ครอบครัว

พี่สาวของฉันเป็นแม่แท้ ๆ ของฉัน แต่เธอไม่อยากมีฉัน

สวัสดีทุกคนฉันชื่อ “เมอร์ซี่” นะแล้วฉันอายุ 16 ขวบทุกคนเคยได้ยินคำพูดที่ว่าลูกจะต้องรับกรรมที่ไม่ดีของพ่อแม่ตัวเองไหมเพราะฉันคือเด็กคนนั้นฉันคิดว่าสาเหตุหลักๆของปัญหาของฉันคือการที่ฉันไม่สามารถมองแม่แท้ๆของตัวเองเป็นแม่ได้ถึงแม้ว่าฉันจะรู้จักเธอมาตั้งแต่เกิดและรู้ว่าเธอเป็นแม่แท้ๆของฉันมันนานแล้วตั้งแต่ฉันอายุ 8 ขวบแหนะในตอนนั้นคุณพ่อของ “เบ็น” บอกว่าจริงๆแล้ว “แอนนิส” พี่สาวของฉันคือแม่แท้ๆของฉันคุณพระช่วยตอนนั้นฉันดีใจมากๆเลยล่ะแต่เพราะ “แอนนิส” อาศัยอยู่ที่เมืองอื่นพวกเราเลยไม่ค่อยได้เจอกันบ่อยนักแต่ถึงยังไงฉันก็รอให้เธอมาเยี่ยมอย่างใจจดใจจ่อเหมือนกับรอวันคริสต์มาสเลยมียังหมายความว่าลูกๆของ  “แอนนิส”  คือพี่น้องแท้ๆของฉันและฉันก็ได้ยินมาว่า “แอนนิส” กำลังจะมีลูกอีกคนในไม่ช้าแน่นอนว่าในตอนนั้นฉันขอให้พ่อรีบพาฉันไปเจอ “แอนนิส” ให้เร็วที่สุด

ในขณะที่ฉันมองออกนอกหน้าต่างรถไฟและรำลึกถึงการพบกันของ “แอนนิส” ในฐานะแม่ของฉันเป็นครั้งแรกฉันก็นึกได้ว่าจริงแล้วพ่อของฉันก็คือปู่ของฉันนี่มันอาจจะฟังดูประหลาดว่าถึงแม้ตอนนี้ทุกอย่างจะกระจ่างแล้วก็ตามฉันก็ยอมรับมันได้ยากอยู่ดีลองนึกดูนะ “เบ็น” ในตอนนั้นอายุเกิน 50 เขาอายุมากกว่าพ่อของเพื่อนๆ ฉันทุกคนการพยายามปรับตัวเข้ากับโลกใบใหม่ในหัวทำให้ฉันสับสนอย่างมากแต่ความรู้สึกอิ่มเอิบที่รู้ว่าฉันจะได้ไปกอดแม่ของฉันในอีกไม่ช้าคือสิ่งที่สำคัญที่สุดฉันมีช่วงเวลาเดียวในชีวิตที่ฉันรู้สึกว่า “แอนนิส” เป็นแม่ของฉันคือตอนที่ฉันไปถึงบ้านของเธอแล้วพูดประโยคง่ายๆแบบลิ้นพันกันไปแบบไม่อายว่าคุณแม่ช่วยหวีผมให้หนูหน่อยและในขณะที่ “แอนนิส” กำลังหวีผมให้ฉันเราก็คุยกันเรื่องลูกในท้องของเธอนั้นเป็นช่วงเวลาที่ฉันมีความสุขที่สุดเลย

และเธอฉันก็มีความสุขอยู่สักพักหลังจากที่ “เบ็น” กับฉันกลับมาถึงบ้านฉันไม่ค่อยมีเพื่อนสนิทหรอกแต่ฉันก็เล่าให้ทุกคนที่ยอมฟังว่าเดี๋ยวฉันจะไปอยู่กับแม่แท้ๆของฉันในอีกไม่ช้าแล้วโชคดีที่เรื่องราวชีวิตของฉันไม่ได้น่าสนใจเท่าไหร่ก็เลยไม่มีใครถามว่าหลังจากนั้นจะเกิดอะไรขึ้นเพราะเมื่อเวลาผ่านไปหลายเดือนเข้าฉันก็เริ่มรู้ว่า “แอนนิส” ไม่ได้คิดจะเปลี่ยนชีวิตตัวเอง “เบ็น” คนที่ฉันก็เริ่มกลับมาเรียกว่าพ่ออีกครั้งก็พยายามปลอบใจฉันเขาบอกว่า “แอนนิส” กำลังมีช่วงเวลาที่ลำบากน้องจะกำลังรอคลอดแล้วลูกคนอื่นของเธอก็ต้องการการดูแลจากเธอเหมือนกันและตอนนี้ก็ไม่ใช่เวลาที่ดีที่จะเปลี่ยนแปลงอะไรแต่เวลาที่เหมาะสมนั้นก็ไม่เคยมาถึงสักทีก็ฉันก็เริ่มกลับมาเรียก “แอนนิส” คือว่าพี่สาวอีกครั้ง “เบ็น” ก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะมันเป็นเรื่องที่ง่ายกว่าสำหรับพวกเราทั้งคู่ 

