ครอบครัว

ฉันหนีจากแม่ที่แท้จริงไปหาพ่อแม่อุปถัมภ์ แต่ทุกอย่างจบลงด้วยโศกนาฏกรรม

สวัสดีทุกคนชื่อของฉันคือ “ไฮดี” ฉันอายุ 16 ปีแล้วมีแม่ 2 คนเป็นไปได้อย่างไรให้ฉันเล่าให้คุณฟังนะเรื่องมันยาวทีเดียวก็คือจริงๆ แล้วฉันเกิดใน บอสตัน แต่แม่ของฉันประสบความลำบากมากตอนคลอดฉันไม่เป็นไรแต่แม่เสียเลือดมากก็ตกอยู่ในอาการโคม่าหมอไม่สามารถหาตัวพ่อฉันหรือญาติคนอื่นได้เลย

แต่เขาก็ไม่อาจคาดการถึงอาการแม่ของฉันได้ด้วยดังนั้นจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากมอบตัวฉันให้ครอบครัวอุปถัมภ์พวกเขาตกลงให้ฉันอยู่ด้วยกันจนกว่าแม่จะฟื้นจากอาการโคม่า ถ้าแม่ฝืนหน่ะนะแต่แล้ววันคืนก็ผ่านไปฉันอายุ 6 ขวบ

แล้วเรื่องนั้นก็ยังไม่เกิดขึ้นในอุปถัมภ์ของฉันจะพ่อไม่ได้บอกว่าฉันไม่ใช่ลูกสาวแท้ๆของพวกเขาฉันจึงใช้ชีวิตอย่างมีความสุขพอและแม่ผู้เป็นที่รักในเมืองเล็กๆ ที่ มินิโซต้า ฉันไม่เคยนึกอยากมีครอบครัวที่ดีกว่านี้เลยจนกระทั่งวันนั้นเป็นวันเกิดของพ่อเราจัดงานปาร์ตี้ครั้งใหญ่ที่บ้านกับเพื่อนๆ ของครอบครัวย่างบาร์บีคิวและจุดดอกไม้ไฟเราสนุกกันมากโทรศัพท์ของพ่อสายไม่ว่างเพราะมีคนมากมายที่อยากจะอวยพรวันเกิดให้เขาแต่แล้วก็มีสายนึงพ่อรับสายด้วยความยินดีคาดว่าน่าจะเป็นหนึ่งในคำอวยพรแต่แล้วรอยยิ้มของพ่อก็หายไปใบหน้าหน้าซีดเผือดฉันกังวลจริงๆ แต่พ่อบอกว่าทุกอย่างเรียบร้อยดีหลังงานเลี้ยงพ่อแม่เข้าไปในห้องแล้วปิดประตูเงียบฉันพยายามจะแอบฟังแต่ไม่รู้เลยว่าพวกเขาพูดอะไรกันเพราะทั้งสองคนรักกันเบาๆ แต่แล้วแม่ฉันก็ร้องห่มร้องไห้มันทำให้ฉันรู้สึกกลัวมากจริงๆ ดังนั้นฉันขอประตูและถามว่าฉันเข้าไปได้ไหมพวกท่านจะได้บอกฉันด้วยว่าเกิดอะไรขึ้นและแล้วพวกเขาก็บอกความจริงกับฉันพวกเขาเล่าว่าแม่ที่แท้จริงของฉันอยู่ในอาการโคม่าและพูดถึงสายที่โทรมา

พ่อบุญธรรมของฉันบอกว่าแม่เพิ่งตื่นขึ้นมาและหลังจากรักษาอาการระยะหนึ่งแล้วเธอก็พร้อมจะรับลูกสาวกลับไปตามข้อตกลงฉันผิดหวังอย่างมากฉันขอพ่อแม่ว่าอยากส่งฉันกลับไปฉันคิดว่าฉันร้องไห้จนแทบตาบอดแต่เราก็ทำอะไรกับเรื่องนี้ไม่ได้ฉะนั้นอีกไม่กี่สัปดาห์ต่อมาพ่อแม่จึงพาฉันไป บอสตัน

