ฉันเช็คแล็ปท็อปของแฟนของพ่อ โอ้พระเจ้า!
สวัสดีฉัน “มาริสา” ฉันอยากจะมาแบ่งปันถึงเรื่องราวกับคุณเกี่ยวกับการที่ฉันได้พบกับเพื่อนที่ดีที่สุดของฉันที่ไหนสักแห่งและเธอยังเป็นคนที่ฉันไม่เคยคาดคิดมาก่อน
แม่ของฉันต่อสู้กับโรคมะเร็งมานานแต่โชคไม่ดีที่เธอไม่สามารถเอาชนะมันได้ฉันจึงต้องอาศัยอยู่กับพ่อเพียงลำพังตั้งแต่อายุ 13 ปี ในปีแรกของการสูญเสียแม่มันราวกับต่ายทั้งเป็นจริงๆ สำหรับเราทั้งคู่นั้นฉันเดาว่ามันเป็นเพราะความเศร้าโศกของฉันทำให้ฉันกลายเป็นเหมือนปีศาจร้ายในบ้าน และกลายเป็นตัวแปลกประหลาดที่สุดในโรงเรียน
มีแต่ชั้นเท่านั้นที่รู้ดีว่ามันเป็นยังไงตอนนั้นฉันกลับคิดว่าฉันก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรยกตัวอย่างเช่น ฉันจำได้ว่ามีอยู่วันหนึ่งฉันต้องออกไปพูดหน้าชั้นเกี่ยวกับเรื่องการเดินทางที่น่าประทับใจที่สุดและทุกคนก็แบบประมาณว่าพวกเราไปที่นั่นที่นี่กับพ่อแม่ของเราและอะไรทำนองนั้น แต่สำหรับฉันมันเพิ่งเข้าสู่เดือนที่ 2 ที่ฉันเพิ่งสูญเสียแม่ไป
แล้วพอถึงตอนที่ฉันต้องออกไปพูดหน้าชั้น ฉันพูดออกไปทันทีว่าการเดินทางที่น่าจดจำที่สุดของฉันคือการไปสุสาน ทุกคนพากันอึ้งไปทั้งชั้น คุณครูจึงพาฉันไปพบกับอาจารย์ใหญ่และพวกเขาก็ได้พยายามให้ฉันไปพูดคุยกับนักจิตวิทยาประจำโรงเรียน นอกจากนั้นฉันยังพยายามที่จะทำลายความสัมพันธ์ของฉันกับเพื่อนๆ ด้วย
ฉันอิจฉาทุกคนที่มีแม่ มีอยู่วันนึงเมื่อเพื่อนของฉันพยายามสร้างความบันเทิงให้กับฉันด้วยการพาไปดูหนัง และกินพิซซ่ากัน และพวกเขาก็พากันพูดคุยสัพเพเหระเกี่ยวกับเรื่องไร้สาระอยู่ตลอดเวลา ฉันเลยตะโกนใส่พวกเขาว่ามีอยู่ทางเดียวที่พวกเขาจะสามารถเข้าใจความรู้สึกของฉันได้นั่นคือการสูญเสียคนใกล้ชิดในชีวิตของพวกเขา และนี่คือช่วงเวลาที่ทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนไปเมื่อฉันกลับจากโรงเรียนมาถึงบ้านด้วยชุดสีดำเหมือนเคย
ในช่วงเสี้ยววินาทีที่ฉันรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นจากภายในตัวฉัน เพราะฉันได้กลิ่นเนื้อย่างที่เป็นอาหารจานโปรดของแม่ แต่แล้วฉันก็เห็นผู้หญิงแปลกหน้าคนนึงอยู่ในห้องครัวกำลังทำอาหารของแม่ฉันและพ่อก็กำลังยืนส่งยิ้มหวานคุยกับเธอความรู้สึกเย็นดีของฉันมันกลายเป็นเพลิงไฟแห่งความโกรธ พ่อพูดว่านี่คือ “โรซี่” เธอเป็นแม่บ้านคนใหม่ของเรา ฉันเดินตรงไปที่ห้องไม่พูดอะไรสักคำกล้าดียังไงถึงมาทำอาหารตามสูตรของแม่ฉัน พ่อกล้าดียังไงถึงได้จ้างผู้หญิงนี้ และปล่อยให้เธอทำสิ่งที่แม่ของฉันเคยทำได้ยังไง
