ผมให้แม่เลือกระหว่างผมหรือพ่อเลี้ยง แม่เลือกพ่อเลี้ยง!
ไงพวกผมชื่อ “แอนโทนี่” ผมพึ่งเรียนจบม.ต้นแต่ผมจะไม่ได้ไปโรงเรียนในโรงเรียนม.ปลายเพราะแม่ของผมตัดสินใจส่งของไปเรียนโรงเรียนฝึกทหารและที่แย่ที่สุดก็คือเพียงเพราะว่าแม่อยากกำจัดผมไปให้พ้นทางคืนงี้นะผมรู้ว่าผมเป็นแค่ภาระของแม่ตั้งแต่ที่พ่อทิ้งเราไปแม่ก็สิ้นหวังแล้วไม่มีความสุขผมเป็นเพียงแค่เครื่องเตือนความจำของความผิดพลาดในอดีตยิ่งไปกว่านั้นแม่ก็คบกับใครไม่ได้เพราะไม่มีผู้ชายคนไหนอยากคบกับผู้หญิงที่มีลูกแล้วแม่ไปออกเดทบ่อยๆ และพยายามสร้างความสัมพันธ์แต่เมื่อแม่บอกกับคนที่เดทด้วยเรื่องผมแฟนของแม่ก็หายตัวไปในทันทียิ่งทำให้แม่ผิดหวังหนักกว่าเดิมเพราะงั้นลองคิดดูว่าแม่จะดีใจขนาดไหนเมื่อได้คบกับผู้ชายที่พร้อมจะคบกับแม่อย่างจริงจังและไม่กลัวที่ต้องรับผิดชอบเกี่ยวกับเรื่องลูกหมายถึงผมน่ะ
ในตอนแรกเขามาที่บ้านบางครั้งเพื่อกินข้าวเย็นและเขาก็ดูเหมือนผู้ชายธรรมดาเขาชื่อ “เกรก” เขาเป็นทหารและเขามีคุณสมบัติทุกอย่างของการเป็นทหารเขาเสียงดังหนักแน่นตรงต่อเวลามากและเขาชอบความมีระเบียบวินัยแม่รัก “เกรก” มากและบอกว่าผมจะได้เรียนรู้อะไรมากมายจากเขา เจอเขานานๆทีมันก็พอไหวแต่มันเป็นอีกเรื่องเลยกับการต้องอยู่ร่วมชายคาเดียวกันและคุณหนีจัดการควบคุมของเขาไม่ได้ใช้ไม่นานก็ย้ายมาอยู่กับเราแล้วบ้านของเราก็เปลี่ยนไปอย่างมากในตอนแรกเขาแค่ช่วยแม่ใช้ความสะอาดในบ้านแต่แล้วเขาก็เริ่มตั้งกฎและสั่งผมว่าเมื่อไหร่ควรเข้านอนหรือควรตื่นนอนผมบ่นกับแม่แต่แม่เข้าข้าง “เกรก” แล้วบอกว่าการมีระเบียบวินัยจะเป็นผลดีกับผมหลังจากนั้นก็เริ่มให้ผมเล่นกีฬาเขาให้ผมตื่น 6 โมงเช้า แล้วออกไปวิ่งผมมีสิทธิ์พูดได้ไหมล่ะว่าผมไม่อยากทำเรื่องพรุ่งนี้แต่แม่สนับสนุนอีกแล้วก็นะผมคิดว่าแม่คงไม่กล้าแย้งเขาเพราะกลัวว่าเขาจะทิ้งแม่ไปผมเลยเถียงเขาเองแต่ก็ไม่สำเร็จครั้งหนึ่งในช่วงที่วิ่งผมอยู่กับเขาตามลำพังเขาคงเบื่อที่ผมเถียงจะต้องการจะยุติมันลงสักที “เกรก” บอกผมว่าผมต้องเชื่อฟังคำสั่งของเขาโดยไม่ต้องถามแล้วเขาเป็นคนคุมบ้านหลังนี้เขาสั่งให้ผมตอบเขาเหมือนทหารเขาตะโกแล้วข่มขู่ผมจนในที่สุดผมก็พูดว่า ครับผม
