แฟนของฉันอาจเป็นพ่อที่แท้ๆของฉัน พระเจ้าช่วย!
สวัสดีฉันคือ “ราน่า” ถ้าคุณคิดว่าคุณมักจะเลือกคนผิดในการตกหลุมรักด้วยเสมอแล้วเราละก็เรื่องราวของฉันจะพิสูจน์ให้คุณได้รู้ว่าฉันมันเป็นคนที่ล้มเหลวมากกว่าใครๆทั้งนั้นตอนนี้ฉันอายุแค่ 18 ปีแต่ฉันกลับมีประสบการณ์ความรักที่สุดแสนจะประหลาดที่สุดเท่าที่ฉันเคยเจอมันแย่ถึงขนาดที่แม่ของฉันไล่แฟนของฉันออกไปจากบ้านทันทีหลังจากทานอาหารเย็นในพิธีงานศพจนตอนนี้ฉันก็ยังไม่พร้อมที่จะมีความสัมพันธ์ใหม่กับใครทั้งนั้นและนี่คือเหตุผลว่าทำไม
ทุกอย่างเกิดขึ้นในช่วงฤดูร้อนแรกของฉันหลังจากการสำเร็จการศึกษามัธยมปลายฉันมีความสุขมากที่พ่อแม่อนุญาตให้ฉันต้องร่วมทริปกับเพื่อนเพื่อเดินทางไปท่องเที่ยวในอิตาลีเพื่อที่ฉันจะได้พักผ่อนสมองจากการเรียนสักพักก่อนเข้ามหาวิทยาลัยที่จริงแล้วเรื่องราวมันเกิดขึ้นเพราะฉันตกหลุมรักเข้ากับ “โจนาธาน” ผู้ซึ่งเดินทางไปทำธุรกิจที่นั่นพวกเราเจอกันขณะที่กำลังรับประทานอาหารในคาเฟ่แห่งหนึ่ง เอ่อ…กลายเป็นว่าเขาอายุแก่กว่าฉันค่อนข้างมากแต่ว่าเขาก็หล่อและเป็นสุภาพบุรุษอย่างแท้จริงเขาจีบฉันเหมือนกับในนิยายรักเลยล่ะไม่ว่าจะด้วยช่อดอกไม้การเดินเล่นด้วยกันอย่างโรแมนติกและทุกๆอย่างแม้ว่าจะฟังดูน้ำเน่าไปหน่อยก็ฉันคิดว่ามีผู้หญิงคนไหนที่จะไม่ชอบอะไรแบบนี้บ้างล่ะดังนั้นฉันจึงตกหลุมรักเขาอย่างรวดเร็วแล้วมันทำให้ทริปนี้ของฉันมันพิเศษกว่าแค่การมาพักสมองจากการเรียน
แต่แล้วแม่ของฉันก็โทรมาพร้อมกับข่าวร้ายที่สุดเธอบอกว่าคุณยายของฉันเพิ่งเสียชีวิตและฉันควรรีบกลับบ้านแน่นอนว่านี่เป็นข่าวที่เศร้ามากฉันเริ่มเก็บข้าวของทั้งหมดทันทีที่ฉันวางสายและดวงตาของฉันก็เอ่อล้นไปด้วยน้ำตาและไม่สามารถหยุดร้องไห้ได้เลยน่าแปลกที่เมื่อ 2-3 อาทิตย์ที่ผ่านมาฉันรู้สึกว่าฉันโตเป็นผู้ใหญ่แล้วแต่ตอนนี้สิ่งเดียวที่ฉันต้องการคือแค่มีใครสักคนอยู่ตรงนั้นก็คอยให้กำลังใจ “โจนาธาน” เป็นคนเดียวที่ฉันวางใจได้เขาเป็นคนจัดการเรื่องตั๋วและธุระอื่นๆให้ทุกอย่างและเสนอที่จะช่วยดูแลฉันให้ผ่านพ้นช่วงนี้ไปได้แต่ฉันก็ซาบซึ้งในตัวเขามาก แต่ทันทีที่เรามาถึงสนามบินเรื่องราวแย่ๆก็เริ่มต้นขึ้นพ่อฉันเป็นคนขับรถมารับพวกเรากลับบ้านพอเขาเห็น “โจนาธาน” เขาก็ประมาณว่าเขาตกใจเล็กน้อยเกี่ยวกับเรื่องอายุคือเรื่องมันเป็นแบบนี้อันที่จริงฉันได้บอกพ่อกับแม่ไปแล้วว่าฉันจะพาใครบางคนมาด้วยและพวกเขาคงพาคิดว่าฉันจะกลับมาพร้อมกับเด็กหนุ่มสักคนแบบที่ไม่ใช่คนที่แก่คราวพ่อแบบนี้
