ผมต้องซ่อนตัวอยู่ในห้องน้ำโรงเรียนตลอดทั้งเทอม
ไงทุกคนผมชื่อ “เดเนียล” ผมอายุ 16 ปีและผมเอ่ออ คุณคงจะเข้าใจทุกอย่างเพื่อคุณได้ฟังเรื่องราวของผมแล้วผมกำลังเรียนอยู่ที่สถาบันแห่งหนึ่งซึ่งเป็นโรงเรียนประจำชายล้วนที่มีชื่อเสียงเรื่องที่ผมจะเล่าให้คุณฟังเริ่มต้นขึ้นเมื่อมีเด็กใหม่คนหนึ่งเข้ามาเรียนกับเราในตอนนั้นผมยังไม่มีรูมเมทคุณครูจึงจัดให้เขาคู่กับผมมันทำให้ผมผิดหวังมากแต่เด็กใหม่คนนี้ “มิเกล” กลายเป็นเพื่อนร่วมห้องที่สุดยอดเขาปฏิบัติตัวสุภาพและมีมารยาทดีจริงๆแล้วเขาก็เท่ห์ใช้ได้เลยเขาทำทุกอย่างพร้อมกันได้อย่างดีเยี่ยมแต่เมื่อเขาเริ่มพูดคุยกับเพื่อนคนอื่นผมก็ต้องตกตะลึงอย่างมากสาวๆคือหัวขอสุดโปรดของ “มิเกล” ไม่ใช่แค่เรื่องสาวๆทั่วไปนะเขาพูดถึงสาวๆที่พากันหลงรักเขาเรื่องที่หักอกสาวๆและเรื่องที่สาวๆแทบจะตบตีกันเพื่อแย่งเขาอยู่เป็นประจำเขาไม่แยแสเรื่องพวกนั้นเลยสักนิดแล้วผมรู้สึกละอายแทนเขามากๆ
แต่ในเรื่องอื่นๆนั้นเขาเพอร์เฟ็กแล้วเราก็กลายมาเป็นเพื่อนรักกันพวกเราไปไหนมาไหนด้วยกันเสมอแม้แต่การไปเข้าร่วมกลุ่มที่ “มิเกล” มักพูดเรื่องตลกเกี่ยวกับยัยพวกโง่คลั่งรักซึ่งเป็นคำที่เขาใช้เรียกพวกเธอเขายังอ่านข้อความจากแฟนสาวคนล่าสุดให้เพื่อนๆฟังออกมาดังๆเพื่อเรียกเสียงหัวเราะจากกลุ่มคนที่อยู่รายล้อมผมไม่ขอมีส่วนร่วมด้วยในเรื่องนี้แต่นี่ไม่ใช่ปัญหาเพราะ “มิเกล” กับผมยังคงเป็นเพื่อนกันแต่แล้วกันหาหนึ่งก็เกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิดผมรู้ตัวว่าผมตกหลุมรักรูมเมทเข้าแล้วแล้วผมก็ไม่ควรเปิดเผยความรู้ที่แท้จริงออกไปเพราะมันชัดซะยิ่งกว่าชัดซะอีกว่า “มิเกล” สนใจแต่สาวๆดังนั้นผมเลยพยายามรักษาระยะห่างจากเขา
แต่ผมก็ตระหนักได้ว่าตัวผมนั้นเป็นเหมือนกับเงาตามตัวของเขาเรามีตารางเรียนเหมือนกันเรียนคาบเดียวกันเล่นกีฬาเหมือนกันอีกแถม “มิเกล” ยังเริ่มเปิดใจกับผมมากขึ้นเรื่อยๆเมื่อเราพูดคุยกันครั้งหนึ่งเขาบอกผมว่าพ่อของเขาเป็นคนส่งเขามาเรียนที่สถาบันแห่งนี้ทั้งๆที่เขาไม่ยอมเขาบ่นถึงปัญหากับแฟนสาวของเขาด้วยน้ำเสียงแตกต่างจากการคุยโม้ต่อหน้าเพื่อนคนอื่นอย่างมากครั้งหนึ่งเขาสารภาพว่าเขาคิดถึงหมาของเขามากผมลำบากใจมากผมแทรงเป็นเพื่อนที่ดีเพื่อเขาแต่ผมต้องรู้สึกเดียวดายกับความรู้สึกแท้จริงที่มีต่อ “มิเกล” แล้วผมก็ถูกมันเข้าครอบงำคืนนึง “มิเกล” ได้รับข้อความจากแฟนสาวของเขาซึ่งเธอบอกว่าเรื่องระหว่างเธอกับเขามันจบลงแล้ว แล้วผมก็คงรู้นะผมแค่อยากช่วยให้เขารู้สึกดีขึ้นผมเลยพูดว่าไม่เป็นไร “มิค” ยังไงฉันก็ยังรักนายแย่จังเลยไม่สนใจหนุ่มๆ เอ่อ…ฟังนะผมไม่ได้โง่ผมแค่อยากล้อเล่นผมคิดว่าเขาจะแค่แบบว่าใช่ฉันรู้น่าเสียดายชะมัด
