแล้วและเห็นได้ชัดว่าในบ้านมีคนมากเกินไปตอนนั้นเองผมถึงได้รู้ว่าพ่อไม่ได้คิดจะถามเพื่อนก่อนด้วยซ้ำว่าเพื่อนของเขาจะให้เราอยู่ด้วยหรือไม่ตอนนั้นมืดแล้วเราก็เหนื่อยล้าก็เลยตัดสินใจว่าเราต้องอยู่โรงแรมไปก่อนเรื่องนี้ไม่ได้อยู่ในแผนการของเราเพราะการพักค้างในโรงแรมมีราคาแพงมากและพ่อก็ไม่มีงานทำ

อีกหลายวันถัดจากนั้นพ่อผมก็ตะเวนไปสัมภาษณ์เพื่อหางานทำโชคร้ายที่แต่ละครั้งเขากลับมาพร้อมกับความเศร้าเขาทำทุกอย่างล้มเหลวซ้ำแล้วซ้ำอีกแล้วช่วงเวลานั้นก็มาถึงพ่อบอกว่าเงินของเราใกล้หมดแล้วเราก็ไม่มีเงินพอจะเช่าห้องพักโรงแรมได้อีกพอพยายามจะมองโลกในแง่ดีและโน้มน้าวให้ผมเชื่อว่าทุกอย่างจะเป็นไปด้วยดีแต่ในความเป็นจริงคือเราต้องอาศัยอยู่ในรถมันไม่สบายตัวเอามากๆเลยแต่ก็เป็นสิ่งจำเป็นเพราะต้องเก็บเงินเอาไว้วันแล้ววันเล่าผ่านไปโดยที่เราโอนไปรอบๆเมืองเพื่อหางานทำและอะไรๆ ก็เลวร้ายมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วหลังจากนั้นในคืนหนึ่งผมก็สูญเสียความตื่นเต้นทั้งหมดไปโดยสิ้นเชิงเราไม่มีแก๊สแล้วแล้วพ่อก็คิดแผนหนึ่งขึ้นมาอีกแล้วขับรถไปยังที่แห่งหนึ่งที่ดูเหมือนลานจอดรถพ่อบอกว่าต้องการความช่วยเหลือของผม เขาหยิบกระป๋องละสายฉีดมาตั้งใจจะทำอะไรสักอย่างเพื่อสูบแก๊สจากรถของคนอื่นแล้วผมต้องคอยดูต้นทางให้เขา

หลังจากนั้นไม่กี่นาทีผมได้ยินเสียงผู้ชายคนหนึ่งตะโกนว่า เฮ้!!! พวกนายกำลังทำอะไรน่ะ บ้าจริงผมไม่ทันสังเกตเห็นเขาแล้วตอนนี้เขากำลังวิ่งตรงมาหาเรา เราเริ่มวิ่งหนีเขาตามเราทันได้พ่อบอกว่าจะถ่วงเวลาเค้าไว้แล้วเราค่อยไปพบกันในศูนย์การค้าใกล้ๆทีหลังในสภาพตื่นกลัวผมวิ่งเปะปะไปอย่างไร้ทิศทางและวินาทีต่อมาผมก็ได้ยินเสียงโลหะตกกระแทกพื้นผมกลัวท่านคิดว่าเกิดอะไรขึ้นกับพ่อของผม 10 นาทีให้หลังผมนั่งอยู่บนม้านั่งในศูนย์การค้าหอบเหนื่อยหายใจไม่ทันไม่นานพ่อผมก็มา โอ้ พระเจ้าเขาดูแย่สุดๆเสื้อผ้าของพ่อสกปรกแขนเสื้อนอกของเขาขาดแล้วบนใบหน้ายังมีรอยพกช้ำขนาดใหญ่นี่มันแย่มากปรากฏว่าผู้ชายคนที่ไล่ตามเรามาคือพนักงานรักษาความปลอดภัยของลานจอดรถและเขาก็ตั้งใจจะจับเข้าคุกแต่โชคดีที่พ่อหนีรอดมาได้ โอเค พ่อไม่เป็นไรแต่ตอนนี้เข้าของทั้งหมดของเราอยู่ในรถแล้วไม่มีทางที่เราจะไปเอาได้เพราะพนักงานรักษาความปลอดภัยคนนั้นอาจโทรเรียกตำรวจมาแล้ว

สรุปก็คือเราไม่มีเงิน ไม่มีอาหาร ไม่มีน้ำ แล้วไม่มีที่ซุกหัวนอน เราเดินตามไปถนนอันว่างเปล่าท้องหิวแล้วเหนื่อยล้าไม่ต้องพูดถึงว่าผมไม่ได้อาบน้ำมา 5 วันแล้วไม่นานผมก็หมดแรงเอาดื้อๆพ่อจึงบอกว่าเราต้องไปนอนในสวนสาธารณะก่อนพรุ่งนี้เราจะหาทางออกได้เองพ่อปลูกผมและพูดประโยคที่ไม่คาดคิดออกมาว่าเจ้าลูกชายเรามีข่าวดีแล้วแน่ล่ะว่าข่าวดีเป็นอะไรที่ตอนนี้ผมต้องการเลยพ่อบอกว่าเขาหาสถานที่ ที่เราจะได้อาหารฟรีแล้วแต่ผมไม่ได้คิดว่าที่นั่นจะเป็นโรงอาหารของพวกคนจรจัดเราได้รับซุป 1 ชามและขนมปังจำนวนหนึ่งได้ทันทีที่ผมหยิบเข้าปากดวงตาของผมก็เอ่อล้นไปด้วยน้ำตา ผมมาถึงที่สุดของความอดทนแล้วผมไม่อยากอยู่แบบนี้ต่อไปได้อีกแล้วเริ่มร้องไห้และขอให้พ่อพาผมกลับบ้านไปหาแม่แล้วดูเหมือนพ่อของผมก็เหนื่อยล้าแล้วเช่นกันเขาเลยบอกว่าเขาทำแบบนั้นไม่ได้แล้วบอกอีกว่าเขาจะต้องหาวิธีให้เราได้กลับบ้าน

