ความรัก

มีผู้ชายสี่คนต่อสู้กันเพื่อเอาชนะใจฉัน รู้สึกดีอะไรอย่างนี้!

โอ้ ว่าไงฉันชื่อ “นิโคลัส” แต่ฉันชอบให้คนเรียกว่า “นิกกี้” มากกว่าคนชอบพูดคำว่าได้เสมอเลยหรือเปล่าคุณรู้ไหมว่าทำไมถึงเป็นเรื่องสำคัญมากที่คนเราต้องพูดว่า ไม่ อย่างน้อยหลังจากต้องพูดว่าใช่ซ้ำๆ หลายครั้ง อืม ตอนนี้ฉันรู้แล้วถึงจะน่าอายมากที่ฉันต้องสารภาพสิ่งที่ฉันทำลงไปต่อหน้าพวกคุณทั้งหมดตอนนี้ก็ตามฉันก็ยังรู้สึกว่าฉันต้องเล่าทุกอย่างให้พวกคุณฟังนี่คือเรื่องราวของฉันเมื่อพ่อแม่ของฉันซึ่งบังเอิญทำงานที่เดียวกันต้องย้ายไปทำงานที่อื่นเราจึงถูกบังคับให้ย้ายไปอยู่ต่างเมืองฉันรู้เลยว่าชีวิตของฉันจะต้องยุ่งยากมากขึ้นฉันจะต้องจากเพื่อนรักและแฟนหนุ่มที่ชื่อ “นิก” ที่อยู่ที่นี่ในเมืองเก่าและโรงเรียนเก่าของฉัน ใช่ฉันรู้นี่มันเรื่องน้ำเน่าที่ฟังจนเบื่อแล้วแต่ฉันคิดว่าช่วงเวลานั้นที่เราอยู่ด้วยกันมันมีความหมายมากจริงๆ โดยเฉพาะกับข้อเท็จจริงแสนพิเศษที่ว่าเรามีชื่อเหมือนกันฮ่าๆ 

เอาเถอะฉันต้องย้ายมาแล้วเขายังโศกเศร้าเสียใจมากจนกลายเป็นคนขี้หึงสุดขีดส่งข้อความถามฉันแทบทุกฝีก้าวอยู่ตลอดเวลาว่าฉันทำอะไรฉันกลัวการเปลี่ยนสภาพแวดล้อมมากจริงๆเพราะโรงเรียนมัธยมปลายแห่งใหม่ฉันยังไม่มีเพื่อนและอะไรๆเลยแต่หนึ่งในเพื่อนสาวของฉันที่ชื่อว่า “เจ๊ส” ก็ช่วยชีวิตฉันไว้ครั้งนึงเธอแนะนำฉันให้เพื่อนคนหนึ่งในค่ายดนตรีช่วงฤดูร้อนได้รู้จักเขาชื่อ “ร็อดเจอร์” ฉันรู้ว่าเขาอยู่ในเมืองที่ฉันจะย้ายไปเช่นกันฉันไม่ใช่ผู้หญิงประเภทที่จะเรียกเด็กผู้ชายด้วยชื่อจริงและขอให้พาออกไปไหนมาไหนแต่ตอนนั้นฉันใช้เวลาอย่างโดดเดี่ยวและติดขัดในเมืองใหญ่ไป 2 อาทิตย์แล้วฉันเลยต้องตัดสินใจเสี่ยงดูฉันจะพูดยังไงดี “ร็อดเจอร์” ทำให้ฉันหัวเราะตลอดเวลาและพาฉันไปที่น่าสนใจมากมายอย่างแกลอรี่ศิลปะและร้านกาแฟที่ฉันได้ลองชิมไอศครีมที่อร่อยที่สุดตั้งแต่ที่เคยทานมาเขาอายุมากกว่าฉันนิดหน่อยและดูดีมากดังนั้นพอถึงจุดหนึ่งฉันเลยพบว่าฉันสนใจเค้า

