ผมต้องเลือกว่าจะให้พ่อหรือพี่ชายของผมติดคุก
เฮ้ทุกคนชื่อของผมคือ “คริส” เมื่อไม่นานมานี้ผมต้องเลือกว่าใครจะต้องเข้าคุกระหว่างพ่อและพี่ชายของผมแต่ผมอายุ 13 ปีผมจะเลือกอะไรแบบนี้ได้อย่างไรกัน
เราเคยมีชีวิตปกติธรรมดาแต่แล้วเมื่อผมอายุ 10 ขวบแม่ของผมก็เสียชีวิตและครอบครัวเราก็เปลี่ยนไปมากเราไว้ทุกข์ให้แม่นานมากพ่อถึงกับทำอะไรไม่ถูกแล้วรับการตายของแม่ไม่ได้เขาเลยเริ่มดื่มเหล้าจากนั้นทุกอย่างก็ผิดเพี้ยนไปหมดเขาถูกไล่ออกจากงานแล้วหาเงินแทบไม่ได้เลยเงินเกือบทั้งหมดที่หามาได้ก็ไปลงกับแอลกอฮอล์เวลาเขาเมามันเลวร้ายมากอารมณ์ของพ่อเหวี่ยงไปเหวี่ยงมา ตอนแรกพ่อจะร้องไห้จากนั้นโวยวายและโกรธเกรี้ยว
แล้ว “บรูช” พี่ชายของผมก็จะเข้ามารับบทเป็นพ่อแทนเขาปกป้องและเอาใจใส่ผมเสมอเป็นเวลา 3 ปีที่เราดิ้นรนกับความอับโชคอะไรๆ ก็เริ่มดีขึ้นเราคุยกับพ่อบ่อยมากและเขาก็เริ่มเหลือน้อยลง “บรูช” อายุครบ 18 ปีและได้งานที่ได้เงินดีเราเริ่มหวังถึงอนาคตแบบปกติ
แต่แล้วคืนหนึ่งทุกอย่างก็เริ่มพลิกผันไปหมด คืนหนึ่งในช่วงสุดสัปดาห์พ่อทำให้เราประหลาดใจเขาซื้อตั๋วเพื่อไปดูเบสบอลมา ฮุ้เร!! เราจะได้ใช้เวลาเหมือนครอบครัวปกติกันแล้วพ่อพาเราไปสนามแข่ง และดูการแข่งขันกัน “บรูช” และผมมีความสุขมากแต่ไม่ได้ดีขนาดนั้น
พ่อลงเอยด้วยการไปหาเพื่อนและทิ้งให้เราดูการแข่งขันกันเองเราตกลงกันว่าจะไปเจอกันที่รถในอีก 2 ชั่วโมงแต่เมื่อการแข่งจบลงพ่อก็ยังไม่กลับมาเราพยายามโทรหาเขาแต่เขาก็ไม่รับสายเรายืนรออยู่ตรงข้างรถเกือบชั่วโมงในที่สุดพ่อก็โผล่มาแทบยืนตรงๆ ไม่ได้เห็นได้ชัดว่าเขาไปเมากับเพื่อนเรื่องนี้ทำให้ “บรูช” โมโหมากและเป็นการทำลายค่ำคืนนี้จนหมดเขาเอากุญแจรถพ่อมาแล้วบอกว่าจะขับเองเราเข้าไปนั่งแล้วออกรถแล้วพ่ออารมณ์ร้ายเอาแต่บอกว่ารู้ต้องทำยังไงซึ่งทำให้รู้สึกรำคาญใจมากพวกเขาทะเลาะแล้วตะโกนใส่กันผมไม่อยากได้ยินจึงหลับตาแล้วเอามือปิดหู แต่แล้วก็รู้สึกเหมือนรถกระดอน แล้วเมื่อผมลืมตาอีกครั้งสุดท้ายที่ผมเห็นก็คือกระจกหน้ารถที่แตกกระจาย เมื่อผมตื่นขึ้นอีกครั้งผมไม่รู้เลยว่าตัวเองอยู่ที่ไหนผมโงหัวขึ้นมาเห็นพี่ชายเขานั่งอยู่ข้างๆตามตัวมีแต่รอยขีดข่วนรอยพกช้ำผมกลัวขึ้นมาทันทีแต่เขาบอกให้ผมสงบลง
