ฉันไปต่างเมืองเพื่อพบกับแฟนในโลกออนไลน์ แต่เขาโกหกทั้งเพ!
สวัสดีทุกคน ฉันชื่อ “หลุย” คุณเคยประสบกับปัญหาใหญ่ขณะที่กำลังไล่ตามความสุขบ้างไหม อืม..ฉันเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องนี้เลยละ และประสบการณ์ด้านความรักครั้งแรกสุดของฉันซึ่งควรจะเป็นการผจญภัยที่แสนโรแมนติกก็กลับกลายเป็นฝันร้ายอย่างแท้จริงอย่างที่เห็นฉันไม่เคยได้รับความนิยมในหมู่พวกผู้ชายเลยไม่ใช่ว่าพวกเขาเมินฉันซะทีเดียวหรอกนะแต่ฉันไม่ได้ชอบคนที่เคยขอฉันคบและฉันก็ขี้อายเกินกว่าจะไปขอคบคนที่ฉันแอบชอบด้วยตัวเอง ไม่เหมือน “เคส” เพื่อนรักของฉันนั่นแหละเธอสมัครสมาชิกกับเว็บหาคู่เดทแห่งหนึ่งได้ยินดีมากๆที่จะเลือกผู้ชายคนไหนที่เธออยากเดทด้วยตัวเองแต่เธอและคืนนึงเหมือนทุกทีเธอก็เชียร์ให้ฉันลองเดทดูอีกครั้งฉันคิดว่าเรื่องบ้าอะไรเนี่ยและสมัครสมาชิกเว็บเดียวกันไปก้าวหนึ่งชั่วโมงหลังจากนั้นฉันจึงมานั่งอ่านโปรไฟล์ของผู้ชายแต่ละคนที่แตกต่างกันออกไปหนึ่งในนั้นดึงดูดความสนใจฉันได้จริงๆ
ชื่อของเขาคือ “ลุค” และเขาบอกว่าเขามาจากซานฟรานซิสโกซึ่งไม่ไกลจากฟินิกที่ฉันอยู่ในตอนนี้นักแล้วเขาดูเหมือนจะแบบว่ามีอะไรมากดังนั้นฉันจึงตัดสินใจลองเสี่ยงและเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ฉันเป็นฝ่ายเริ่มสนทนากับผู้ชายก่อนเข้าตอบมาหลังจากนั้นไม่กี่นาทีแล้วฉันก็รู้สึกว่าหัวใจเต้นแรงขึ้นมากๆและมือยังชื้นเหงื่อหลังจะส่งข้อความคุยกันไม่นานเขาจึงขอให้ฉันเพิ่มเขาเป็นเพื่อนบน เฟซบุ๊ก และแนะนำว่าให้เราทั้งคู่ลบข้อมูลออกจากเว็บไซต์หาคู่นั่นแหละที่มาที่ฉันได้พบกับแฟนของฉันจริงๆปรากฏว่าเข้ามาจากซานฟรานซิสโกจริงๆตอนนั้นเขากำลังเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัยที่ยุโรปดังนั้นก็คือเขาอายุมากกว่าฉันนิดหน่อยกลายเป็นว่าเขาไม่ใช่เพียงแค่หล่อมากเท่านั้นแต่ยังฉลาดมากด้วยเพราะเขาเกือบจะได้ปริญญาวิชาบัญชีแล้วและการสนทนากับเขาก็ทั้งสนุกและน่าสนใจมากจริงๆความสัมพันธ์รักๆใคร่ๆในโลกดิจิตอลของเราดำเนินไปราว 4 เดือนและฉันก็พร้อมจะสาบานได้เลยว่าฉันตกหลุมรักเขาอย่างถอนตัวไม่ขึ้นเมื่อในที่สุดเขาเป็นฝ่ายบอกว่าเราควรนัดเจอกันฉันหมายถึงเจอกันจริงๆตัวต่อตัว
