เศรษฐีต้องการซื้อความรักจากฉัน แต่ฉันไม่ใช่สินค้า

สวัสดี ฉันชื่อ “เฮรี่” และนี้คือเรื่องราวการเดทที่ประหลาดที่สุดเท่าที่ฉันเคยมีอันที่จริงมันเป็นเดทแรกของฉันเองแต่พูดตามตรงฉันไม่เคยรู้จักใครที่เป็นเหมือนเขามาก่อนฉันคิดว่านี่มันอาจจะน่าสนใจสำหรับคุณด้วยฉันเพิ่งอายุครบ 16 ปีเมื่อ 3 เดือนก่อนแต่และฉันก็ยังไม่เคยมีแฟนแต่ฉันก็ไม่ได้คิดอะไรมากจริงๆแล้วมีหนุ่มๆหลายคนที่มาชวนฉันออกไปเที่ยวนะแต่แม้ว่ามันจะไม่มีอะไรผิดปกติแต่พวกเขาไม่รู้สิเวลาที่ฉันคุยกับพวกเขาแล้วมันไม่มีความรู้สึกอะไรเลยมันไม่เห็นจะมีความรู้สึกแบบว่าสปาร์คอย่างที่ใครๆเขาพูดถึงกันและนั่นแหละฉันก็เลยไม่อยากที่จะเสียเวลาหรือให้ความหวังใครแม้ว่าพี่สาวของฉันจะแนะนำว่าควรเปิดโอกาสให้ใครสักคนแต่ฉันก็ยังมองไม่เห็นใครอยู่ดี

แต่แล้วทุกอย่างก็เปลี่ยนไปเมื่อประมาณ 2 เดือนที่แล้วฉันได้ไปงานเลี้ยงที่บ้านเพื่อนสมัยเด็กมันเป็นงานวันเกิดของเขาและพ่อแม่เขาก็ไม่ว่าอะไรที่จะจัดงานปาร์ตี้ในขณะที่ไปทำธุระนอกเมืองในวันที่ฉันอยู่ในงานมีผู้ชายคนหนึ่งคอยแอบมองฉันอยู่แทบตลอดเวลาเขาอายุรุ่นราวคราวเดียวกับฉันเพื่อดูขี้อายมากเขาไม่กล้าเข้ามาคุยกับฉันแต่ยังไงงานปาร์ตี้ก็ค่อนข้างน่าเบื่ออยู่แล้วฉันเลยคิดหาอะไรทำสนุกๆแล้วกำลังคิดว่าจะเป็นไปได้ไหมที่จะทำให้เขากล้าพูดกับฉันในที่สุดและน่าจะประมาณครึ่งชั่วโมงหลังจากที่ฉันเห็นเขา เขาก็เดินเข้ามาแนะนำตัวเขามีชื่อว่า “จิม” และเป็นเพื่อนของเพื่อนร่วมชั้นของฉันเองขณะที่เราพูดคุยกันเขายังคงเขินอายตลอดเวลาแต่นั่นมันทำให้ฉันพบว่าเขาน่ารักมากฉันรู้สึกถึงอะไรบางอย่างแบบว่าฉันชอบเขา

2-3 วันหลังจากนั้นเขาก็ส่งข้อความมาหาแล้วชวนฉันออกไปเที่ยวและนี่เป็นครั้งแรกที่ฉันตอบตกลงเขาไม่ได้บอกว่าเราจะไปทำอะไรกันแต่ฉันคิดว่ามันก็คงเหมือนกับการเดททั่วๆไปอย่างออกไปเดินเล่นและแวะทานอาหารกลางวันหรือดื่มกาแฟกันอะไรทำนองนั้นจริงๆแล้วฉันก็ไม่ได้คาดหวังอะไรเป็นพิเศษฉันเพียงแค่อยากทำความรู้จักกับเขาให้มากขึ้นเท่านั้นแบบนี้เรียกว่าคาดหวังเกินไปหรือเปล่าโอเคตอนนี้ฉันควรจะเล่าให้คุณฟังก่อนว่าครอบครัวของฉันไม่ได้ร่ำรวยอะไรคุณคงจะเข้าใจทีหลังว่าทำไมฉันถึงพูดเรื่องนี้ปกติแล้วฉันมีชุดเก่งอยู่ชุดนึงฉันรักมันมากจริงๆ และรู้สึกดีทุกครั้งเวลาใส่มันแต่มันอาจจะดูแปลกๆ และดูบ้านๆ ไปหน่อยคือแบบว่ามันไม่เหมาะสำหรับวันนั้นเอาซะเลยและแล้วจึงก็ส่งข้อความมาว่าเขามาถึงแถวบ้านฉันแล้วฉันพร้อมรออยู่แล้วจึงแค่หยิบโทรศัพท์แล้วรีบออกจากบ้านไป