บอกว่าทุกอย่างเรียบร้อยดีเราเกิดอุบัติเหตุแต่โชคดีที่แทบไม่เป็นอันตรายผมถอนหายใจจากนั้นจึงถามว่าพ่ออยู่ไหน “บรูช” บอกว่าเขาสบายดีเขาอยู่อีกห้องหนึ่งแต่แล้วผมก็จำที่พวกเขาทะเลาะกันได้และถามว่าเรารถชนเพราะเขาทำให้พี่เสียสมาธิใช่ไหมคำถามนี้ทำให้พี่ชายผมหยุดไปชั่วขณะแล้วบอกว่าฟังนะ “คริสต์” มีตำรวจมาถามถึงอุบัติเหตุพี่บอกเขาว่าพ่อของเราขับไม่ใช่พี่จากนั้นพี่ของผมก็บอกว่าพ่ออาจเจอปัญหาแต่นั่นคือสิ่งที่ดีกว่าสำหรับเราถ้าตำรวจคิดว่าพ่อเป็นคนขับรถ
บางที่เค้าอาจถูกบังคับให้ไปบำบัดหรืออะไรสักอย่างคำพูดนี้มีอะไรสักอย่างแปลกๆ แต่ผมก็เชื่อพี่ชายและตัดสินใจว่าจะช่วยพูดให้เขาหลังบทสนทนานี้ “บรูช” ก็โล่งอกเขาบอกว่าเรากลับบ้านได้แล้วพรุ่งนี้เช้าแล้วผมต้องนอนพักแต่ผมนอนไม่หลับผมกังวลที่จะต้องโกหกและพยายามบอกตัวเองให้สงบลง
ผมอยากดื่มน้ำแล้วหาน้ำในห้องไม่ได้เลยผมเลยออกไปที่ทางเดินต้องบอกว่าถ้าได้โรงพยาบาลตอนกลางคืนนั้นดูเหมือนฉากในหนังสยองขวัญเลยแล้วคุณคงไม่นึกว่าจะเจอเรื่องดีๆ แน่ๆ ผมมองหาใครสักคนเพื่อถามหาน้ำแต่ไม่มีใครอยู่แถวนี้เลยผมจึงเดินไปจนสุดระเบียงแล้วพอเลี้ยวที่หัวมุมก็เห็นเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ร้องไห้อยู่หน้าห้องของใครสักคนเดินเข้าไปหาเธอแล้วจะปลอบให้เธอสงบแต่เธอไม่หยุดร้องผมถามเธอว่าเกิดอะไรขึ้นเธอบอกว่าพ่อขี่จักรยานกลับมาจากที่ทำงานจากนั้นก็ถูกรถชนตอนนี้อยู่ในอาการโคม่าผมพบว่านั่นคงเป็นรถเราแน่เราเป็นคนจนเขายิ่งกว่าพี่ชายผมเป็นคนขับและเขาก็กำลังพยายามปิดบังเรื่องนี้เรื่องนี้เปลี่ยนแปลงทุกอย่างนี้ไม่ใช่แค่อุบัติเหตุจะเป็นอาชญากรรมและ “บรูช” พยายามจะผลักให้พ่อรับผิดแทน
