พ่อของฉันเรียนในมหาวิทยาลัยเดียวกับฉันและทุกคนคิดว่าเราเป็นแฟนกัน

สวัสดีฉันชื่อ “แคทซีดี้” ฉันเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยแต่ฉันเพิ่งจะได้เป็นรุ่นพี่ของพ่อ 1 ปีในมหาวิทยาลัยชั้นรู้ว่าสมัยนี้มันไม่ใช่เรื่องแปลกที่ใครๆ จะกลับไปเรียนต่อตอนอายุมากแล้วแต่ถ้าเรื่องมันกลับกลายเป็นว่าพ่อของคุณกลายเป็นคนที่น่าสนใจในสายตาของเพื่อนๆ มากกว่าตัวคุณแล้วละก็นั่นมันแย่ที่สุดๆ ไปเลย

ทุกอย่างเริ่มต้นตอนที่ฉันเป็นเด็กใหม่ปีหนึ่งในตอนแรกๆ อะไรๆ มันก็เหมือนกับที่ทุกๆ คนต่างเป็นกันไม่ว่าจะรู้สึกกลัวรู้สึกประหม่าแต่รวมๆ แล้วคือความรู้สึกตื่นเต้นนั่นเองและแม้ว่ามันจะเป็นเรื่องยากเสมอสำหรับฉันในการทำความรู้จักกับผู้คนแต่สุดท้ายฉันก็ได้มีเพื่อนผู้หญิงอยู่ 2 คนแต่พวกเราก็ได้ตัดสินใจลองเข้าร่วมชมรมที่ได้รับความนิยมมากที่สุดแต่แล้วฉันก็พบว่าแม่ของฉันป่วยเป็นโรคร้ายแรงมากและเธอกำลังจะจากไปในไม่ช้าแน่นอนว่าฉันเองอยากอยู่กับเธอในช่วงเวลา 2-3 เดือนสุดท้ายของเธอในขณะที่พ่อของฉันเองก็ต้องการความช่วยเหลือด้วยเช่นกันดังนั้นฉันจึงดรอปการเรียนที่มหาวิทยาลัยหลังจากเรียนจบแค่เพียงเทอมแรกจะใช้เวลากับแม่จวบจนช่วงชีวิตสุดท้ายของเธอ

ฉันไม่อยากจะพูดว่ามันยากแค่ไหนในการทำใจยอมรับการจากไปของเธอ สิ่งเดียวที่ยังคงอยู่หลังจากการเสียชีวิตของเธอนั้นก็คือพ่อของฉันที่ยังตรอมใจอย่างมากกระทั่งถึงกับกินไม่ได้นอนไม่หลับ ฉันจึงต้องคอยดูแลเขาและสิ่งที่แย่ไปกว่านั้นคือเรามีปัญหาเรื่องการจ่ายหนี้จากการกู้จำนองดังนั้นจึงจำเป็นที่ฉันจะต้องหางานทำด้วยตัวเอง สิ่งที่ฉันกำลังพยายามที่จะบอกก็คือฉันไม่มีโอกาสที่จะได้เรียนต่อในมหาวิทยาลัยในอีก 1 ปีครึ่งและแล้ววันเวลาก็ผ่านไปและการใช้ชีวิตกับพ่อของฉันมันก็เริ่มดีขึ้นและถึงจุดที่เขารับปากกับฉันว่าฉันจะได้กลับไปเรียนต่ออีกครั้งฉันขอบอกเลยว่าการที่จะกลับเป็นนักศึกษาปี 1 ใหม่เป็นครั้งที่ 2 นี้มันยากกว่าเดิมเสียอีกเพราะทุกคนดูเด็กและต่างจากฉันมากๆ ถึงแม้ว่าฉันจะแก่กว่าแค่ 2 ปีก็ตามฉันรู้สึกเหมือนมันมีช่องว่างระหว่างวัยเกิดขึ้นระหว่างฉันกับเพื่อนร่วมชั้น แน่นอนว่าฉันมีเพื่อนบางคนให้คุยด้วยระหว่างทานอาหารกลางวันหรือทำงานกลุ่มด้วยกันแต่ฉันก็ไม่สามารถพูดได้ว่าเราเป็นเพื่อนกันอย่างจริงๆจังๆและส่วนใหญ่ฉันมักใช้เวลาอยู่ตัวคนเดียว

