ความรัก

แม่ของฉันจัดเตรียมงานแต่งงานของฉันกับผู้ชายที่ฉันไม่เคยเดทด้วย

สวัสดีฉัน “เคที่” ตลอดเวลาฉันมักกลัวการทำให้พ่อกับแม่ต้องผิดหวังเสมอและไม่นานมานี้ฉันหลีกเลี่ยงสิ่งนี้โดยการจ้างใครบางคนให้ปลอมมาเป็นแฟนของฉันแต่เรื่องนี้กลับนำไปสู่หายนะยิ่งกว่าสิ่งที่ฉันพยายามจะหลีกเลี่ยงซะอีกฉันพนันว่าคุณคงจะเดาออกว่าครอบครัวของฉันเป็นครอบครัวอนุรักษ์นิยมสามีที่เป็นทนายกับภรรยาที่เป็นกุลสตรีผู้เพียบพร้อมและมีรูปที่สุดแสนจะเพอร์เฟ็กเรียนดีเรียบร้อยไม่ต่อปากต่อคำนั่นแหละครอบครัวของฉันเป็นแบบนั้นเลยพ่อและแม่ของฉันมักจะเข้มงวดกับฉันเสมอจนถึงขนาดไม่อนุญาตให้ฉันแต่งหน้าไปโรงเรียนและชายกระโปรงของฉันจะต้องไม่เลยขึ้นไม่อยู่เหนือหัวเข่าโดยเด็ดขาดดังนั้นไม่ต้องพูดถึงเรื่องการออกเดทกับผู้ชายคนไหนทั้งนั้นมันถึงขนาดที่ว่าครั้งหนึ่งเพื่อนร่วมห้องที่ชื่อ “แจ็คสัน” ชวนฉันไปงานเต้นรำของโรงเรียนพ่อกับแม่ของฉันยืนยันว่าให้เขามาหาที่บ้านเพื่อขอพูดคุยกับเขาก่อนก็เพราะต้องการแน่ใจว่า “แจ็คสัน” จะไม่มีเจตนาที่ไม่ดีกับฉัน 

ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าพ่อพูดอะไรกับเขาไปบ้างแต่หลังจากนั้นเขาก็เปลี่ยนใจไม่ไปกับฉันซะอย่างนั้นตอนนั้นฉันร้องไห้ทั้งคืนเลยส่วนแม่ก็ได้แต่ปลอบใจฉันว่าเขาไม่ใช่คนที่ใช่สำหรับฉันเท่านั้นเอง โอ้วส่วนเรื่องทัศนคติของแม่ที่มีต่อเด็กผู้ชายนั้นเป็นอะไรที่พูดถึงไม่ได้เลยเธอยื่นคำขาดว่าจะไม่มีการออกเดทอะไรทั้งนั้นจนกว่าฉันจะเรียนจบชั้นมัธยมเพื่อที่จะได้ไม่ต้องมีอะไรมาทำให้ฉันไขว้เขวจากการเรียนและจากนั้นเรื่องการสอบเข้ามหาวิทยาลัยของฉันก็จะง่ายขึ้น เธอเชื่อของเธอว่าที่มหาวิทยาลัยฉันจะได้พบผู้ชายดีๆที่มาจากตระกูลดีๆผู้ซึ่งสมบูรณ์พร้อมที่จะมาเป็นสามีของฉันและเทิดทูนชั้นในแบบของกุลสตรีที่ไม่มีอะไรด่างพล้อย และใช่เลยนั่นคือเหตุผลที่ทำไมฉันจึงรอแทบไม่ไหวที่จะย้ายออกไปเพื่อเข้ามหาวิทยาลัยฉันอยากมีแฟนและฉันก็อยากออกไปเที่ยวไปปาร์ตี้ก็ทำอะไรสนุกๆแบบคนอื่นบ้างฉันไม่เคยกล้าบอกพ่อแม่เรื่องนี้คุณคงเข้าใจนะว่าพวกเขามักจะพูดกรอกหูฉันเสมอว่าพวกเขาได้พยายามทำอะไรและทำงานหนักมากแค่ไหนเพื่อที่ฉันจะได้มีพร้อมทุกอย่างและไม่ต้องการเรื่องอะไรแบบนั้นและนั่นมันทำให้ฉันรู้สึกผิดเข้าไปอีกมันจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมฉันจึงรู้สึกเหมือนเป็นคนเลวหากฉันจะร้องขออะไรเพิ่มเติม