ตลอดทางจากสนามบินชายทั้งสองนิ่งเงียบบางครั้งฉันเห็นว่าพ่อแอบมองฉันจากกระจกมองหลังฉันพนันได้เลยว่าเขาแอบหวังลึกๆอยู่ในใจวันนี้มันคงเป็นเรื่องอำกันเล่นมันรู้สึกแย่มากเลยโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเหตุผลในการมาพบกับพ่อแม่ของฉันในคราวนี้แต่เดี๋ยวก่อนรอฟังปฏิกิริยาของแม่ฉันกันดีทันทีที่เสร็จทุกขั้นตอนของงานศพแล้วเราทุกคนก็มารวมตัวกันเพื่อรับประทานอาหารกับญาติญาติและเพื่อนสนิทที่บ้านคุณยายของฉันแม่ดูเหมือนจะไม่ยอมมองหน้า “โจนาธาน” เลยและเขาเองก็แสดงอาการกระอักกระอ่วนและเศร้าโศกด้วยเช่นกันแต่สิ่งที่แปลกจริงๆคือในขณะที่ฉันกำลังพูดคุยกับเพื่อนเก่าของคุณยายฉันก็แอบสังเกตเห็นว่าแม่เข้าไปคุยกับ “โจนาธาน” ที่มันแปลกก็เพราะฉันยังไม่ได้มีโอกาสไปแนะนำพวกเขาให้รู้จักกันอย่างเป็นทางการเลยแต่ดูเหมือนเธอก็ได้แสดงท่าทีไม่เป็นมิตรออกมาอย่างเห็นได้ชัดยิ่งไปกว่านั้นยังดูเหมือนว่าเธอพยายามที่จะไล่ให้เขาออกไปจากบ้านด้วย
ฉันพยายามรีบจบการสนทนาแต่คุณก็น่าจะรู้พวกคนแก่ถ้าได้เริ่มพูดคุยและรำลึกถึงอะไรบางอย่างขึ้นมาแล้วมันยากจริงๆที่จะหาโอกาสปลีกตัวออกมาทันใดนั้นจู่ๆแม่ก็โผล่เข้ามาและพาฉันไปซ่อนตัวหลังพุ่มไม้และกระซิบกับฉันด้วยอารมณ์โกรธว่าขอให้พา “โจนาธาน” ออกไปจากบ้านได้ไหมโดยเธอสัญญาว่าจะอธิบายทุกอย่างให้ฟังทีหลังในคืนนี้ฉันไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ฉันไม่เคยเห็นแม่ดูจริงจังและขึงขังแบบนี้มาก่อนแน่นอนว่าฉันรีบทำตามคำขอของเธอทันทีฉันรู้ว่ายังไงแล้ว “โจนาธาน” ก็คงไม่แฮปปี้แน่ที่จะต้องออกบ้านเราแบบนี้ทีแรกฉันคิดว่าเราทั้งคู่น่าจะออกไปด้วยกันแต่เขาบอกว่ามันเป็นการดีกว่าที่ฉันจะอยู่ที่นี่ต่อแล้วเขาจะมารับฉันออกไปที่หลังในตอนกลางคืนถ้าฉันต้องการถึงมันจะฟังดูพิลึกแต่ฉันคิดว่าบางทีเขาอาจจะไม่พอใจกับปฏิกิริยาของพ่อแม่ที่มีต่อเขาหรืออะไรทำนองนั้น
อย่างไรก็ตามหลังจากที่แขกของเราทุกคนกลับไปแล้วในที่สุดแม่และฉันก็ได้มาคุยกันอย่างที่เธอบอกเอาไว้ตอนแรกวันนี้กลายเป็นวันที่แย่มากๆไม่ใช่เพราะเรื่องงานศพแต่เพราะฉันได้รู้ว่าอันที่จริงแม่กับ “โจนาธาน” เคยรู้จักกันมาก่อนพวกเขาเคยคบกันเมื่อประมาณ 19 ปีที่แล้วแต่เขานอกใจเธอและเธอตัดสินใจแก้แค้นเค้าโดยเริ่มมีความสัมพันธ์กับพ่อของฉันหลังจากนั้นไม่นานเธอก็พบว่าเธอท้องและทั้งสองจึงต้องแต่งงานกันแม่ไม่ได้พบกับ “โจนาธาน” อีกเลยหลังจากนั้นและพอมาในวันนี้ที่เธอเห็นเขาและเขาบอกเธอว่าเขามาที่นี่ก็เพราะฉันแม่รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องที่น่าอับอายมากและกังวลว่าพ่อของฉันจะรู้ความลับนี้เห็นได้ชัดว่าพ่อไม่รู้เรื่องระหว่างแม่กับ “โจนาธาน” มาก่อนเลย