แต่ “มิเกล” เลือดขึ้นหน้าเข้าหน้าแดงแล้วตะโกนว่าผมไม่น่าสารภาพเรื่องน่ารังเกียจให้เขาฟังเลยอาจเป็นเพราะผมนิ่งเงียบมานานแต่ผมตะคอกกลับถ้ามันเป็นเรื่องขำแล้วนายจะมาโกรธทำไมล่ะหลังจากนั้นผมก็หนีไปพร้อมกระแทกประตูเมื่อผมกลับมา “มิเกล” หลับไปแล้ว แล้วผมก็พลิกไปพลิกมาบนเตียงทั้งคืนนึกเสียใจถึงคำสารภาพที่ไร้เหตุผลของตัวเองและได้แต่หวังว่า “มิเกล” จะลืมมันได้เราไม่มีเรียนในวันถัดมาแล้วผมตื่นสายกว่าปกติ “มิเกล” ออกไปแล้วเมื่อผมไปถึงสนามกีฬาผมเกือบหูอื้อด้วยเสียงหัวเราะที่ดังสนั่นสักพักหนึ่งผมก็รู้ว่าเพื่อนๆกำลังหัวเราะเยาะผมอยู่ “มิเกล” อยู่ข้างหน้าแล้วอยู่กลางเวทีและเขาก็กำลังพูดอย่างดังว่าก่อนหน้านี้เขาแทบจะจัดการกับบรรดาสาวๆรอบตัวที่ร้องไห้คร่ำครวญเรียกร้องความสนใจจากเขาแต่ตอนนี้เขายังต้องรับมือกับเกย์ที่ทำแบบเดียวกันด้วยสายตาทุกคู่หันมามองผมและระเบิดเสียงหัวเราะไม่หยุดผมจึงหันหลังเดินจากไปด้วยความตกใจอย่างมาก
หลายวันผ่านไปเรื่องตลกเกี่ยวกับรักของผมกับ “มิเกล” ยังไม่หยุดแต่มันเกิดขึ้นเฉพาะเวลาที่มีคนอื่นอยู่แถวๆนั้น “มิเกล” กับห้องเพียงเพื่อเข้านอนเท่านั้นนิ่งเฉยไม่พูดไม่จาผมก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไงการลาออกจากโรงเรียนเป็นเรื่องงี่เง่าแล้วผมก็ไม่อยากจะบ่นอะไรที่จริงทั้งหมดก็แค่ขำๆเป็นแค่คำพูดและเป็นมากกว่านั้นผมต้องเป็นทุกข์ด้วยความสงสัยว่า “มิเกล” เป็นอะไรทำไมเขาถึงได้ใจร้ายนักแล้วผมก็ได้รับรู้คำตอบโดยบังเอิญผมกำลังเดินไปตามลำพังในทางเดินโรงเรียนก็มีเด็กคนอื่นจากห้องอื่นร้องเรียกผมมีเพียงแค่เราแต่เขากระซิบแล้วมองไปรอบๆและเขาก็เผยความลับกับผมว่าเขาเกลียด “มิเกล” มานานแล้ว “มิเกล” เคยเป็นแฟนกับน้องสาวของเขาแต่เขาทิ้งเธอและเขาก็รู้อะไรบางอย่างเกี่ยวกับ “มิเกล” จากเธอเขาแค่ไม่รู้ว่าจะใช้มันแก้แค้นให้เจ็บแสบที่สุดได้ยังไงดังนั้นตอนนี้ถ้าผมอยากจะแก้แค้น “มิเกล” สำหรับการกลั่นแกล้งของเขางั้นผมควรจริงๆถาม “มิเกล” ต่อหน้าคนอื่นๆ ว่าลุง “เอลิค”เป็นยังไงบ้าง จริงๆผมไม่อยากใช้ข้อมูลนี้เลยยิ่งกว่านั้นผมไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องราวเบื้องหลังคำพูดเหล่านี้แต่เมื่อ “มิเกล” เริ่มการเล่นละครอีกครั้งด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ยขอร้องผมไม่หยุดความคลั่งไคล้ในตัวเขาลงบ้างผมจึงพูดสั้นๆว่า
