ครอบครัว

ฉันขโมยลูกของพี่สาวของฉัน เพราะเธอเป็นแม่ที่แย่มาก

สวัสดีทุกคน ฉันชื่อ “เฮเล่” ฉันอายุ 16 ปีขอสารภาพว่าฉันได้ก่ออาชญากรรมและไม่ถูกจับได้แต่ฉันไม่ได้รู้สึกผิดเพราะฉันทำไปก็เพื่อช่วยชีวิตเด็กคนหนึ่งไว้ฉันต้องแนะนำพี่สาวของฉันก่อนนี่คือ “อแมนด้า” เธออายุมากกว่าฉัน 1 ปีคุณรู้ไหมพี่สาวมักจะเป็นแบบอย่างให้น้องสาวของพวกเธอพวกเธอช่วยงานที่บ้านช่วยเรื่องการบ้านและปัญหาส่วนตัวในกรณีของฉันทุกอย่างตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง “อแมนด้า” เป็นบทเรียนเรื่องราวชีวิตแบบที่ไม่เหมาะสมเพียงแค่อายุ 16 ปีเธอก็เริ่มออกไปเที่ยวกับผู้ชายที่มีอายุมากกว่าไปงานปาร์ตี้ที่ไม่มีวันเลิกราและหายไปจากบ้าน 2-3 วันในแต่ละครั้งหลังจากผ่านไปไม่กี่เดือนในชีวิตนี้เธอก็เปลี่ยนผู้ชายไปแล้ว 2-3 คนเริ่มสักลายและพ่อแม่ของเราก็ไปรับเธอจากสถานีตำรวจ 2 ครั้งชัดเจนเลยว่าเธอไปยุ่งเกี่ยวกับสังคมที่ไม่ดีและยอมตกเป็นทาสของมันสิ่งที่ยากที่สุดคือเธอไม่ยอมฟังใครเลยทั้งพ่อแม่หรือครูของเธอ

ดังนั้นฉันสังเกตว่า “อแมนด้า” ใช้ชีวิตอย่างไรและทำสิ่งที่ตรงกันข้ามฉันพยายามที่จะเป็นลูกสาวที่ดีเพื่อพ่อแม่ของฉันจะได้มีความสุขแต่มันก็เป็นเรื่องยากแม่และพ่อของฉันพยายามที่จะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมขอ “อแมนด้า” แต่ไม่นานพวกเขาก็ชินกับมันและเลิกล้มความตั้งใจที่จะเปลี่ยนเธอฉันคิดว่า  “อแมนด้า”  ทำให้พวกเขาสิ้นหวังและพวกเขาแค่รอให้เธออายุ 18 ปีดังนั้นพวกเขาจึงจะหมดความรับผิดชอบในการกระทำของเธอแต่หลังจากผ่านไป 1 เดือนเธอกลับมาถึงบ้านในตอนเช้าและบอกข่าวกับพวกเราซึ่งทำให้แม่ของฉันเกือบหัวใจวายเธอเข้ามาในบ้านขณะที่เรากำลังทานมื้อเช้าเธอดูเหนื่อยมากเห็นได้ชัดว่าการปาร์ตี้ตลอดทั้งคืนนั้นคงไม่ใช่เรื่องง่ายสิ่งแรกที่เธอพูดกับเราไม่ใช่สวัสดีหรือเป็นยังไงบ้างด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ เธอบอกเราว่าเธอกำลังตั้งท้องบ้านถึงจะเงียบสนิทไป 2-3 นาทีฉันเดาว่าเราทุกคนพยายามประมวลผลข้อมูลนี้อยู่จากนั้นแม่ของฉันเริ่มหายใจอย่างหนักหน่วงและกุมหัวใจเธอไว้พ่อต้องเข้าไปดูแลแม่และฉันก็แค่นั่งอยู่ตรงนั้นและไม่รู้จะทำยังไงในขณะเดียวกันพี่สาวของฉันก็ไปที่ห้องของเธออย่าเงียบๆ ขอบคุณพระเจ้าที่แม่โอเคแต่ฉันเข้าใจปฏิกิริยาของเธอมันเป็นข่าวร้ายมากเราใช้เวลา 2-3 วันในการต่อสู้และโต้เถียงกันเกี่ยวกับสิ่งที่ต้องทำต่อไป