แม่ที่แท้จริงของฉันมาเจอเราที่สนามบินเธอดูดีและเป็นมิตรจากนั้นก็เริ่มร้องไห้ตอนที่เห็นฉันแต่ฉันไม่รู้สึกอะไรเลยฉันจับมือแม่บุญธรรมแน่นและไม่อยากปล่อยเลยเราทั้งหมดไปที่ร้านกาแฟแล้วเดินเที่ยวรอบๆ เมืองคุยกับฉันแต่ฉันก็ไม่พูดอะไรไม่นานก็ถึงเวลาบอกลากัน

พ่อแม่ของฉันใช้เวลากับเราคืนนึงแต่เมื่อฉันตื่นในตอนเช้าก็พบว่าพวกเขาไม่อยู่แล้วมีเพียงแค่กระดาษโน๊ตทิ้งไว้บนโต๊ะบอกว่าจดจำไว้เสมอและมีรูปรวมใบเล็กๆ ของเราฉันถูกทิ้งให้อยู่คนเดียวในเมืองใหญ่กับผู้หญิงที่ฉันไม่รู้จักซึ่งตอนนี้ฉันควรจะเรียกว่าแม่เธอพาไปที่บ้านหลังใหม่ซึ่งกว้างขวางดูสบายและมีห้องเดี่ยวและเตียงนอนให้ฉันรวมถึงเสื้อผ้าใหม่และของเล่นด้วยแม่พยายามอย่างดีที่สุดเพื่อให้เข้ากับฉันได้ถ้าทำอาหารให้ทานพาฉันไปเที่ยวรอบๆ เมืองพาไปสวนสัตว์ซื้ออะไรก็ตามฉันอยากได้และฉันก็เริ่มชอบเธอขึ้นมาแล้วแต่ฉันก็ยังคิดถึงครอบครัวของฉันมากจริงๆ ครั้งหนึ่งฉันลองรวบรวมความกล้าขอไปเยี่ยมบ้านใน มินิโซต้า แต่เธอไม่ยอมให้ฉันไปแม่บอกว่าแม่รู้มันยากแต่จะดีกว่าถ้าฉันไม่ติดต่อพ่อแม่บุญธรรมของฉันอีกเพราะตัวฉันเองแม่กล่าวว่าเราต้องเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยกันฉันโกรธมากจริงๆ ฉันอยากกลับบ้านเหลือเกินฉันตัดสินใจหนีออกจากบ้านฉันเก็บกระเป๋าเดินทางใบเล็กๆ ตรงไปที่เนินเขาฉันค้นหาเส้นทางไปสถานีรถประจำทางและพบว่าที่นั่นอยู่ไม่ห่างจากสถานที่ที่เราอยู่แน่นอนว่าฉันถูกจับได้และพาตัวกลับไปหลังจากที่พยายามหาทางซื้อตั๋วเที่ยวเดียวกับบ้านเกิดแม่ของฉันอยู่ในอาการสิ้นหวังและตัดสินใจทำสิ่งที่แย่ที่สุดเธอตัดสินใจย้ายไปยังรัฐอื่นทางใต้โดยไม่บอกพ่อแม่บุญธรรมของฉันให้รู้กลายเป็นว่าคุณตาคุณยายของฉันอยู่ที่นั่นแต่แม่ไม่ได้ติดต่อกับพวกเขามาหลายปีแล้ว

พวกเขาไม่รู้เรื่องอาการโคม่าของแม่หรือเรื่องฉันเลยเธอยังห้ามไม่ให้ฉันใช้โทรศัพท์หรือส่งอีเมลถึงพ่อแม่บุญธรรมและไม่ยอมให้ข้อมูลติดต่อพวกเขาแกะฉันสิ่งเดียวที่ฉันมีก็คือรูปถ่ายครอบครัวใบนั้นถึงแม้ว่าจะดูเหมือนจบอย่างมีความสุข ตายายมีความสุขที่ได้เจอฉันและในที่สุดก็ปรับความเข้าใจกับลูกสาวของเขาได้ในรอบหลายปีฉันก็ยังไม่อาจหยุดคิดถึงครอบครัวใน มินิโซต้า ได้