ฉันเกลียดพวกเขาทั้งคู่และฉันไม่มีกะจิตกะใจที่จะพูดคุยเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ ฉันไม่สามารถทำอะไรได้เลยฉันจึงเปิดแล็ปท็อปขึ้นมาและเขียนระบายทุกสิ่งทุกอย่างที่ฉันรู้สึกอยู่ภายใน และคุณรู้อะไรไหมว่าการเขียนสิ่งต่างๆ นั้นลงไปมันเริ่มทำให้ฉันรู้สึกแตกต่างออกไป นับตั้งแต่คืนนั้นฉันได้เริ่มสร้างบล็อกส่วนตัวขึ้นมา เริ่มมีบางคนเข้ามาแสดงความเห็นในโพสต์และเขียนข้อความกลับถึงชั้นและมีผู้หญิงคนนึงที่เธอเองก็ได้สูญเสียแม่ของเธอไปเช่นกันและดูเหมือนว่าเธอจะรู้สึกแบบเดียวกับฉันแล้วเราก็ได้เหมือนกลายเป็นเพื่อนกัน
และแม่บ้านคนใหม่ของเรา “โรซี่” อยากจะทำความรู้จักกับฉันมาก เธอมักจะถามฉันเสมอว่า ฉันเป็นยังไงบ้าง และฉันอยากกินอะไรเป็นอาหารเย็น และนู่นนี่นั่น ซึ่งมันทำให้ฉันรู้สึกหัวเสีย ฉันคิดว่าเธอต้องการเป็นเพื่อนกับฉัน แต่รู้ไหมฉันไม่ได้รู้สึกสนใจ และชื่อของเธอยังห่างไกลจากรายชื่อบุคคลที่ฉันชื่นชอบในขณะนั้น เธอยิ้มแย้มมากเกินไป ฉันว่านะ ฉันกำลังคิดทบทวนความจริงที่ว่าสิ่งที่เธอกำลังทำนั้น มันกำลังทำลายความเป็นครอบครัว
และถึงแม้ว่าเพื่อนทางอินเทอร์เน็ตของฉันเธอมีชื่อว่า “แคลร์” เธอบอกว่า “โรซี่” อาจพยายามทำให้ชีวิตของเราง่ายขึ้น แต่ฉันก็ยังคิดว่าเธอทำตัวลำเส้นมากเกินไป คุณก็รู้ก็เพราะว่าเธอเป็นแค่แม่บ้าน ฉันจำได้ว่ามีอยู่วันนึงที่เธอทำให้ฉันโมโหขึ้นมาจริงๆ เธอคิดเอาเองว่าฉันจะต้องดูน่ารักมากๆ ในชุดสีชมพู และก็ยื่นเสื้อที่น่าเกลียดนั้นให้กับฉัน ตอนแรกฉันก็พยายามสุภาพและพูดว่าฉันซาบซึ้งกับของขวัญที่เธอมอบให้ แต่แล้วเธอก็ขยันขยอให้ฉันลองสวมมัน
ฉันไม่ได้อยากที่จะดูเหมือนลูกหมูแบบนั้นเลย และฉันก็รู้ดีว่าฉันจะไม่มีวันสวมมันเด็ดขาด ดังนั้นฉันจึงปฏิเสธที่จะลอง เธอยังคงพูดต่อว่าฉันจะดูดีอย่างนั้นอย่างนี้ และแม้แต่พ่อเองก็ยังเห็นด้วยกับเธออีก นี่ทำให้ฉันสติแตกและตะโกนใส่พวกเขาทั้งคู่โดยบอกว่า “ฉันเกลียดความมีสีสัน” และก็ฉีกเสื้อนั้นออกเป็นชิ้นๆ ต่อหน้าพวกเขา เรื่องนี้ทำให้ “โรซี่” เสียความรู้สึก และเธอถึงกับน้ำตาซึมเล็กน้อยนับตั้งแต่นั้นมาเราก็แทบไม่มีการพูดคุยอะไรกันอีกเลย
หลังจากนั้น 2-3 เดือนฉันก็ยังไม่ได้คุยกับ “โรซี่” หรือแม้แต่พ่อ และพวกเค้าก็เปิดตัวว่า พวกเขาตกหลุมรักซึ่งกันและกัน แล้ว “โรซี่” จะมาอาศัยอยู่กับเรา มันไม่จำเป็นต้องบอกว่าฉันเสียใจแค่ไหน เมื่อได้ยินเรื่องนี้ ฉันตะโกนใส่พวกเขาว่า “ฉันเกลียด “โรซี่” และเธอไม่มีวันที่จะมาแทนที่แม่ของฉันได้ ฉันเกลียดเวลาที่เธอปรุงอาหารด้วยสูตรของแม่ และพ่อก็จะไม่ใช่พ่อของฉันอีกต่อไป”