พ่อแม่ของเราบอกว่า “อแมนด้า” ยังไม่พร้อมที่จะมีลูกแต่เธอยืนยันว่าเธอรู้ดีว่าต้องทำยังไงแน่นอนพ่อแม่ของฉันไม่สามารถให้พี่สาวของฉันกำจัดลูกได้ดังนั้นการตัดสินใจจึงเกิดขึ้น “อแมนด้า” กำลังจะมีลูกฉันต้องบอกว่าเป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือนว่าชีวิตพี่สาวของฉันอยู่ในกำมือของเธอเองเธอรู้ว่าเธออาจจะทำร้ายเด็กได้ดังนั้นเธอจึงเริ่มเลิกนิสัยที่ไม่ดีทั้งหมดของเธอมันยากแต่พ่อแม่และฉันช่วยเธออยู่เสมอเราหวังว่าการมีลูกจะเปลี่ยนชีวิตของเธอและเธอจะกลับมาหาครอบครัวอีกครั้งฉันยังสงสัยว่าใครเป็นพ่อแล้วทำไมเขาถึงได้มาพบ “อแมนด้า” แต่เธอไม่ต้องการพูดถึงเขาเห็นได้ชัดว่าเขากลัวการรับผิดชอบและหนีหน้าไปอย่างไรก็ตาม 9 เดือนที่พี่สาวของฉันอุ้มท้องนั้นเป็นไปอย่างเงียบสงบและมีความสุขดีในที่สุดเด็กก็คลอดออกมาเขาเป็นเด็กผู้ชายที่แข็งแรงสมบูรณ์เธอตั้งชื่อคำว่า “เจลอต” ฉันไม่สามารถกลั้นน้ำตาไว้ได้เมื่อฉันเห็นเขาผิวสีชมพูและนิ้วเล็กๆของเขาทำให้ฉันรู้สึกแปลกๆหรืออาจเป็นเพราะสัญชาตญาณทารกน้อยได้รับการดูแลอย่างใส่ใจแต่ฉันก็ยังอยากอุ้มเขาไว้และช่วยเหลือเค้า “อแมนด้า” ได้ออกจากโรงพยาบาลแล้วเราก็กลับบ้านฉันคิดว่าเราจะมีชีวิตใหม่พร้อมดูแล “อแมนด้า” และลูกด้วยกันแต่ฉันคิดผิด 