หมายความว่าใช่ฉันรู้ว่าฉันมี “นิก” และฉันก็ไม่ได้อยากเลิกกับเขาระหว่างฉันและ “ร็อดเจอร์” ก็เป็นแค่จีบกันเฉยๆไม่มีอะไรมากกว่านั้นจนกระทั่งเขาพาฉันไปที่งานปาร์ตี้ครั้งหนึ่งงานนั้นเป็นงานเลี้ยงวันเกิดของเพื่อนคนหนึ่งของเขาและทันทีที่เราไปถึงเขาก็เริ่มพูดจาเกินเลยกับฉันบอกว่าเขาต้องการอะไรบางอย่างแต่ว่านั่นแหละบางสิ่งที่จริงจังมากกว่าแค่คุยกันฉันเลยหนีออกไปอยู่ที่ระเบียงเพื่อสูดอากาศและเห็นผู้ชายคนหนึ่งที่อยู่โรงเรียนเดียวกับฉันฉันรู้ว่าเขาอายุมากกว่าชั้น 1 ปีนะเขาชื่อ “อลัน” บางทีเขาอาจจำฉันไม่ได้เพราะเขาเดินเข้ามาหาและถามฉันว่ามากับใครหรือเปล่าฉันชี้ไปที่ “ร็อดเจอร์” ซึ่งกำลังไปหาของทานเล่นมาให้เราแต่ด้วยเหตุผลแปลกๆ อะไรสักอย่างตอนที่ “อลัน” ถามว่าฉันมีแฟนหรือยังฉันกลับสายหน้าเราคุยกันนิดนึงระหว่างงานปาร์ตี้นั้นและวันต่อมาที่โรงเรียนอยู่ๆฉันก็เป็นคนที่เข้าหาเขาแล้วกล่าวสวัสดีค่ะทักทาย

นี่ก็ไม่ใช่ว่าฉันจะมีบางอย่างกับ “อลัน ” เลยถูกไหมก็แค่ไปดูหนังตอนค่ำที่ไม่ได้มีเรื่องโรแมนติกอะไรและการได้ไปคุยกับใครสักคนที่แตกต่างจากฉันโดยสิ้นเชิงก็ยังน่าสนใจมากฉันได้รู้ว่าเขาอยู่ในวงดนตรีและเล่นเบสและยังชวนฉันไปดูการแสดงครั้งหนึ่งของเขาในสัปดาห์ที่กำลังจะถึงนี้เขาขับมอเตอร์ไซค์ซึ่งดูเจ๋งมากในความเห็นของฉันแต่ในเวลาเดียวกันเราก็มีบางอย่างที่เข้ากันได้และดูเหมือนเขาก็สนใจในสิ่งที่ฉันพูดด้วยฉันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับฉันไม่รู้ว่าเป็นเพราะอายุหรือเพราะสภาพแวดล้อมใหม่หรือทั้งสองอย่างแต่ฉันพยายามจะไม่พูดถึงผู้ชายคนอื่นขณะที่กำลังคุยกับอีกคนถึงฉันจะไม่เคยมองว่าตัวเองกำลังนอกใจแต่ก็ไม่อยากเสียพวกเขาทั้งสามคนไปกลายเป็นว่าการปิดบังพวกเขาทั้งหมดนี้เป็นความท้าทายอย่างยิ่งแต่ฉันก็ทำแบบนี้ไปได้อีกหลายเดือนเลย “ร็อดเจอร์” เป็นเสมือนกูรูด้านการเข้าสังคมและศิลปะ “อลัน” เป็นคนใจกล้าและทำให้ฉันรู้สึกเป็นอิสระและ “นิก” เป็นแฟนที่ดีที่คบกันมานานของฉันซึ่งอาจจะรู้จักฉันดีกว่าตัวเองซะอีกแล้วฉันยังคิดถึงเขาคิดถึงช่วงเวลาของเรามากจริงๆ