อย่างไรก็ตามในปีสุดท้ายฉันสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนในฐานะนักเรียนดีเด่นฉันได้รับจดหมายตอบรับจากมหาวิทยาลัยพรินซ์ตันฉันจึงเตรียมข้าวของเพื่อเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัยลองนึกดูสิว่าฉันตื่นเต้นและวาดฝันกับมันไว้ยังไงบ้างและที่นั้นในสัปดาห์แรกเพื่อนร่วมหอพักของฉันที่ชื่อ “แคร” ก็ได้พาฉันไปงานปาร์ตี้ครั้งแรกฉันคิดว่าฉันโชคดีที่มีเพื่อนเจ๋งๆแบบเธอเพราะตั้งแต่ที่เธอได้ยินเรื่องราวดราม่าเกี่ยวกับชีวิตและครอบครัวของฉันเธอก็เริ่มช่วยให้ฉันได้อัพเเกรดตัวเองในเรื่องการเข้าสังคมและเกี่ยวกับงานปาร์ตี้มันกลายเป็นอะไรที่แสนวิเศษมากที่นั้นมีผู้ชายคนนึงที่ฉันรู้สึกสะดุดตาตั้งแต่ก้าวเข้าไปในงานเขาเข้ามาหาและแนะนำตัวว่าเขาชื่อ “ออสติน” หลังจากคุยกันได้ 15 นาทีฉันก็รู้สึกได้ทันทีว่าเขานี่แหละคือคนที่ใช่แน่นอนฉันมีความสุขและพึงพอใจกับตัวเองมากและในเช้าวันรุ่งขึ้นขณะที่แม่โทรมาหาฉันฉันก็ไม่อาจห้ามใจที่จะเล่าทุกอย่างให้เธอฟังเพราะคืนนั้นหลังงานปาร์ตี้ “ออสติน” เอ่ยปากขอฉันเป็นแฟนทันที

คุณต้องทำความเข้าใจก่อนว่า  “ออสติน”  เป็นผู้ชายในแบบที่เรียกว่าจัดเต็มทุกแพคเกจเข้าเรียนกฎหมายอยู่ชั้นปีที่ 3 และมาจากตระกูลที่ดีที่พูดได้ว่าร่ำรวยเลยล่ะแน่นอนเขาไม่ได้บอกฉันตั้งแต่คืนแรกที่เราพบกันแต่ฉันสังเกตเอาเองจากนาฬิกาเรือนหรูที่เขาใส่อย่างไรก็ตามแม่บอกว่าเขาน่าสนใจและฉันก็ชอบเขามากๆฉันรู้สึกเหมือนว่าเขาเป็นอะไรที่เข้ากับฉันได้ทุกๆด้านตอนนี้ฉันเป็นผู้หญิงที่มีความสุขที่สุดในโลกเลยล่ะและฉันก็กังวลมากที่จะสูญเสียเขาไปดังนั้นเมื่อมาถึงจุดที่เขาพูดเป็นนัยๆเกี่ยวกับเรื่องความสัมพันธ์ของเราประมาณว่าถึงเวลาที่ความสัมพันธ์ขนขยะไปอีกขั้นอะไรแบบนั้นฉันก็คิดว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรดังนั้นคืนนั้นเราจะอยู่ด้วยกันทั้งคืนใช้แล้วแม่มักเตือนฉันเสมอเรื่องหนุ่มๆในมหาวิทยาลัยว่าพวกเขาอาจเป็นอะไรที่ฉาบฉวยแต่กับ “ออสติน” แล้วเขาเป็นคนที่ดีมากจริงๆพวกเรามาคุยกันเรื่องความหมายของการมีครอบครัว และเด็กๆรวมถึงเรื่องอื่นๆ จนทำให้ฉันค่อนข้างมั่นใจว่าวันนึงพวกเราจะต้องได้แต่งงานกันและเขาก็จะกลายเป็นผู้ชายคนแรกและคนเดียวของฉันไปตลอดกาลพวกเราคบกันมาประมาณ 4 เดือนหลังจากนั้นเราก็เริ่มมีปากเสียงกันครั้งแรกเขาค่อนข้างไม่พอใจที่ว่าแม่ของฉันเข้ามาจุ้นจ้านมากเกินไปขอให้ฉันอธิบายให้ฟังนะ

