ฉันเผชิญหน้ากับเจ้าสาวที่ตั้งท้องของแฟนฉัน เธอบอกความลับทั้งหมดของเขากับฉัน

ไงฉันชื่อ “นอม่า” อายุ 19 ปีแล้วที่ผ่านมาเกือบปีแล้วนับตั้งแต่ที่ฉันย้ายออกจากบ้านพ่อแม่และฉันต้องบอกว่าฉันภูมิใจมากที่ได้ใช้ชีวิตอิสระแต่ไม่นานหลังจากนั้นบางอย่างก็เกิดขึ้นและหลังจากเกิดเรื่องนั้นฉันก็กลับไปอยู่ที่บ้านพ่อแม่จริงๆเรื่องราวของฉันเป็นเรื่องเล่าของคนคนนึงที่มีอิทธิพลกับมุมมองที่มีต่อชีวิตฉันมาก ฉันจะเล่าเรื่องของ “เอ็นไรจ้า” แฟนหนุ่มของฉันให้พวกคุณฟังนะหลังจากเรียนจบชั้นมัธยมฉันตัดสินใจหยุดพักการเรียนไว้ก่อนก็อย่างนั้นแหละฉันมาจากมือเล็กๆเมืองหนึ่งของรัฐที่เป็นหุบเขาฉันรักเหมือนของฉันแต่ก็รู้สึกว่าที่นั่นมันน่าเบื่อมากๆเลยฉันฝันไว้เสมอว่าจะได้ออกไปเห็นโลกอย่างที่โลกภายนอกเป็นและอินเตอร์เน็ตนั้นมันก็ไม่พอสำหรับฉัน

ฉันอยากเดินทางเข้าประเทศพ่อแม่ของฉันไม่โอเคกับการตัดสินใจนี้นักแต่พวกเขาก็ไม่คัดค้านแถมยังให้เงินจำนวนหนึ่งเพื่อเริ่มต้นการเดินทางด้วยจะได้เหตุผลบางอย่างจะใช้เงินหมดเร็วไปและนั่นก็คือแค่ภายในเดือนแรกของชีวิตอิสระของฉันเองแผนของฉันก็เลยล้มไม่เป็นท่าฉันต้องปักหลักอยู่แถบรอบนอกของลอสแองเจลิสแล้วก็หางานทำชั่วคราวฉันไม่มีเงินกระทั่งจะเช่าอพาร์ทเม้นท์เองตามลำพังจึงต้องแชร์ค่าห้องกับผู้หญิงคนหนึ่งชื่อ “ลอร่า” เธอเป็นคนน่ารักแล้วเราก็เข้ากันได้ดีมากเลยหลังจากนั้นสักพัก “เอ็นไรจ้า” ก็เข้ามาในชีวิตของฉันแบบเดินเข้ามาหาฉันบนถนนในลอสแองเจลิสตอนฉันกำลังเดินกลับบ้านในคืนนึงแล้วก็เป็นฝ่ายเริ่มต้นสนทนาแน่นอนโดยทั่วไปรักษาระยะห่างจากคนแปลกหน้าที่อยากจะเข้ามาเกาะแกะชั้นบนถนนแต่ครั้งนี้มันต่างไปบางทีคงเพราะว่าท่าทางของ “เอ็นไรจ้า” เขาไม่ได้ดูคุกคามแล้วก็ยังพูดจาน่าสนใจเป็นคนสุภาพและเคารพพื้นที่ส่วนตัวของฉันบางทีฉันอาจชอบรูปลักษณ์ของ “เอ็นไรจ้า” ก็ได้

เขาหล่อแล้วก็แต่งตัวดีฉันก็เลยไม่ได้ลังเลมากนะตอนที่เขาขอเบอร์โทรศัพท์ของฉันไม่นานแล้วก็เริ่มคบหาดูใจกัน “เอ็นไรจ้า” อายุมากกว่าฉัน 8 ปีและข้อเท็จจริงนี้ก็เกือบจะเป็นสิ่งเดียวที่ฉันรู้แน่ๆเกี่ยวกับแฟนฉันด้วยเหตุผลอะไรสักอย่างเขาแทบไม่ค่อยพูดเรื่องของตัวเองเลยเขาจะถามเรื่องโน้นเรื่องนี้เกี่ยวกับชีวิตฉันแทนฉันก็เลยไม่ได้ให้ความใส่ใจกับเรื่องแปลกๆ นี้มากนักหลังจากนั้นฉันยังคิดได้ว่าออร่าความลึกลับที่รายล้อมอยู่รอบตัว “เอ็นไรจ้า” เป็นเรื่องน่าขันฉันมองว่านี่เป็นเกมอะไรสักอย่างเช่นเดียวกันฉันไม่ได้คิดจะลองหาข้อมูลเกี่ยวกับแฟนฉันบนอินเตอร์เน็ตเลย “เอ็นไรจ้า” อ้างว่าเขาไม่ได้ใช้โซเชียลมีเดียอะไรเพราะว่าของพวกนั้นส่งผลเสียกับเขา เขายังไม่เคยพาฉันไปที่บ้านเพียงแค่สัญญาว่าวันหนึ่งจะพาไปตามที่เขาบอกเขาอาศัยอยู่ในอพาร์ทเม้นท์ให้เช่าของบริษัทที่เขาทำงานด้วยก็เลยไม่ได้มีอะไรน่าสนใจให้ดูนัก เรารักษาความสัมพันธ์ในรูปแบบนี้ต่อไปอีกระยะนึงฉันโอเคกับทุกอย่างแล้วก็ยังอืม อาจจะมีความสุขด้วย