เพื่อให้ผมร่าเริงขึ้นพ่อบอกว่าเขาจะไปหาอาหารปกติมาให้เราแล้วปล่อยให้ผมรออยู่นอกซุปเปอร์มาเก็ทผมรู้ว่าเราไม่มีเงินแล้วรู้ไหมว่าพ่อของผมจะเข้าไปขโมยอาหารผมเลยเริ่มเป็นกังวลขึ้นมา เมื่อเขายังไม่ออกมาสักทีในอีกสิบนาทีให้หลังจะเป็นอย่างไรถ้าเขาถูกยามกักตัวไว้แต่เมื่อรถตำรวจมาจอดหน้าร้านผมก็แน่ใจแล้วว่าพ่อถูกจับได้ผมกลัวดังนั้นจึงตัดสินใจวิ่งหนีไปผมก็แค่ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรผมเดินเร่ร่อนไปตามถนนจนกระทั่งฟ้ามืดผมกลัวหิวและทำให้คนทุกคนที่เห็นผมกลัวไปด้วยคนอื่นมองผมแปลกๆ แน่ละผมเป็นเด็กที่ร้องไห้จนหน้าตามอมแมมสวมเสื้อผ้าสกปรกที่เดินอยู่ตามลำพังในเมืองใหญ่นี้ผมไม่มีที่ไปก็เลยตัดสินใจเดินเข้าไปหาตำรวจคนแรกที่ผมพบ เพื่อขอความช่วยเหลือและนั่นก็คือสิ่งที่ผมทำพวกเขาให้ผมขึ้นรถแล้วพาผมไปที่สถานี

เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่สังคมสงเคราะห์ถามผมว่าผมอดอยากหรือไม่พอของผมบังคับให้ผมทำอะไรหรือเปล่าและคำถามแย่ๆอีกหลายอย่างหลังจากนั้นผมก็เลยได้รับการบอกเล่าว่าตำรวจตามหาผมตลอดทั้งวันและแม่ของผมกำลังเดินทางมาที่นี่เมื่อแม่มาถึงแม่วิ่งตรงเข้ามาหาผมทั้งน้ำตาและกอดผมแน่นระหว่างที่เราขับรถกลับบ้านแม่บอกผมว่าแม่กังวลและหวาดกลัวแค่ไหนแม่บอกว่าตำรวจตามหาเราตั้งแต่วันแรกบางที่อาจเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ผมรู้สึกว่าจริงๆแล้วแม่ก็รักผมปรากฏว่าพ่อไม่ได้บอกแม่ว่าเราจะไปเขาแค่โทรหาแม่ในเช้าวันนั้นหลังจากถูกจับแล้วบอกว่าแม่ต้องมาเพราะผมหลงทางและอยู่ตัวคนเดียวในเมืองใหญ่ ผมดีใจที่ได้กลับบ้านแต่ก็กังวลเรื่องพ่อมากจริงๆการขโมยของในร้านมีโทษปรับแต่ความจริงที่ว่าเขาลักพาตัวผมและทำให้เราต้องไปอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบนั้นไม่ใช่แค่พ่อต้องเสียสิทธิ์ความเป็นพ่อแม่แต่ยังต้องเข้าคุกด้วยแล้วเรื่องนี้ก็คือจุดที่ทำให้ผมไม่สบายใจที่สุดเลย

แล้วนี่ก็ผ่านไป 2 ปีแล้วนับตั้งแต่เรื่องทั้งนั้นพ่อโชคดีที่แค่ถูกตัดสินให้รอลงอาญาจากการลักพาตัวคนในครอบครัวถ้าคุณจะเรียกแบบนี้ว่าโชคดีนะเราคุยกันทางโทรศัพท์อยู่บ่อยๆแม่ไม่ได้ห้ามให้เราคุยกันเห็นได้ชัดว่าหลังจากที่เกิดเรื่องครั้งนั้นแม่จึงตระหนักได้ว่าผมรักพ่อมากแค่ไหนและตอนนี้แม่ก็กำลังพยายามจะเป็นแม่ที่ดีที่สุดสำหรับผมพ่อสัญญาว่าจะพยายามทำให้ชีวิตเข้ารูปเข้ารอยหางานทำและขอสิทธิ์ที่จะได้เจอผมกลับมา

ใครจะรู้ล่ะบางทีความสัมพันธ์ของพ่อแม่ผมอาจดีขึ้นด้วยก็ได้ขอบคุณทุกคนที่รับชมบอกผมทีว่าคุณจะอยู่ในสภาพแบบนั้นเพื่อพ่อแม่ของคุณไหมแบ่งปันความคิดของคุณได้ในช่องคอมเม้นต์และอย่าลืมกดติดตามช่องของเราเพื่อรับชมเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงอีก 

เรื่องเล่าที่เกี่ยวข้อง

0 0 votes
Article Rating
Subscribe
Notify of
guest
0 Comments
Inline Feedbacks
View all comments
Back to top button
0
Would love your thoughts, please comment.x
()
x

ปิดโปรแกรมบล็อคโฆษณา

กรุณาปิดโปรแกรมบล็อคโฆษณาก่อนนะ เพราะเว็บจะอยู่ได้ก็จากป้ายโฆษณา