นานทีเดียวฉันกลายเป็นวัยรุ่นไปโรงเรียนและมีเพื่อนมากมายที่นั่นฉันรักคุณตาคุณยายอยู่บ้างแต่ไม่ใช่กับแม่ของฉัน เธอเข้มงวดและฉันไม่ได้รับอนุญาตให้ทำอะไรเลยฉันไม่ใช่นักเรียนที่ดีนะและแม่มักจะลงโทษฉันจะได้เกรดแย่เราทะเลาะและโต้เถียงกันตลอดเวลาจึงเริ่มเกลียดเธอเธอยังเป็นคนที่ลากฉันมาจากพ่อแม่บุญธรรมอันเป็นที่รักฉันไม่รู้เรื่องของพวกเขาเลยไม่มีทางติดต่อพวกเขาโดยสิ้นเชิงฉันส่งจดหมายไปยังที่อยู่บ้านฉันได้ไหม มินิโซต้า หวังว่าพวกเขาจะได้รับ

แต่ฉันก็ไม่เคยได้รับจดหมายตอบฉันไม่อยากจะเชื่อว่าคนที่รักและห่วงใยฉันมานานหลายปีก็ลืมเรื่องของฉันง่ายดายขนาดนี้จะต้องมีบางอย่างที่ทำให้พวกเขาไม่อาจเขียนจดหมายตอบกลับและฉันคิดว่าแม่คือต้นเหตุฉันว่าคงไม่มีอะไรแย่ไปกว่านี้อีกแล้วจนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ในวันนั้น

เพื่อนฉันบอกว่าจะจัดงานปาร์ตี้ชุดนอนเพราะพ่อแม่ไม่อยู่บ้านเขาจึงเชิญฉันและเพื่อนทั้งหมดไปฉันขอแม่ว่าไปได้ไหมแต่แน่นอนฉันได้รับคำตอบว่าไม่เธอบอกว่าฉันต้องทำเกรดให้ดีขึ้นก่อนแล้วค่อยคิดจะไปงานปาร์ตี้แต่นั้นก็ไม่อาบอยู่ฉันได้เมื่อทุกคนเข้านอนแล้วฉันก็ปีนออกทางหน้าต่างแล้วไปงานปาร์ตี้เพื่อนและฉันสนุกกันมากแต่เมื่อฉันกลับมาบ้านในตอนเช้าพบว่าแม่มารออยู่ในห้องแม้โมโหมากเราทะเลาะกันหนักที่สุดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ไม่มีใครยอมใคร จนกระทั้งฉันพูดออกไปว่าคุณไม่ใช่แม่หนูและไม่มีวันเป็น หนูจะออกจากโรงเรียนและกลับไปบ้าน ไปหาพ่อแม่ที่แท้จริงของหนูแม่ไม่พูดอะไรเลยออกจากห้องไปเงียบๆ ด้วยใบหน้านิ่งสนิทหลังจากคืนนั้นใครบางคนมาเคาะประตูห้องเป็นคุณตาของฉันเองคุณตาเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉันและให้กำลังใจฉันตลอดหลายปีมานี้คุณตาบอกว่าไม่ใช่เรื่องที่มีเหตุผลและฉลาดนักที่จะออกจากโรงเรียนแค่เพราะอยากทำให้แม่ไม่ชอบใจและบอกว่าเราทั้งคู่ต่างมีเรื่องที่ถูกใจและมีช่วงเวลาที่ยากลำบากแต่เราก็ต้องพยายามเข้าใจและยอมรับซึ่งกันและกันเขายังบอกกระทั่งเหตุผลที่ว่าเพราะอะไรแม่ถึงคุณตาคุณยายไปเมื่อหลายปีที่ผ่านมา

