แม่ของฉันพยายามจะขโมยรักแรกของฉันไป
ไงทุกคนมองมาที่สาวน้อยน่ารักๆ ที่มีผมสีเกาลัดนี่สินี่แหละฉันเองฉันชื่อ “วาเนซ่า” และฉันอายุ 16 ปีแล้วคุณเห็นผู้หญิงที่อยู่ใกล้ๆฉันไหมนี่คือ “ลูซินด้า” เธอเพิ่งอายุครบ 60 ปีเมื่อไม่นานมานี้ “ลูซินด้า” คือแม่ของฉันเองเธอบอกฉันมาตั้งแต่สมัยที่ฉันยังเด็กแล้วว่าให้ฉันเรียกเธอด้วยชื่อแต่นี่ยังไม่ใช่เรื่องที่ประหลาดที่สุดเกี่ยวกับแม่ของฉันหรอกนะคุณนึกภาพออกไหมว่า “ลูซินด้า” คนนี้จะขโมยแฟนคนแรกของฉันไปใช้เลยนี่เป็นเรื่องจริงและคุณรู้ไหมฉันคิดว่า “ลูซินด้า” คนนี้อยากขโมยชีวิตทั้งชีวิตของฉันแล้วนี้ทำให้ฉันกลัวมากจริงๆ
ตอนที่ฉันยังเป็นเพียงเด็กตัวน้อยแม่ฉันเป็นเหมือนแมงมุมและฉันก็อยู่ภายในรังอยากใย้ของเธอฉันไม่มีเพื่อนสนิทที่ไหนเลยก็เธอไม่ยอมให้ฉันพูดคุยกับเพื่อนร่วมชั้นนอกจากระหว่างที่อยู่ในชั้นเรียน “ลูซินด้า” คิดว่าการทำแบบนี้ทำให้ลูกสาวของเธอเสียเวลาดังนั้นแทนที่จะได้ไปงานเลี้ยงวันเกิดของเพื่อนร่วมชั้นฉันต้องไปงานอะไรสักอย่างเพื่อที่จะช่วยพัฒนาสติปัญญาอย่างการไปดูละครเพลงไปกับแม่ของฉันเองมันน่าเบื่อมากกกกก นับตั้งแต่ที่ฉันถูกพรากชีวิตทางสังคมแบบปกติธรรมดาไปฉันก็เริ่มเขียนความคิดของฉันลงในไดอารี่ใช้ออกจะเป็นวิธีแบบยุคเก่าสักหน่อยแต่ฉันมีสมุดไดอารี่ว่างๆ ที่ฉันจะเขียนหรือวาดอะไรก็ได้อยู่ แต่ว่าเรื่องนั้นก็ทำได้ไม่นานนัก “ลูซินด้า” ไม่แม้แต่จะพยายามปกปิดเรื่องที่ว่าเธอพบไดอารี่ของฉันและอ่านมันทุกวันราวกับว่าเป็นเรื่องปกติเธอเริ่มบอกฉันโดยที่แทบไม่รู้สึกอะไรเลยว่าฉันมองชีวิตของตัวเองแบบผิดๆ นั่นคือสิ่งที่ฉันบรรยายลงในไดอารี่
ในเมื่อมีแม่แบบนี้แน่นอนว่าช่วยไม่ได้จริงๆ ที่ฉันต้องนึกสงสัยขึ้นมาก็ได้แต่คาดเดาว่าพ่อฉันไปอยู่ไหนแต่ฉันก็ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับพ่อเลย “ลูซินด้า” ถามคำถามทุกอย่างเกี่ยวกับเขาเช่นเดียวกับห้ามไม่ให้พูดเรื่องกระทั้งเรื่องที่ว่าฉันมีพ่อและเมื่อฉันพยายามจะขนของเก่าของครอบครัวอย่างพวกกระดาษจดหมายเก่ารูปถ่ายและอะไรทำนองนั้นเท่าที่ฉันจะหาได้ในกล่องบนห้องเก็บของใต้หลังคา “ลูซินด้า” ก็บอกฉันว่าความพยายามทั้งหมดของฉันนั้นไร้ค่าและฉันจะไม่มีทางได้รู้อะไรแม้แต่อย่างเดียวแต่ทุกคนต้องมีพ่อสิฉันแน่ใจเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ ว่า “ลูซินด้า” คงไม่ได้มีเทวดามาบอกว่าตั้งครรภ์หรอกถ้าฉันเดาว่าเธออาจจะรับบริจาคเชื้อจากผู้บริจาคนิรนามมากกว่า