2-3 สัปดาห์ต่อมาเธอมีภาวะซึมเศร้าหลังคลอดและเธอก็เริ่มอยากได้คำปลอบใจจากบรรดาเพื่อนเก่าของเธอ “อแมนด้า” เริ่มกลับไปใช้ชีวิตแบบเดิมของเธอออกไปเที่ยวจนเช้าตรู่อีกครั้งและบางครั้งเธอก็ไม่ได้กลับบ้านเป็นเวลาหลายวันนี้ทำให้ฉันโกรธมากเธอควรจะให้นมลูกของเธอแต่กลับปาร์ตี้ตลอดเวลาแทนพ่อแม่ของฉันมีปากเสียงกับ “อแมนด้า” เสมอพวกเขาปฏิเสธที่จะดูแลหลานเพราะพวกเขาพยายามบังคับให้เธอดูแลลูกของเธอเองแต่มันไม่ได้ผลด้วยเหตุนี้ “อแมนด้า” จึงออกไปเที่ยวกับเพื่อนๆที่ไหนสักแห่งและพ่อแม่ของฉันไม่อยากดูแลหลานเพราะเป็นเรื่องใหญ่ดังนั้นจึงเป็นชั้นที่ใช้เวลาทั้งวันกับทารกน้อยในอ้อมแขนให้นมและเปลี่ยนผ้าอ้อมให้เค้าใช้ทั้งเงินออมและเงินในกระเป๋าของฉันหมดไปกับอาหารทารกและฉันแทบไม่ได้รับเงินจากพ่อแม่ของฉันมากขึ้นเลยสถานการณ์ในบ้านเริ่มตึงเครียดและฉันคิดว่าคงไม่มีอะไรแย่ไปกว่านี้แล้วแต่ในไม่ช้า “อแมนด้า” ก็อยากพูดคุยแบบจริงจังอีกครั้งเธอบอกว่าเธอกำลังจะย้ายไปนิวยอร์กและขอเงินเพื่อย้ายไปที่นั่นพูดตามตรงฉันรู้สึกตกใจอย่างมากกับความหน้าด้านและความไม่ใส่ใจในลูกและครอบครัวของเธอฉันใช้เวลาทั้งวันดูแลลูกของเธอด้วยความสามารถทั้งหมดที่ฉันจะทำได้ฉันจำไม่ได้ว่าครั้งสุดท้ายที่ฉันนอนหลับอย่างเต็มอิ่มคือเมื่อไหร่และพี่สาวของฉันได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขตอนนี้เธอขอเงินจำนวนมากเพื่อย้ายออกจากบ้านนอกจากนี้เขากำลังจะย้ายออกไปคนเดียวโดยไม่มี “เจลอต” ที่มันน่าเหลือเชื่อชะมัดแต่คุณรู้ไหมว่าอะไรที่ทำให้ฉันแปลกใจที่สุดพ่อแม่ของฉันเห็นด้วย ฉันเลยแบบอะไรนะพูดจริงหรอ

แต่พวกเขาก็เห็นด้วยกับคำขอของ “อแมนด้า” พวกเขามีแผนเมื่อพี่สาวของฉันจากไปแล้วพวกเขาจะนำ ”เจลอต” ไปให้ใครสักคนอุปการะเพื่อที่พวกเขาจะได้แก้ปัญหาทั้งหมดและได้กลับไปใช้ชีวิตที่เงียบสงบของพวกเขาสักทีฉันไม่อยากเชื่อเลยว่าพ่อแม่จะทำอะไรแบบนั้นฉันจะปล่อยให้มันเกิดขึ้นไม่ได้ฉันจึงโต้เถียงกับพ่อแม่เพื่อให้ “เจลอต” อยู่กับพวกเราและกว่าฉันจะโน้มน้าวพวกเขาได้ก็ยากมากดังนั้น “อแมนด้า” ก็จากไปพ่อแม่ของฉันเริ่มชีวิตที่สงบสุขและฉันก็ถูกทิ้งให้อยู่กับ “เจลอต” เพียงลำพังแม้ว่าฉันจะรู้สึกผูกพันกับทารกน้อยมากแต่สำหรับฉันก็ต้องดูแลเขาเป็นเรื่องที่ยากมากเขาร้องไห้ตลอดเวลาและฉันก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาหิวหรือง่วงนอนหรือว่าอยากได้จุกนมปลอมฉันไม่รู้การสื่อสารเพียงอย่างเดียวของเขาคือการร้องไห้เหนือสิ่งอื่นใดคือปัญหาเรื่องเงินที่ขาดมือเนื่องจากพ่อแม่ของฉันให้เงินจำนวนมากแก่ “อแมนด้า” เงินในกระเป๋าของฉันก็ร่อยหรอดังนั้นฉันจึงรู้สึกว่าฉันเหมือนคนมีเงินไม่พอที่จะซื้อผ้าอ้อมและของทุกอย่างได้ดังนั้นในขณะที่ “เจลอต” หลับฉันจะซักผ้าอ้อมเมื่อฉันพยายามที่จะให้พ่อแม่ช่วยฉันสักหน่อยฉันต้องการความช่วยเหลือจากพ่อแม่จริงๆเพราะเมื่อฤดูร้อนสิ้นสุดลงฉันจะต้องกลับไปโรงเรียนและ “เจลอต” จะถูกทิ้งไว้โดยไม่มีใครดูแล