ฉันขังตัวเองอยู่ในห้องเป็นเวลาเกือบ 2 วันและ “แคลร์” ก็เป็นคนเดียวที่ฉันสามารถพูดคุยด้วยได้ ฉันได้แต่หวังว่าเธอจะอยู่ตรงนั้นกับฉัน แต่เธอก็อยู่ไกลจากฉันเหลือเกิน เธอสัญญาว่าเราจะได้พบกันเร็วๆ นี้และนี่ก็เป็นข่าวดีและเป็นแรงบันดาลใจเพียงอย่างเดียวที่ฉันได้ยินตอนนี้ ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับ “โรซี่” มีอยู่วันนึงฉันต้องการหนังสือเล่มหนึ่งที่อยู่ในห้องของพ่อและ “โรซี่” เมื่อฉันเข้าไปที่นั่นฉันก็สังเกตเห็นว่าหน้าบล็อกของฉันถูกเปิดอยู่บนแล็ปท็อปของเธอ ฉันจึงรีบวิ่งไปหาเธอแทบจะในทันที และถามเธออย่างตรงไปตรงมาว่า “เธอรู้อะไรเกี่ยวกับบล็อกของฉันบ้าง”
เธอถอนหายใจและสารภาพว่าจริงๆ แล้วเธอคือผู้หญิงคนนั้นที่คอยพูดคุยกับฉันอยู่ตลอดเวลา เธอบอกว่าเธอไม่เคยโกหกฉันในการสนทนาของเรา เธอเพียงแค่ต้องการให้กำลังใจฉันและเมื่อเธอเจอบล็อกของฉันและตัดสินใจว่านี่มันเป็นหนทางเดียวที่เธอจะสามารถทำแบบนั้นได้ ข้อมูลนี้มันน่าตกใจใช่ไหมล่ะ ใช้แล้วสำหรับฉันมันน่าตกใจจริงๆ ฉันรู้สึกเหมือนชีวิตของฉันถูกทำลายลงอีกครั้ง นับตั้งแต่ตอนนี้ ที่ฉันจะต้องสูญเสียเพื่อนทางอินเทอร์เน็ตไปอีกคน ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่า ทั้งหมดนี้มันจะเกิดขึ้นกับฉัน ฉันรีบไปที่ห้องของฉัน แล้วก็อยากจะระบายกับใครสักคนเพื่อบอกว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่คุณรู้ไหมฉันรู้สึกโดดเดี่ยวอีกครั้ง ไร้ซึ่งใครสักคนที่พอจะสามารถพูดคุยด้วย
ไม่นานนักพ่อก็มาเคาะประตูฉันบอกว่า ฉันไม่ต้องการที่จะคุยแต่ลึกๆ ข้างในฉันคิดถึงเขาเหลือเกินและอยากให้เขาคอยอยู่เคียงข้าง ดังนั้นเราจึงคุยกันแต่มันไม่ได้เริ่มต้นด้วยเรื่องของ “โรซี่” พ่อเริ่มจากเรื่องของแม่และทันใดนั้นเอง ฉันก็เข้าใจได้ว่าพ่อรักและคิดถึงแม่เหลือเกิน เขาไม่ต้องการที่จะทรยศกับความทรงจำของเธอแต่พ่อเพียงต้องการให้เราทั้งคู่ดำเนินชีวิตต่อไป จากนั้นพ่อก็ลุกขึ้นและออกไปจากห้องของฉันและเขาบอกว่า ถ้าฉันไม่สามารถรับ “โรซี่” ได้เขาก็จะไม่แต่งงานกับเธอ และยังไงฉันก็จะเป็นคนที่เขารักมากที่สุด เสมอตั้งแต่นั้นมาฉันก็ได้แต่คิดทบทวนเหตุการณ์นี้ซ้ำแล้วซ้ำอีกและได้ข้อสรุปว่า เราต้องพูดคุยกันทุกเรื่อง ฉันยังตำหนิ “โรซี่” เกี่ยวกับสิ่งที่เธอทำ และฉันอยากให้พ่อของฉันมีความสุข และเนื่องจากเรากำลังจะกลายเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว ฉันจึงต้องหาวิธีที่จะให้อภัยเธอให้ได้
คุณเห็นด้วยเกี่ยวกับสิ่งที่ฉันควรจะทำเกี่ยวกับเรื่องนี้ไหมอย่าลังเลที่จะแสดงความรู้สึกด้วยการกดไลค์ และเขียนข้อความเห็นของคุณด้านล่างวีดีโอนี้