ฉันทำพลาดครั้งเดียวและครอบครัวของฉันก็โยนฉันออกจากชีวิตของพวกเขา
สวัสดีทุกคนฉันชื่อชื่อ “ไรลี่ย์” และฉันมีความรู้สึกผิดอยู่ในใจมากมายฉันคิดว่าฉันแชร์เรื่องราวของฉันมันจะช่วยทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้นสักหน่อยเหตุการณ์ที่แย่ที่สุดส่วนใหญ่มักจะเกิดขึ้นจากอุบัติเหตุ อุบัติเหตุโง่ๆแต่ฉันไม่คิดมาก่อนเลยว่าการทำอะไรไม่คิดของฉันตอนวัยรุ่นจะทำร้ายครอบครัวของฉันไปตลอดกาล ฉันคงไม่กล้าพูดว่าครอบครัวของฉันให้เป็นครอบครัวที่ดีพร้อมแต่แรกพ่อมักจะใช้คำพูดหยาบคายและเป็นคนใจแคบมากๆพ่อทำงานในอู่ซ่อมรถมาทั้งชีวิตแล้วมันก็เห็นได้ชัดว่าแทบจะไม่พอเลี้ยงครอบครัวซึ่งเป็นสาเหตุให้พ่อกับแม่มันจะเถียงทะเลาะกันเป็นประจำ “ฮันเตอร์” พี่ชายของฉันต้องเรียนไปด้วยแล้วก็ช่วยพ่อทำงานที่อู่ซ่อมรถไปด้วยแต่พี่ไม่เคยบ่นส่วนกิจวัตรประจำวันของฉันคืองานบ้านที่ไม่เคยจบสิ้นพวกเราพยายามทำให้ดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้แต่แม่ของฉันไม่เคยพอใจเลยฉันคิดว่าแม่ฝันถึงชื่อที่ดีกว่าที่เป็นอยู่ตลอดเวลาแต่ถึงยังไงก็ตามแม้จะเป็นอย่างที่ว่ามาเราก็ยังคงความเป็นครอบครัวแต่แล้วบางอย่างก็เกิดขึ้น
พ่อออกไปนอกเมื่อสองสามวันเพราะต้องไปเอาอุปกรณ์และเครื่องมือใหม่อะไรแบบนั้นน่ะพ่อตื่นเต้นมากบอกซ้ำแล้วซ้ำอีกว่าพ่อได้ออเดอร์ใหญ่ที่จะทำเงินได้เยอะหุ้นส่วนของพ่อมีรถบรรทุกนี่จึงเป็นเพียงหนึ่งในไม่กี่ครั้งที่พ่อไม่ได้ใช้รถสุดรักของพ่อและจะบอกให้นะมันเป็นของที่แพงที่สุดอย่างเดียวที่ครอบครัวเรามี “ฮันเตอร์” กับฉันต้องถูกฆ่าแน่ถ้าเอามันไปขับและตอนนี้เราก็มีโอกาสแล้วฉันขอร้องพี่ชายเอารถออกมาขับแค่แป๊บเดียวเองก็ยังดีมันล่อใจมากแต่ “ฮันเตอร์” ยืนยันว่ามันเสี่ยงเกินไปเพราะงั้นเราเลยตกลงกันว่าเราจะไม่แตะต้องรถไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นแต่อย่างที่คุณเดาเวลาแหละฉันทำผิดสัญญาตอนกลางดึกฉันส่งข้อความหาเพื่อนแล้วบอกว่าเราควรไปหาอะไรสนุกๆทำกันและฉันก็แทบไม่ต้องเสียเวลาเกลี้ยกล่อมเพื่อนๆเลยฉันวางแผนไว้หมดแล้ว “ฮันเตอร์” ไปหาแฟนส่วนแม่ก็หลับสนิทอยู่ในห้องนอนฉันขโมยกุญแจรถและเพื่อนๆกับฉันก็แอบออกไปที่สวนพวกเราอย่างกับนินจาแหนะ
เมื่อเราขับรถออกไปไกลพอแล้วก็ขับเร็วขึ้นเรื่อยๆฉันรู้สึกอิสระเหมือนนกแล้วก็ตู้มรถชนกับอะไรสักอย่างในความมืดและเราก็เสียการควบคุม ในที่สุดพอเราหยุดรถได้แล้วได้พักหายใจหายคอแล้วก็เห็นว่ารถเสียหายหนักมากเราเอารถเข้าไปเก็บในรถแหงล่ะเพื่อนๆพูดขอโทษอะไรแบบนี้ฉันก็รู้ว่าไม่มีความรู้สึกผิดอะไรจะช่วยฉันได้ในตอนนี้เลยฉันทำอะไรไม่ได้นอกจากนั่งอยู่ข้างรถแล้วก็ร้องไห้หลังจากนั้นไม่นาน “ฮันเตอร์” กลับมาบ้านแล้วเดินมาตรงที่ฉันอยู่ตอนแรกเขาโกรธฉันมากแต่ก็โกรธอยู่ไม่นานเขาปลอบใจฉันแล้วก็พูดว่าพี่จัดการเองไม่ต้องห่วงเขาคิดว่ามีทางเดียวที่จะช่วยฉันได้คือพยายามซ่อมรถที่อู่ก่อนที่ใครจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นพ่อจะยังไม่กลับมาจนกว่าจะถึงคืนถัดไปแล้วเราก็มีเวลาเหลือไม่มากละ “ฮันเตอร์” ขึ้นรถแล้วขับออกไปฉันนอนไม่หลับเลยทั้งคืนจะส่งข้อความหาพี่แทบจะทุก 5 นาทีแต่แหงละว่าเขาคงยุ่งมากถึงไม่ได้ตอบข้อความฉันเลยในที่สุดก็เช้าพี่ก็ยังไม่กลับบ้านฉันเริ่มเป็นห่วงส่วนแม่ไม่สงสัยเลยว่ามีอะไรผิดปกติเพราะก็คิดว่ามันก็ยังหลับอยู่
เรากำลังกินข้าวเช้าอยู่ตอนที่ได้ยินเสียงหวอรถตำรวจอยู่ไกลๆมันไม่ได้มีอะไรพิเศษแต่เพราะเหตุผลอะไรบางอย่างใจฉันหล่นวูบทันใดนั้นก็มีโทรศัพท์เข้ามาหาแม่ แม่ฟังคนจากปลายสายอยู่ไม่กี่วินาทีก่อนจะเป็นลมไปเกิดอุบัติเหตุขึ้นที่อู่ซ่อมรถไฟไหม้ทุกอย่างและ “ฮันเตอร์” พี่ชายที่น่าสงสัยของฉันอยู่ในนั้นพวกเขาไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไงมันเกิดจากแก๊สรั่วหรือว่า “ฮันเตอร์” ทำอะไรบางอย่างที่ทำให้เกิดระเบิดแต่ไม่ว่ายังไงก็ได้เสียพี่ชายไปแล้วแล้วเป็นเพราะฉันเองที่ทำให้เขาตายตอนนี้อะไรก็ไม่สำคัญอีกต่อไปแล้วแน่นอนว่าฉันบอกแม่พ่อแล้วก็ตำรวจถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในทันทีและพ่อแม่ไม่ได้แค่โมโหหรือโกรธฉันพวกเขาเริ่มเกลียดฉันจริงๆเลยล่ะพ่อบอกว่าไม่อยากเห็นหน้าฉันอีกต่อไปแล้วฉันเป็นคนฆ่า “ฮันเตอร์” แล้วจะไม่มีวันยกโทษให้ฉันอีกฉันรู้ว่าพ่อพูดถูกฉันก็เลยตัดสินใจหนีออกจากบ้านไปยังเนินเขาบางทีลึกๆแล้วฉันหวังว่าพ่อแม่จะหยุดฉันหรือมองมาที่ฉันแต่พวกเขาก็ไม่
ฉันเดินไปเรื่อยๆรู้สึกเหมือนมันช่างนานแสนนานฉันนอนที่มานั่งในสวนสาธารณะขโมยอาหารซุปเปอร์มาร์เก็ตและก็ยังมีความหวังอยู่แต่ดูเหมือนไม่มีใครสนใจฉันอีกต่อไปผ่านไป 1 สัปดาห์ฉันตัดสินใจกลับบ้านเพราะว่าไม่มีที่ไปเมื่อเห็นบ้านฉันก็ร้องไห้ไม่หยุดประตูเปิดอยู่แต่ฉันรวบรวมความกล้าเดินเข้าไปในบ้านรกสุดๆพ่อนั่งอยู่บนโซฟาหรือไม่แม้แต่จะสนใจว่าฉันกลับมาแล้วมันดูเหมือนว่าพ่อแก่ขึ้น 20 ปีภายในสัปดาห์เดียวส่วนแม่ก็หายตัวไปพ่อก็ไม่สนใจว่าฉันจะอยู่หรือไปเหมือนกันสำหรับฉัน ฉันไม่มีทางเลือก 2ปีผ่านไปพ่อตกงานแล้วเริ่มดื่มเหล้าหนักจริงๆฉันไม่เคยเห็นเขาตอนไม่เมาเลยใน 2 ปีนี้แล้วเราก็แทบไม่ได้คุยกันเลยฉันยังคงเชื่อว่าที่ฉันถูกปฏิบัติแบบนี้มันก็สมควรแล้วก็เลยไม่ได้ติดใจอะไรฉันได้งานพาร์ไทม์แล้วก็ตั้งใจที่จะเรียนให้จบฉันทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้เพื่อปัดความสงสัยที่ว่ามีอะไรผิดปกติในครอบครัวของฉันออกไปแต่ก็ไม่มีอะไรที่ถูกฝังกลบไว้ได้ตลอดกาลวันนึงเพราะก็หายไปใช่ฉันชินกับการที่พ่อหายตัวไปบ่อยๆแค่หลายวันผ่านไปพ่อก็ยังไม่กลับมา