แม่เห็นว่ามันยากสำหรับฉันและเธอก็ตกลงที่จะเลี้ยงดูตลอดในบางครั้งมันเป็นเวลาเดียวที่ฉันนอนหลับได้อย่างเต็มที่หลังจากนั้น 3 เดือนของชีวิตนี้ฉันก็เกือบจะเป็นบ้าฉันมีรอยดำใต้ตาผมเผ้าเป็นกระเซิงและเสื้อผ้าโทรมๆฉันดูแย่มากแต่ฉันก็หวังว่าทุกอย่างจะเปลี่ยนไปในไม่ช้าพี่สาวของฉันกลับมาจากนิวยอร์กแต่เธอไม่ได้มาคนเดียวถ้ามากับแฟนสาวคนใหม่ของเธอใช่แน่นอนดูเหมือนว่าในที่สุดพี่สาวของฉันก็ค้นพบตัวเองในนิวยอร์กและตระหนักถึงสิ่งที่เธอขาดหายไปและแฟนสาวคนใหม่ของเธอช่วยเธอในเรื่องนั้นหลังจากที่ “อแมนด้า” บอกว่าเธอตั้งท้องมา 1 ปีก่อนก็ไม่มีอะไรจะทำให้เราแปลกใจได้อีกนอกจากนี้เธอโตเป็นผู้ใหญ่แล้วและเธอก็ตัดสินใจได้ด้วยตัวเองฉันหวังว่าเธอจะกลับมาหาลูกชายของเธอและจะดูแลเขาที่นี่แต่ฉันคิดผิดเธอพูดสิ่งหนึ่งที่ทำให้ฉันกังวล “อแมนด้า” และแฟนสาวของเธอกำลังจะย้ายไปอาศัยอยู่ที่อเมริกาใต้และพวกเขากลับบ้านด้วยจุดประสงค์เดียวเท่านั้นเพื่อพา “เจลอต” ไปอยู่ด้วยคราวนี้ทำให้ฉันโกรธมากๆอ่ะมันเคยทิ้งลูกแล้วหนีไปนิวยอร์กและฉัน 2-3 ชั่วโมงต่อวันเพื่อที่จะได้ดูแลเขาอย่างดีเขาไม่ใช่ลูกของเธออีกต่อไปเขาเป็นลูกของฉัน  

ฉันรู้สึกผูกพันกับเขามากแล้วฉันรู้สึกถึงสัญชาตญาณความเป็นแม่ที่มีต่อเค้าแล้วอีกอย่างอ่ะมันน่าจะดูแลเขายังไงถ้าไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเด็กๆเลยเธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะเปลี่ยนผ้าอ้อมยังไง โอ้ไม่ฉันไม่ไว้ใจ “อแมนด้า” และฉันจะไม่ทนอีกต่อไปแล้วจะดูเหมือนว่าฉันมีโอกาสเพียงครั้งเดียวที่จะเก็บทารกน้อยไว้และฉันจะไม่พลาดเมื่ออแมนด้าและแฟนสาวของเธอกำลังจะเดินทางไปสนามบินฉันก็ถ่วงเวลาพวกเขาไว้ให้นานที่สุดฉันบอกพวกเขาว่าฉันเก็บข้าวของ “เจลอต” ให้นมเค้าแล้วก็กล่อมให้เขาหลับแล้วและเมื่อมีเวลาอีกเล็กน้อยก่อนขึ้นเครื่องในที่สุดฉันก็อุ้ม “เจลอต” ลงมาซึ่งนอนอยู่ในรถเข็นเด็ก “อแมนด้า” กำลังรีบร้อนพวกเขาจึงพาเขาไปขึ้นรถแท็กซี่และออกรถไปทันทีที่รถของพวกเขาลับตาไปฉันวิ่งกลับเข้าไปในบ้านและวิ่งขึ้นไปที่ห้องฉัน ฉันไปที่เปลแต่จ้องมองเขา “เจลอต” ตัวน้อยกำลังหลับสนิทและขยับขาในขณะที่หลับเขาอาจจะกำลังฝันฉันร้องไห้ด้วยความสุขฉันไม่เคยเห็นอะไรที่สวยงามกว่าเด็กคนนี้เลยในชีวิตของฉันครึ่งชั่วโมงต่อมาฉันได้รับข้อความจาก “อแมนด้า” มันไม่ดีเลยมันเต็มไปด้วยคำต่อว่าฉัน ฉันต้องบอกว่ามันก็ยุติธรรมดีเพื่อฉันหลอกเธอ

