เวลาของเรื่องเล่า

ฉันไม่ได้ตอบข้อความบอกลาของแฟนฉัน นั่นคือความผิดพลาด!

ไงชื่อของฉันชื่อ “เอวา” ฉันอายุ 15 ปีฉันอยากแบ่งปันเรื่องราวเกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่ฉันต้องประสบกับคุณเรืองฉันไม่มีตอนจบแต่ความสุขหรอกนะแต่ฉันหวังว่าประสบการณ์ของฉันจะเป็นประโยชน์กับผู้หญิงคนอื่นๆที่พบว่าตนเองตกอยู่ในสถานการณ์แบบเดียวกันเรื่องที่ฉันจะเล่านี้เป็นเรื่องของแฟนฉันซึ่งฉันเพื่อตอบสนองอัตตาของตัวเอง

ฉันเจอเขาที่งานปาร์ตี้ครั้งหนึ่งที่ “เอ็มม่า” เพื่อนสมัยมัธยมคนนึงของฉันเป็นคนจัด “เอ็มม่า” เป็นคนชอบเข้าสังคมมีชีวิตชีวาและตรงไปตรงมาเข้ากับใครๆ ได้ง่ายเธอชวนฉันไปงานปาร์ตี้วันเกิดที่ซึ่งฉันได้พบกับแฟนในอนาคตอย่างไรก็ตามในตอนนั้นเขาเป็นแฟนของ “เอ็มม่า” แต่ฉันไม่ได้ขโมยแฟนเพื่อนนะเธอนั่นแหละที่ยิ่งกว่ายินดียกเขาให้ฉัน ผู้ชายคนนี้ชื่อว่า “มาติน” และก็อย่างที่เห็นเขาเป็นดาวเด่นของงานปาร์ตี้เขาเป็นคนน่ารักและกระตือรือร้นมากเล่าเรื่องขำๆให้ทุกคนหัวเราะเขายังเต้นได้ดูดีมากๆแล้วก็วนเวียนอยู่รอบไมโครโฟนร้องเพลงงี่เง่าอะไรสักอย่างจากเพลงในรายการคาราโอเกะและฉันก็ชอบเขามากตั้งแต่วินาทีที่เห็นเขา

ฉันต้องไปหา “เอ็มม่า” และถามเธอแบบไม่อายๆขอให้ช่วยแนะนำเราให้รู้จักกัน “เอ็มม่า” หัวเราะด้วยท่าทีที่ประหลาดและบอกว่าเขาเป็นแฟนของเธอแต่ถ้าฉันชอบเขาฉันจะเอาไปก็ได้แล้วเธอจะดีใจมากที่กำจัดเขาได้ฉันคิดว่านั่นเป็นมุกกระทั้งหัวเราะต่อไปแบบสุภาพถึงอย่างนั้นถ้อยคำของ “เอ็มม่า” ก็ยังฟังดูประหลาดเสียจนฉันรู้สึกไม่ค่อยสบายใจและตัดสินใจออกจากงานปาร์ตี้ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้แต่ฉันก็ไปไหนไม่ได้ไกลนักฝนเริ่มตกแล้วขณะที่ฉันกำลังมองหาร่มฉันก็นึกได้ว่าฉันลืมร่มไว้ที่บ้านของ “เอ็มม่า” ฉันต้องย้อนกลับไปเอาและตอนนั้นเองฉันก็ได้เห็นฉากที่แปลกประหลาดมาก “เอ็มม่า” ยืนอยู่ที่กรอบประตูและตะโกนใส่ “มาติน” ว่า “ออกไป ฉันไม่อยากเห็นหรือได้ยินเสียงนายอีกแล้วเลิกยุ่งกับฉันสักที” หลังจากนั้น  “เอ็มม่า”  กลับเข้าไปในบ้านและ “มาติน” ก็จากไป

เมื่อเขาเดินผ่านฉันใบหน้าของเขาดูจะเปียกไม่ใช่เพราะฝนแต่เพราะน้ำตาเขาไม่ได้สังเกตเห็นฉันด้วยซ้ำหลังจากวันนั้น “เอ็มม่า” และฉันก็เกือบจะขาดการติดต่อกันด้วยเหตุผลบางอย่างดังนั้นฉันก็เลยไม่รู้สึกอยากสานมิตรภาพกับเธออีกต่อไปและตัดสินใจเดินหน้าเข้าหา “มาติน” ฉันพบหน้าเฟสบุ๊คของเขาและส่งข้อความส่วนตัวไปหาเขาตอบกลับมาแล้วเราก็เริ่มส่งข้อความหากันเราไม่ได้มีอะไรในบทสนทนาที่เข้ากันได้มากนักแต่ “มาติน” ยิ่งกว่ามีความสุขที่ได้พูดเรื่องของตัวเองและฉันก็มีความสุขที่ได้ฟังเรื่องของเขาไม่นานเราก็นัดเจอกันในโลกแห่งความเป็นจริงแล้วเริ่มต้นความสัมพันธ์กันฉันก็แค่ชอบ “มาติน” ฉันนึกไม่ออกเลยว่าผู้ชายที่พร้อมจะอุทิศทุกนาทีที่ว่างให้กับแฟนสาวของเขาจะมีอยู่จริงทุกๆ  วันที่ปโรงเรียนเราจะไปเดินเล่นด้วยกันหลังเลิกเรียนใช้เวลาช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ด้วยกันแล้วเราส่งข้อความหากันทุกคืนจนกระทั่งดึกดื่น