ฉันคิดว่าถ้าในเวลานั้นต่อให้มีไดโนเสาร์เดินผ่านมาหรือมีดาวหางหรือบางอย่างจากนอกโลกลงมาบนตักฉันฉันก็คงจะไม่สนใจอะไรทั้งนั้นฉันคิดว่าคงไม่มีใครเคยเตรียมใจที่จะได้ยินข่าวอะไรทำนองนี้มาก่อนแล้วเรื่องยังไม่จบแค่นั้นเพราะพอฉันถามแม่ว่าแล้วพ่อของฉันเป็นพ่อแท้ๆของฉันหรือเปล่าเธอตอบว่าใช่แต่ฟังดูอ้อมแอ้มฉันรู้สึกแย่มากๆเลยตอนนี้คุณคงเห็นแล้วว่าคงไม่มีใครที่จะพลาดกับเรื่องของความรักได้มากกว่าฉันแล้วใช่ไหมแม่ยังบอกฉันอีกด้วยว่าเธอเสียใจที่ไม่อาจยินยอมให้ฉันคบกับ “โจนาธาน” ได้ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามโดยเฉพาะเรื่องอายุของเขาจากการเริ่มต้นการพูดคุยของเราด้วยประโยคที่ว่าแม่เสียใจด้วยจริงๆลูกรักจนมาถึงคำถามว่าลูกกำลังคิดอะไรอยู่แต่สิ่งเดียวที่ฉันคิดได้นะขนาดนั้นคือมันจะเป็นไปได้ยังไงถ้าฉันหลงรักพ่อผู้ให้กำเนิดตัวเอง
ส่วนการพูดคุยกับ “โจนาธาน” นั้นมันยากกว่าที่คิดเป็น 2 เท่าเขาดูผิดหวังมากเพราะมันกลายเป็นว่าเขาถึงขั้นคิดเรื่องขอฉันแต่งงานเอาไว้แล้วนี่คือสิ่งที่แสดงว่าเขาตกหลุมรักฉันมากขนาดไหนแต่พอตั้งแต่ที่เขารู้ว่าแม่ของฉันเป็นใครเขากลับรู้สึกเข้าหน้าฉันไม่ติดและตัวฉันเองก็เช่นกันเขาได้ยืนยันกับฉันว่าเขาไม่สามารถมีลูกได้ในแง่ทางกายภาพแต่ถึงอย่างไรพวกเราก็พากันไปทดสอบดีเอ็นเอเพื่อให้แน่ใจไว้ก่อนและขอบคุณพระเจ้าผลออกมาเป็นลบนั่นหมายถึงเราไม่มีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดแต่อย่างใดแต่แล้วเขาก็จากฉันไปแบบตลอดกาลเขากลับไปทำธุรกิจที่ยุโรปและฉันก็อยู่ที่บ้านเพื่อเตรียมตัวเข้ามหาวิทยาลัยพวกเพื่อนๆของฉันกลับมาจากอิตาลีและพากันสงสัยว่าเจ้าชายอันทรงเสน่ห์ของฉันได้หายไปไหนแล้วฉันก็ไม่รู้จะหาคำตอบอะไรดีๆมาอธิบายแน่นอนว่าฉันไม่สามารถบอกความจริงให้พวกเขารู้ได้และพ่อของฉันเขายังคงไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับแม่และ “โจนาธาน” แต่เท่าที่รู้คือเขาดูไม่เสียใจเลยที่เราสองคนเลิกกัน
คุณคิดว่าเรื่องราวของฉันมันน่ากดไลค์ให้จริงๆใช่ไหมล่ะถ้าอย่างนั้นไม่ต้องรอช้าว่าแต่คุณคิดว่าเมื่อไหร่กันที่ฉันจะพร้อมเปิดใจให้ความรักครั้งใหม่ได้อีกครั้งช่วยแบ่งปันความคิดเห็นของคุณในช่อง คอมเม้นต์ ใต้วีดีโอด้วยนะคะ บาย