ก็ใช่เขามาเอาและทำให้พี่ชายผมต้องขับรถแต่เขาไม่ใช่คนผิดผมวิ่งกลับไปห้องแล้วปลุก “บรูช” เริ่มตะโกนว่า “บรูช” เราแค่ไม่ได้เกิดอุบัติเหตุแต่พี่ขับรถชนคนพ่อจะต้องเข้าคุกนะพี่เข้าใจไหมพี่ต้องสารภาพทุกอย่างผมเริ่มโต้เถียงกับพี่ชายเขาถามว่าไม่อยากให้ฉันเข้าคุกเหรอฉันรู้ว่านี่มันแย่จะลองคิดดูนะใครจะดูแลนายพ่อเหรอแล้วผมก็บอกว่านะไม่สำคัญเด็กผู้หญิงที่ร้องไห้อยู่ที่ระเบียงไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพ่อของเธอจะรอดหรือไม่และนั่นเป็นเพราะ “บรูช” นี้เป็นการเลือกที่ยากลำบากมากหนึ่งในคนที่ผมรักจะต้องเข้าคุกผมต้องเรียกว่าคนนั้นคือใครและยังไม่ใช่ตัวเลือกที่ว่าอะไรถูกอะไรผิด
แต่แล้วผมก็ตัดสินใจได้ในตอนที่เห็นเด็กผู้หญิงคนนั้นความจริงอาจไม่น่าพิสมัยและเจ็บปวดอ แต่ผมไม่อยากต่อสู้กับความรู้สึกผิดชอบชั่วดีดังนั้นผมจึงต้องหาพ่อและตำรวจให้เจอแล้วบอกเรื่องทุกอย่างเมื่อผมออกไปที่ทางเข้าพบเห็นพ่อถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นายคุมตัวไปผมวิ่งไปหาเขาและอยากบอกเรื่องราวทั้งหมดแต่พ่อหยุดผมไว้เขาขอตำรวจว่าจะคุยกับผมสักครู่พอบอกผมแบบส่วนตัวว่าขอให้เก็บเรื่องที่ “บรูช” เป็นคนขับไว้เป็นความลับ
กลายเป็นว่าพ่อเป็นคนบอกตำรวจเองว่าเขาเป็นคนขับและชนคนที่ขี่จักรยานผมพยายามจะห้ามพ่อแต่พ่อตัดสินใจไปแล้วดูเหมือนพ่อรู้สึกผิดกับเรื่องนี้มากจริงๆ พ่อถูกพาตัวไปตอนนี้เลยเหลือแค่ผมกับพี่ชายหลายอาทิตย์ต่อมาเราได้รับอนุญาตให้พบพ่อ พ่อขอโทษเราสำหรับ 3 ปีที่ผ่านมาเขาบอกว่าเขาโกหกตำรวจเพราะจะดีกว่าสำหรับเราทั้งคู่และ “บรูช” ก็ดูแลผมได้จริงๆ หลังจากนั้นเราก็พบว่าคนขี่จักรยานกำลังเริ่มอาการดีขึ้นและจะไม่เป็นอะไรอีกไม่ใช่ว่าเราจะพ้นผิดได้แต่ผมก็ดีใจที่เด็กผู้หญิงตัวน้อยคนนั้นจะได้ของเธอคืนจากนั้นก็มีการพิจารณาคดีและพ่อต้องเข้าคุกมันน่าเศร้าแต่เขาให้โอกาสเราก้าวต่อไปข้างหน้าแล้วเราไม่อาจสูญเสียโอกาสไปได้เราทั้งคู่ชื่นชมพ่อมากผมนึกไม่ออกเลยว่าตอนนี้พี่ชายผมจะรู้สึกอย่างไรแต่เขาพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อให้สมกับความเสียสละของพ่อและผมก็ได้รู้บทเรียนที่สำคัญว่าทางเลือกที่ถูกต้องไม่ใช่ทางที่ดีหรือง่ายเสมอไปและคุณทำทุกอย่างได้เพื่อให้แน่ใจคนที่คุณรักจะปลอดภัยดี
คุณจะทำอย่างไรในสถานการณ์แบบนี้คุณจะละทิ้งพี่ชายของคุณไหมเขียนลงในช่องคอมเม้นต์ด้านล่างและแบ่งปันวิดีโอนี้กับเพื่อนของคุณ