รูปลักษณ์

รอยสักใหม่ของฉันทำให้ฉันกลายเป็นเด็กกำพร้า

สวัสดียามบ่ายนะ ฉันชื่อ “มาช่า” ฉันอายุ 14 ขวบc]tฉันก็มีความผิดโทษฐานที่ฉันเป็นเด็กวัยรุ่นเกเรฉันเคยคิดว่าคุณย่าของฉันไม่ได้รักฉันสักเท่าไหร่ซึ่งฉันเองก็ไม่ได้รักเธอกลับแต่ในตอนนี้เธอเสียไปแล้วและฉันก็พบว่าน่าเศร้าที่ฉันคิดไปเองและฉันก็รู้สึกอยากจะเล่าเรื่องนี้ให้ใครสักคนฟังทุกอย่างเริ่มประมาณเกือบ 2 ปีที่แล้วในตอนที่พ่อกับแม่หย่ากันเป็นแม่ของฉันเองที่ขนของหนีพ่อไปอยู่กับผู้ชายคนอื่นซึ่งจะชัดเจนว่าแม่ไม่ได้วางแผนจะพาฉันไปด้วยเลยเพราะว่าฉันต้องอยู่กับพ่อแล้วพ่อก็เป็นคนชอบทำงานมากกว่าชอบที่จะมาเป็นพ่อคนฉันก็เลยต้องย้ายไปอยู่กับแม่ของเขาคุณย่า “แอน”

เธอเป็นคนขี้โมโหง่ายอยู่แล้วพวกเราก็เข้ากันไม่ได้เหมือนกับน้ำมันกับน้ำยกตัวอย่างนะ เวลาที่ฉันอยากจะไปหาเพื่อนของฉันย่าก็มักจะหางานบ้านให้ฉันทำแทนแล้วถ้าฉันตัดสินใจไม่ทำมา ในตอนนั้นย่าก็จะกักบริเวณชั้นด้วยการปิดสัญญาณอินเทอร์เน็ตไม่ให้ฉันใช้แล้ว มีอยู่ครั้งนึงนะย่าตีที่ข้อมือของฉันเพราะบอกว่าฉันมีท่าทางที่แปลกประหลาดเวลากำลังล้างจานรอยแดงพวกนี้ที่ย่าทำมันอยู่นานถึง 3 วันเลยทีเดียว แน่นอนฉันบ่นเรื่องของย่าให้พ่อฟังแต่เขาก็ไม่ได้แคร์ฉันเท่าไหร่เลยแต่ก็มีช่วงเวลาหนึ่งที่เป็นจุดเปลี่ยนในความสัมพันธ์ของพวกเราให้ตายเถอะ ในตอนนั้นมันช่างพูดยากเหลือเกินฉันรู้ว่าคุณย่าแอนรู้สึกหงุดหงิดทุกครั้งที่เห็นตัวประหลาดอย่างผู้ชายที่ทำทรงผมโมฮอกหรือผู้หญิงที่เจาะใบหน้าก็เลยมีวันนึงหลังจากที่เธอเทศนาสอนชั้นเรื่องที่ฉันควรจะทำตัวให้ดีขึ้นฉันก็เลยตัดสินใจที่จะเอาคืนซะบ้างฉันตัดผมฉันออกหมดเลยและย้อมเป็นสีชมพูซึ่งฉันรู้ว่าจะทำให้คุณย่าแอนโมโหสุดๆแน่นอน

คุณต้องเห็นตอนที่เธอเห็นฉันกลับบ้านมากับลุกซ์ใหม่ของฉันขณะที่เธอกำลังมีเพื่อนๆ เป็นแขกมาที่บ้านเธอไม่สามารถตะโกนว่าฉันหรือทำอะไรต่อหน้าคนอื่นได้แต่เธอมองฉันด้วยสายตาที่บ่งบอกถึงความโกรธและความผิดหวังที่เธอมีแต่ฉันในเวลานั้น ฉันรู้ว่าฉันจะต้องถูกลงโทษและกักบริเวณอย่างหนักแต่มันก็เป็นความเสียสละที่คุ้มค่า ย่าจะต้องอับอายต่อหน้าคนอื่นที่มีหลานสาวเป็นตัวประหลาดฉันคิดว่านะ นี่ดูเหมือนจะไม่พอสำหรับฉัน ฉันเลยตัดสินใจทำเพิ่มไปอีกฉันไม่สามารถมีรอยได้เพราะว่าอายุยังไม่ถึงแต่ฉันรู้ว่ามันจะต้องทำให้คุณย่า “แอน” ประสาทเสียแน่ๆ ฉันก็เลยไปขอให้เพื่อนร่วมชั้นคนหนึ่งที่เก่งเรื่องการวาดรูปมากให้วาดรอยสักปลอมไว้บนหลังคอของฉัน มันดูเหมือนมากราวกับว่าเป็นจริงเลยล่ะ  ฉันเลยกลับบ้านมาแล้วหวังว่าย่าจะเห็นเข้าเธอเริ่มใช้คำด่าออกมาเต็มไปหมดมันเป็นการทะเลาะกันที่ใหญ่ที่สุดของพวกเรามันจบด้วยการที่ฉันปิดประตูใส่หน้าคุณย่าและขังตัวเองอยู่ในห้อง