4ปีผ่านไปจู่ๆ “เบ็น” กับฉันก็ได้ข่าวมาว่า “แอนนิส” แยกทางกับสามีของเธอและทิ้งลูกทั้งสามคนของเธอเอาไว้กับเขาตอนนั้นฉันอายุ 12 ปีแล้วและ “เบ็น” ก็ไม่ได้เก็บอาการตอนที่เขารู้เรื่องเลยสักนิดแต่ฉันกลับรู้สึกเต็มไปด้วยความหวังถ้า “แอนนิส” ทิ้งพวกเขาไปงั้นก็แปลว่าเธอจะกลับมาหาพวกเรามาหาฉัน ฉันไม่ได้บอก “เบ็น” เกี่ยวกับเรื่องที่ฉันคิดฉันเก็บมันไว้ในส่วนลึกในจิตใจของฉันแต่เมื่อฉันรู้ว่า “เบ็น” ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของ “แอนนิส” ฉันเลยเถียงกับเขาปกป้องอันนี้อย่างหมดใจหาเหตุผลต่างๆนานาเพื่ออธิบายการกระทำของเธอในตอนนั้นที่ฉันถามเขาว่าทำไมเขาถึงรับเลี้ยงฉันแล้วเขาก็เล่าให้ฟังว่า “แอนนิส” อายุแค่ 16 ปีตอนที่มีฉันเธอต้องอดเรียนไปปีนึงเพราะว่าเหตุผลนี้และเธอก็ย้ายไปเรียนเมืองนอกเพื่อที่จะเรียนให้จบทิ้งฉันเอาไว้กับ “เบ็น” พ่อของเธอและตอนที่อันนี้กลับมาเธอก็ไม่อยากอยู่กับ “เบ็น” พอเธอได้งานแล้วเช่าห้องอยู่เองได้เท่านั้นแหละเธอก็ย้ายออกไปแล้วพาฉันไปด้วย

แต่เด็กทารกที่อายุยังไม่ถึง 2 ขวบคงมีแต่จะสร้างปัญหาให้เธอเวลาเธอออกไปทำงานเธอมักจะทิ้งฉันไว้กับเพื่อนร่วมห้องของเธอที่ทำงานอยู่ที่บ้านมีครั้งนึงเขาออกไปหาของกินข้างนอกแล้วดันไปเจอเพื่อนจริงๆมันก็ไม่น่ามีปัญหาอะไรแต่เขาดันลืมปิดหน้าต่างห้องด้วยนี่สิมันเป็นช่วงฤดูหนาวฉันสวมชุดที่เนื้อผ้าบางดังนั้นฉันจึงเป็นปอดบวมหลังจากร้องไห้ในห้องเย็นๆเป็นเวลาหลายชั่วโมง “เบ็น” พาฉันกลับไปที่บ้านของเขาหลังจากที่พาไปโรงพยาบาลเขาคิดว่านี่จะเป็นการแก้ปัญหาชั่วคราวแต่ 6 เดือนต่อมา “แอนนิส” ก็แต่งงานและย้ายไปอยู่เมืองอื่น 6 เดือนต่อมาเธอก็มีลูกอีกคนหนึ่งและอีกคนตอนนั้นฉันก็อายุ 4 ขวบแล้วฉันต้องจําตอนที่ฉันว่าการ์ดอวยพรให้กับพี่สาวของฉัน “แอนนิส” ได้อยู่เลย เรื่องที่ “เบ็น” เล่ายิ่งทำให้ฉันมั่นใจขึ้นว่าอันนี้คือแม่ของฉันต้องกลับมาอยู่กับพวกเราแน่นอนแต่ไม่ถึงปี “เบ็น” กับฉันก็ได้ข่าวว่า “แอนนิส” มีลูกกับแฟนคนใหม่ของเธอและใช้ชีวิตด้วยกันอย่างมีความสุขฉันคิดว่านี่คงเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ทำลายความฝันอันไร้เดียงสาทั้งหมดของฉันและเมื่อฉันหมดความหวังฉันก็กลายเป็นโรคซึมเศร้าไปเลย