ผมคิดว่าหลังหลังนั้นเขาคงจะหัวเราะเหมือนกับตัวร้ายในหนังมันน่าอายและผู้ชายน่ารังเกียจคนนี้บอกว่าเขาคุมบ้านหลังนี้อย่างนั้นเหรอโอ้ไม่ให้ตายเถอะผมจะไม่ทนผู้ชายคนนี้กลายเป็นเผด็จการในบ้านของเราแล้วแม่ก็ไม่ได้พยายามทำอะไรกับเรื่องนี้เลยตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเขาก็เริ่มรังแกผมเป็นประจำ “เกรก” พยายามอดทนไม่ตะโกนใส่ผมต่อหน้าแม่แต่เมื่อแม่ไม่อยู่เขาก็ไม่สนใจผมหรือไม่ก็หาสาเหตุสักอย่างในการลงโทษผมกับลงโทษที่ใช้เป็นประจำคือการทำความสะอาดบ้านที่สะอาดสุดๆอยู่แล้วถ้าผมพูดอะไรผิดบนโต๊ะอาหารเย็นหรือกินข้าวนานเกินไปผมจะถูกลงโทษและในขณะที่แม่กับ “เกรก” ดูทีวีอยู่ผมก็ต้องล้างจานและทำความสะอาดครัวทั้งหมดจะยอมโดนลงโทษแบบเบาๆก็ยังดีกว่าเพราะเมื่อผมเริ่มเถียงผมก็จะถูกกักบริเวณเป็นวันๆและนั่นไม่ได้หมายถึงแค่ต้องอยู่ในบ้านแล้วออกไปไหนกับเพื่อนไม่ได้การกักบริเวณของ “เกรก” หมายถึงคำผมไว้ในห้องขังผมไว้ในห้องยึดโทรศัพท์ของผมไปแล้วปิดอินเทอร์เน็ตผมได้รับอนุญาตแค่ไปให้เข้าห้องน้ำกับกินข้าวเท่านั้นขอบคุณพระเจ้าที่เขายังอนญาตให้ผมทำเรื่องพวกนั้นอยู่
“เกรก” ไม่ควรลงโทษผมอย่างนั้นเพราะมันทำให้ผมมีเวลามากมายในการเขียนแผนเอาคืนครั้งหนึ่งในช่วงที่ถูกกักบริเวณผมได้ไอเดียแก้แค้นที่จะช่วยให้ผมกำจัดเขาออกไปจากชีวิตได้ผมต้องทำให้เขาเลิกกับแม่แล้วนี่คือสิ่งที่ผมทำผมขโมยเบอร์โทรศัพท์ของเขาจะสร้างรายชื่อติดต่อใหม่ใส่เบอร์ผมลงไปบันทึกว่าลิซ่ารวมทั้งบันทึกรูปผู้หญิงลงไปด้วยโอ้ใช้เลยคุณหาเรื่องน่าสนใจได้หลายเรื่องจากในเน็ตจากนั้นผมก็แอบเอาโทรศัพท์คืนอย่างรวดเร็วเริ่มส่งข้อความในนามผู้หญิงคนนั้นผมแต่งเรื่องว่าผู้หญิงคนนี้เห็นเขาออกวิ่งกับเด็กผู้ชายทุกเช้าแล้วเธอชอบมองเขามากๆหลังจากนั้นผมก็บอกเขาว่าเขาดูมีเสน่ห์มาก บลาๆๆ โดยทั่วไปก็เรื่องน่าหยึยอื่นๆน่ะเขาเริ่มตอบกลับเจ้าวายร้ายสกปรกนี่แหละตัวจริงของเขาผู้ชายเจ้าชู้ที่โหดร้ายและละโมบเขาขอรูปมากขึ้นเรื่อยๆแล้วผมก็ส่งให้เขาแต่นี้ก็ไม่ใช่ตอนจบมีครั้งหนึ่งที่เรากินข้าวเย็นกันอยู่ผมเห็นโทรศัพท์ของ “เกรก” วางอยู่บนโต๊ะมันเป็นจังหวะดีเลยผมบอกว่าผมต้องไปเข้าห้องน้ำแล้วเมื่อผมออกมาจากครัวผมก็หยิบโทรศัพท์ของผมออกมาแล้วโทรหา “เกรก” แน่นอนว่าให้ตอนนั้นโทรศัพท์โชว์รูปของลิซ่าแล้วแม่ก็เห็นผมได้ยินเสียงของพวกเขาทะเลาะกันและคิดว่าแผนของผมได้ผล “เกรก” พยายามให้เหตุผลว่าผู้หญิงคนนี้ส่งข้อความหาเขาและส่งรูปมาให้เขา เขาบอกว่ามันเป็นแค่ความผิดพลาดและเขาจะโทรหาเธอตอนนี้เราบอกให้เธอหยุด