เมื่อ “อแมนด้า” และแฟนสาวของเธอไปถึงสนามบินพวกเขาสังเกตเห็นว่าแทนที่จะเป็น “เจลอต” ในรถเข็นเด็กกลับกลายเป็นตุ๊กตาใช้สลับเปลี่ยนมันฉันพยายามห่อตุ๊กตาด้วยผ้าให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากสำหรับเธอที่จะเห็นใบหน้าของมันฉันพนันได้เลยว่า “อแมนด้า” จะไม่ยอมแลกตั๊วะเดินทางไปอเมริกาใต้เพื่อกลับมารับลูกของเธอดังนั้นฉันจึงเก็บเขาไว้ในบ้านเพื่อไม่ให้พวกเขามีเวลากลับมารับได้ทันและอย่างที่ฉันคิดว่าตัวเองถูกหลอกแต่เธอไม่ได้ยกเลิกแผนการของเธอนั้นคือทัศนคติที่แท้จริงที่มีต่อลูกของเธอ เธอไม่ต้องการเขาและเธอก็ไม่ได้รักเขาแต่ฉันสามารถรักเขาได้แบบของฉันและฉันไม่สามารถปล่อยเขาไปได้ใช่ฉันรู้ว่าฉันได้ก่ออาชญากรรมเพราะฉันลักพาตัวลูกสาวของพี่ฉันเองแต่มันจะดีกว่าสำหรับทุกคนสำหรับ “อแมนด้า” สำหรับฉันและแน่นอนสำหรับตัว “เจลอต” เองหลังจากนั้นฉันได้คุยกับพ่อแม่ของฉันเป็นเวลานานเกี่ยวกับความสมัครใจที่จะดูแลเขาฉันเดาว่าพวกเขาเห็นว่าฉันรักเขามากแค่ไหนและยินดีทำให้เด็กคนนี้และพวกเขาก็เห็นด้วยด้วยความช่วยเหลือจากพ่อแม่ทำให้ชีวิตของฉันง่ายขึ้นมากทุกวันฉันตื่นขึ้นมาอย่างมีความสุขเพราะฉันรู้ว่าลูกอยู่กับฉันและมันก็ไม่สำคัญว่าแม่ผู้ให้กำเนิดของเขาคือใครสิ่งสำคัญคือใครที่รักเขาและพร้อมที่จะดูแลเขาเสมอ

คุณยินดีที่จะรับผิดชอบเลี้ยงดูลูกของคนอื่นไหมแชร์ความคิดเห็นของคุณในช่อง คอมเม้น แล้วอย่าลืมกดติดตามช่องของเราเพื่อที่คุณจะได้ไม่พลาดวีดีโอเจ๋งๆ 

เรื่องเล่าที่เกี่ยวข้อง

0 0 votes
Article Rating
Subscribe
Notify of
guest
0 Comments
Inline Feedbacks
View all comments
Back to top button
0
Would love your thoughts, please comment.x
()
x

ปิดโปรแกรมบล็อคโฆษณา

กรุณาปิดโปรแกรมบล็อคโฆษณาก่อนนะ เพราะเว็บจะอยู่ได้ก็จากป้ายโฆษณา