จากนั้นปิดเทอมช่วงฤดูใบไม้ผลิมาถึงเช่นเดียวกับวันเกิดของฉัน “นิก” สัญญาว่าจะมาที่เมืองนี้และใช้เวลาอยู่กับฉันหลายวันและฉันก็ตื่นเต้นกับการมาของเขามากฉันต้องการอะไรๆไว้แล้วด้วยการบอก “ร็อดเจอร์” และ “อลัน” ว่าฉันจะออกไปนอกเมืองเพื่อที่ว่าพวกเขาจะได้ไม่มารบกวน “นิก” และชั้นแต่แล้วเข้ากลับยกเลิกนัดของเราในวินาทีสุดท้ายน่าเศร้าที่แม่ของเขาเกิดขาหักและเขาต้องอยู่บ้านเพื่อช่วยเหลือแม่นี้ทำให้ฉันโกรธขึ้นมานิดหน่อยฉันหมายถึงว่าแน่ละว่าแม่เขาไม่ได้ตั้งใจให้ตัวเองขาหักหรอกแต่เธอก็แค่ให้ลูกชายมาหาแฟนสาวของเขาได้ไหมล่ะ โอ้ พระเจ้าฉันโกรธจัดในคืนก่อนวันเกิดของฉันทำให้ฉันเปลี่ยนสเตตัสบนเฟสบุ๊กของตนเองเป็นอะไรทำนองว่ารู้สึกโดดเดี่ยวท่ามกลางฝูงชนและในเช้าวันต่อมาฉันก็ตื่นขึ้นได้ยินใครสักคนบีบแตรดังมากอยู่นอกบ้านมันคือพวกเพื่อนสาวของฉันพวกเขาเห็นสเตตัสของฉันเมื่อคืนแล้วหลังจากพบว่า “นิก” ล้มแผนฉันหมดท่าก็เลยตัดสินใจมาช่วยกู้วันเกิดของฉันให้

เราออกไปที่ชายหาดและวันเกิดครั้งนี้ยังมีความเป็นไปได้ที่จะเปลี่ยนเป็นวันเกิดที่เลวร้ายที่สุดกลายเป็นวันเกิดที่ดีที่สุดในจักรวาลได้อย่างน่าอัศจรรย์เราสนุกกันมากและว่ายน้ำกันจากนั้นฉันจึงสังเกตเห็นผู้ชายคนหนึ่งที่จริงเราต้องบอกว่าเพื่อนสาวของฉันต่างหากที่เห็นก่อนพวกนั้นเริ่มหัวเราะคิกคักและขยิบตาให้เขาแต่ด้วยเหตุผลแปลกประหลาดบางอย่างเขาจึงตัดสินใจเดินมาหาฉันและเขาก็หล่อมากๆด้วยฉันคิดว่าฉันอาจเกิดตกหลุมรักแต่แรกเห็นขึ้นมาหรือยังน้อยก็หลังจากที่มองเขารอบที่ 2 แล้วนะเราใช้เวลาที่เหลือในวันนั้นด้วยกันไปกับการจับมือกอดกันและเมื่อสาวเพื่อนฉันเตรียมตัวจะกลับบ้านเขาก็จูบฉัน 

ฉันรู้ว่าฉันจะไม่ได้เจอ “เอลิค” อีกแล้วบางทีมันคงเป็นเหตุผลที่ฉันปล่อยให้เขาจูบฉันหรือบางทีฉันอาจคิดเอาเองว่าก็ในเมื่อนี้เป็นวันเกิดของฉันหรือฉันก็อาจจะยังโกรธที่ “นิก” ไม่มาหาอยู่ฉันไม่รู้เลยแน่ละพวกเพื่อนของฉันสัญญาว่าจะเก็บเรื่องจูบนี้ไว้เป็นความลับอีกรายสัปดาห์ผ่านไปก่อนที่ “นิก” จะตัดสินใจเซอร์ไพรส์ฉันด้วยการมาหาฉันที่บ้าน 2 วันฉันพยายามจะแสดงให้เห็นว่าดีใจแค่ไหนแต่พูดตามตรงนะว่าฉันรู้สึกห่างไกลจากคำว่าดีใจไปเยอะเลยอันดับแรกฉันต้องโทรไปยกเลิกนัดกับ “ร็อดเจอร์” บอกเขาว่าฉันไม่สบายและแน่ละฉันต้องพา “นิก” ไปเดินดูรอบๆเมืองขณะที่ต้องหลีกเลี่ยงสถานที่ใดๆที่อาจจเจอ “ร็อดเจอร์” หรือ “อลัน” ด้วยซึ่งนั่นกลายเป็นเรื่องที่ยากมากถึงตอนนั้นเราตกลงไปหากาแฟดื่มกันและแวะที่ร้านกาแฟที่อยู่ใกล้ที่สุดและเดากันได้ไหมฉันโชคร้ายจริงๆด้วย “อลัน” อยู่ที่นั่นมากับพวกเพื่อนในวงดนตรีของเขาและใช่ฉันไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากแนะนำพวกเขารู้จักกัน โอ้คุณน่าจะยืนอยู่ตรงนั้นด้วยจะได้รู้สึกถึงความตึงเครียดระหว่างเค้าและ “นิก” อย่างที่ฉันรู้สึกแน่นอนว่าทันที “นิก” และฉันนั่งลงที่โต๊ะ