นี่คือเหตุผลที่ฉันต้องการที่จะได้รับปริญญาให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ดังนั้นฉันจึงตัดสินใจที่จะใช้เวลาในมหาวิทยาลัยตลอดช่วงฤดูร้อนและลงเรียนเพิ่มฉันรู้ว่ามีมันจะทำให้พ่อของฉันหงุดหงิดเพราะว่าเขาคิดถึงฉันมากโดยเฉพาะตอนที่ไม่มีแม่อยู่อีกต่อไปลองนึกภาพดูว่าฉันจะประหลาดใจแค่ไหนในวันแรกของภาคเรียนฤดูร้อนในคาบเรียนแรกที่เข้าไปนั้นฉันสังเกตเห็นพ่อตัวเองนั่งอยู่ในแถวสุดท้ายในห้องเรียนเราจ้องตากันนะเขาก็แกล้งทำเป็นเหมือนว่าเราไม่เคยรู้จักกันมาก่อนฉันถึงกับพูดอะไรไม่ออกแล้วเช็คดูโทรศัพท์จึงได้เห็นข้อความจากเขาว่าไว้ค่อยเจอกันหลังจบคาบเรียนตอนนี้มันเป็นการดีกว่าที่ฉันจะเลิกทำหน้างงที่เต็มไปด้วยความสับสนนาทีแล้วจากนั้นในอีก 1 ชั่วโมงต่อมาฉันจึงได้รับคำอธิบายสำหรับทุกสิ่ง

พ่อบอกฉันว่าจริงๆแล้ววางแผนที่จะให้กำลังใจฉันด้วยการที่เราสองคนจะได้ไปพักผ่อนกันที่เกาะอันสุดแสนวิเศษ พ่อตั้งใจทำเซอร์ไพรส์ให้ฉันแต่พอฉันบอกเขาไปว่าฉันจะไม่กลับบ้านในช่วงปิดเทอมฤดูร้อนนี้เขาก็อารมณ์เสียมากเพราะเขาได้ทำการจองทุกสิ่งทุกอย่างเอาไว้แล้วแต่ทันใดนั้นเขาก็นึกขึ้นมาได้ว่าเจ้านายที่ทำงานเคยบอกว่าถ้าเขามีปริญญาจากมหาวิทยาลัยเขาจะได้รับการเลื่อนขั้นอย่างแน่นอนเรื่องของเรื่องก็คือพ่อเคยพลาดโอกาสที่จะจบจากมหาวิทยาลัยก็เพราะว่าตอนนั้นฉันเพิ่งเกิดและเขาจำเป็นต้องออกมาทำงานและดูแลครอบครัวดังนั้นเพราะฉันคิดว่าทำไมจะทำไม่ได้ล่ะก็โทรมาที่มหาวิทยาลัยของฉันและพบว่าเขาสามารถเข้าร่วมเรียนหลักสูตรพิเศษสำหรับนักศึกษาเก่าเพื่อจะได้รับประกาศนียบัตรในปีการศึกษาเดียวภายในภาคเรียนฤดูร้อน ดังนั้นเขาจึงคืนตั๋วและยกเลิกการจองทั้งหมดแล้วเก็บข้าวของมาเพื่อการศึกษาที่เดียวกับฉัน

ถามว่ามันเป็นเรื่องที่น่าตกใจและทำให้ฉันเซอร์ไพร์มั้ยไหมแน่นอนว่ามันใช่อยู่แล้วแล้วถ้าถามว่าฉันรู้สึกดีใจไหมที่มีพ่อมาเรียนที่นี่ด้วยฉันก็ตอบไม่ถูกเหมือนกันเพราะลำพังฉันเองก็เป็นเหมือนแกะดำสำหรับที่นี่อยู่แล้วและฉันก็ไม่ต้องการให้คนในมหาวิทยาลัยรู้ว่าพ่อมาเรียนที่นี่ด้วยนั่นจึงทำให้พวกเราตัดสินใจที่จะเก็บเรื่องความสัมพันธ์ของเราเป็นความลับและแม้ว่าพ่อของฉันจะยังไม่แก่เท่าไหร่แต่เขาก็ยังคงมีปัญหาเกี่ยวกับระบบการเรียนการสอนของมหาวิทยาลัยอาจเป็นเพราะว่าเขาหยุดพักเรื่องการเรียนมานานเกือบจะ 20 ปีดังนั้นฉันจึงต้องคอยช่วยเหลือเขาเป็นบางครั้งอย่างลับๆ เพื่อที่จะได้ไม่มีใครรู้เรื่องของเรา