โอเคงั้นก็เปลี่ยนเรื่องกันดีกว่าอย่างเช่นโทรหาลุง “เอลิค” ของนายดีไหมแล้วถามว่าเขาคิดถึงนายบ้างหรือเปล่าผมไม่คาดคิดเลยถึงผลของคำพูดให้เรียบ “มิเกล” หุบปากทันทีละหน้าซีดคนอื่นไม่เข้าใจแต่ก็สังเกตได้แล้วเริ่มถามอย่างติดตลกว่า “มิเกล” เป็นอะไรเอ่อพวกฉันก็แค่รู้สึกคลื่นไส้จะคำหวานของเขาเขาพึมพำและรีบจากไปเมื่อผมกลับมาที่ห้องหลังจากนั้น “มิเกล” พุ่งใส่ผม้เขาพลักผมติดกำแพงด้วยใบหน้าบิดเบี้ยวและถามผมว่าใครบอกผมอยู่กับลุง “เอลิค” แล้วผมรู้อะไรอีก เอ่อผมบอกความจริงกับเขาผมไม่รู้อะไรเลยนอกจากชื่อแล้วผมไม่ได้อยากรู้อะไรอีกแต่ถ้าเขาไม่ยอมหยุดเรื่องตลกงี่เง่าของเขาละก็ผมจะพูดถึงลุงของเขาอีกครั้งที่ได้ยินเรื่องตลกเขาจึงปล่อยผมไปแล้วเรื่องตลกนั้นก็หยุดลงแน่นอนเราไม่ได้กลับมาเป็นเพื่อนกันอีกแต่เราก็เรียนจบอย่างสันติและปิดเทอมภาคฤดูร้อนปีต่อมา “มิเกล” ไม่ได้กลับมาเรียนอีกผมก็ได้รูมเมทคนใหม่เป็นหนุ่มร่างอวบช่างจ้อและในระหว่างที่เขากำลังพูดผมก็นึกถึง “มิเกล” และนึกได้ว่าผมไม่สามารถหยุดคิดถึงลุง “เอลิค” ผู้เป็นปริศนาได้เลย
ผมพบคนที่ให้ชื่อนั้นและขอให้เขาเล่าทุกอย่างให้ฟังเขาตกลงแต่ผมต้องสัญญาว่าผมจะไม่บอกเรื่องนี้กับใครและใครเป็นคนให้ข้อมูลนี้แต่เขาคิดมากเกินไปยังไม่มีเหตุผลนี่เป็นเรื่องของผมและ “มิเกล” ก็เมื่อตอน “มิเกล” ยังเป็นเด็กเขาและลุง “เอลิค” ของเขาพี่ชายของแม่ของ “มิเกล” กับผู้ครองโสดไร้ทายาทค่อนข้างสนิทกันมากแต่เมื่อครอบครัวพบว่าลุง “เอลิค” เป็นเกย์พ่อของ “มิเกล” ก็โกรธมากเขาสั่งห้ามไม่ให้โผล่หน้ามาที่บ้านของพวกเขาอีกหรือห้ามคุยกับลูกชายของเขา “มิเกล” พยายามที่จะพูดคุยกับพ่อและโน้มน้าวให้เขาเชื่อว่าลุง “เอลิค” โอเคนะแต่พ่อของเขากลับเกรี้ยวกราดและบอกว่าถ้า “มิเกล” โอเคกับลุงของเขา เขาจะ “มิเกล” ออกจากบ้านแล้วให้ไปเป็นเด็กกำพร้าลุงคนนั้นบอกหัวเราะคิกคักเนื่องจากเท่าที่เคยรู้จัก “มิเกล” มาเขาเป็นคนที่หมกมุ่นกับความคิดที่ว่าเขาเป็นลูกผู้ชายและเขาก็เกลียดกลัวพวกรักร่วมเพศขึ้นสมองในที่สุดผมก็ได้รู้ถึงความลับอันยิ่งใหญ่ของ “มิเกล” แต่ผมก็ไม่รู้สึกอะไรนอกจากความเศร้า
คุณคิดยังไงกันบ้าง “มิเกล” จะเข้าใจบ้างไหมว่ามันตลกแค่ไหนที่เขากำลังทำแบบเดียวกับพ่อของเขาทำช่วยบอกผมให้คอมเม้นได้ไหมแล้วลองดูวีดีโออื่นๆในช่องนี้ขอบคุณที่รับฟังเรื่องราวของผมครับ