เขาก็เริ่มกล่าวหาว่าฉันแอบคบกับ “อลัน” ลับหลังเขาฉันพยายามจะนิ่งเข้าไว้เพราะก็อย่างที่คุณทุกคนรู้ไม่มีอะไรระหว่างเราเลยและนั่นก็อาจทำให้ฉันกล้าพอที่จะมองตา “นิก” ขณะที่อธิบายทุกสิ่งทุกอย่างในที่สุดฉันก็โน้มน้าวให้ “นิก” ใจเย็นลงได้สำเร็จแล้วจากนั้นฉันก็ไปเข้าห้องน้ำแต่นั่นแหละฉันลืมโทรศัพท์ไว้ที่โต๊ะและแน่นอนว่า “นิก” ต้องใช้โอกาสนี้ไว้ใช่เขาแชทระหว่าง “เอริค” กับฉันกับรูปของเราที่ชายหาดและทุกอย่างฉันยังต้องอธิบายวินาทีที่เป็นจุดแตกหักของความสัมพันธ์ของเราอีกไหมแน่นอนว่า “นิก” ต้องทิ้งฉันเลยเช่นเดียวกับ “อลัน” ซึ่งยังคงอยู่ตรงนั้นและได้ยินทุกสิ่งทุกอย่าง ฉันโกรธจนบล็อก “เอริค”  ในทุกช่องทางบนโทรศัพท์ของฉันและ “ร็อดเจอร์” อืม…หลังจากนั้นเขาโทรหาฉันเพื่อถามว่าเป็นยังไงบ้างเขาคิดว่าฉันป่วยอยู่จำกันได้แต่ ณ. จุดนั้นฉันโกรธผู้ชายทุกคนบนโลกโกรธเค้าแล้วก็ทำตัวหยาบคายเขาเรียกฉันว่าคนเฮงซวยและกระแทกหูไปฉันจะพูดว่าอะไรดีให้คิดถึงผลลัพธ์ของการกระทำคุณเสมอและช่วยใส่พาสเวิร์ดโทรศัพท์ของคุณด้วยนะทุกคน

ว่าไปแล้วนี่เป็นโชคชะตาของฉันเองที่ต้องรับบทเรียนเหล่านี้พวกคุณเคยผ่านเหตุการณ์ทำนองนี้บ้างไหมฉันจะรอฟังเรื่องราวของคุณในช่องคอมเม้นใต้วีดีโอนะอย่าลืมกดไลค์และกดติดตามล่ะบาย  

เรื่องเล่าที่เกี่ยวข้อง

0 0 votes
Article Rating
Subscribe
Notify of
guest
0 Comments
Inline Feedbacks
View all comments
Back to top button
0
Would love your thoughts, please comment.x
()
x

ปิดโปรแกรมบล็อคโฆษณา

กรุณาปิดโปรแกรมบล็อคโฆษณาก่อนนะ เพราะเว็บจะอยู่ได้ก็จากป้ายโฆษณา