ปัญหาสุขภาพ

ฉันมีเวลาเหลือแค่ 1 ปีและได้ทำเรื่องแย่มากมาย

สวัสดีทุกคนฉันชื่อ “จีอาน่า” และฉันคิดว่าบางครั้งทุกคนก็คงอยากจะรู้อนาคตของตัวเองว่าจะได้ทำงานอะไรจะได้เงินเท่าไหร่จะตายตอนไหนมันดูน่าเหลือเชื่อแต่ก็เจ๋งใช่ไหมล่ะ อืม..แต่จากประสบการณ์ของฉันแล้วมันไม่เจ๋งเลยฉันเป็นเด็กสาวอายุ 15 ที่เต็มไปด้วยความทะเยอทะยานมีการวางแผนแล้วก็มีความหวังอันยิ่งใหญ่ฉันมีครอบครัวเพื่อนและแฟนที่น่ารักและจะต้องการอะไรอีกล่ะด้วยเหตุผลบางอย่างทุกอย่างเหมือนถูกทำลาย

มันเริ่มต้นจากการปวดหัวเพียงเล็กน้อยซึ่งฉันไม่ได้สนใจจากนั้นก็รู้สึกประหลาดใจพอสังเกตตัวเองแล้วพบว่ามันก็เหนื่อยอยู่บ่อยๆหลังจากตื่นนอนตอนเช้าซึ่งฉันก็คิดว่ามันเป็นเพราะยุ่งมากๆนั่นแหละครั้งนึงตอนที่ฉันไปข้างนอกกับเพื่อนฉันรู้สึกว่างเปล่าแล้วตื่นมาบนเปลหามทุกอย่างเบลอไปหมดฉันเห็นเพื่อนทำหน้าตกใจแล้วก็หมอที่กำลังเรียกชื่อฉันอยู่ฉันรู้สึกตัวตอนอยู่ที่โรงพยาบาลครั้งนี้ฉันปวดหัวสุดๆพ่อแม่พี่ชายของฉันก็อยู่ด้วยฉันถามพวกเขาว่าเกิดอะไรขึ้นแม่บอกว่ามันเป็นอุบัติเหตุฉันเป็นลมล้มบนทางเท้าทำให้ศีรษะได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรงเพื่อนๆจึงเรียกรถพยาบาลให้แต่ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงหรอกหมอสัญญาว่าฉันจะกลับบ้านได้ทันทีถ้าได้รับผลเอกซเรย์แล้วฉันก็เลยใจเย็นลงนิดหน่อยแต่ก็ยังอยากออกจากที่นั่นให้ไวที่สุดอยู่ดีเพราะหมอและโรงพยาบาลมักทำให้ฉันกลัว

เช้าวันรุ่งขึ้นฉันคิดว่าตัวเองรู้สึกดีขึ้นในขณะที่ฉันกำลังเก็บของหมอและพ่อแม่ของฉันก็เข้ามาในห้องแม่หน้าซีดส่วนพ่อก็ทำหน้ากลุ้มใจหมอเป็นคนดีและยิ้มเก่งมากเขาเล่ามุกตลกแต่ดูเหมือนว่าเขาอยากจะพูดบางสิ่งที่จริงจังออกมาฉันรู้สึกได้เลยว่ามันเป็นเรื่องไม่ดีแน่แล้วสิ่งที่เขาพูดออกมามันวนเวียนอยู่ในหัวฉันซ้ำไปซ้ำมา  เนื้องอกในสมองระยะสุดท้ายไม่มีใครบอกแต่ว่าฉันเหลือเวลาอีกเท่าไหร่ 1 สัปดาห์หรือ 1 เดือนหมอบอกว่าให้ฉันลองทำเคมีบำบัดดูแต่มันก็ไม่สามารถซื้อเวลาให้ฉันได้เท่าไหร่นะสิ่งเดียวที่พวกเขาทำได้คือจ่ายยาให้เป็นจำนวนมากเพื่อบรรเทาอาการปวดหัวร้ายแรงที่พร้อมจะเล่นงานฉัน คุณไม่รู้หรอกว่าฉันรู้สึกยังไงทำไมต้องมาเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นด้วยถ้าไม่ต้องเป็นฉัน ฉันเสียใจมากแล้วก็อึ้งถึงขนาดร้องไห้ไม่ออก หลังจากที่นอนคิดเรื่องนี้บนเตียงอยู่หลายชั่วโมง ฉันก็ยอมรับกับตัวเองว่าฉันเหลือเวลาอีกไม่นานแล้วกำลังจะตาย  แต่สิ่งสุดท้ายที่ฉันอยากทำก็คือการใช้เวลาอันมีค่าในโรงพยาบาลกับโรคร้ายผมร่วงและเคลื่อนไหวไม่ได้ ฉันไม่อยากทำเคมีบำบัด นี่เป็นเรื่องแย่ที่จะพูดกับพ่อแม่เพราะมันไม่สามารถบรรเทาความเจ็บปวดของพวกท่านได้แต่ฉันต้องเป็นหลายใจพวกท่านสนับสนุนอย่างเต็มที่หมอไม่ยอมรับการตัดสินใจของฉันเขาอยากให้ฉันพักที่โรงพยาบาลซึ่งอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์แต่ฉันก็ยังยึดมั่นในความต้องการเดิม 

