แม่ของเพื่อนผมเริ่มส่งข้อความบอกรักให้ผม
ใงทุกคนผมชื่อ “เซบาสเตียน” แล้วผมอายุ 17 ปีแล้วผมมีคำถามที่ฟังดูแปลกๆอยากถามพวกคุณบอกผมหน่อยสิว่าพวกคุณเข้ากับแม่ของเพื่อนรักคุณได้ดีขนาดไหนแล้วจะว่าไงถ้าผมกำลังพูดถึงแม่เพื่อนคุณที่ไม่ได้สนิทมากขนาดนั้นหรือเป็นแค่คนรู้จักทั่วไปพวกเขาเชิญคุณไปทานมื้อค่ำที่พวกเขาทำเองไหม คุณคุยเรื่องต่างๆเกี่ยวกับตัวคุณและชีวิตคุณกับพวกเขาไหมและคำถามสุดท้ายพวกคุณสักคนมีใครเขาอยากติดต่อกับแม่ของเพื่อนคุณลับๆ หรือเปล่าเพราะแน่นอนว่านั่นคือเรื่องราวที่ผมกำลังจะเล่าเรื่องที่ว่าก็คือผมเริ่มจะคิดว่าแม่ของเพื่อนผมกำลังตกหลุมรักผม
ไม่นานมานี้ผู้ชายที่ชื่อว่า “จอห์น” ย้ายมาที่โรงเรียนของผม ผมเห็นเขาในโถงทางเดินของโรงเรียนหลายครั้งแต่เราไม่ได้รู้จักกันมากนะจนกระทั่ง “จอห์น” มาอยู่ในทีมเบสบอลของโรงเรียนเราเป็นส่วนหนึ่งของทีมมานาน 2 ปีแล้วผมคิดจริงจังเลยว่าอนาคตจะทำอาชีพที่เกี่ยวข้องกับกีฬาและผมยังกล้าเรียกตัวเองด้วยว่าเป็นแฟนเบสบอลมืออาชีพแล้วเท่าที่ผมรู้ “จอห์น” ก็รักเบสบอลเช่นกันหลังจากการฝึกซ้อมรอบหนึ่งของเราจึงชวนผมให้แวะไปที่บ้านแล้วไปดูของที่ระลึกทั้งหมดที่เกี่ยวกับกีฬาของเขา “จอห์น” มีลูกเบสบอลที่มีลายเซ็นของ “โรเจอร์ แคลเม่น” อยู่ด้วยแน่ละว่านี้ฟังดูน่าสนใจสุดๆไปเลยผมจึงตอบตกลง
เมื่อผมไปถึงที่บ้านของ “จอห์น” แม่ของเขาคุณนาย “โกลเวอร์” ก็อยู่ที่นั่นด้วยเธอเป็นคนที่ดูอ่อนเยาว์รูปร่างดีและยังเป็นแม่บ้านที่อายุระหว่าง 45 ปีฉันกำลังง่วนอยู่กับการทำอะไรบางอย่างในครัวดังนั้นเราจึงคิดจะทักทายเธอผ่านๆแล้วเข้าไปในห้องของ “จอห์น” อย่างรวดเร็วแต่การพบกันของเราใช้เวลานานกว่าแค่ไม่กี่เสี้ยววินาทีเพื่อที่จะต้องพูดทักทายเมื่อเราโผล่เข้าไปในห้องครัวและคุณนาย “โกลเวอร์” หันกลับมาไม่ได้ยินเสียงของเราใบหน้าของเธอเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วและถ้วยกาแฟใบใหญ่ที่เธออยู่ก็หลุดมือหล่นลงพื้นอย่างกะทันหันเธอดูจะไม่รู้สึกตัวเลยว่าเกิดอะไรขึ้นหลายวินาทีผ่านไปเธอแค่จ้องหน้าผมอยู่อย่างนั้นผมรู้สึกอึดอัดเล็กน้อยแต่ผมไม่มีเวลาจะทำอะไรมากคุณนาย “โกลเวอร์” กล่าวขอโทษแล้วเริ่มเช็ดพื้นขณะที่ “จอห์น” แล้วผมไปที่ห้องของ “จอห์น” แต่ไม่นานเกิน 15 นาทีให้หลังเธอก็ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง
เธอเคาะประตูห้องนอนของ “จอห์น” แต่ไม่ได้รอคำตอบแล้วเข้ามาพร้อมถาดใบใหญ่ที่มีแซนวิชและน้ำมะเขือเทศเหมือนเธอตัดสินใจเอาเองว่าเราคงจะหิวแล้วหรืออะไรสักอย่างนี่มันแปลกสุดๆผมพึ่งเคยมาที่บ้าน “จอห์น” เป็นครั้งแรกเราไม่ใช่เพื่อนรักกันแล้วผมก็แค่มาแวะแป๊บเดียวเพื่อดูลูกเบสบอลแล้วทำไมเธอจึงต้องสนใจเรามากขนาดนี้ด้วยแล้วอะไรๆก็ยิ่งน่ากระอักกระอ่วนมากขึ้นอีกเมื่อเธอมานั่งข้างๆผมเห็นได้ชัดว่าเธอไม่คิดจะออกไปเธอเข้ามาแทรกกลางระหว่างการสนทนาของผมกับ “จอห์น” และขอให้ผมเล่าเรื่องของตัวเองถามเรื่องโน้นเรื่องนี้ของผมหลายอย่างเลยผมรู้สึกไม่ค่อยสะดวกใจแต่ก็แน่ล่ะว่าผมต้องต่อเธออย่างสุภาพผมจะทำอะไรได้อีกล่ะ
พอถึงจุดหนึ่งระหว่างที่เรากำลังสนทนากันเธอวางมือลงบนหลังมือผมแล้วผมก็เกือบจะสะดุ้งหนี “จอห์น” ไม่ได้พยายามจะช่วยผมเลยแค่นี้เงียบอยู่อย่างนั้นถึงผมจะอดสังเกตเห็นไม่ได้ว่าเขากำลังขุ่นเคืองโกรธเกรี้ยวดังนั้นตัวผมจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหาข้ออ้างอะไรสักอย่างเพื่อปลีกตัวออกไปจากบ้านของพวกเขาให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ผมไม่คุ้นกับการได้รับความสนใจจากแม่เพื่อนขนาดนี้ถึงจะเป็นเพื่อนรักของผมก็ตามเพราะงั้นคุณนาย “โกลเวอร์” แลยทำให้ผมอึดอัดมากจริงๆวันต่อมาตอนที่ผมไปถึงโรงเรียนผมเข้าไปหา “จอห์น” แล้วถามเขาแบบไม่รู้จริงๆว่าแม่ของเขาเป็นอะไรแล้วยังอยากรู้เลยว่าเธอทำตัวแปลกๆแบบนี้เสมอเลยหรือเปล่าแต่กลายเป็นว่า “จอห์น” เองก็ประหลาดใจอย่างมากกับการที่แม่ของเขาให้ความสนใจผมมากเป็นพิเศษเพราะโดยปกติแล้วเธอไม่เคยรุกเข้าหาใครแบบนี้เธอทำตัวดีกับเพื่อนเก่าทุกคนของ “จอห์น” แต่ก็ไม่เคยยุ่งเกี่ยวหรืออยากรู้อยากเห็นชีวิตของพวกเขาเรื่องนี้ทำให้ผมสับสนมากจริงๆ
ดังนั้นในอีกไม่กี่วันถัดมาเมื่อ “จอห์น” บอกผมว่าแม่เขาเชิญผมไปทานมื้อค่ำด้วยผมเลยปฏิเสธแบบไม่ต้องคิดบอกว่าผมขอโทษด้วยแต่ผมไปไม่ได้เพราะกำลังยุ่งมากแน่ล่ะว่าผมไม่ได้ยุ่งจริงๆผมแค่ไม่อยากเจอคุณนาย “โกลเวอร์” แต่เธอก็หาทางอื่นเข้าถึงตัวผมจนได้อยู่ดีเวลาผ่านไปสักพักแล้วผมก็สังเกตเห็นความเคลื่อนไหวแปลกๆบน อินสตาแกรม และ สวิตเตอร์ ของผมทั้งหมดมาจากผู้ติดตามคนหนึ่งเท่านั้นตอนแรกผมไม่รู้ว่านั่นเป็นใครเพราะรูปโปรไฟล์เล็กมากและชื่อก็ยังไม่คุ้นเลยแต่พอผมซูมเข้าไปใกล้ขึ้นเดาได้ไหมว่าเป็นใครนั่นคุณนาย “โกลเวอร์” ไงล่ะเธอมากดไลค์รูปและชีวิตของผมเกือบทุกอันย้อนกลับไปจนถึงโพสต์ที่เก่ามากๆด้วยนี่หมายความว่าแม่ของ “จอห์น” ห์ต้องใช้เวลาอย่างมากเพื่อค้นดูเรื่องต่างๆของผมการรับรู้เรื่องนี้ทำให้ผมรู้สึกขนลุกไปหมด