พอไปถึงสนามหน้าบ้านฉันก็เห็นรถคันนึงจอดอยู่ริมถนนฝั่งตรงข้ามมันเป็นรถหรูดูเงาวับฉันว่ามันน่าจะเป็นรถเบนซ์นะแน่นอนว่ามันสะดุดตาฉันมากแต่ฉันก็ไม่ได้สนใจอะไรเพราะฉันกำลังมองหา “จิม” แต่ก็ยังไม่เห็นเขาเลยทันใดนั้นกระจกของรถเบนซ์คันนั้นก็เลื่อนลงเมื่อฉันเห็น “จิม” นั่งอยู่เบาะหลังนั่นพร้อมกับเสื้อเชิ้ตและหูกระต่ายเขาโบกมือทักทายและเชิญให้ฉันเข้าไปในรถคุณคงรู้ว่าเราไม่ควรขึ้นรถไปกับใครที่เพิ่งรู้จักแต่ว่าฉันกำลังสับสนอยู่ก็เลยขึ้นไปแบบงงๆ “จิม” นั่งอยู่ที่เบาะหลังและเขามีคนขับรถด้วยมันแบบเหมือนในหนังมากเลยเขาสวมเครื่องแบบดูเนี้ยบและพระเจ้าเขาสวยแม้กระทั่งถุงมือสีขาวด้วยเขามองฉันผ่านกระจกมองหลังพร้อมผงกหัวให้ฉันอย่างนอบน้อม เดทของฉันมันเริ่มต้นขึ้นด้วยการที่พวกเราพากันขับรถไปรอบๆ เมืองทั้งๆ ที่ฉันก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่าทำแบบนั้นไปทำไมแล้วเราก็มาถึงที่ร้านอาหารที่หรูที่สุดในเมือง “จิม” ได้จองโต๊ะอาหารเอาไว้สำหรับเราสองคนแล้ว

ระหว่างการเดทฉันได้รู้อย่างนึงเกี่ยวกับตัวเขาว่าพ่อเขาเป็นเจ้าของอาคารใหญ่หลายแห่งในตัวเมืองและร่ำรวยมากแล้วเดทครั้งนี้มันแย่ตรงไหนล่ะบางทีคุณอาจคิดถามแบบนั้นท่านได้นั่งรถคันโก้และอาหารเย็นแสนวิเศษบางทีคุณอาจจะพูดถูกก็ได้แต่ทุกวินาทีของฉันมันราวกับหายนะเลยล่ะเราแทบไม่ได้พูดคุยกันเท่าไหร่บรรยากาศในรถมันน่าอึดอัดมากเพราะมีคนขับรถอยู่ด้วยแถมบางครั้งเขายังมองพวกเราจากกระจกมองหลังอีกส่วนที่ร้านอาหารน่ะเหรอฉันแทบอยากจะแทรกแผ่นดินหนีเพราะชุดของฉันไม่เข้ากับสถานที่เอาซะเลยและคนอื่นๆก็พากันจ้องมองฉัน ฉันถึงกับตัดมันออกเป็นชิ้นๆ เมื่อฉันกลับมาถึงบ้านแม้ว่าตอนนี้ยังจะนึกเสียดายอยู่ก็ตาม มันจบแล้วล่ะฉันว่าฉันไม่ได้ต้องการจะออกไปไหนมาไหนกับ “จิม” อีกต่อไปแต่ขณะเดียวกันเขากลับคิดว่าเดทของเรามันช่างแสนวิเศษเหลือเกินเขายังคงส่งข้อความหาฉันแม้ว่าฉันจะไม่ตอบฉันจึง ตัดสินใจบอกเขาไปตรงๆเขาทำเหมือนว่าเขาเข้าใจดีว่าปัญหามันคืออะไรและหลังจะพูดคุยกันเสร็จอีก 2-3 ชั่วโมงเขาก็มาปรากฏตัวที่หน้าบ้านฉันพร้อมกับช่อดอกไม้ช่อโตและอะไรบางอย่างที่ดูเหมือนจะเป็นเครื่องประดับฉันไม่รู้หรอกว่าข้างในมันเป็นอะไรเพราะฉันไม่ได้รับมันไว้