ฉันเริ่มตีโพยตีพายแล้วร้องไห้ออกมาอย่างหนักตอนนั้นฉันรู้สึกว่าพ่อแม่ไม่เคยอยากมีฉันเลยนะย่าก็ดูไม่มีความสุขที่ต้องอยู่กับฉัน ฉันรู้ว่าการเลี้ยงฉันมันค่อนข้างลำบากนะแต่ฉันไม่เข้าใจเลยว่าทำไมผู้ใหญ่รอบตัวฉันไม่ยอมรักฉันในแบบที่ฉันเป็นในตอนนั้นฉันไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าตัวเองเผลอหลับไปแต่ในตอนที่ฉันตื่นขึ้นมาฉันก็ไม่ได้ยินเสียงย่าทำอะไรอยู่ในครัวอย่างที่เคยฉันก็เริ่มรู้สึกว่าอาจจะมีบางอย่างผิดปกติก็ได้ฉันรู้สึกเป็นห่วงมากเลยเปิดประตูออกไปดูก็เจอเธอนอนคว่ำหน้าอยู่กับพื้นฉันรีบโทรหาพ่อในตอนนั้นทันทีแต่เขาอยู่นอกเมืองเหมือนปกติฉันไม่ได้ร้องไห้ตอนนี้กำลังรอสายแต่ทัยที่ที่พ่อรับสายเมื่อฉันได้ยินเสียงพ่อฉันก็หลั่งน้ำตาออกมาไม่หยุดใช้เวลาสักพักเลยกว่าพ่อจะเข้าใจว่ามีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นกับแม่ของเค้าแต่เมื่อเขารู้ตัวเขาขอให้ฉันโทรหา 911 และสัญญาว่าจะส่งคนมาช่วยขณะที่เขากำลังเดินทางกลับบ้านฉันจำไม่ได้ว่าฉันโทรหา 911 ยังไงแต่ไม่มีวันลืมช่วงเวลา 4 นาทีที่ต้องรอรถพยาบาลมาถึงว่ามันนานขนาดไหนนั่งอยู่ข้างล่างของย่าฉันแค่ไม่อยากจะเชื่อเลยแต่ฉันมั่นใจว่าเธอจากไปแล้วแน่นอน

ความสับสนอลหม่านเริ่มจากแพทย์ทั้งหลายชาวบ้านและต่างๆ อีกมากมายและเมื่อฉันเห็นแม่ซึ่งน่าจะเป็นความช่วยเหลือที่พ่อพูดถึงแน่ๆ ถึงแม้ว่าฉันจะโทษแม่ที่เป็นคนทำให้เรื่องทั้งหมดนี้เกิดขึ้นตั้งแต่เธอทิ้งพวกเราไปแล้วฉันก็ไม่ได้อยากเจอแม่หลังจากที่พวกเขาอย่ากันฉันก็ดีใจที่เจอแม่นะแม่กอดฉันด้วยฉันก็รู้สึกว่าตัวเองปลอดภัยเสียทีฉันหยุดพูดไม่ได้เลยว่าฉันเองที่เป็นคนทำให้ย่าต้องตายฉันเล่าทุกอย่างให้แม่ฟังตั้งแต่เรื่องที่ฉันทะเลาะกับยายยังไงเรื่องรอยสักปลอมและการเถียงกันครั้งสุดท้ายของพวกเรา แม่บอกฉันว่าฉันไม่ควรโทษตัวเองเรื่องอะไรทั้งนั้นแต่มันก็ช่วยไม่ได้พอฉันกลับไปคิดถึงเรื่องที่ทะเลาะกันคืนนั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าฉันเกลียดความขี้โมโหของฉันฉันเกลียดตัวเองและรอยสักปลอมโง่ๆของฉันแม่อยู่กับฉันจนดึกในคืนนั้นจนพ่อกลับมาถึงบ้านน่าประหลาดใจที่ว่าฉันไม่รู้ตัวจนถึงตอนนั้นว่าเธอตั้งท้องแถมฉันยังลืมเรื่องทั้งหมดในวันนั้นไปแป๊บนึงเลยด้วยนะฉันเอาแต่มองไปที่ท้องของเธอแม่สังเกตเห็นฉันและบอกว่านี่จะเป็นอีกหัวข้อนึงที่เราจะคุยกัน 2 คนและเธอก็รีบจุ๊บฉันบอกแสดงความเสียใจกับพ่อและกลับไปนี่เป็นครั้งที่ 2 ที่พ่อกับฉันได้เห็นเธอเดินจากพวกเราไปทิ้งพวกเราสองคนไว้ตามลำพัง