ฉันดีใจมากจริงๆที่ “มาติน” สนุกกับการใช้เวลาร่วมกับฉันและเมื่อเขาบอกฉันว่าฉันดีกว่าแฟนเก่าของเขาเป็นร้อยๆเท่าบอกตรงๆว่าฉันตัวลอยมากฉันคิดว่าเสมอว่า “เอ็มม่า” เป็นคนที่สุดยอดแต่คนอย่างฉันกลับเจ๋งกว่าเธอฉันเกือบจะมีความสุขแล้วและทีแรกฉันไม่ทันนึกเลยว่าความสัมพันธ์ที่สมบูรณ์แบบขนาดนี้ก็มีด้านมืดของมันฉันเริ่มเหนื่อยล้าเพราะเราส่งข้อความหากันจนถึงตีสามฉันง่วงนอนอยู่เสมอกระทั่งเริ่มพลอยหลับระหว่างชั่วโมงเรียนซึ่งทำให้การเรียนมีปัญหาเพื่อนของฉันทุกคนเริ่มตีตัวออกห่างทีละคนเพราะฉันใช้ไม่ใช้เวลาอยู่กับพวกเขาอีกต่อไปแล้วแต่ฉันแค่ไปกับพวกเขาไม่ได้เมื่อฉันไปไหนสักแห่งกับเพื่อน “มาติน” ก็จะโทรหรือส่งข้อความมาหาฉันเสมอและแต่ถ้าฉันไม่ตอบเขาจะโกรธมากแล้วพูดอะไรสักอย่างทำนองว่าฉันไม่ต้องการเขาอีกต่อไปแล้วแต่นั่นไม่จริงสักหน่อยฉันพยายามอธิบายเราโต้เถียงกันและหลังจากนั้น “มาติน” ก็เศร้าไปนานหลายวันแล้วบ่นว่าเขาปวดหัวฉันทั้งรู้สึกผิดทั้งสงสารเขา

ที่จริงแล้วฉันรู้สึกผิดอยู่ตลอดเวลาดูเหมือนฉันจะทำอะไรสักอย่างไม่ถูกต้องอยู่เสมอและทำให้เขาเจ็บปวดอย่างมากบางครั้งถึงกับไม่สามารถอาบน้ำได้อย่างมีความสุขเพราะ “มาติน” ส่งข้อความหาฉันไม่หยุดหย่อนและถ้าฉันไม่ตอบเดี๋ยวนั้นเขาก็จะโทรมาแล้วบอกฉันด้วยน้ำเสียงที่เจ็บปวดว่าเห็นได้ชัดว่าเขาไม่ดีพอสำหรับฉัน โอ้วฉันเหนื่อยล้าเหลือเกินบางครั้ง “มาติน” ก็เริ่มทำให้ฉันรู้สึกรำคาญแต่แล้วฉันก็นึกภาพว่าแฟนของฉันนอนอยู่บนเตียงหดตัวและไม่มีความสุขเพราะฉัน ฉันรู้สึกเสียใจมากๆและจากนั้นฉันจะพยายามทำทุกอย่างให้ดีขึ้นอีกครั้งแต่ในที่สุดความอดทนของฉันก็หมดลงตอนเป็นตอนดึกของคืนหนึ่งฉันง่วงนอนมากและเช้าวันถัดมายังมีการสอบภาษาอังกฤษครั้งสำคัญที่โรงเรียน “มาติน” ไม่ยอมปล่อยให้ฉันนอนสักทีดังนั้นพอถึงจุดหนึ่งฉันเลยแค่พิมพ์ไปว่าฝันดีนะและปิดเสียงโทรศัพท์แล้วเข้านอนไปเลย

