ผมโกหกว่าผมอายุแก่กว่าความเป็นจริงเพื่อเอาชนะใจแฟนสาว
สวัสดีทุกคนผมชื่อ “เนียว” แล้วผมอยากจะถามคุณว่าคุณเคยเชื่อในรักแรกพบหรือเปล่า หืม?… นี่ฟังดูเหมือนผมกำลังพยายามจะขายอะไรหรือแจกแผ่นพับให้คุณงั้นเหรอ
ไม่ใช่นะที่จริงผมแค่อยากเล่าเรื่องของผมให้พวกคุณฟังเท่านั้นเอง เอาล่ะมีอยู่วันหนึ่งในขณะที่ผมกำลังเล่นเฟซบุ๊กดูโน่นดูนี่แล้วบังเอิญไปเจอหน้าเฟซบุ๊กของผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ผมรู้สึกว่าเธอมีเสน่ห์มาก รอยยิ้มของเธอทำให้ผมรู้สึกเหมือนมีผีเสื้อกระพือปีกอยู่เต็มท้อง ว้าว ❤️❤️❤️ พวกคุณคิดดูสิ คุณรู้ใช่ไหมว่าผมกำลังหมายถึงอะไร
ใบหน้าสวยๆ นั้นไม่ใช่แค่เหตุผลเดียว ที่ทำให้ผมหลงรักหัวปักหัวปำดังนั้นผมจึงเริ่มไล่ดูโพสต์ของเธอไล่อ่านคอมเม้นแล้วเจ้าผีเสื้อพวกนั้นก็ยังเพิ่มขึ้นเธอคือคนที่ใช่ที่สุดสำหรับผมเลย คุณคงอยากถามว่าประเด็นของเรื่องนี้อยู่ตรงไหนไม่ใช่ว่าผมพยายามจะโอ้อวดเหรอ ประเด็นก็คือเธอ
เอาล่ะมารู้จักกันก่อนชื่อของเธอคือ “โอลีฟ” อายุ 21 ปี ส่วนผมยังไม่ถึง 18 เลยแล้วเราจะคุยอะไรกันได้เธอน่าจะบอกผมว่าอะไร ใช่กลับไปทำการบ้านซะเถอะเด็กน้อยหรือเปล่านะ แล้วยังไงล่ะผมจึงตัดสินใจโกหกเธอไป ซึ่งโปรไฟล์ของผมก็ไม่ได้โชว์อายุอยู่แล้ว เราเริ่มคุยกันตอนแรกก็ไม่มีสาระอะไรจากนั้นก็คุยเรื่องในชีวิตจริง ผมทำตามแผนและบอกเธอว่าผมอายุ 21 เท่าเธอ
แล้วกำลังจะย้ายออกจากบ้านพ่อแม่ให้เร็วที่สุด ทันทีที่หาอพาร์ทเม้นท์ของตัวเองได้ พวกคุณรู้ไหมเวลาที่ผมคุยกับ “โอลีฟ” ผมเชื่อว่าทุกอย่างที่ผมบอกเธอเป็นเรื่องจริงผมรู้สึกเหมือนมีชีวิต 2 ด้าน ทางหนึ่งผมเป็นนักเรียนไฮสคูลกังวลเรื่องการสอบวิชาเคมีและอีกฝั่งก็เป็นคนที่ต่างออกไปโดยสิ้นเชิง อายุมากกว่าและมีปัญหาอีกแบบที่ต่างกันครับ ถ้าผมต้องพูดถึงอะไรสักอย่างที่ไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน ผมก็หาข้อมูลบนอินเตอร์เน็ตได้ง่ายๆ มันง่ายมาก
ผมแทบไม่ต้องกังวลเรื่องพวกนี้เลย แต่แล้วทุกอย่างก็เปลี่ยนไปเมื่อเราตัดสินใจนัดพบกันตัวต่อตัว ผมหมายถึงว่าไม่ได้เปลี่ยนเพราะว่าผมทำความลับแตกหรอกนะ ไม่เลยผมโกหกได้อย่างแนบเนียนเยี่ยมยอด แต่ความตั้งใจที่จะโกหกของผมเปลี่ยนไปแล้ว การโกหกเธอสำหรับผมกลายเป็นเรื่องที่ยิ่งยากขึ้นเรื่อยๆ แล้วก็ผมเริ่มเบื่อหน่ายที่จะต้องทำแบบนี้ “โอลีฟ” เปิดเผยมากจริงใจมาก