แม่ท้องและคุณตาคุณยายไม่ยอมรับเด็กไม่ยอมรับฉันคุณตาเล่าว่าฉันเสียใจกับการกระทำของตัวเองมากขนาดไหนเลยกลายเป็นว่าแม่ตัดสินใจจากไปและเลี้ยงเด็กด้วยตัวเองตามลำพังแฟนของแม่ไม่ได้ช่วยอะไรเลยแม่ออกจากมหาวิทยาลัยเพราะต้องทำงานหาเงินและไม่ได้เรียนหนังสือจนจบอย่างที่ควรจะเป็น

นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำไมเธอถึงใส่ใจเรื่องการเรียนของฉันมากขนาดนี้ตอนนี้ฉันรู้สึกละอายใจมากฉันไม่เคยคิดถึงความยากลำบากที่แม่ต้องเผชิญตลอดชีวิตผ่านมาเลยฉันไปหาแม่ในวันรุ่งขึ้นแล้วกล่าวขอโทษกับคำพูดของฉันฉันสัญญาว่าจะไม่ออกจากโรงเรียนแต่จะทำเกรดให้ดีขึ้นจากนั้นต้องถามว่าทำไมแม่ไม่เคยเล่าเรื่องราวของตัวเองให้ฟังบ้างเลยแม่กอดฉันแน่นและบอกว่าแม่เสียใจมากกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับเราทั้งคู่แล้วยังบอกอีกว่าแม่ก็รู้สึกแย่ที่ไม่ปล่อยให้ฉันติดต่อกับครอบครัวอุปถัมภ์เพราะจะทำให้อะไรๆ แย่ยิ่งกว่าเดิม

และจากนั้นแม่ก็ส่งตั๊วให้ฉันตัวไป มินิโซต้า ฉันไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองเลยฉันจะได้กลับบ้านโชคไม่ดีที่ทั้งแม่และฉันไม่อาจหาทางติดต่อพ่อแม่บุญธรรมของฉันได้อีกเลยมันผ่านมานานหลายปีแล้วดังนั้นฉันจึงส่งจดหมายอีกฉบับไปที่บ้านแล้วเริ่มหวังให้เกิดปฏิหารฉันมาถึงสนามบินแต่ก็ไม่มีใครมารอพบกันที่นั่นอย่างไรก็ตามฉันมีที่อยู่และพบบ้านของฉันได้อย่างง่ายดายไม่ต้องใช้เวลามากนักฉันก็จำที่นั่นได้และบ้านยังอยู่เหมือนเดิมความทรงจำในวัยเด็กหลั่งไหลกลับมาฉันอยู่ที่ประตูหน้าด้วยหัวใจเต้นแรงไม่สามารถกดกริ่งได้นานสองนานและจากนั้นฉันก็กดกริ่งผู้หญิงสวยๆ คนนึงมาเปิดประตูและฉันแน่ใจมากว่าไม่รู้จักเธอฉันถามถึงพ่อแม่ของฉันเธอถอนหายใจยาวและให้ฉันเข้าไปชงชามาให้ฉันเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟังกลายเป็นว่าหลังจากที่แม่ที่แท้จึงพาฉันไปจากพ่อแม่บุญธรรมทุกอย่างก็แย่ลงพวกเขาเริ่มโต้เถียงและโทษกันไปมาทุกวันนั่นเป็นการรับเด็กมาเลี้ยงครั้งแรกของเขาและกลายเป็นประสบการณ์ที่เจ็บปวดเกินไปทั้งหมดนี้นำไปสู่การหย่าร้างอันเจ็บปวดเช่นกันแม่บุญธรรมของฉันจากไปไม่มีใครรู้ว่าเธออยู่ที่ไหนบางทีอาจย้ายประเทศไปแล้ว