ปัญหาไม่ใช่ว่าเพราะเธอแก่แล้วคุณก็รู้ถ้าให้พูดถึงกันในแง่อายุ “ลูซินด้า” ยังถือเป็นผู้หญิงยุคใหม่ที่หัวก้าวหน้ามากๆเธอมีไลฟ์สไตล์ที่ไม่หยุดนิ่งติดตามเทคโนโลยีใหม่ๆแต่ยังใช้งานเทคโนโลยีเหล่านั้นได้โดยไม่มีปัญหา เธอยังใช้เวลาอย่างมากไปกับการดูแลตัวเองแล้วก็ทำได้ดีเสียด้วยทั้งที่อายุ 60 แล้วก็ยังสวมเสื้อผ้าไซส์เดียวกับฉันได้เลยฉันเกลียดเรื่องนี้ชะมัดไม่ใช่ว่าเพราะเราใส่เสื้อไซส์เดียวกันแต่เป็นข้อเท็จจริงที่ว่า “ลูซินด้า” ยืมเสื้อผ้าฉันไปใส่แล้วก็ไม่ใช่ว่าชุดเธอเองทุกชุดจะเหมาะกับอายุด้วยเหมือนกันแต่สาบานได้เลยฉันไม่เข้าใจความต้องการที่จะอยากสวมกางเกงยีนส์ของลูกสาวอายุ 16 นั้นเลยแต่ในทางตรงกันข้ามกับความปรารถนาที่อยากมีรูปร่างสมส่วนสิ่งที่เกิดขึ้นกับ “ลูซินด้า” คือกิจวัตรพวกนี้เริ่มจะเกิดเหตุ
เธอเล่นโยคะไปยืนเป็นประจำเข้มงวดและทานแต่อาหารสุขภาพไม่กินหวานไม่ดื่มแอลกอฮอล์ไม่สูบบุหรี่แน่ล่ะว่าทั้งหมดนี้ได้ผลดีและ “ลูซินด้า” ก็ดูเหมือนน้ำพุแห่งความเยาว์วัยอยู่ที่สวนหลังบ้าน และด้วยเหตุผลอย่างเดียวกันฉันก็ต้องใช้ชีวิตแบบเธอไปด้วยแต่ฉันไม่ได้อยากจะเลิกกินมันฝรั่งทอดขนาดนั้น ละฉันก็อยากออกกำลังขายให้น้อยกว่านี้ แต่ “ลูซินด้า” บอกว่าการทำสิ่งเหล่านี้ดีต่อตัวฉันเองตามหลักทั่วไป “ลูซินด้า” ทำอะไรหลายอย่างมากที่บอกว่าดีต่อตัวฉันเองอย่างเช่นเกือบตลอดชีวิตฉันไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้ช่องทางติดต่อทางโซเชียลฉันรู้สึกเหมือนเป็นแกะดำในหมู่เพื่อนฝูงจริงๆพวกเขาทุกคนมีโปรไฟล์บนอินเทอร์เน็ตไปไหนมาไหนด้วยกันโดยไม่มีฉันเพิ่งปีที่แล้วนี่เองที่ “ลูซินด้า” ตกลงว่าจะให้ฉันใช้ อินสตราแกรม ได้แต่ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่ว่าเราต้องใช้ด้วยกันและเธอก็มีพาสเวิร์ดเข้าบัญชีฉันด้วยฉันต้องยอมรับเงื่อนไขนี้ทั้งวิธีนี้และอิสรภาพในโลก อินสตราแกรม จนกว่าฉันจะอายุครบ 18 ปี
แต่คุณรู้ไหมฉันภาวนาเหลือเกินให้ตัวเองไม่ตอบตกลงเงื่อนไขในตอนนั้นตอนแรกทุกอย่างก็ปกติดี “ลูซินด้า” และฉันพลัดกันโพสต์รูปและบางครั้งก็โพสต์รูปคู่ของเราแต่ไม่นาน “ลูซินด้า” ก็มาเล่นแบบเต็มตัวไม่นานหน้า อินสตราแกรม ของเราก็ดูเหมือนเป็นของเธอคนเดียวมีแต่ “ลูซินด้า” ทุกที่ เธอดูดีแต่เธอก็รู้วิธีการใช้โฟโต้ชอปด้วยเหมือนกันดังนั้นผู้ติดตามของฉันก็เลยชอบรูปของเธอยิ่งกว่าที่ชอบลูกฉันพวกเขาคุยทางออนไลน์กับแม่ ผู้กระตือรือร้น ของฉันกดไลค์และแชร์โพสต์ของเธอและก็ลืมไปเลยว่ามีฉันอยู่อีกคนหรือกระทั้งฉันมีตัวตน ฉันโกรธสุดๆ รู้สึกเหมือน “ลูซินด้า” สามารถเอื้อมมือมาหาฉันได้ทุกที่ทั้งที่ฉันพยายามจะรักษาระยะห่างบนอินเทอร์เน็ตฉันไม่อาจหยุดคิดได้เลยว่าแม่ของฉันรู้สึกพึงพอใจกับทุกสิ่งที่เกิดขึ้นบน แอคเคาร์ ของฉัน