2 สัปดาห์ผ่านไปไม่ต้องสงสัยเลยว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นฉันทำอะไรไม่ได้นอกจากไปหาตำรวจตำรวจก็ตกใจมากส่วนใหญ่เป็นเพราะว่าเด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะเนี่ยถูกทิ้งอยู่คนเดียวเป็นเวลานานศูนย์พิทักษ์เด็กเอาตัวฉันไปทันทีพ่อก็ยังไม่กลับมาพวกเขาจึงเริ่มตามหาแม่ของฉันซึ่งยังเป็นปัญหาใหญ่ของฉันเพราะแม่ทิ้งเราไปโดยไม่พูดอะไรสักคำแล้วก็ไม่ได้ทิ้งโน้ตไว้เลย ในที่สุดพวกเขาก็เจอแม่ แม่เกิดที่เม็กซิโกแล้วมันเป็นที่ที่แม่กลับไปแม่บอกว่าจะไม่กลับไปอเมริกาเพื่อรับฉันแม่ทิ้งฉันไม่เคยรู้สึกสิ้นหวังและสับสนในชีวิตขนาดนี้มาก่อนแน่นอนฉันรู้ว่าฉันทำเรื่องไม่ดีแต่มันก็ผ่านมานานแล้วไม่ใช่หรอฉันไม่ได้ฆ่า “ฮันเตอร์” จริงๆสักหน่อยมันเป็นอุบัติเหตุต่างหากหลังจากนั้นไม่นานพ่อก็ถูกเพราะว่าเสียชีวิตอยู่ในแม่น้ำพ่อคงจะเมาตอนขับรถแล้วก็เสียการควบคุมและแน่นอนว่าฉันเสียใจแต่ก็ไม่ได้แปลกใจฉันอยู่กับครอบครัวอุปถัมภ์ 1 ปีก่อนที่ฉันจะอายุ 18 ฉันไม่ได้กลัวการเป็นผู้ใหญ่ฉันหมายถึงฉันเห็นอะไรมาบ้างแต่ฉันก็ยังไม่ได้คำตอบทั้งหมด
แม่ทิ้งฉันเป็นง่ายๆได้ยังไงมีทางเดียวที่จะรู้ได้ฉันหาที่อยู่ของแม่ซื้อตั๋วเครื่องบินไปเม็กซิโกแล้วก็ออกเดินทางแม่อยู่ในหมู่บ้านเล็กๆที่สวยงามคนที่นั่นปลูกพืชแล้วก็เลี้ยงวัวฉันคิดว่าแม่คงมีชีวิตอย่างสงบสุขอยู่ที่นั่นฉันเริ่มใจเต้นไม่เป็นจังหวะเมื่อเจอบ้านแม่มันเป็นบ้านเก่าทรุดโทรมและมีผู้หญิงแก่นั่งอยู่บนเก้าอี้ใกล้ๆฉันเกือบจำไม่ได้แต่ว่าผู้หญิงคนนั้นคือแม่ของฉันเองฉันแทบไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองมันผ่านไปแค่ 4 ปีเองนะแม่ดูแก่ไปมากฉันถามแม่ว่าจำฉันได้หรือเปล่าเธอมองฉันผ่านๆ แต่ฉันรู้ว่าเธอไม่รู้เลยว่าฉันเป็นใครดวงตาของแม่ดูบ้าคลั่งและเริ่มพร่ำบ่นบางอย่างและฉันก็เริ่มเข้าใจว่าเธอพูดเรื่อง “ฮันเตอร์” แม่เหม่อมองแล้วก็เล่าให้ฉันฟังว่าเธอสูญเสียลูกชายสุดที่รักเพราะนังผู้หญิงน่ารังเกียจที่ดันเป็นลูกสาวของเธอด้วยแม่สันสะท้านด้วยความโกรธและพูดถึงฉันแล้วก็เล่าให้ฉันฟังอย่างกับว่าฉันเป็นคนแปลกหน้าตอนนี้มันชัดเจนว่าแม่เป็นบ้าไปแล้วฉันคิดว่าฉันได้รับผลกรรมและไม่มีใครฉันก็ได้แม่พ่อและพี่ชายของฉันกลับคืนมานี่คือสิ่งที่บางครั้งเราต้องชดใช้แต่การกระทำที่ไร้เหตุผลแล้วก็ไม่ระมัดระวังฉันไม่รู้ว่าจะยกโทษให้ตัวเองได้หรือเปล่าแต่ฉันก็ได้รับบทเรียนละ
คุณเคยต้องชดใช้ในการกระทำโง่ๆของตัวเองไหมแล้วคุณรับมือกับมันยังไงฉันอยากได้ข้อเสนอแนะจากคุณในช่อง คอมเมนท์ และคุณก็แชร์คลิปนี้ให้กับเพื่อนได้ฉันจะรอฟังว่าคนอื่นจะคิดยังไงกับเรื่องที่เกิดขึ้น