คุณนึกภาพออกไหมว่าเธอพูดกระทั้งว่าชอบผมตั้งแต่ในการเดทครั้งแรก และยังบอกทุกเรื่องเกี่ยวกับพ่อแม่ผู้เข้มงวด ของเธอซึ่งยังเห็นเธอเป็นเด็กหญิงตัวน้อยและเธอก็ไม่อยากทำให้พวกเขาผิดหวัง ดังนั้นเลยเล่นไปตามบท ปิดบังความจริงที่เธอออกมาเดท เธอหัวเราะในตอนที่เล่าทั้งหมดนี้ให้ผมฟังแล้วผมก็หัวเราะไปกับเธอแต่ผมกลับรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนเลวร้ายแล้วรู้สึกเศร้าจริงๆ
นอกเหนือจากความรู้สึกผิดที่จริงก็ยังมีปัญหาอีกอย่าง ทั้งยังเป็นปัญหาที่จริงจังกว่าผมออกไปไหนมาไหนกับ “โอลีฟ” และทุกสิ่งก็ดูราบรื่นไร้ปัญหาแต่นั่นก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงเรื่องระหว่างเราเราเดินเที่ยวไปรอบๆ เมืองไปดูหนัง ไปร้านกาแฟ ไปโรงภาพยนต์ แต่ไม่มีใครอยากให้ไปถึงขั้นถัดไป ผมคิดว่าเธอกำลังรอให้ผมทำอะไรอยู่
แต่ผมจะทำอะไรได้ล่ะ เชิญเธอออกมากินข้าวเย็นกับพ่อแม่เพื่อที่เราจะได้เลือกว่าผมควรไปเรียนต่อมหาลัยไหนในปีหน้านั้นเหรอ พอถึงจุดหนึ่ง “โอลีฟ” ก็เริ่มเศร้าและกระวนกระวายและผมก็คิดว่าตัวเองรู้เหตุผล เหตุผลก็คือผมเองนี่แหละวันหนึ่งเราพบกันที่ร้านกาแฟและสั่งกาแฟมาทานกันแต่บทสนทนาดูน่าจะอึดอัดใจอยู่บ้าง “โอลีฟ” ดูใจลอยแล้วตึงเครียดเธอมองไปรอบๆ ด้วยความประหม่า และผมก็กำลังพยายามจับประดิษฐ์คำโกหกใหม่ๆ เกี่ยวกับชีวิตแบบผู้ใหญ่
แล้วทันใดนั้นอยู่ๆ ผมก็ตระหนักขึ้นมาว่าผมไม่อยากโกหกอีกต่อไปแล้วผมอยากให้ผู้หญิงที่วิเศษคนนี้รักผมที่เป็นผมจริงๆ ลองนึกภาพตามผมหลับตาลงและเริ่มอ้าปากจะสารภาพความจริง อยู่ๆ “โอลีฟ” ก็กรีดร้องด้วยความหวาดกลัวและทันใดนั้นโต๊ะของเราก็เกือบถูกผู้ชายตัวใหญ่เบ้อเริ่มคนหนึ่งคว่ำทิ้ง แทนที่จะขอโทษเขาเริ่มตะโกนใส่หน้าเธอแบบตะโกนจริงๆ เลย จับมือเธอแล้วลากออกมาจากโต๊ะที่เรานั่งอยู่
ผมพูดตามตรงนะ ผมตกใจสุดขีดแต่ที่จริงทุกอย่างเกิดขึ้นกะทันหันและเร็วมากและขณะที่ผมกำลังนั่งกระพริบตาปริบๆ เหมือนคนโง่ผู้ชายคนนั้นก็พูดนู่นนี่ รวมถึงเรื่องที่ว่า “โอลีฟ” หย่ากับเขาเพื่อที่จะมาลักลอบคบกับคนทุเรศอีกคน แล้วคุณรู้ไหมตอนนั้นผมรู้สึกโกรธสุดขีด ใช้ผมอาจจะเป็นได้ทุเรศของจริงและก่อนผู้ชายคนนี้จะโผล่มา ผมยังคิดเลยว่าจะต้องทิ้งผมใน 5 นาทีต่อมาแน่ๆ
แต่พอเขาเริ่มข่มขู่เธอ และทำเธอเจ็บด้วยการบีบมือเธอแน่น ผมก็กระโดดไปขวางระหว่างเขาและ “โอลีฟ” และผลักเขาออกไปก่อนนะนายน่ะแฟนผมไม่อยากเจอนายเพราะงั้นถ้านายไม่หายตัวไปจากชีวิตเธอตลอดกาลผมจะลากได้ไปหาตำรวจแบบเลือดกบปาก พูดตรงๆผมนึกไม่ออกเลยว่าเรื่องนี้จะจบอย่างไรถ้าเราไม่ได้อยู่ที่ร้านของหวานสักแห่ง
ผู้ชายคนนี้ตัวใหญ่มาก และถึงตอนนั้นผมพร้อมจะสู้ตายผมก็ไม่คิดว่าเขาจะนึกกลัวผม ที่โกรธจนตาลุกเป็นไฟแบบนี้ ผมคิดว่าเป็นเพราะคนที่นั่งโต๊ะอื่นรอบๆ ปรบมือชื่นชมคำประกาศอันดุดันของผม เขามองไปรอบๆ เหมือนจะรวบรวมความคิดว่า จะเอาอย่างไรดีจากนั้นก็จากไป แล้วเราทั้งสามก็ถูกทิ้งไว้ตรงนั้นมี “โอลีฟ” ผม และความเงียบที่น่าอึดอัดระหว่างเรา