โอ้ไม่นะผมไม่คิดว่ามันจะเป็นอย่างนี้วินาทีต่อมาแม่และ “เกรก” ได้ยินโทรศัพท์สั่นอยู่ในกระเป๋ากางเกงของผมโธ่เอ๊ยพวกเขารู้แล้วว่าเป็นผมเองที่พยายามทำให้พวกเขาเลิกกันผมไม่ได้เพียงแค่ถูกทำโทษแต่แม่ก็ไม่เชื่อผมอีกต่อไปและเล็กกว่าผมสุดๆไปเลย เขาเริ่มปฏิบัติกับผมเหมือนผมเป็นทหารจริงๆเขาตะโกนใส่ผมให้ผมทำงานบ้านทั้งหมดและแกล้งผมระหว่างเล่นกีฬาตอนนี้เขาไม่มีแม้แต่จะอายที่จะข่มเหงผมต่อหน้าแม่เขาทำให้ผมอับอายไปต่อหน้าแม่ใช่แล้วแม่โกรธผมเช่นกันที่พยายามทำให้แม่กับ “เกรก” เลิกกันและให้อำนาจในการควบคุมบ้านและในการควบคุมผมกับ “เกรก” ที่จริงแล้วผมคิดว่าแม่ทำอย่างนั้นเพราะแม่ต้องการเขามากแม่อยู่คนเดียวมานานแล้วตอนนี้ก็มีผู้ชายเข้ามาในชีวิตแม่ฉันพร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อรั้งเขาไว้ถึงแม้ว่าผู้ชายคนนั้นจะล้อเลียนลูกชายของตัวเองก็ตามแต่หลังจากนั้นเขาก็ทำเกินไป
คืนหนึ่งพายุฝนพัดกระหน่ำผมนั่งมองทุกอย่างผ่านทางหน้าต่างแล้วรู้สึกดีใจที่ผมนั่งอยู่ในบ้านที่อบอุ่นในขณะที่อากาศข้างนอกนั้นแย่มากแต่ทันใดนั้น “เกรก” ก็เข้ามาแล้วบอกให้ผมเตรียมตัวออกไปวิ่งอะไรนะวิ่งในอากาศอย่างนี้เนี่ยนะเขาคงเป็นบ้าไปแล้วผมเริ่มเถียงกับเขาแต่มันก็ยิ่งทำให้เขาโกรธหนักกว่าเดิมผมไม่มีทางเลือกแล้ว 5 นาทีหลังจากนั้นผมก็ทั้งหนสงและเปียกปอนไปหมด “เกรก” แค่อยากแกล้งผมเราวิ่งต่อไปอีก 5 ไมล์แล้วก็อยู่ผมล้มลงกับพื้นแต่เขากลับสั่งให้ผมวิดพื้นแล้วตะโกนใส่ผมเสียงของเขาดังยิ่งกว่าเสียงฟ้าผ่าซะอีกมันน่ากลัวมากผมวิดพื้นบนพื้นดินเปียกทั้งเหนื่อยและสกปรกเขาเดินไปรอบๆผมด่าว่าผมเขาบอกว่ามันเป็นความผิดพลาดที่ผมพยายามจะทำให้เขากับแม่เลิกกันตอนนี้แม้แต่แม่ของผมเองก็ไม่รักผมแล้วแล้วจะมีใครปกป้องผมได้เขาหนักข้อขึ้นเรื่อยๆเขาไม่เคยทุบตีผมในตอนนั้นผมคิดจริงๆว่าเขาต้องซ้อมผมได้แน่ๆ เมื่อถึงจุดหนึ่งผมก็ไม่รู้ขึ้นอีกต่อไปผมได้แต่นั่งอยู่บนโคลนเหนื่อยแทบขาดใจและ “เกรก” ก็บอกผมว่าให้ลุกขึ้นแล้วกลับบ้านมันชัดเจนว่านี่คือการแก้แค้นในเรื่องที่ผมได้ทำไว้