“ลุค” บอกว่าเขากำลังจะมาซานฟรานซิสโกในช่วงปิดเทอมฤดูใบไม้ผลิฉันพยายามโน้มน้าวให้เขาแวะมาที่เมืองของฉันก่อนเพื่อที่เราจะได้พบกันสักทีนั่นแหละแต่เขาบอกว่าเขาคงอยากทำแบบนั้นมากถ้าไม่ใช่เพราะเค้ารอจะได้พบครอบครัวมานานมากแล้วและคุณย่าของเขาก็แก่มากอาการไม่ค่อยดีและอาจจากไปเมื่อไหร่ก็ได้เขาก็เลยจะไม่ไปที่ไหนเลยนอกจากกลับบ้าน โอ้ ไม่ใช่เรื่องน่าทึ่งมากๆเลยหรอที่เขาเอาใจใส่ครอบครัวของตนมากขนาดนี้ฉันคิดนะแต่สิ่งที่ทำให้ฉันทั้งประหลาดใจและยินดีจริงๆก็คือการที่ “ลุค” บอกว่าฉันมาที่เมืองของเขาเพื่อพบเขาได้เขาสัญญาว่าจะหาสถานที่ให้ฉันพักและออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่ฉันต้องใช้ที่นั่นให้โดยเรื่องง่ายๆก็คือฉันแค่ต้องซื้อตั๋วไปที่นั่นที่เหลือขึ้นอยู่กับ “ลุค” อย่างที่เขาสัญญา โอ้ แต่ถึงอย่างนั้นระหว่างที่เรามีความสัมพันธ์ผ่านโลกออนไลน์กันฉันได้เห็นรูปถ่ายครอบครัวของเขาจำนวนหนึ่งและกระทั่ง “จอห์น” น้องชายคนเล็กของเขายังเป็นเพื่อนกับฉันบน เฟซบุ๊ก ดังนั้นฉันเลยมั่นใจว่าลูกไม่ใช่พวกโรคจิตหรืออะไรทำนองนั้นและเชื่อใจเขาได้
อย่างไรก็ตามฉันตัดสินใจแล้วว่าถ้าฉันอยากอยู่กับผู้ชายคนนี้อย่างมีความสุขฉันจำเป็นต้องหาแผนการไปพบเขาที่ซานฟรานซิสโกฉันรู้ว่าพ่อแม่ฉันต้องไม่ให้ฉันไปฉันนึกภาพออกชัดเจนเลยว่าใบหน้ากังวลของแม่และคำพูดของพ่อถ้าพวกเขาได้ยินว่าฉันกำลังจะไปพบคนแปลกหน้าโดยสิ้นเชิงในเมืองที่แปลกที่แปลกทางสุดๆนั้นเป็นอย่างไรแต่ขอบคุณพระเจ้าที่ฉันมีเพื่อน “เลนเน็ต” ซึ่งมีพี่สาวที่เรียนมหาวิทยาลัยแล้วและอยู่ใกล้กับสถานที่ที่ฉันจะไปมากๆเสนอว่าฉันจะบอกพ่อแม่ก็ได้ว่าเราจะไปเมืองนี้พร้อมกันเห็นได้ชัดว่าที่ฉันต้องการก็แค่เงินจำนวนหนึ่งจากพ่อแม่แบบว่าอย่างน้อยก็เพื่อซื้อตั๋วไปหาแฟนฉันแต่ฉันต้องมีพยานที่น่าเชื่อถือด้วยดังนั้นเลยบอกไปว่าถ้าพ่อแม่อยากโทรหาพ่อแม่ของ “เลนเน็ต” เพื่อเช็คอะไรๆด้วยก็ได้ฉันไม่ว่านั่นแหละเหตุผลที่ฉันสัญญากับเพื่อนว่าจะช่วยทำการบ้านให้จนจบปีเลยถ้าเธอช่วยปกปิดให้ฉัน