ดูเหมือนว่าเขาไม่เข้าใจข้อความที่ฉันส่งไปแม้แต่น้อยฉันตะโกนใส่เขาทั้งๆที่ยืนอยู่หน้าบ้านพร้อมดอกไม้และกล่องนั่นฉันคิดว่าคราวนี้มันคงชัดเจนแล้วแต่ “จิม” ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีตลอดทั้งสัปดาห์ต่อมาฉันได้รับของขวัญ 3 อย่างที่ส่งมาที่บ้านมันเป็นช็อกโกแลตกล่องใหญ่ ตุ๊กตาหมีตัวโตเท่ากับ “อีลิก” หลานชายวัย 8 ขวบของฉันและต่างหูเงินที่ประดับด้วยพลอยฉันส่งของพวกนั้นคืนเขาไปแล้วโกรธมากขึ้นกว่าเดิมแต่ “จิม” ยังคงถามฉันต่ออีกว่าถ้าฉันไม่ชอบของพวกนี้ถ้าอย่างนั้นฉันอยากจะได้อะไรล่ะฉันหมดความอดทนแล้วฉันบล็อกเขาทุกช่องทางและจากนั้นฉันก็ไม่ได้ข่าวคราวอะไรจากเขาอีกเลยเป็นเวลา 2 สัปดาห์จนกระทั่งมีสิ่งที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นเมื่อ “ลิซ่า” เพื่อนของฉันโทรมาและขอให้ฉันออกไปพบที่ห้างสรรพสินค้าในอีก 2-3 ชั่วโมงเธอบอกว่ามันเป็นเรื่องด่วน

พอฉันไปถึงที่นั่นฉันกลับไม่เจอเธอฉันจึงโทรหาแล้วเธอก็พูดขึ้นมาว่าช่วยลองดูสักครั้งเถอะนะฉันไม่เข้าใจว่าเธอพูดถึงอะไรจนกระทั่งมองเห็น “จิม” ยืนมองมาที่ฉันอยู่ตรงนั้นตอนแรกฉันโกรธ “ลิซ่า” มากแต่ฉันเชื่อใจเธอแล้วเราก็เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันเสมอมาเอาล่ะฉันจะเล่าให้มันสั้นลงแล้วกันสรุปก็คือพวกเราเดทกันแล้วมันก็เป็นอะไรที่ดีกว่าครั้งก่อนพวกเราพากันไปตามสถานที่สวยๆต่างๆที่เราไม่เคยไปเช่นสวนสาธารณะที่มีสระน้ำอยู่ข้างๆแห่งนี้พวกเราไปฟังดนตรีแจ๊สที่จัดขึ้นฟรีโดยนักดนตรีท้องถิ่นด้วยกันและที่สำคัญไปกว่านั้นคือพวกเราได้ทำความรู้จักกันมากขึ้นกลายเป็นว่า “จิม” มีความฝันอยากเป็นมือกลองมืออาชีพในวงดนตรีแจ๊สแต่พ่อของเขาบังคับให้เขาเรียนกฎหมายที่วิทยาลัยไอวีลี่

และเมื่อหลังจากที่เขาพบฉันในงานปาร์ตี้เขาก็ไม่รู้ว่าควรจะต้องทำยังไงดีเขาจึงไปปรึกษาพ่อผู้ซึ่งไม่ค่อยจะโรแมนติกเท่าไหร่แน่นอนว่าเขาอยากจะทำให้ฉันประทับใจจากดังนั้นในเดทแรกมันเป็นไปตามที่พ่อของเขาแนะนำทุกอย่างเพื่อที่จะเอาชนะใจฉันสุดท้าย “จิม” ก็ขอโทษฉันสำหรับทุกอย่างที่เกิดขึ้นและหลังจากที่ทุกอย่างพังไม่เป็นท่าเขาก็ยังไม่ยอมแพ้และติดต่อไปยัง “ลิซ่า” และเธอก็แนะนำเขาว่าให้มาออกเดทกับฉันโดยที่ไม่ต้องใช้เงินแม้แต่แดงเดียวและมันกลายเป็นเดทที่ฉันประทับใจจริงๆและตอนนี้พวกเราก็คบกันแล้วแม้ว่ามันจะมีบางอย่างที่เขายังคงแก้ไขปัญหาด้วยการใช้เงินซื้อแต่อาจเป็นเพราะว่าเขาคงเคยชินกับวิธีการแบบนี้มาก่อนซึ่งฉันก็เข้าใจดี

ขอบคุณทุกคนที่รับชมนะคะถ้าคุณมีเรื่องราวการเดทที่แปลกประหลาดแล้วก็ขอร้องล่ะช่วยเล่าให้ฉันฟังในช่องคอมเม้นด้วยและอย่าลืมกดไลค์และกดติดตามกันด้วยนะคะ