แต่ดูเหมือนว่าสิ่งที่เราทำมันจะยังลับไม่พอก็ไม่นานเพื่อนในหอพักของฉันที่ชื่อว่า “อริส” คนที่ใครๆ ก็รู้ว่าเป็นเด็กเรียนแค่ไหน เธอเห็นว่าพ่ออยู่ในห้องพักของฉันซึ่งแน่นอนว่าเขาจะมาที่นั่นเพื่อที่จะเอาสมุดโน๊ตของฉันที่เขาอาจใช้ให้เป็นประโยชน์ได้ แต่ “อริส” กลับด่วนสรุปทุกอย่างเอาเองและในวันถัดมาฉันจะได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับตัวฉันว่ากำลังมีความสัมพันธ์กับนักเรียนที่แก่กว่าคนนั้นและในเวลาไม่ถึงสัปดาห์จากคนอย่างฉันที่ไม่มีใครสนใจก็กลับกลายเป็นที่จับตามองของเพื่อนๆ ในมหาวิทยาลัยและด้วยเหตุผลประหลาดๆ สาวๆ ส่วนใหญ่คิดว่าพ่อของฉันหล่อแต่ถ้าเขาสนใจในตัวฉันแล้วก็พวกหล่อนจึงพากันคิดว่าฉันต้องมีอะไรเจ๋งๆ บางอย่างแน่นอนทุกคนเริ่มเชิญฉันไปงานปาร์ตี้ครั้งนึง “เจสสิก้า” เพื่อนร่วมชั้นของฉันยังถึงกับเสนอให้ฉันเป็นสมาชิกของชมรมของเธอด้วยซ้ำ สำหรับพ่อเรื่องข่าวลือของพวกเราดูเหมือนจะเป็นเรื่องตลกและสนุกสนานและเขาก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนักแต่ว่าฉันไม่ชอบที่มีใครมาคอยจับตามองฉันแบบนี้

ฉันเองก็ไม่รู้ว่าอะไรมันจะแย่กว่ากันระหว่างแกล้งทำตัวเป็นเหมือนที่ทุกคนเข้าใจหรือว่าให้พวกเค้าได้รู้ความจริงแล้วเรื่องข่าวลือนี้มันทำให้ฉันเครียดมากจริงๆฉันเริ่มที่จะหลบหน้าผู้คนรวมถึงพ่อของฉันด้วยฉันเริ่มใช้เวลาส่วนใหญ่คลุกอยู่ในห้องสมุดนะคิดว่าคงไม่มีใครสังเกตเห็นที่ฉันซ่อนอยู่หลังกองหนังสือกองโตพวกนั้นแต่แล้วมันก็มีข่าวลืออีกเรื่องเกี่ยวกับฉันและพ่อที่ทำให้ฉันสนใจ ฉันได้ยินกลุ่มสาวๆที่อยู่ใกล้ๆซุบซิบอะไรกันบางอย่างเกี่ยวกับว่ามีใครบางคนเห็นพ่อของฉันกำลังเดทกับคุณ “แจ๊คกี้” ผู้ที่เป็นอาจารย์สอนศิลปะเขาหรือเธอนั้นจึงได้ข้อสรุปว่านักเรียนที่แก่กว่าคนนั้นอาจจะกำลังนอกใจฉันอยู่ฉันจึงคิดว่านี่เป็นเวลาที่เหมาะเจาะอย่างยิ่งที่จะจบเรื่องทุกอย่างเสียทีดังนั้นฉันจึงปรากฏตัวขึ้นและบอกพวกเธอเหล่านั้นดราม่าว่าเขาและฉันเรากำลังจะจบกันแล้วนะฉันยังแกล้งทำเป็นว่าเขาที่ฉันได้ยินมามันทำให้ฉันอารมณ์เสียจนต้องรีบลุกออกจากห้องสมุดไปเดี๋ยวนั้นแต่พูดตาม ฉันเองก็สงสัยอยู่เหมือนกันว่าเรื่องที่พวกเขาพูดกันนั้นมันเป็นความจริงหรือเปล่า

แน่นอนว่าฉันต้องรีบไปขอคำอธิบายจากพ่อโดยด่วนฉันโทรหาเขาและเขาก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไรเลยเขายอมรับว่ากำลังมีความสัมพันธ์ที่สุดแสนโรแมนติกแต่เขาก็ไม่รู้ว่าจะบอกฉันเกี่ยวกับเรื่องนี้ยังไงจริงๆแล้วฉันรู้สึกโล่งใจมากไม่ใช่แค่เพราะเรื่องข่าวลือระหว่างเราจะได้จบลงสักทีแต่เป็นเพราะพ่อสุดที่รักของฉันจะได้ไม่ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวอีกต่อไปเรื่องนี้มันทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้นสำหรับฉันในการตั้งหน้าตั้งตาเรียนและในที่สุดก็มีชายหนุ่มคนหนึ่งจากชั้นเรียนเศรษฐศาสตร์มาขอฉันออกเดทด้วยเขาบอกว่าอยากจะขอฉันมานานแล้วแต่เห็นว่าตอนนั้นฉันมีแฟนอยู่คุณคงเข้าใจนะว่ามันหมายถึงใครแต่พอเขารู้ว่าข่าวมันจบลงแล้วจึงคิดว่านี่เป็นโอกาสของเขาสักที

และอย่างที่ใครๆก็มาพูดกันทุกอย่างจะจบลงด้วยดีคุณเห็นด้วยกันไหมแบ่งปันความคิดเห็นของคุณในช่องคอมเม้นต์ด้านล่างของวิดีโอนี้และอย่าลืมกดติดตามช่องนี้เพื่อคอยรับชมเรื่องราวอื่นๆกันนะคะ