แต่เรากลายเป็นว่าสิ่งที่ควรรู้ทั้งหมดเป็นแค่ภาพลวงตาซึ่งฉันตาบอดหลงเชื่อไปเองวันที่หัวใจของฉันละลายสลายเริ่มต้นขึ้นเหมือวันอื่นๆ “เอ็นไรจ้า” ขอให้ฉันไปเจอเขาที่คาเฟ่ร้านโปรดฉันคาดว่าจะได้พบกับค่ำคืนโรแมนติกอันน่าพึงพอใจแต่ “เอ็นไรจ้า” ไม่ได้แม้แต่พยายามจะถ่วงเวลาเขาออกปากตรงนั้นเลยว่าเขาหวังว่าจะไม่เกิดเรื่องดราม่าอะไรและให้เก็บความทรงจำดีๆในวันเวลาที่ดีที่เรามีร่วมกันเอาไว้จากนั้นเขาก็บอกฉันว่าเขากำลังจะแต่งงานและก็อยากที่คุณเดาได้นั่นแหละฉันไม่ใช่คนโชคดีที่เขาจะแต่งด้วยฉันช๊อกสนิทไปเลยก็เลยไม่ได้สนใจความทรงจำดีๆที่เคยมีร่วมกันอย่างที่ “เอ็นไรจ้า” อยากจะเก็บไว้ต่อไปฉันร้องไห้โฮแล้วและก็วิ่งออกจากร้านกาแฟนับแต่ไหนฉันก็ไม่เคยพบ “เอ็นไรจ้า” อีกเลยอย่างน้อยๆก็แบบตัวต่อตัว ฉันซึมเศร้าฉันแทบไม่มีเรี่ยวแรงไม่ว่าจะแรงใจหรือแรงกายเพื่อลุกขึ้นมาในเช้าวันใหม่แล้วก็ไปทำงาน

ฉันยังใช้เวลาว่างทั้งหมดอยู่แต่ในห้องฟังดูน่าขันแต่ทั้งหมดเป็นเรื่องจริง ฉันอยู่ในชุดนอนไปวันๆกอดถังไอศครีมดูหนังงี่เง่าอะไรสักอย่างนี่บนแลปท๊อป จนฉันตื่นสภาวะนี้ได้เพียงเพราะ “ลอร่า” รูมเมทของฉันบอกว่าเราต้องคุยกันอย่างจริงจังเธอเพิ่งไปรู้อะไรบางอย่างเกี่ยวกับ “เอ็นไรจ้า” “เอ็นไรจ้า” มาเที่ยวภายในของเราบ่อยๆ “ลอร่า” จึงรู้จักเขาดีพอจนจำกับแฟนเก่าฉันได้เวลาเห็นเขาบนถนนนี่เป็นรายละเอียดที่สำคัญทีเดียวเพราะนี่หมายความว่า “ลอร่า” กำลังจะบอกความจริงกับฉัน “ลอร่า” ทำงานในร้านเสริมสวยในลอสแองเจลิสเธอเป็นช่างทำเล็บที่เก่งมากหนึ่งในลูกค้าของเธอคือผู้หญิงที่ชื่อ “อเล็กซานดร้า” “ลอร่า” เพิ่งรู้จักเธอได้แค่ไม่นานมีเบอร์โทรศัพท์ของเธอด้วยแล้วยังสนิทกันมากพอจะพูดคุยกันทุกเรื่องเท่าที่นึกได้เมื่อ “อเล็กซานดร้า” มาที่ร้านในช่วงไตรมาสที่สองเธอไม่อาจซ่อนทองที่ตั้งครรภ์ของตัวเองไม่ได้ต่อไปก็บอกแสดงความยินดีกับ “อเล็กซานดร้า” เธอตอบกลับมาด้วยการให้ดูแหวนราคาแพง “อเล็กซานดร้า” หมั้นแล้ว