ส่วนเรื่องชีวิตส่วนตัวของฉันก็อย่างที่เห็นมีผู้ชายคนหนึ่งที่ฉันชอบมากเขาอายุมากกว่าฉันและทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่งใกล้ๆกับศูนย์การค้าฉันกลายเป็นแขกประจำของห้างนี้และหยุดแวะที่ร้านกาแฟบ่อยยิ่งกว่าที่ควรฉันไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่อยากดื่มชาหรือกินครัวซองเยอะขนาดนั้นแล้วฉันก็ไม่รู้เลยว่า “ลูซินด้า” รู้เรื่องนี้ได้ยังไงฉันเลิกเขียนความคิดลงในไดอารี่ตั้งแต่ฉันยังเด็กและสาบานได้เลยว่าฉันไม่เคยบอกใครเรื่องผู้ชายคนนี้แต่วันนึง “ลูซินด้า” ก็มานั่งกับฉันที่โต๊ะเรียกเด็กเสิร์ฟคนที่ฉันชอบมาแล้วเริ่มพูดคุยกับเขาตอนแรกฉันก็ดีใจเพราะฉันมักจะขี้อายเกินกว่าจะคุยอะไรกับเขานอกจากบอกรายการที่ฉันสั่งแต่แล้ว “ลูซินด้า” ก็ข้ามเส้นโดยสิ้นเชิงเธอเริ่มอ่อยผู้ชายคนนั้นผู้ชายที่อายุน้อยกว่าเธอเรา 40 ปีแล้วเขาก็ดูจากสนุกสนานและเล่นด้วยเหมือนกันตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าเขาคงคิดว่าจะได้ทิปก้อนใหญ่แต่ถึงอย่างนั้นวินาทีนั้นฉันกลับรู้สึกอับอายและสิ่งที่ฉันต้องการก็มีแต่มุดลงไปใต้โต๊ะเพื่อที่ว่าจะไม่ได้ต้องเห็นหรือได้ยินว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง
ระหว่างที่พวกเขาคุยกันคนที่ฉันแอบชอบก็หายไปอย่างไร้ร่องรอยและนี่คือวิธีที่แม่ฉันขโมยรักแรกของฉันไปความอดทนของฉันหมดลงเมื่อฉันค้นพบว่าฉันไม่สามารถขจัด “ลูซินด้า” ออกจากชีวิตได้แม้ฉันจะอายุครบ 18 ปีแล้วฉันรู้แล้วว่าจะไปต่อที่ไหนหลังเรียนจบแต่แล้วเธอก็ตัดสินใจไปเรียนต่อจากที่ไม่เคยได้สำเร็จการศึกษาในตอนที่ยังเป็นวัยรุ่นและแน่นอนว่าเธอตัดสินใจเข้าเรียนมหาวิทยาลัยและที่วิทยาเขตเดียวกับที่ฉันตั้งใจจะเข้าทั้งหมดนี้มันเกินไปแล้วตอนนี้ฉันรู้แน่แล้ว “ลูซินด้า” ไม่ได้พยายามจะใช้ชีวิตเรียนแบบชั้นแต่เธอกำลังพยายามขโมยวัยเยาว์ของฉันเพื่อที่จะได้ช่วงเวลาวัยเยาว์ของตัวเองกลับคืนมาฉันระเบิดตูมและพูดทั้งหมดนี้ใส่หน้าเธอตรงๆหลังจากนั้นก็เก็บข้าวของออกไปอยู่กับครอบครัวของเพื่อนสนิทชั้น
“ลูซินด้า” เสียใจมากแต่ก็ไม่ห้ามไม่ให้ฉันหนีออกจากบ้านหรือแม้แต่พยายามตามตัวฉันกลับไปและหลังจากนั้นไม่กี่เดือนฉันก็เริ่มจะคิดถึงแม้นิสัยประหลาดและกระตือรือร้นสุดของฉันดังนั้นฉันก็เลยโทรหาเธอและขอโทษแล้วบอกว่าบางทีฉันอาจจะพร้อมกลับบ้านแล้วถึงแม้ว่าฉันจะต้องคอยจับตาดู “ลูซินด้า” จับตาดูแม่ของฉันก็ตาม
คุณหรือใครก็ตามที่คุณรู้จักเคยประสบกับความสัมพันธ์ประหลาดกับแม่ของคุณแบบนี้ไหมบางทีคุณอาจให้คำแนะนำฉันได้ว่าจะต้องทำยังไงให้อยู่ร่วมกันได้ดีบอกฉันในช่อง คอมเม้นต์ ทีล่ะ