2 วันหลังจากนั้นฉันอยู่บ้านกินข้าวเช้ากับครอบครัว ทันใดนั้นพ่อก็พูดว่าไม่มีอะไรขัดขวางการใช้ชีวิตที่เหลืออย่างเต็มที่ของสาวน้อยผู้กล้าหาญของพ่อได้ พ่อต้องการให้ฉันเขียนรายการสิ่งที่อยากทำอยากซื้อหรือประเทศที่อยากไป แล้วพวกท่านจะพยายามทำเพื่อฉัน ฉันรู้ว่าพวกเราไม่ใช่ครอบครัวร่ำรวยแต่พ่อแม่ก็เก็บเงินไว้จำนวนหนึ่งเพื่อการศึกษาของฉันซึ่งตอนนี้มันไม่สำคัญแล้วพี่ชายของฉันถึงขนาดใช้เงินของตัวเองเลยฉันเกือบร้องไห้เพราะความซาบซึ้งแต่ใช้เวลาไม่นานในการนั่งเขียนสิ่งที่อยากทำฉันมีช่วงเวลาที่หน้าเหลือเชื่อและน่าตื่นเต้นที่สุดในชีวิตพวกเราไป ดิสนีย์ เวิลด์ ปารีส และสเปน เราเข้าพักในโรงแรม 5 ดาวและฉันก็ได้กินไอศกรีมทุกรสเค้กและช็อกโกแลตทุกวันฉันย้อมผมสีแดง น้ำเงิน เขียว ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อนแม่มักจะบอกเสมอว่ามันจะทำให้ผมเสียแต่ฉันไม่มีอะไรต้องกังวลแล้วฉันซื้อเสื้อผ้าใหม่แล้วก็ของออนไลน์ฉันไม่ค่อยแน่ใจหรอกนะว่าจะมีเจ้าหญิงคนไหนเคยได้นอนบนเตียงที่มีกลีบกุหลาบเมื่อฉันอยู่ในตอนนี้หรือเปล่าและยิ่งไปกว่านั้นฉันไม่มีอาการเจ็บปวดอย่างที่หมอได้คาดการณ์เอาไว้แต่ยิ่งฉันมีความสุขและสนุกมากเท่าไหร่ก็ยิ่งรู้สึกว่างเปล่าแล้วเฉยชามากเท่านั้น เพื่อนๆมาเยี่ยมกันทุกวันแล้วก็พูดคุยด้วยข้อความสั้นกำลังใจมากมาย “โวล” แฟนของฉันเอาของขวัญมาให้เพื่อแสดงความรักที่ยาวนานของเขา ฉันต้องฝืนยิ้มและทำเหมือนว่าตัวเองกล้าหาญที่จะยอมรับความตายที่กำลังเข้ามา

