พี่ชายฉันเสียชีวิต และฉันต้องทำภารกิจตามหาลูกชายนอกสมรสของเขา
สวัสดีฉันชื่อ “แฟนซีน” อีกไม่นานฉันจะอายุครบ 18 ปีแล้ว แล้วทันทีที่อายุครบฉันจะย้ายออกจากบ้านของพ่อแม่เกือบ 4 ปีที่แล้วพี่ชายคนโตของฉันก็ทำแบบเดียวกันแต่นั่นไม่ได้ส่งผลดีต่อชีวิตเขาเลยเขาเสียชีวิตเมื่อ 6 เดือนก่อนและตอนนี้ฉันก็สามารถเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้แล้วแต่ก็แปลกดีเหมือนกันช่วงเวลาที่มืดมนที่สุดคือช่วงก่อนรุ่งอรุณและนี่ก็คือเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับฉัน
พี่ชายฉันชื่อ “รอย” ตามที่ฉันบอกก่อนหน้านี้เลยก็คือเขาออกจากบ้านเราไปเมื่อราวหกปีที่แล้วไปเรียนมหาวิทยาลัยในรัฐที่อยู่ติดกัน “รอย” เป็นผู้ชายที่ดีเป็นลูกชายที่ดีแล้วก็เป็นพี่ชายที่ดีฉันคิดถึงเขาเหลือเกินเขาเป็นคนเดียวที่พ่อแม่ตั้งความหวังเอาไว้มากเป็นคนมั่นใจในตัวเองเขาได้ทุนการศึกษาเพื่อเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัยและยังทำงานพาร์ทไทม์หลังเลิกเรียนเพื่อหาเงินมาจัดการค่าใช้จ่ายต่างๆด้วยแน่นอนวันนึงเขาโทรหาแม่แล้วก็ถามแม่ด้วยน้ำเสียงร้อนรนอย่างมากว่าให้ส่งเงินจำนวนมากไปให้เขาพ่อแม่ของฉันก็เลยกังวลมากแล้วก็ถามเขาว่าเข้าไปพัวพันกับเรื่องเดือดร้อนอะไรหรือเปล่ารอยทั้งไม่ได้ตอบรับแล้วก็ไม่ได้ปฏิเสธแต่เขาสารภาพว่าเขามีหนี้ต้องใช้ไม่อย่างนั้นเขาก็ต้องเจอเรื่องเดือดร้อนเข้าจริงๆทั้งหมดนี้เป็นความจริงแต่แค่ส่วนเดียวนะพ่อแม่ของฉันก็แบบเป็นคนหลอกง่ายอยู่บ้างพวกเขาเป็นประเภทอ่อนไหวง่าย
เค้าตรงไปยังเมืองที่ “รอย” อาศัยอยู่หรือโทรเรียกตำรวจเพื่อค้นหาว่าเขากำลังตกอยู่ในอันตรายหรือเปล่าหรือเข้าไปพัวพันกับอาชญากรรมอะไรไหมพวกเขาไม่ทำอะไรง่ายๆอย่างแค่ไปเอาเงินเก็บออกมาแล้วส่งไปให้ “รอย” แต่ฉันยังสติครบถ้วนแล้วรู้จักพี่ชายของฉันดีกว่าพ่อแม่นะเพราะยังไงเราก็โตมาด้วยกันฉันโทรหา “รอย” แล้วก็ขอคำอธิบายขู่เขาว่าถ้าเขาไม่บอกความจริงกับฉัน ฉันจะไปหาเขาพร้อมเพื่อนสนิทของเขาซึ่งยังคงอยู่เมืองเดียวกับเราแล้วเราทั้งคู่จะทำให้เราต้องบอกความจริงว่าเกิดอะไรขึ้นและไปจัดการเรียกสติเขาถึงที่ “รอย” ซึ่งอยู่ปลายสายเงียบเสียงไปพักหนึ่งแล้วจากนั้นเขาก็สัญญาว่าจะส่งอีเมลพร้อมคำอธิบายมาให้ฉันเขาบอกว่าเรื่องเหล่านี้เราไม่ควรคุยกันทางโทรศัพท์แล้ววันต่อมาพี่ชายของฉันก็รักษาสัญญาสิ่งที่ฉันเห็นเมื่อเปิดอีเมลก็คือรูปขนาดใหญ่ของรอยหญิงสาวรูปร่างผอมบางที่มีผมกระเซอะกระเซิงยุ่งเหยิงแต่งหน้าฉูดฉาดไร้รถนิยมแล้วก็หน้าท้องแบบคนกำลังตั้งครรภ์ฉันไม่เข้าใจจริงๆว่านี่หมายความว่ายังไงจนกระทั่งฉันตั้งใจอ่านตัวหนังสือใต้รูปให้ดี