แต่เมื่อผมได้รับข้อความส่วนตัวจากเธอผมก็ไม่อยากทำเป็นมองไม่เห็นได้แล้วตอบกลับไปจากนั้นเราจึงเริ่มส่งข้อความหากันไม่มีอะไรมากเป็นพิเศษเนื้อหาของข้อความไม่มีอะไรแปลกและผมก็จำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าข้อความพวกนั้นพูดถึงอะไรบ้างเราแค่คุยกันแบบเดียวกับที่ผมคุยกับผู้หญิงคนอื่นๆไม่เชิงว่าเป็นแบบที่คุยกับแม่ของเพื่อนพอผมตระหนักเรื่องนี้ขึ้นมาผมก็อึ้งไปทันทีหรือว่าคุณนาย “โกลเวอร์” จะตกหลุมรักผมจริงๆกว่านี้เป็นคำอธิบายเดียวถึงพฤติกรรมแปลกๆของเธอเท่าที่ผมจะนึกขึ้นได้ผมตัดสินใจคุยกับ “จอห์น” เรื่องนี้ผมไปที่บ้านของเขาแล้วบอกทุกอย่างให้เขารู้ระหว่างที่เราอยู่ในห้องของเขาเพื่อให้แน่ใจว่าคุณนาย “โกลเวอร์” จะต้องไม่ได้ยินสิ่งที่เราคุยกันแต่ “จอห์น” พูดให้เบาหน่อย
ก็คือเขาตื่นตระหนกว่านี่เป็นเรื่องใหญ่มากผมคิดว่าเขาคงจะหัวเราะหรือไม่ก็เอามือกุมหน้าผากและถ้าเขาเชื่อว่าแม่ของเขาตกหลุมรักผมอยู่จริงๆเขาต้องประหลาดใจและอับอายแน่ตัวแทนที่จะเป็นอย่างนั้นเขากลับวิ่งออกจากห้องไปหาแม่ของเขาผมไม่ได้ไปจนกระทั่งได้ยินเขาตะโกนใส่แม่แล้วจากนั้นก็ออกจากบ้านไปคุณนาย “โกลเวอร์” ดูตระหนก ผมเดินเข้าไปหาเธอแล้วพยายามจะพูดเชิงขอโทษกับการที่ทำให้ “จอห์น” ทำอะไรแบบนั้นผมรู้สึกผิดและทันใดนั้นเธอก็ร้องไห้โฮบอกว่าเธอช่างเป็นเด็กดีอะไรอย่างนี้ “เซบาสเตียน” ขณะที่กอดผมแน่นและหลังจากนั้นเธอจะอธิบายทุกสิ่งทุกอย่างให้ผมฟังปฏิกิริยาของ “จอห์น” เป็นที่เข้าใจได้
ครั้งหนึ่งเธอเคยเป็นคนที่เชื่อถือไม่ได้ในสายตาสามีก็คือพ่อของ “จอห์น” แล้วทั้งครอบครัวก็ต้องผ่านช่วงเวลาอันยากลำบากมาจากนั้นจอนก็เลยกลัวว่าเรื่องแบบนั้นจะเกิดขึ้นอีกแต่แน่นอนว่าเธอไม่ได้ตกหลุมรักผมผมแค่ดูเหมือนลูกชายคนโตของเธอมากเขาเสียชีวิตไปนานแล้วด้วยอาการป่วยในตอนที่อายุแค่ 15 ปีเธอเอารูปให้ผมดูด้วยความเหมือนที่ว่านั่นเป็นเรื่องที่ยากจะอธิบายจริงๆการเห็นผมนำความทรงจำที่เจ็บปวดกับคืนมาและนั่นก็เป็นสาเหตุที่เธอไม่รู้จะทำอย่างไรได้อีกนอกจากติดตามผมเหมือนว่าผมเป็นอะไรสักอย่างที่ผูกเธอไว้กับลูกชายที่เสียชีวิตไปแล้ว แล้วหลังจากนั้นครู่หนึ่งเธอก็แค่นั่งคุยกับผมแค่นั้นจริงๆ “จอห์น” ไม่รู้เลยว่าผมดูเหมือนลูกชายของเธอเพราะเขาไม่เคยพบคนๆนั้นที่จริงแล้วเธอเป็นแม่เลี้ยงของ “จอห์น” เธอพบพ่อของ “จอห์น” หลังจากที่ลูกชายเสียชีวิตไปเลี้ยง “จอห์น” เสมอลูกของตนมาตั้งแต่ตอนที่เขาอายุ 10 ขวบ
ตอนนี้ทุกสิ่งทุกอย่างก็เป็นอันกระจ่างอย่างไรก็ตามมิตรภาพระหว่างผมกับ “จอห์น” ก็จบลงไปด้วยหลังจากเหตุการณ์นี้แต่ผมยังคงติดต่อกับคุณนาย “โกลเวอร์” อยู่ดูเหมือนเธอจะกลายเป็นเพื่อนแท้สำหรับผมไปแล้วบอกผมหน่อยว่าคุณเคยตกอยู่ในสถานการณ์ประหลาดหรือไม่แต่ไม่น่าเชื่อขนาดนี้กับแม่ของเพื่อนคุณไหมคุณมีเรื่องราวที่น่าสนใจคล้ายๆกันนี้หรือเปล่าเขียนเล่าในช่องคอมเม้นข้างล่างและกดติดตามช่องด้วยนะ