ครั้งสุดท้ายที่ “อเล็กซานดร้า” มาร้านเสริมสวย “ลอร่า” ได้เห็นสายเรียกเข้าทำให้เธอถึงกับตะลึงเบอร์โทรศัพท์ดังขึ้นรูปบนหน้าจอคือ “เอ็นไรจ้า” แฟนฉัน “อเล็กซานดร้า” เปิดลำโพงคุยด้วย “ลอร่า” ก็เลยได้ยินเสียงของเขาซึ่งนั่นคือเขาแน่นอนแต่ยังไม่ใช่ตอนจบของเรื่องนะ “อเล็กซานดร้า” เรียก “เอ็นไรจ้า” ด้วยคำว่าจ๊ะที่รักคุณเข้าใจไหมดูเหมือนว่า “อเล็กซานดร้า” จะเป็นคู่หมั้นของ “เอ็นไรจ้า” “ลอร่า” และฉันพยายามคำนวณระยะเวลาแล้วปรากฏว่าตอนที่ “เอ็นไรจ้า” และฉันเริ่มคบกัน “อเล็กซานดร้า” เขาก็ท้องอยู่ก่อนแล้วตอนแรกฉันรู้สึกสับสนแล้วก็ไม่รู้เลยว่าต้องทำอะไรฉันทั้งอยากและก็ไม่อยากติดต่อ “อเล็กซานดร้า” เพื่อบอกทุกสิ่งทุกอย่างกับเธออีกทางนึงฉันก็หวังว่าเรื่องราวทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับ “เอ็นไรจ้า” จะหายไปไม่มีใครพูดถึงอีกฉันก็เลยขอไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วยอีกแต่อีกใจนึงก็อยากให้คู่หมั้นของ “เอ็นไรจ้า” รู้ความจริงกับผู้ชายที่เธอกำลังจะใช้ชีวิตที่เหลือด้วยคนนั้น

นอกจากนนี้บอกตรงๆ นะฉันอยากแก้แค้น “เอ็นไรจ้า” กับสิ่งที่เขาทำกับฉันด้วยฉันขอเบอร์โทร “อเล็กซานดร้า” จาก “ลอร่า” และโทรไปแบบไม่เปิดเผยตัวตน บอกให้เราไปเจอกันที่คาเฟ่ร้านเดียวกับที่ “เอ็นไรจ้า” ทิ้งฉัน ฉันบอก “อเล็กซานดร้า” ว่าฉันจะบอกอะไรบางอย่างที่สำคัญมากเกี่ยวกับคู่หมั้นของเธอและเธอก็ดูจะคล้อยตามด้วย “อเล็กซานดร้า” ปรากฏตัวตามเวลานัดปรากฏว่าเธออายุมากกว่าฉันนิดหน่อยแล้วก็ยังมีท่าทีมันออกมั่นใจมากตอนแรกฉันรู้สึกเขินๆไม่รู้จะบอกเธอเรื่องเธอกับ “เอ็นไรจ้า” ยังไงในที่สุดฉันก็แค่พูดความจริงทั้งหมดออกไปโดยไม่ได้พยายามปิดบังหรือทำให้คำพูดเบาลงเลยแล้วจากนั้นคุณรู้ไหมว่ามันเกิดอะไรขึ้นขณะที่ “อเล็กซานดร้า” นั่งฟังฉันเธอรักษาท่าที่สงบเงียบแล้วก็ไม่ได้ดูประหลาดใจอะไรเธอบอกฉันว่าเธอไม่แคร์เลยว่า “เอ็นไรจ้า” จะไปมีนอกมีในอะไรหรือเปล่าในเมื่อเธอแน่ใจอย่างที่สุดว่า “เอ็นไรจ้า” จะไม่มีวันทิ้งเธอความจริงที่ว่าก็คือเขาทำงานให้บริษัทของพ่อเธอและถ้า “เอ็นไรจ้า” กล้าทำให้เธอไม่พอใจนั่นหมายถึงจุดจบของอาชีพเขาด้วยฉันไม่รู้เลยจะพูดอะไรต่อฉันตกใจกับปฏิกิริยาของเธอและการพบกันของเราก็จบลงไปทั้งอย่างนั้นแต่ฉันยังคงคิดถึงเรื่องนี้หลายครั้งหลายหนนั่นคือโลกกว้างที่ฉันอยากเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งจริงๆงั้นหรออันดังนั้นผลที่ได้ก็คือฉันตัดสินใจไปว่าฉันจะกลับไปหาพ่อแม่แล้วก็เริ่มนับหนึ่งใหม่จะกลับไปมหาวิทยาลัยหางานดีๆและพยายามไม่ให้พวกคนที่จะทำอะไรให้ฉันอับอายมาอยู่ในหมู่ของคนที่รายล้อมรอบตัวฉัน

นี่ก็คือตอนจบของเรื่องของฉันช่วยบอกทีนะว่าคุณคิดยังไงกับตอนจบของเรื่องนี้ทิ้งคอมเมนท์ไว้แล้วอย่าลืมกดติดตามช่องนี้ล่ะ