คือตั้งแต่ที่พ่อกับแม่รู้ว่าฉันมีแฟนแล้วและพวกเขาก็รู้ว่า “ออสติน” มีเสน่ห์มากแค่ไหนจนทำให้ฉันตกหลุมรักเข้าอย่างจังแม่ของฉันก็พยายามมากที่จะรู้ทุกรายละเอียดของเราและเพื่อป้องกันฉันจากความผิดพลาดทั้งหลายดังนั้นเธอจึงให้คำแนะนำกับฉันเยอะแยะไปหมดไม่เว้นแม้กระทั่งเรื่องแต่งงานใช่ฉันรู้ว่ามันเร็วเกินไปที่จะพูดเรื่องการแต่งงานกันในตอนนี้แต่ด้วยความที่ไม่เห็นว่าเราคบกันอย่างเปิดเผยแล้วและแม่ก็คิดว่ามันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรถ้าจะพูดคุยเตรียมการไว้ล่วงหน้ามีครั้งหนึ่งแม่ส่งรูปถ่ายของสถานที่จัดงานแต่งงานที่ หรูหราเพอร์เฟ็ก มาให้ฉันแล้วบอกให้ฉันเอาไปให้ “ออสติน” ดูเพื่อถามความคิดเห็นของเขานั่นมันทำให้เขารู้สึกกลัวนิดหน่อยเพราะเขาพูดว่ามันอาจเป็นเคร็ดที่ไม่ดีดังนั้นเขาจึงปฏิเสธที่จะดูรูปพวกนั้นแต่ฉันจับสังเกตได้ว่าเขาค่อนข้างจะรู้สึกรำคาญกับเรื่องนี้หลังจากนั้นฉันก็รู้สึกว่าเขาเริ่มจะเย็นชากับฉันเข้ามาจะบอกว่าเหนื่อยหรือว่าต้องไปอ่านหนังสือเพื่อหลีกเลี่ยงที่จะใช้เวลากับฉัน แน่นอนว่าฉันบ่นเรื่องนี้ให้แม่ฟังด้วยและวันนึง “ออสติน” โทรมาหาฉันแล้วบอกฉันว่าเขาต้องการจะขอเลิกกับฉันเรื่องของเรื่องก็คือแม่ของฉันเคยขอเบอร์มือถือของเขาจากฉันไว้นานแล้วคือแบบว่าเผื่อมีเรื่องฉุกเฉินน่ะและแม่ก็โทรไปหาเขาแล้วเริ่มถามเขาเรื่องความสัมพันธ์ของเราเขาบอกว่าคิดไม่ถึงเลยว่าฉันจะเปิดเผยทุกเรื่องราวของเรากับแม่มากขนาดนี้และนั่นทำให้เขารู้สึกเหมือนว่ามีแม่เข้ามาเป็นคนที่สามในความสัมพันธ์ของเราด้วย