ฉันรู้นะว่าการคุยกับพ่อจะต้องเป็นส่วนที่ยากที่สุดของวันเขาตั้งใจฟังฉันมากเขาไม่พูดอะไรเลยสักคำในขณะที่ฉันพยายามอธิบายว่าอะไรขึ้นและทำไมฉันถึงมีผมสีชมพูแล้วในตอนนี้ฉันกล้ามองพ่อแค่ครั้งเดียวหลังจากที่ฉันเล่าเรื่องจบแน่นอนพ่อดูเสียใจมากและดูมีวุฒิภาวะขึ้นในทันทีทันใดแต่ก็แบบเดียวกับแม่นั่นแหละเขาพยายามโน้มน้าวใจฉันว่ามันไม่ใช่ความผิดของฉันเลยแม้แต่นิดเดียวแต่ด้วยเหตุผลประหลาดบางอย่างฉันรู้สึกว่าเขาไม่ได้มั่นใจในคำพูดของตัวเอง 100% ยังไงก็ตามเมื่อกระบวนการทางการแพทย์ทั้งหมดจบลงพวกเราค้นพบว่าคุณย่าแอนไม่ได้มีแค่อาการโรคหัวใจที่ย่ำแย่แต่มีอาการหลอดเลือดสมองโป่งพองอีกต่างหากนี่แปลว่าความจริงแล้วเธออาจเสียชีวิตเมื่อไหร่ก็ได้หลังจากงานศพพ่อต้องกลับไปทำงานและชีวิตของฉันก็จำเป็นต้องเปลี่ยนไปอีกครั้งหนึ่งพ่อบอกว่าเขากำลังคิดจะให้ฉันไปอยู่โรงเรียนประจำเพราะเขาไม่สามารถพาฉันไปกับเขาและดูแลฉันไม่ไหวแต่ฉันมีอีกนะทางเลือกคือไปอยู่กับแม่และครอบครัวใหม่ของเธอปรากฏว่าแม่กับพ่อคุยกันเรื่องนี้แล้วและแม่ก็ไม่มีปัญหาอะไรเลยด้วยให้ฉันพูดอะไรดีล่ะตอนนี้ฉันกำลังแพ็คของๆฉันแล้วรอให้แม่และสามีหน้าโง่คนใหม่ของเธอมารับฉันไปที่ของพวกเขาฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าแม่กำลังจะมีลูกคนใหม่เธอไม่ได้บอกเรื่องนี้ให้ฉันฟังมาก่อนแต่ฉันก็ซึ้งใจนะที่แม่อุตส่าห์มาหาฉันตอนที่ย่าเสียชีวิต

พวกคุณเคยทำเรื่องเลวร้ายที่ทำให้ต้องนึกเสียใจแบบนี้หรือเปล่าช่วยบอกฉันหน่อยเถอะนะว่าฉันไม่ได้ทำเรื่องแบบนี้อยู่คนเดียวคอมเม้นเรื่องราวของคุณไว้ข้างล่างวีดีโอและแชร์วิดีโอนี้ให้กับคนที่คุณต้องการด้วยนะ 

เรื่องเล่าที่เกี่ยวข้อง

0 0 votes
Article Rating
Subscribe
Notify of
guest
0 Comments
Inline Feedbacks
View all comments
Back to top button
0
Would love your thoughts, please comment.x
()
x

ปิดโปรแกรมบล็อคโฆษณา

กรุณาปิดโปรแกรมบล็อคโฆษณาก่อนนะ เพราะเว็บจะอยู่ได้ก็จากป้ายโฆษณา