ชื่อของผู้หญิงคนนั้นคือ “ไอริส” เธอเป็นแฟนของพี่ชายฉันอายุมากกว่าเขาปีนึงเขาอยู่ด้วยกันมา 7 เดือนละแล้วความต้องการของพวกเขาก็เป็นไปอย่างจริงจังมาก “รอย” งานกับ “ไอริส” ในอีกไม่นานโดยเฉพาะเมื่อเธอกำลังจะให้กำเนิดลูกของพวกเขา เขายังไม่อยากพาเธอมาแนะนำให้พ่อแม่รู้จัก เพราะเขารู้ว่าพ่อแม่จะต้องไม่มีทางยอมรับการแต่งงานครั้งนี้ “ไอริส” มาจากครอบครัวที่แตกแยกไม่เคยเข้าเรียนมหาวิทยาลัยไม่มีงานที่มั่นคงยิ่งกว่านั้นเธอยังไม่เคยสร้างความประทับใจแรกพบให้ใครได้เลยแต่ “รอย” มองเห็นด้านดีในตัวเธอและเขาก็รักเธอหมดใจฉันดูรูปถ่ายอีกครั้งแล้วไม่เห็นเลยว่าผู้หญิงคนนี้จะมีอะไรดีแต่ฉันคิดว่าบางทีพี่ชายของฉันคงรู้ดีว่าเขากำลังทำอะไรอยู่ต่อจากนั้นเราก็เขียนเล่ามาด้วยว่าทำไมเขาถึงต้องใช้เงินหรือพูดให้ถูกก็คือทำไม “ไอริส” ถึงต้องใช้เงิน “ไอริส” มีข้อด้อยซึ่ง “รอย” เองก็ยอมรับเธอติดสล๊อตแมทชีน “รอย” พยายามจะอธิบายแทนว่าเพราะเธอเป็นเด็กผู้หญิงที่มาจากครอบครัวยากจนก็เลยฝันอยากจะมีเงินทองมากมายคิดว่าจะทำให้ชีวิตที่ยากจนของเธอดีขึ้น
แต่พูดกันตรงๆนะนั้นไม่ได้ฟังดูน่าเชื่อถือเลยสักนิด “ไอริส” พลาญเงินทั้งหมดที่หามาได้จากงานยิบๆย่อยๆไปกับสล๊อตแมทชีนจากนั้นก็ไปยืมเงินใครสักคนมาแล้วก็เสียพนันอีกแล้วเหตุการณ์นี้ก็เกิดขึ้นเป็นวงจรซ้ำแล้วซ้ำเล่าแต่ “รอย” สัญญาว่าทันทีที่พวกเขาจ่ายหนี้ของ “ไอริส” หมดซึ่งตอนนี้กลายเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดปัญหาใหญ่จริงๆแล้วเขาจะพา “ไอริส” มาแนะนำให้ฉันกับพ่อแม่รู้จักในตอยท้ายอีเมล “รอย” เขียนมาว่าเขาย้ายออกจากแคมปัสมหาวิทยาลัยไปอยู่ที่บ้านของนาย “ไอริส” และที่อยู่ของเธอให้ฉันด้วยอย่างไรก็ตาม “รอย” ไม่ได้แต่งงานกับ “ไอริส” เช่นเดียวกับที่เขาไม่มีโอกาสเรียนจบมหาวิทยาลัยหรือกลับมาบ้านอีกครั้งตามที่เราได้รับแจ้งในภายหลังด้วยเหตุผลบางอย่าง “รอย” ข้ามถนนในจุดที่ไม่ควรข้ามและคนขับรถคันที่ชนเขาก็ไม่อาจป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุได้นี่เป็นโศกนาฏกรรมโดยแท้จริงสำหรับฉันและพ่อแม่และเราก็ยังคงไม่อาจทำใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ตามที่ฉันบอกในตอนแรกสุดนั่นแหละช่วงเวลาที่มืดมนที่สุดคือช่วงก่อนรุ่งอรุณแผน
ทันทีที่อาการช็อคครั้งแรกผ่านพ้นไปฉันก็จำได้ว่ามี “ไอริส” ที่จะไม่มีทางได้มารู้จักครอบครัวเราซึ่งกำลังจะให้กำเนิดลุกหลานชายหรือไม่ก็หลานสาวของฉัน ฉันตัดสินใจว่าก่อนจะค้นพบความจริงฉันจะไม่พูดอะไรกับพ่อแม่ทั้งนั้นทำไมต้องทำร้ายพวกเขาให้เจ็บปวดกว่านี้ด้วยถ้านั่นเป็นเรื่องโกหกดังนั้นฉันก็เลยไปเจอ “ไอริส” ขอบคุณพระเจ้าที่ที่อยู่บนอีเมลของพี่ชายฉันเป็นของจริงบ้าน “ไอริส” เล็กมากและสร้างบ้านแบบคนยากจนไม่มีสวนหลังบ้าน “ไอริส” ไม่มีเงินเลยจริงๆเธอเปิดประตูชั้นจำเธอได้ทันทีถึงในโลกแห่งความเป็นจริง “ไอริส” จะดูแย่ยิ่งกว่าในรูปอีกก็ตามผมทำมันเยิ้มดูผอมบางแล้วก็กระเซอะกระเซิงแล้วฉันคิดว่าเธอมีกลิ่นเหม็นเหล้าด้วยแล้วเธอไม่ได้ท้องแล้วตอนฉันแนะนำตัวฉันต้องเอาเท้าขวางประตูไว้ด้วยเพื่อป้องกันไม่ให้เธอกระแทกประตูปิดใส่หน้าฉัน ฉันถามว่าเกิดอะไรขึ้นกับลูกของพี่ชายฉันแล้วก็เตรียมรับคำตอบที่เลวร้ายที่สุดไว้แล้ว แต่ “ไอริส” บอกว่าทันทีที่เด็กเกิดมาเธอก็มอบเด็กไปอยู่ในระบบอุปการะโดยไม่ได้ถามเพศของทารกที่ซ้ำด้วยเหตุผลอะไรสักอย่างนี่ฟังดูไม่น่าเชื่อถือเลยอ่ะ
แต่ฉันก็อยากถามคำถามเธอมากกว่านี้แต่ไอริสเริ่มประสาทเสียแล้วก็ขู่ว่าถ้าฉันไม่ออกจากบ้านของเธอจะโทรเรียกตำรวจรูปลักษณ์และการกระทำแปลกๆของ “ไอริส” ทำให้ฉันสงสัยดังนั้นฉันเลยตัดสินใจหลีกเลี่ยงการโต้เถียงแล้วก็เลือกที่จะออกมาก่อนฉันสับสนและไม่รู้ว่าควรทำยังไงต่อหรือจะรู้ได้ยังไงว่า “ไอริส” พูดความจริงแล้วตอนนี้ลูกของพี่ชายอยู่ที่ไหนแต่ท่านที่ฉันเดินห่างออกมาจากบ้านเธอไม่กี่ก้าวฉันก็ได้ยินเสียงลอดออกมาจากผนังบางๆซึ่งเด็กทารกกำลังร้องไห้ “ไอริส” โกหกแล้วฉันก็ต้องหาวิธีช่วยลูกของเราให้พ้นจากการอยู่กับแม่แบบนี้ให้ได้ฉันไม่รู้จะทำยังไงได้อีกแล้วก็เลยกลับไปหาพ่อแม่เพื่อขอความช่วยเหลือ
ฉันให้พวกเขาดูอีเมลของ “รอย” แล้วบอกทุกเรื่องตอนที่ฉันไปที่บ้านของ “ไอริส” ให้เขาฟังอธิบายว่าเธอดูเป็นยังไงแล้วมีท่าทียังไงเช่นเดียวกับความประทับใจที่จะได้รับจากการเดินทางครั้งนี้พ่อแม่ของฉันเห็นด้วยอย่างไม่มีเงื่อนไขพวกเขาไม่อาจปล่อยให้หลานชายอยู่กับผู้หญิงคนนี้ได้นอกจากนี้ก็นะพวกเขายังไม่หายจากอาการโศกเศร้าที่ต้องสูญเสียลูกชายฉันคิดว่าพวกเขามองเห็นความทรงจำถึง “รอย” ในตัวของทารกที่ยังมีชีวิตคนนี้ก็จะโทษพวกเขาได้โดยเฉพาะฉันรู้ดีว่าพวกเขาจะรักหลานชายคนนี้และดูแลเขามากเท่ากับที่รักฉันหรือ “รอย” เราทั้งหมดเดินทางไปพบกับ “ไอริส” ครั้งด้วยกันครั้งนี้เราแค่บอกเช็คที่มีตัวเลขน่าประทับใจไปต่อสิหน้าเธอพูดกันอย่างกับแฟร์ๆฉันต้องบอกว่า “ไอริส” ลังเลใจแล้วฉันก็ไม่รู้ว่าอะไรทำให้เธอตอบตกลงข้อเสนอของเราเธอแค่กระหายเงินทองหรือในที่สุดเธอก็เข้าใจแล้วว่าการเลี้ยงเด็กคนนึงยากเกินไปสำหรับเธอ
สิ่งเดียวที่ “ไอริส” ถามเราก็คือเราจะรักลูกชายของเธอหรือเปล่าคำตอบก็เห็นชัดอยู่แล้วเรื่องส่วนที่เหลือก็คือกระบวนตามขั้นตอนกฎหมายที่คุณคงไม่นึกสนใจฟังฉันแค่อยากให้คุณได้รู้ว่าตอนนี้เด็กทารกอยู่กับพ่อแม่ของฉันและเขายังสบายดีมากส่วนฉันกำลังจะย้ายออกไปแล้วไปเรียนระดับมหาวิทยาลัยในอีกไม่ช้า โดยที่ตอนนี้ที่พ่อแม่ของฉันกลับมาแฮปปี้อีกครั้งกับการได้ดูแลหลานชายตัวน้อยของพวกเขา
บอกฉันหน่อยนะว่าในชีวิตคุณเคยเผชิญกับเรื่องราวเศร้าๆที่ทำให้ชีวิตไม่มีความสุขแต่ลงเอยด้วยตอนจบที่สดใสหรือเปล่าเขียนด้วยมีลงในช่องคอมเม้นต์ใต้วีดีโอเลย