ในตอนเช้าบนโทรศัพท์ฉันมีข้อความราว 50 ข้อความจาก  “มาติน”  พูดว่าเห็นได้ชัดว่าความรักของฉันที่มีต่อเขาหมดลงแล้วและเขาสูญเสียสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตของเขาไปและไม่รู้เลยว่าเขาอยากมีชีวิตที่ปราศจากฉันแบบนี้ไหมข้อความสุดท้ายของเขาคือลาก่อน “เอวา” ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งและตอนนั้นฉันก็ติดต่อเขาไม่ได้อีกเลยแต่ฉันต้องไปโรงเรียนเพื่อเข้าสอบฉันส่งข้อความและโทรหาเขาตลอดทางที่ไปโรงเรียนแต่เขาไม่ตอบอะไรเลยฉันไม่รู้ว่าฉันทำข้อสอบได้ดีหรือเปล่าแต่ฉันที่ฉันทำเสร็จฉันก็รีบออกจากห้องหยิบโทรศัพท์ด้วยความหวังว่าจะเห็นข้อความสักข้อความ  “มาติน”  แต่หน้าจอโทรศัพท์ของฉันว่างเปล่าไม่มีข้อความไม่มีสายที่ไม่ได้รับไม่มีอะไรเลยฉันเริ่มเป็นกังวลตอนแรกฉันบอกตัวเองว่าเรื่องแย่ๆไม่มีทางเกิดขึ้นหรอกน่าแต่พอถึงตอนดึกของวันนั้นฉันเริ่มตื่นตระหนก

ฉันไม่เคยไปหา “มาติน” จนถึงบ้านมาก่อนแต่ฉันรู้ว่าเขาอยู่ที่ไหนดังนั้นฉันจะไปที่นั่นแล้วกดกริ่งฉันกลัวมากว่าจะเห็นพ่อแม่เขากำลังร้องไห้จมอยู่กับความเศร้าและหัวใจสลายแต่พ่อแม่ของ “มาติน” ดูง่วงนอนมากกว่าและยังแปลกใจที่เห็นฉันเมื่อฉันถามพวกเขาว่า “มาติน” อยู่ที่ไหนพวกเขาบอกฉันว่าเข้าไปเล่นสโนว์บอร์ดกับเพื่อนเมื่อหลายวันก่อนแล้วลืมสมาร์ทโฟนไว้ที่บ้านพวกเขายังเสริมด้วยว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นแน่นอนเพราะพี่ชายที่เป็นญาติ “มาติน” ก็อยู่กับเขาด้วยแม่ของ “มาติน” ยังเอารูปที่พวกเขาส่งมาให้ฉันดู “มาติน” ดูมีความสุขมากๆแล้วฉันบอกได้เลยว่าเขาสนุกสนานร่าเริงมากจริงๆฉันกลับบ้านตัวเองด้วยสภาพเหมือนหุ่นยนต์ความคิดว่า “มาติน” โกหกฉันว่ามีบาดแผลทางจิตใจอย่างหนักอยู่ตลอดเวลาทำให้ฉันคิดอะไรไม่ออกเขาก็แค่เป็นพวกป่วยจิตที่รู้สึกดีกับความจริงที่ว่าฉันเป็นห่วงเขาและใช้เวลากับความพยายามไปกับความสัมพันธ์ของเรามากขนาดไหน

 “มาติน” ดูดพลังงานทั้งหมดไปจากฉันเหมือนผีดูดเลือดและเขาก็รู้สึกดีที่ทำแบบนั้นวันต่อมาเขาส่งข้อความหาฉันราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นจากนั้นในที่สุดฉันก็รู้เลยว่าฉันคิดถูกและแต่ฉันก็ทิ้ง “มาติน” เลยมันไม่ใช่เรื่องง่ายแต่ฉันตัดสินใจแล้วฉันไม่รับโทรศัพท์ของเขาอีกแล้วยังใส่ชื่อของเขาไว้ในรายการที่ไม่ต้องแจ้งเตือนในทุกช่องทางโซเชียวมีเดียและกระทั่งกล่องข้อความ

ฉันหวังจริงๆว่าประสบการณ์ที่ฉันต้องเผชิญกับคนอย่าง “มาติน” จะช่วยให้ใครบางคนหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดแบบเดียวกันในอนาคตได้เชื่อฉันเถอะคนอย่างเขาไม่คู่ควรกับเธอพยายามของคุณอย่าได้ทำลายชีวิตของคุณเพียงเพราะคนอย่างพวกเขาแบ่งปันเรื่องราวของฉันกับเพื่อนของคุณและอย่าลืมกดไลค์ฉันอยากให้คุณได้ดูเรื่องนี้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ 

เรื่องเล่าที่เกี่ยวข้อง

0 0 votes
Article Rating
Subscribe
Notify of
guest
0 Comments
Inline Feedbacks
View all comments
Back to top button
0
Would love your thoughts, please comment.x
()
x

ปิดโปรแกรมบล็อคโฆษณา

กรุณาปิดโปรแกรมบล็อคโฆษณาก่อนนะ เพราะเว็บจะอยู่ได้ก็จากป้ายโฆษณา