ผมกลับบ้านไม่ไหวผมล้มลงบนเตียงแล้วหลับไปในตอนเช้าผมตื่นตามเวลาที่เขาสั่งอีกครั้งแต่ครั้งนี้ผมลุกไม่ขึ้นเป็นเพราะการวิ่งท่ามกลางสายฝนเมื่อคืนดูเหมือนว่าผมล้มป่วยจะมีไข้สูงครั้งนี้ “เกรก” และแม่เชื่อผมก็ผมแกล้งทำเป็นมีไข้ 39 องศาไม่ได้นี่นะแม่โทรหาหมอแล้วทั้งสัปดาห์นั้นผมถูกฉีดยาแล้วต้องกินยาผมเกือบจะเป็นปอดบวมเพราะไอ้บ้านั่นไม่นี่มันล้ำเส้นเกินไปครั้งหน้าจะเกิดอะไรขึ้นเขาจะพยายามฆ่าผมหรือเปล่าไม่ได้ผมต้องทำให้เรื่องนี้จบลงให้เร็วที่สุดผมต้องบอกเลยว่าทั้งสัปดาห์ที่ผมป่วยแล้วผมหยุดอยู่บ้านมันเป็นสัปดาห์ที่ดีที่สุดที่ผมมีเวลาช่วงนี้เพราะ “เกรก” ไม่ได้ทรมานผมด้วยกีฬาและคำสั่งของเขา
เมื่อผมหายดีผมคุยกับแม่อย่างจริงจังผมบอกแม่ว่าผมจะไม่ทนผู้ชายบ้าทหารนี่อีกต่อไปแล้วแม่ต้องเลือกระหว่างผมกับ “เกรก” ใช่ผมรู้ว่ามันฟังดูยากแต่แม่จำเป็นต้องเข้าใจเรื่องนี้และปกป้องผมแต่แม่ไม่ชอบคำขาดของผมแล้วบอกว่าขอคิดดูก่อนความจริงที่ว่าไม่ต้องคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้บอกเป็นนัยอยู่แล้วว่าตัวเลือกของแม่คงไม่ถูกใจผมแน่ๆแล้วผมก็คิดถูกวันหนึ่งแม่และ “เกรก” บอกว่าเราต้องคุยกันแม่บอกว่าแม่รัก “เกรก” และก็เค้าเป็นผู้ชายที่ดีและการที่ผมเข้ากับเขาไม่ได้หมายความว่าผมไม่มีระเบียบวินัยดังนั้นพวกเขาจึงตัดสินใจส่งผมไปเรียนที่โรงเรียนเตรียมทหาร “เกรก” มีเพื่อนที่เป็นทหารอยู่และเขาจะจัดการเรื่องที่เรียนให้มันดีกับผมใช่แหงแหละพวกเขาตัดสินใจไปแล้วแล้วผมพนันได้เลยว่าทั้งหมดนี้เป็นไอเดียโง่ๆของ “เกรก” เขาเกลียดผมตั้งแต่แรกแล้วตอนนี้เขาเกลี้ยกล่อมให้แม่กำจัดผมออกไปแต่รู้อะไรไหมผมมีความสุขที่ได้ไป การไปอีกฟากฝั่งของอเมริกาก็ยังดีกว่าอยู่ในบ้านที่แม่ไม่รักและปกป้องผมมันน่าเศร้าที่แม่ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของเจ้าโง่นั่นแหละมองลูกชายตัวเองเป็นศัตรูแน่นอนว่าโรงเรียนเตรียมทหารงวดมากแต่ในตอนนี้ผมยอมไปดีกว่าต้องเห็นหน้าพวกเขาทั้งสองอีก
คุณรู้สึกยังไงกับโรงเรียนเตรียมทหารคุณจะทนกับเผด็จการอย่าง “เกรก” ได้ไหมบอกให้ผมรู้ในคอมเม้นต์ด้านล่างหน่อยและอย่าลืมกดติดตามช่องนี้คุณจะได้ไม่พลาดเรื่องเล่าอื่นๆ