ฉันไม่ได้รู้สึกแย่กว่าเดิมดังนั้นต้องไปโรงเรียนวันที่ฉันได้รับความสนใจมาก แต่มันกลับกลายเป็นเรื่องน่ารำคาญแทนฉันกลายเป็นคนหงุดหงิดแล้วก็วิตกกังวลเริ่มก้าวร้าวต่อพ่อแม่ตะคอกใส่เพื่อนแล้วแฟนฉันใช้เวลาทั้งหมดอยู่ในห้องทิ้งเวลาไปเปล่าบนเตียงแล้วนั่งดูรูปในมือถือกับ โซเชียล มีเดีย ครั้งหนึ่งเมื่อแฟนของฉันลงไปด้านล่างเพื่อชงชาให้ฉันได้ยินเสียงจากมือถือเขาซึ่งอยู่บนโต๊ะข้างเตียงของฉันแน่นอนความสงสัยของฉันมันมากกว่าความเชื่อใจก็เลยเปิดมือถือเขาดูสิ่งที่เห็นก็คือข้อความน่าสนใจระหว่างเขากับผู้หญิงอีกคนในชั้นเรียน “โวล” ต่อว่าฉันในนั้นเขาบอกว่าฉันน่ารำคาญแล้วก็เอาแต่ใจและเหตุผลเดียวที่เขายังไม่ยอมเลิกเพราะว่าฉันป่วยเป็นโรคร้าย หัวใจของฉันแตกออกเป็นเสี่ยงๆ ฉันถูกนอกใจ

มันจุกอยู่ที่อกแล้วน้ำตาก็เอ่อล้นขึ้นมาเริ่มร้องไห้เสียงดังแม่กับ “โวล” จึงรีบขึ้นมาหาฉันที่ห้องพวกเขาพยายามถามว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ฉันอยู่ในสภาพร้องไห้ไม่หยุดไม่ยอมบอกความจริงกับพวกเขาแม่ไม่รู้จะทำยังไงและไม่นานฉันก็อยู่บนรถฉุกเฉินมุ่งหน้าไปโรงพยาบาลฟ้าเริ่มมืดแล้วฉันจะอยู่คนเดียวในห้องเสียใจอยู่กับชีวิตที่ไร้ประโยชน์ของตัวเองทุกคนโกหกฉัน หักหลังฉัน ฉันไม่มีอะไรจะเสียและไม่มีอะไรที่อยากได้อีกแล้วถ้าโลกโหดร้ายกับฉันแบบนี้แล้วฉันจะใจดีไปทำไม ฉันปีนออกทางหน้าต่างเพื่อหนีออกจากโรงพยาบาลแล้วก็เดินไปยังเดินเขาใกล้ๆจากนั้นก็เริ่มบ้าฉันตะโกนแล้วตวาดใส่พวกคนที่ฉันเจอบนถนนจากนั้นก็มีไอเดียนึงผุดขึ้นมาฉันเจอบ้านแฟนใหม่ของ “โวล” แล้วเริ่มตะโกนด่าทอมากมาย ฉันเสียงดังมากและคิดว่าเพื่อนบ้านแถวนั้นก็น่าจะได้ยินหมดฉันเห็นผู้คนมองผ่านหน้าต่างแล้วเริ่มชี้นิ้วมาที่ฉัน

แต่ไม่เห็นต้องกังวลอะไรเลยนี่ฉันเห็นหน้าแฟนใหม่ของเค้ามองผ่านหน้าต่างเหมือนกันเธอร้องไห้ซึ่งทำให้ฉันพอใจอย่างมาก แต่หลังจากนั้นพ่อของเธอก็เปิดประตูออกมาแล้วบอกว่าจะเรียกตำรวจถ้าฉันไม่ไปจากบ้านเขาให้เร็วที่สุด ไม่มีปัญหา ไปอะไรก็ได้ ฉันพูดทุกสิ่งที่อยากจะพูดกับยัยโง่นี่แล้วฉันเดินไปรอบๆเมืองตอนเช้าแล้วก็รู้สึกหิวมากจนเข้าไปในซุปเปอร์มาร์เก็ตแต่ฉันไม่มีเงินนิ การขโมยจะทำให้ชีวิตฉันแย่ลงมั้ยนะ ฉันหยิบคุกกี้แล้วเดินไปที่ทางออกในขณะที่พนักงานขายเริ่มตะโกนว่าขโมย การผจญภัยครั้งนี้ทำให้ฉันต้องไปที่สถานีตำรวจเหตุการณ์นี้สร้างความตกใจให้กับพ่อแม่แล้วก็ครูใหญ่ “อีวาย” เป็นเป็นอย่างมาก  เมื่อฉันปรากฏตัวที่โรงเรียนหลังจากนั้น 2-3 วัน ครูใหญ่มาหาฉันที่ห้องเรียนแล้วก็เริ่มพูดบางอย่างกับฉันโดยที่ครูท่านอื่นและเพื่อนร่วมชั้นก็อยู่ด้วยเท่าที่รู้มาเธอเป็นผู้หญิงที่น่ารังเกียจที่สุดในโลกซึ่งคนอื่นๆ ทั้งนักเรียนและครูต่างก็เกลียดเธอทั้งนั้นแล้วมีใครกล้าต่อต้านเธอมั้ยลองทายดูสิในเวลานี้ฉันสามารถทำได้ฉันยิ้มใส่เธอแล้วบอกให้ไปไกลๆด้วยวาจาที่ไม่เคารพที่สุดเท่าที่จะทำได้เลยสีหน้าของเธอตลกชะมัด โอ้ว ฉันรู้สึกแฮปปี้สุดๆเธอจะทำอะไรฉันได้อ่ะไล่ออกหรอไม่เห็นน่ากลัวเลยก็คอยดูไปแล้วกันฉันรู้สึกโล่งใจมากระหว่างกลับบ้านแล้วก็เห็นพ่อแม่กำลังร้องไห้พวกท่านรีบวิ่งเข้ามาหาแล้วกอดฉันแน่น