แผนของฉันได้ผลและพ่อแม่ก็ยอมให้ฉันไปซานฟรานซิสโกในช่วงปิดเทอมฤดูใบไม้ผลิพวกเขาให้เงินฉันซื้อตั๋วและอีกนิดหน่อยเพื่อให้ใช้จ่ายในช่วงที่ฉันอยู่ที่นั่นฉันต้องบอกเลยว่าวันที่ออกเดินทางฉันยิ่งกว่าตื่นเต้นเจ้าชายของฉันจะมารับฉันที่สนามบิน โอ้ เขาหล่อเหลายิ่งกว่าที่ฉันคิดอีกและยังดีใจมากๆที่ได้เจอฉันฉันต้องบอกด้วยว่ามันแปลกๆนิดหน่อยที่เราได้เจอคนที่แชทหากันมานานเป็นเดือนๆจริงๆแล้วแต่ก็ยังน่าตื่นเต้นและน่ายินดีอยู่ดีเขาพาฉันไปโรงแรมที่จองไว้สำหรับฉันเหมือนอย่างที่เขาสัญญาเพราะฉันกำลังหิวเราจึงทานมื้อเที่ยงกันแถวนั้นฉันไม่อาจหยุดมองเขาได้เลยก็เข้าดูมีเสน่ห์ที่ฉันคิดเวลาที่มองรูปของเขาบน เฟซบุ๊ก อีก
และแล้ว “ลุค” ก็บอกฉันว่าฉันควรพักผ่อนสักนิดหลังการเดินทางและเค้ามีอย่างอื่นที่ต้องไปทำดังนั้นเขาจึงสัญญาว่าจะโทรหาฉันหลังจากนี้นะปล่อยฉันไว้ที่นั่นคนเดียว อืม พูดกันตามสัจจริงนะฉันเฝ้ารอการต้อนรับที่อบอุ่นกว่านี้แต่ก็ไม่อยากทำร้ายช่วงเวลาดีๆนั่นแหละสาเหตุที่ฉันยอมอยู่ในห้องและเอาข้าวของออกจากกระเป๋าจนกระทั่ง “ลุค” ทำอะไรก็ตามที่เขาต้องทำเรียบร้อยเสร็จที่จริงฉันหวังว่าจะมีเดทโรแมนติกๆ หรืออะไรสักอย่างฉันก็เลยอาบน้ำเอาของทุกอย่างออกมาได้ดูทีวีไปแต่เขาก็ไม่โทรมาฉันก็อาจจะคาดหวังทั้งหมดไปเองแต่สถานการณ์ทั้งหมดนั้นก็เริ่มทำให้ฉันไม่ค่อยพอใจเกือบจะเที่ยงคืนแล้วเมื่อในที่สุดฉันก็ตัดสินใจเปิดดูโซเชี่ยวมีเดียเพราะฉันเบื่อจะรอให้ “ลุค” โทรมาจริงๆและทันใดนั้นฉันก็รู้สึกคลื่นไส้ด้วยความโกรธที่กำลังพวยพุ่งอยู่ในตัวฉันเห็น “ลุค” รูปโพสต์รูปตัวเองกับเพื่อนๆซึ่งพูดให้ชัดๆลงไปเลยก็คือเมื่อ 5 นาทีที่แล้วนี่เองฉันรู้สึกเหมือนถูกหลอกหรืออะไรทำนองนั้นหมายถึงเขาออกไปเที่ยวกับเพื่อนได้ยังไงฉันยังคิดว่าอย่างน้อยเขาก็ควรบอกฉันตามจริงเพื่อที่ว่าฉันจะได้ไม่ต้องรอเขาเพราะเขายุ่งอยู่