ผู้คนเริ่มมองเราด้วยสายตาฉงนเหมือนรอดูว่าฉากต่อไปจะเป็นอย่างไร เราเลยจ่ายค่ากาแฟแล้วออกจากร้านยังคงเงียบไปตลอดทา งผมกลัวว่า “โอลีฟ” จะเดินจากไปเฉยๆ แต่ก็ไม่เธอยังคงเดินข้างๆ ผมแล้วไม่นานก็เริ่มพูดขึ้นซึ่งสิ่งแรกที่เธอบอกผมก็คือ “เนียว” “ฉันโกหกเธอ” จากนั้นเธอก็บอกผมอย่างช้าๆ ว่าเธอไม่ได้อายุ 21 เแต่กือบจะ 25 แล้ว และไม่มีพ่อแม่ผู้เข้มงวดอะไรทั้งนั้น เธอแค่เช่าอพาร์ทเม้นท์เล็กๆ เรียบง่ายอยู่กับพวกเพื่อนผู้หญิง เพราะเธอเพิ่งมาที่เมืองนี้เมื่อ 6 เดือนก่อน
เพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่หลังการหย่าร้างและผมก็เพิ่งได้พบกับสามีเก่าของเธอแบบตัวเป็นๆ เขาหาเธอจนพบเมื่อไม่นานมานี้แล้วจากนั้นก็สะกดรอยตามเธอตลอด กระทั้งขอร้องให้เธอกลับมาคืนดีและกล่าวว่าเธอเป็นคนทำลายชีวิตของเขา เมื่อเรื่องเล่าของเธอจบลง เธอก็หยุดแล้วจับมือผมไว้ มองตาผมแล้วพูดว่า “ฉันเสียใจมากจริงๆ เนียว ฉันเข้าใจนะ ถ้าเธอตัดสินใจว่า ไม่อยากพบหน้าคนโกหกแบบนี้อีกแล้ว”
ผมจะพูดอะไรได้เล่า บอกว่าผมยกโทษให้คำโกหกของเธอแล้วจบไปหรอ ผมเลยบอกว่า “โอลีฟ” ผมต่างหากที่คิดว่าเธอไม่อยากจะเจอผมอีกแล้ว เพราะผมไม่ใช่แค่คนขี้โกหก แต่ยังเป็นแค่เด็กนักเรียนอีกต่างหากผมอายุ 17 ปี “โอลีฟ” ไม่ได้พูดอะไรสักคำแล้วผมก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ายังมองตาเธอต่อไปได้อย่างไร บางที่คงเพราะผมแน่ใจละมั้งว่า นั่นจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมได้เห็นตาคู่นี้
ก็ในที่สุดเธอก็พูดออกมาด้วยน้ำเสียงครุ่นคิด ในเมื่อที่ผ่านมาเป็นเรื่องโกหก ดูเหมือนเราจะเสมอกันแล้วนะ และทันใดนั้นเธอก็ยิ้มออกมา ปลายนิ้วบีบมือผมเบาๆ ส่วนเรื่องอายุมันก็แค่เรื่องน่ารำคาญที่ผ่านไปตามเวลาจริงไหม ผมจะพูดอะไรได้อีกล่ะ “โอลีฟ” และผมยังคบหากันต่อไป เรายังตัดสินใจไม่ถูกว่าเราควรลดอายุเธอจากอายุจริงลงสักหน่อยต่อไปเจอพ่อแม่ผม แล้วเพิ่มอายุผมนิดหน่อยตรงไปเจอรูมเมทของเธอหรือไม่ แต่ที่จริงผมแค่ล้อเล่นน่ะ อยากบอกว่าหลังเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นจบลงต้องใช้เวลาอีกสักพักเลย ที่ผมจะพร้อมหาเรื่องโกหกอะไรอีก
และคุณคิดอย่างไรถ้าคุณแค่อย่าพยายามเรียกร้องความสนใจจากใครสักคนคุณจะตัดสินใจว่าเขาโกหกนั้นถูกต้องหรือไม่ ได้ไหมและสมควรได้รับการให้อภัยหรือเปล่า ช่วยบอกผมในช่องคอมเม้นต์และติดตามช่องนี้กัน