ฉันช๊อกมากนี่เขาคิดจะทิ้งฉันด้วยเรื่องแบบนี้เหรอเนี่ยแน่นอนฉันเป็นบ้าเป็นหลังกับเรื่องนี้มากฉันร้องไห้จนแทบขาดใจมันไม่ใช่แค่เรื่องว่าเพราะฉันรักเขามากเท่านั้นแต่มันยังรวมถึงเรื่องที่ฉันคิดไม่ออกเลยว่าจะบอกพ่อกับแม่เรื่องนี้ยังไงดีฉันเดาว่าแม่จะต้องตราหน้าว่าฉันสร้างความอับอายให้กับครอบครัวและพ่อก็คงจะไม่พูดกับฉันอีกต่อไปเพียงเพราะฉันทำผิดกฎข้อที่เข้มงวดที่สุดของพวกเขาดังนั้นฉันจึงตัดสินใจจะโกหกพวกเขาต่อไปโดยบอกว่า “ออสติน” และฉันยังคบกันอยู่แล้วเขาก็ยุ่งกับเรื่องเรียนมากจนทำให้เขาไม่สามารถรับโทรศัพท์เวลาที่แม่โทรไปหาได้ใช้แล้วเธอยังคงโทรไปอยู่แล้วพูดได้เลยว่าฉันรับมือกับเรื่องนี้ได้อย่างแนบเนียนได้จนเกือบเดือนหรือมากกว่านั้นกระทั่งวันหนึ่งเมื่อพ่อและแม่ส่งข่าวว่าพวกเขาต้องการมาที่นี่เพื่อแวะมาเยี่ยมฉันที่มหาวิทยาลัยและเพื่อต้องการทำความรู้จักกับแฟนของฉันอย่างเป็นทางการซะทีทันทีที่ได้ยินแบบนั้นฉันก็ทำอะไรไม่ถูกเลยตอนแรกฉันตัดสินใจไปขอให้ “ออสติน” ช่วยฉันรับหน้าเรื่องนี้ฉันคิดว่าบางทีเขาอาจแกล้งทำเป็นเหมือนว่าเรายังคบกันอยู่เหมือนเดิมแล้วฉันก็คิดสร้างเรื่องเกี่ยวกับการเลิกราของเรากับพวกเขาที่หลังแต่โชคร้ายที่เขาปฏิเสธเพราะเขาเริ่มมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงคนใหม่แล้วและเขาก็กลัวที่จะถูกทำให้มีมลทินไปด้วยทีก่อนหน้านี้ทำไมเขาไม่เห็นกลัวว่าจะทำให้ฉันมีมลทินบ้างเลยฉันรู้สึกมืดแปดด้านกับสถานการณ์ในตอนนี้

และในที่สุดรูมเมทผู้แสนดี “แคร” ก็เข้ามาช่วยชั้นไว้อีกครั้งเธอบอกว่าเธอรู้จักผู้ชายคนหนึ่งซึ่งหน้าตาดูเหมือน “ออสติน” มากและฉันสามารถไปขอร้องให้เขาช่วยแกล้งเล่นละครตบตาเป็นแฟนของฉันต่อหน้าพ่อกับแม่ได้ปัญหามีอยู่อย่างเดียวคือเขาไม่ได้เรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยนี้คืออันที่จริงเขาไม่ได้เรียนหนังสือแล้วด้วยซ้ำเขาทำงานเป็นโฟร์แมนที่สถานีบริการแห่งหนึ่งและต้องการเงินเท่านั้นส่วนแม่ฉันก็เคยเห็น “ออสติน” แค่ 2-3 ครั้งก่อนที่เธอจะพามาหาฉันซึ่งเขาก็นั่งหันข้างอยู่ข้างหลังฉันหรือไม่ก็สวมแว่นกันแดดอยู่ดังนั้นเธอคงไม่ทันสังเกตว่าคนที่ฉันแนะนำให้รู้จักนั้นเป็นคนละคนกันและแผนการของ “แคร” ก็เข้าท่ามากทีเดียวและยังไงก็แล้วแต่ฉันไม่มีทางเลือกอื่นแล้วนอกจากจ้างคนเพื่อปลอมมาเป็นแฟนของฉัน  ฉันขอข้ามการเล่าว่ามันน่าอายแค่ไหนตอนที่ฉันได้อธิบายเหตุผลของฉันให้ผู้ชายคนนั้นฟังอันที่จริงเธอชื่อว่า “แจ๊ค” โอ้วและเขาดูคล้าย “ออสติน” มากจริงๆด้วยเพียงแค่สูงกว่านิดหน่อยจะดูคล้ำกว่าเล็กน้อยเท่านั้นแต่อย่างไรก็ตามเขาได้รับเงินล่วงหน้าไปแล้วจะสัญญาว่าจะแต่งตัวให้ดูดีในวันที่ต้องพบกับพ่อแม่ของฉันส่วนเรื่องแผนฉันตัดสินใจว่าเราจะพบกันกับเขาที่ไหนสักแห่งพูดคุยกันเล็กๆน้อยๆและสักพัก “แจ๊ค” ผู้ซึ่งสวมบท “ออสติน” ก็จะขอตัวกลับก่อนโดยอ้างว่ามีธุระด่วนที่ต้องทำและนั่นก็จะต้องเป็นแผนการที่สมบูรณ์แบบเพียงแค่ถ้าพ่อแม่ของฉันไม่ได้ยืนกรานให้พวกเราทานอาหารกลางวันด้วยกันที่คาเฟ่แต่ถ้า “แจ็ค” จะไม่ได้หิวขนาดนั้นแน่นอนเลยว่าทั้งเรื่องมารยาทแต่วิธีที่เขาปฏิบัติบนโต๊ะอาหารรวมถึงการพูดอะไรบางอย่างเรื่องเล็กน้อยที่ไม่สำรวมทำให้พ่อกับแม่ของฉันเกิดความสงสัยถึงความมีชาติตระกูลที่ดีของเขา