อย่างไรก็ตามเขาทำให้มาแล้วไม่โทรหาฉันในค่ำวันนั้นหรือในคืนนั้นและฉันก็เข้านอนด้วยอารมณ์โกรธสุดๆ เพื่อให้เรื่องผ่านๆ ไปก่อน แน่ละฉันพยายามโทรหาเขาแต่สายของฉันเข้าบริการฝากข้อความทั้งหมดแล้วเรื่องน่าประหลาดใจที่สุดก็รอฉันอยู่ในเช้าวันรุ่งขึ้นเมื่ออาบน้ำเสร็จทานอาหารเช้าเบาๆและโทรหา “ลุค” หลายทั้งที่ไม่ได้รับการตอบรับในที่สุดฉันก็ตัดสินใจออกไปเดินดูรอบๆเมืองที่น่าทึ่งนี้แต่พนักงานต้อนรับหญิงกลับซักถามฉันอย่างมีมารยาทว่าทำไมฉันถึงยังไม่เก็บข้าวของคุณจะเข้าใจความรู้สึกฉันถ้าอย่างน้อยครั้งหนึ่งในชีวิตคุณเคยได้ยินคนอื่นบอกว่าคุณต้องไปที่ไหนสักแห่งแล้วล่ะฉันตกตะลึงไปถนัดตาอย่างที่คุณรู้ฉันคิดว่า “ลุค” จ่ายค่าที่พักไว้ทั้งสัปดาห์ฉันวางแผนที่จะอยู่ในเมืองแต่ปรากฏว่าเขาจ่ายให้ฉันแค่วันเดียวดังนั้นตอนนี้ฉันเหลือทางเลือกแค่ถ้าไม่จ่ายวันที่เหลือเองฉันก็ต้องย้ายออกจากโรงแรมเฮงซวยนี่ลองเดาดูสิว่าฉันทำยังไงเมื่อคิดถึงเงินในบัญชีของฉันที่มีอยู่อย่างจำกัดเอามากๆและฉันก็อยู่ที่นี่ไงเดินไปตามถนนพร้อมสัมภาระที่เก็บเรียบร้อยด้วยความเร่งรีบ
เมื่อในที่สุดฉันก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์ของตัวเองนั่นเป็นสายของ “ลุค” แน่นอนว่าฉันต้องรับแล้วเริ่มกล่าวโทษเขาทันทีที่ทิ้งฉันไว้และเลือกเพื่อนมากกว่าผู้หญิงที่หาทางหลอกล่อพ่อแม่เพื่อมาเจอเค้าและคุณรู้ไหมว่าเขาพูดว่าอะไรเขาบอกว่าเพื่อนของเขามาเป็นอันดับแรกในชีวิตเสมอนะในเมื่อฉันไม่ชอบแบบนั้นเขาก็ควรอยู่ห่างๆจากฉันดีกว่าแล้วก็แค่นั้นเลยเขาวางสายไปแล้วไม่ว่าฉันจะพยายามโทรกลับอีกสักกี่ครั้งสายของฉันจะเข้าบริการรับฝากข้อความทั้งหมด โอ้ พระเจ้า ฉันอึ้งสุดๆแล้วกลัวแทบตายลองนึกภาพสิฉันถูกทิ้งไว้โดยที่ไม่มีเงินไม่มีหลังคาคุ้มหัวและคนเดียวที่ฉันรู้จักในเมืองแปลกหน้าโดยสิ้นเชิงนี้ก็เพิ่งปฏิเสธฉันฉันกำลังจะร้องไห้ออกมาในวินาทีไหนก็ได้อยู่แล้วแต่แล้วฉันก็รู้สึกตัวขึ้นมาได้ว่าช่วงไม่ดีที่ฉันไม่มีทางอื่นนอกจากจะรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้นเหมือนกันคุณก็รู้ฉันกลัวจะโทรหาพ่อแม่เพราะในกรณีนี้ฉันก็ต้องบอกความจริงแก่พวกเขาและมีพระเจ้าเท่านั้นที่รู้ว่าพวกเขาจะมีปฏิกิริยาแบบไหนฉันพยายามใช้สมองคิดให้ไวที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้วจากนั้นทันใดนั้นฉันก็ได้คำตอบ