แม่บอกว่าเรื่องน่าเหลือเชื่อได้เกิดขึ้นพวกท่านได้รับสายจากโรงพยาบาลหมอของฉันขอโทษพ่อแม่เป็นล้านครั้งเนื่องจากเข้าใจผิดเกี่ยวกับผลการเอกซเรย์ด้วยผลที่ออกมาว่าเป็นมะเร็งคือของหญิงชราที่มีอายุ 80 เธอมีชื่อและชื่อย่อเดียวกับฉันมันเป็นอะไรที่น่าขำจริงๆเลยพวกเราไปโรงพยาบาลแล้วฉันเข้ารับการตรวจอีกครั้งเชื่อไหมฉันไม่ได้เป็นมะเร็งหรอกแค่มีความมั่นคงของระบบประสาทอัตโนมัติหรืออะไรนี่แหละซึ่งมันไม่เป็นอันตรายเลยพ่อแม่ฉันโมโหมากพ่อไม่เชื่อเลยว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นกับคลีนิคทันสมัยพ่อยอมรับว่าหากฉันได้รับการตรวจสุขภาพอย่างระมัดระวังมากขึ้นพวกเขาก็จะพบข้อผิดพลาดเร็วกว่านี้แต่ฉันยังยืนยันที่จะออกจากโรงพยาบาลซะก่อนนี่เป็นการโยนความผิดมาให้ฉันนี่ พ่อของฉันก็เลยฟ้องร้องทางคลินิกและหวังว่าจะได้รับเงินชดเชยเร็วๆนี้ ok นี่เป็นข่าวดี แต่คุณอาจจะเดาได้นะฉันรู้สึกไม่มีความสุขเลยฉันเสียเวลาชีวิตไป 2-3 สัปดาห์เสียเพื่อนเสียแฟนแล้วไม่ต้องพูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับครูใหญ่ “อีวาย” และที่สถานีตำรวจนั่นฉันทำให้ครอบครัวเสียเงินกับเรื่องไม่เป็นเรื่องทำยังไงดีฉันไม่รู้เลย แต่สิ่งที่รู้ก็คือในชีวิตของเราไม่มีบาปไหนที่ทำไปแล้วจะได้รับการยกโทษ

ถ้าในชีวิตมีเวลาเหลือแค่เดือนเดียวคุณเคยคิดไหมว่าจะทำยังไงอยากทำอะไรบ้างหากคุณมีเรื่องราวที่คล้ายกันอย่าลืมมาแบ่งปันในช่องคอมเม้นบ้างนะฉันหวังว่าคุณจะไม่ทำอะไรโง่ๆแบบฉันนะ

เรื่องเล่าที่เกี่ยวข้อง

0 0 votes
Article Rating
Subscribe
Notify of
guest
0 Comments
Inline Feedbacks
View all comments
Back to top button
0
Would love your thoughts, please comment.x
()
x

ปิดโปรแกรมบล็อคโฆษณา

กรุณาปิดโปรแกรมบล็อคโฆษณาก่อนนะ เพราะเว็บจะอยู่ได้ก็จากป้ายโฆษณา