พ่อของฉันแต่งงานใหม่แล้วผู้หญิงคนนั้นก็กลายมาเป็นภรรยาคนใหม่พวกเขามีลูกด้วยกันดังนั้นตอนนี้ฉันจึงเหมือนมีน้องสาวแล้วแต่ไม่กี่ปีที่ผ่านมาพอเสียชีวิตในอุบัติเหตุทางรถยนต์ฉันตื่นตะลึงด้วยความโศกเศร้าดูเหมือนฉันเป็นตัวนำโชคร้ายมาให้ทุกคนที่ฉันรักภรรยาใหม่ของพ่อให้ฉันเดินดูรอบๆ บ้านฉันได้รู้จักน้องสาวของฉันซึ่งตอนนี้อยู่ในห้องของฉันเองตอนที่ฉันกำลังจะกลับฉันถามผู้หญิงคนนั้นเกี่ยวกับจดหมายที่ฉันส่งมาตลอดหลายปีนี้เธอบอกว่าเป็นการตัดสินใจร่วมกันของครอบครัวทั้ง 2 ฝ่าย

คือจะไม่ติดต่อหากันอีกพวกเค้าคิดว่าคงดีกว่าสำหรับฉันที่จะก้าวต่อไปถ้ายังสารภาพผิดว่าเธอซองจดหมายฉันไว้เพราะคิดว่าการอ่านจดหมายคงจะทำให้พ่อบุญธรรมของฉันเจ็บปวดจนเกินไปกับการที่ไม่มีสิทธิ์ส่งจดหมายตอบดังนั้นทั้งหมดจึงดูเข้าเค้าขึ้นมาทันทีฉันออกจากบ้านแล้วไปที่โรงศพของเขาจากนั้นก็ไปเดินดูทุกที่ที่ฉันเคยชอบในเมืองของฉันฉันไปที่สวนที่เคยเล่นเทนนิสกับพ่อและร้านกาแฟที่แม่พาฉันไปกินไอศครีมที่อร่อยที่สุดในโลกและฉันกลับมาบ้านมือเปล่าในแง่นึงแต่อีกแง่นึงในที่สุดจิตใจของฉันก็สงบลงฉันไปยังบ้านเกิดเพื่อที่จะพบว่าที่นั่นไม่มีบ้านของฉันอีกต่อไปแล้วนั่นคือความจริงที่ฉันได้ค้นพบแต่ฉันรู้ว่าฉันมีครอบครัวที่รักฉันซึ่งที่อยู่ที่นี่แล้วรอฉันกลับไ

ปแน่นอนข่าวที่บอกว่าพ่อแม่บุญธรรมจากไปแล้วทำให้ฉันใจสลายแต่ฉันยังคงไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับแม่บุญธรรมหวังว่าสักวันหนึ่งฉันจะหาเธอพบการเดินทางครั้งนี้ช่วยให้ฉันสงบลงและยอมรับทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับฉันเองและต่อครอบครัวทั้งสองของฉันฉันเริ่มใช้เวลาอยู่กับแม่มากขึ้นแล้วเราเข้ากันได้ดีขึ้นรู้สึกว่าอยู่ในสถานที่ที่เป็นของฉันอีกครั้ง

คุณเคยเผชิญกับอะไรทำนองนี้ไหมคุณผ่านมาได้ยังไงถ้าคุณเคยฉันจะดีใจมากที่ได้อ่านเรื่องราวของคุณในช่อง คอมเมนต์ และคุณมีคำแนะนำดีๆว่าฉันจะหาแม่บุญธรรมจะได้ยังไงช่วยบอกให้ฉันรู้ด้วยนะด้วยความปรารถนาดี “ไฮดี”

เรื่องเล่าที่เกี่ยวข้อง

0 0 votes
Article Rating
Subscribe
Notify of
guest
0 Comments
Inline Feedbacks
View all comments
Back to top button
0
Would love your thoughts, please comment.x
()
x

ปิดโปรแกรมบล็อคโฆษณา

กรุณาปิดโปรแกรมบล็อคโฆษณาก่อนนะ เพราะเว็บจะอยู่ได้ก็จากป้ายโฆษณา