ฉันเริ่มไล่ดูไปตามบัญชีผู้ใช้งาน เฟซบุ๊ก ของ “ลุค” รูปของเขาเพื่อนของเขาแล้วรูปของพวกเพื่อนๆแบบว่าฉันไม่มีที่ไปแล้วในโปรไฟล์ของน้องชายในที่สุดฉันก็พบรูปให้ดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่ฉันหวังว่าจะเป็นบ้านของเขาในซานฟรานซิสโกแห่งนี้ฉันคิดว่าคงจะเหมือนงมเข็มในมหาสมุทรถ้าจะไปหาบ้านของพวกเขาจากรูปถ่ายที่ฉันมีดังนั้นฉันก็เลยพิมพ์หาน้องชายของลุกบอกว่าฉันมีบางอย่างจากเพื่อนของเขาต้องส่งให้และฉันอยากได้ที่อยู่เป๊ะๆ ของเขาฉันได้แต่หวังว่า “ลุค” จะไม่ได้บอกครอบครัวเรื่องชั้นและไม่ต้องรอจนฉันเริ่มกระวนกระวายด้วยความสิ้นหวังและต้องหาพุ่มไม้เหมาะสักแห่งเพื่อหลับพักในคืนนี้ในที่สุดฉันก็ได้รับคำตอบฉันใช้เงินก้อนสุดท้ายโบกแท็กซี่ไปบ้านของเขาน้องชายของ “ลุค” ให้ฉันเข้าไปเมื่อฉันเคาะประตูและฉันไม่สนใจเลยว่าครอบครัวเขาจะคิดยังไงกับฉันแล้วก็ต้องบอกก่อนว่า “ลุค” ไม่ได้อยู่ที่นั่นด้วยแต่พ่อแม่ของเขาอยู่ฉันไม่สามารถสร้างเรื่องดีๆหรือปั้นคำพูดมาเล่าพวกเขาได้แล้วก็เลยบอกเขาไปตามจริงแต่รู้อะไรไหมพ่อแม่ของเขากลับกลายเป็นคนที่ไม่ค่อยมีสำนึกเหมือนเขาเลยพวกเขาไม่เชื่อฉันนะแต่ฉันออกจากบ้านเดี๋ยวก่อนสิพวกคุณทำไมฉันต้องมาเจอเรื่องอะไรแบบนี้เนี่ย
ฉันจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากโทรหาพ่อแม่แล้วบอกพวกเขาตามความเป็นจริงแน่นอนว่าพอฉันรีบขึ้นเครื่องบินมาซานฟรานซิสโกและมารับฉันแต่ฉันก็ยังต้องใช้เวลาตลอดคืนนั้นบนม้านั่งในสวนระหว่างรอพ่อที่บ้านฉันเจอปัญหาใหญ่มากมาย ซึ่งฉันไม่คิดมาก่อนเลยว่าจะเกิดขึ้นผลอีกอย่างคือแม่ติดตั้งโปรแกรมพิเศษในคอมพิวเตอร์ของฉันและตอนนี้ก็จะดูได้ด้วยว่าฉันติดต่อกับใครบ้างและใช้โซเชียลมีเดียสนทนายังไงแต่พูดกันตรงๆนะนี่ไม่จำเป็นหรอกในเมื่อบทเรียนที่ฉันได้รับนี้จะคงอยู่ไปตลอดชีวิตแน่
พวกคุณชอบเรื่องราวของฉันไหมคุณคิดว่าฉันโง่หรือเปล่าที่ไปพบคนแปลกหน้าหรือคิดว่าเขาเป็นคนนิสัยแย่คนนึงแบ่งปันความคิดเห็นของคุณในช่อง คอมเม้น และอย่าลืมกดติดตามช่องนี้ล่ะ