ฉันสังเกตได้ตอนที่พวกเขาแอบมองตากันในบางครั้งแต่ตรงกันข้ามซึ่งกลับสนุกกับมุกตลกของเขาแล้วรู้สึกสบายใจที่ได้อยู่ข้างเค้าเมื่อทานอาหารเสร็จในที่สุด “แจ๊ค” ก็ลากลับไปและทิ้งฉันไว้ตามลำพังกับพ่อแม่ แม่ของฉันรีบพูดกับฉันทีว่าฉันควรพิจารณาแฟนของฉันและเขาก็ไม่เหมาะสมเลยที่จะมาเป็นคู่ชีวิตที่ดีให้กับฉันเรื่องราวมันกลายเป็นว่าเธอได้ไปเล่าให้เพื่อนๆของเธอฟังหมดแล้วเกี่ยวกับการที่ฉันประสบความสำเร็จในการพบกับผู้ชายที่ดีแต่สิ่งที่เธอได้เห็นในวันนี้มันช่างแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงและเธอยืนยันว่าฉันจะต้องหยุดทุกสิ่งทุกอย่างไว้เพียงเท่านี้เพื่อไม่ให้ขายหน้าคนอื่นเธอจะพยายามปิดบังเรื่องนี้ไว้ซักระยะและเสนอว่าจะสร้างเรื่องขึ้นมาว่าแฟนของฉันเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุที่หลังอะไรทำนองนั้นและด้วยวิธีนี้ชื่อเสียงของฉันก็จะได้ไม่ด่างพร้อยแน่นอนว่าพ่อกับแม่ไม่พอใจฉันเอามากๆแล้วโกรธฉัน ฉันอยู่เป็นนานสองนานแต่มันยังมีเรื่องราวอื่นเกิดขึ้นตามมาด้วยหลังจากวันนั้น 2-3 วันฉันพบ “แจ๊ค” ที่หน้ามหาวิทยาลัยปรากฏว่าเขากลับมาเพื่อคืนเงินให้กับฉันเขาบอกว่าแค่ได้ทานอาหารกลางวันฟรีในวันนั้นก็ถือเป็นค่าตอบแทนที่เพียงพอแล้วและที่สำคัญกว่านั้นคือเขาสำนึกขึ้นมาว่าเขาไม่ควรรับเงินจากผู้หญิงที่เขารู้สึกว่าชอบเธอเข้าอย่างจังในช่วงนาทีนั้นฉันรู้สึกร้อนผ่าวไปตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยความเขินอายและต่อมาฉันก็ได้ตอบตกลงที่จะไปออกเดทกับเขาในแบบที่เป็นการเดทจริงๆแล้วตอนนี้ก็ผ่านไปเดือนนึงแล้วกับการที่ฉันต้องหลอกพ่อกับแม่อีกครั้งเกี่ยวกับเรื่องความสัมพันธ์ของฉันและฉันรู้สึกว่าฉันชอบใจจริงๆและคราวนี้ฉันก็เชื่อว่าฉันเลือกได้เองว่าจะมีความสุขชั่วนิรันดร์กับใครสักคนแล้วคุณคิดว่ายังไงกันบ้างคะ 

ฉันขอขอบคุณมากๆเลยถ้าคุณจะ คอมเม้นต์ และกด ไลค์ ให้กับวีดีโอนี้บายค่ะ 

https://open.spotify.com/episode/5V10FH2U07tlOnxQFxQ0hM?si=HRVTX1VoQK-wCzynnhfsKQ

เรื่องเล่าที่เกี่ยวข้อง

0 0 votes
Article Rating
Subscribe
Notify of
guest
0 Comments
Inline Feedbacks
View all comments
Back to top button
0
Would love your thoughts, please comment.x
()
x

ปิดโปรแกรมบล็อคโฆษณา

กรุณาปิดโปรแกรมบล็อคโฆษณาก่อนนะ เพราะเว็บจะอยู่ได้ก็จากป้ายโฆษณา