ครึ่งปีที่ผ่านมา “เบ็น” ตัดสินใจว่าเราควรไปเยี่ยม “แอนนิส” ถึงแม้ว่าเธอจะดูเหมือนไม่อยากรับแขกก็ตามแถมเธอชอบย้ำบ่อยๆว่าทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดีแต่ “เบ็น” มีความแน่วแน่ที่จะต้องไปเจอหลานคนที่ 5 ของเขาให้ได้พวกเราจึงแอบไปหาเธอโดยไม่ได้นัดหมายเมื่อพวกเราไปถึงพวกเราถึงกับพูดไม่ออกเพราะในห้องพักของเธอทั้งเล็กสกปรกและเหม็นไปด้วยกลิ่นเหล้าพอ “แอนนิส” เห็นพวกเรา “แอนนิส” ก็พยายามจะทำตัวร่าเริงแต่เธอดูโทรมมากฉันถึงกับได้กลิ่นเหล้าฉุนออกมาจากตัวเธอเลยพวกเราไม่ได้เจอแฟนของเธอซึ่งย้ำอยู่เรื่อยๆว่าเขาจะกลับมาในอีกไม่ช้าแต่เราได้เจอกับ “ภาวี่” น้องชายวัย 3 ขวบของฉันเขาตัวผอมและซีดเขาร้องไห้หนักมากตอนที่ “แอนนิส” พยายามดึงเขาออกมาจากมุมห้องเพื่อให้มาสวัสดีพวกเราฉันเห็นรอยช้ำทั่วแขนบางๆของเขาเต็มไปหมดเลย

คืนนั้นตอนที่เรากลับบ้านฉันเถียงกับ “เบ็น” ตลอดทางเขาเอาแต่โทษ “แอนนิส” ในขณะที่ฉันก็พยายามจะปกป้องเธอหาเหตุผลต่างๆมาอธิบายสิ่งที่พวกเราได้เห็นแต่ว่าฉันกลับมาถึงบ้านฉันก็เริ่มร้องไห้แล้วหยุดร้องไม่ได้ฉันไม่เคยรู้สึกแย่ขนาดนี้มาก่อนเลยฉันไม่ได้ยินแม้กระทั่งตอนที่ “เบ็น” เดินเข้ามาในห้องและเข้ามากอดฉันเขาก็ร้องไห้เหมือนกันเขาบอกว่าพวกเราควรจะไปพบจิตแพทย์กันดีกว่าสำหรับฉันแล้วถ้าฉันไม่ได้เห็นรอยช้ำบนแขนของ “ฮาวี่” ฉันคงจะไม่เข้าใจคำพูดของคุณหมอคุณหมอบอกว่านอกจากที่ฉันควรจะเลิกพยายามทำให้ “แอนนิส” เป็นพี่สาวของฉันแล้วฉันควรเลิกพยายามปกป้องเธอด้วยเพราะแท้จริงแล้วคนที่สมควรได้รับการปกป้องไม่ใช่ “แอนนิส” แต่คือ “ฮาวี่” เช่นเดียวกับที่ฉันได้รับการปกป้องเหมือนที่ปู่ของฉันทำได้อีก 3 คนที่เธอเคยทิ้งไปก็ควรได้รับการปกป้องเช่นเดียวกัน

คุณหมอบอกว่าเด็กที่ถูกรับเลี้ยงมักจะต้องทนทุกข์กับความรักและความสับสนต่างๆซึ่งผู้ใหญ่ควรจะเป็นคนที่กล้าหาญพอที่จะบอกความจริงให้พวกเขาฟังแล้วเรื่องราวนี้ก็มาถึงตอนจบในอีกไม่ช้าฉันจะกลับไปเยี่ยม “แอนนิส” อีกครั้งฉันจะเรียกเธอว่าแม่มองตรงเข้าไปในตาของเธอเป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปีและเป็นครั้งที่สองในชีวิตของฉัน ฉันจะคุยกับเธอเรื่อง “ฮาวี่” เพราะ “เบ็น” กับฉันตัดสินใจแล้วว่าพวกเราจะพาเขาไปอยู่กับพวกเราจนกว่า “แอนนิส” จะรู้จักโตสักทีในตอนนี้ฉันอายุเท่ากับ “แอนนิส” ตอนที่เธอมีฉันแล้วและฉันสาบานว่าจะไม่ทำพลาดแบบเดียวกันกับเธอเด็ดขาดในแบบที่ลูกๆ ของเธอต้องมานั่งรับกรรมที่เธอก่อไว้

นี่เป็นความเมตตาอย่างมากขอบคุณที่รับฟังเรื่องราวของฉันและฉันหวังว่าครอบครัวของพวกคุณจะเป็นครอบครัวที่ดีอย่าลืมรับชมวิดีโออื่นๆของช่องนี้ด้วยนะ 

เรื่องเล่าที่เกี่ยวข้อง

0 0 votes
Article Rating
Subscribe
Notify of
guest
0 Comments
Inline Feedbacks
View all comments
Back to top button
0
Would love your thoughts, please comment.x
()
x

ปิดโปรแกรมบล็อคโฆษณา

กรุณาปิดโปรแกรมบล็อคโฆษณาก่อนนะ เพราะเว็บจะอยู่ได้ก็จากป้ายโฆษณา