ฉันทิ้งแฟนเก่าของฉันและเขาวางแผนอันร้ายกาจเพื่อแก้แค้น
สวัสดีฉันชื่อ “ซอนย่า” เรื่องที่ฉันจะเล่าต่อไปนี้เป็นเรื่องราวความสูญเสียมากมายที่เกิดขึ้นกับฉันแต่บางเรื่องมันก็กลับนำไปสู่สิ่งอื่นที่ดีกว่าเดิมทุกอย่างเริ่มต้นขึ้นไม่กี่สัปดาห์ก่อนที่ฉันจะสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนมัธยมฉันได้คบหากับ “นิค” มานานกว่าหนึ่งปีแล้วเราสองคนตัวติดกันอยู่ทุกที่ทุกเวลาไม่ว่าจะเป็นที่ในโรงเรียนตอนหลังเลิกเรียนในโรงยิมและเขาถึงกำชับว่าฉันต้องไปดูเขาซ้อมฟุตบอลด้วยและแน่นอนฉันไม่เคยพลาดแม้แต่เกมเดียวฉันแทบไม่ได้ใช้เวลากับกลุ่มเพื่อนผู้หญิงของฉันเลยคุณคงเดาได้เพราะ “นิค” จะไม่พอใจทุกครั้งถ้าฉันไปไหนมาไหนโดยไม่มีเขาไปด้วยแต่ฉันก็ไม่ได้ถือสาอะไรและยิ่งใกล้วันจบการศึกษามากเท่าไหร่เราก็ยิ่งห่างกันมากขึ้นการสอบปลายภาคใกล้เข้ามาทุกทีแล้วดังนั้นฉันจึงต้องเตรียมตัวเรื่องการสอบส่งใบสมัครไปยังมหาวิทยาลัยต่างๆต้องใช้เวลาในโรงเรียนมากขึ้นก็ฉันต้องการเกรดที่ดี
สำหรับ “นิค” เองเขาก็ต้องใช้เวลาในการฝึกซ้อมเพิ่มมากขึ้นเช่นกันทั้งเขาและฉันไม่สามารถใช้เวลาร่วมกันได้เปรียบเหมือนกับกลางวันและกลางคืนและนี่เองคือจุดเริ่มต้นเรื่องราวดราม่าในชีวิตฉันพวกเราเริ่มทะเลาะกันบ่อยขึ้นตามปกติแล้วฉันจะเป็นคนที่เป็นฝ่ายยอมส่วนนี้ก็มักจะทำตัวเป็นผู้นำเสมอเช้าวันหนึ่งเมื่อฉันตื่นขึ้นแม่ของฉันเดินเข้ามาในห้องฉันด้วยน้ำตาคลอเบ้าและบอกว่าคุณทวดของฉันเพิ่งเข้าโรงพยาบาลด้วยปัญหาสุขภาพแน่นอนฉันรู้สึกเป็นห่วงมากๆพวกเราจึงพากันไปเยี่ยมเธอคุณอาจจะคิดว่ามันก็ไม่เห็นจะเป็นเรื่องแปลกอะไรแต่ลองคิดดูสิว่าเธออายุตั้ง 95 ปีแล้วพวกเราทุกคนรัก ”นาน่า” มากและพวกเราค่อนข้างมั่นใจว่าวันนี้จะเป็นการเข้าโรงพยาบาลครั้งสุดท้ายในชีวิตของเธอ
ดังนั้นพวกเราจึงต้องจัดการทุกอย่างเพื่อเตรียมพร้อมกับสิ่งที่เกิดขึ้นฉันอดไม่ได้ที่จะร้องไห้ออกมาตอนที่เห็นเธอที่โรงพยาบาลเธอดูเหนื่อยล้ามากตัวเล็กลงเหลือนิดเดียวเธอบอกว่าเธอมีความสุขที่เห็นฉันมาเราคุยกันนิดหน่อยแล้วเธอก็ขอร้องให้ฉันช่วยดูแลแมวของเธอที่ชื่อ “สโนว์บอล” ในระหว่างที่เธอต้องอยู่ที่โรงพยาบาลแน่นอนฉันได้ให้สัญญากับเธอว่าฉันจะดูแลมันก็ตัดสินใจที่จะไปดูมันทันทีหลังจากที่เสร็จธุระจากโรงพยาบาลทันใดนั้นฉันก็เห็น “นิค” อยู่ตรงนั้นที่ประตูทางออกฉันพูดได้เลยว่าเขาดูบึ้งติงมากที่แรกฉันคิดว่าเขามาเพื่อให้กำลังใจฉันแต่เขากลับดูค้อนข้างเย็นชาและถามฉันว่าโทรศัพท์มือถือของฉันอยู่ที่ไหนฉันเช็คดูที่กระเป๋าของฉันแล้วก็นึกได้ทันทีว่าฉันคงลืมมันไว้ที่บ้านแน่ๆคุณคงรู้ว่าฉันกังวลจะเศร้าแค่ไหนเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับ “นาน่า” และพ่อแม่ของฉันก็ติดตามฉันทุกฝีเก้า
ดังนั้นฉันจะลืมทุกอย่างไปหมดแล้วเมื่อเช้านี้ที่ฉันได้รับข้อความจาก “นิค” ฉันก็ได้ส่งข้อความกลับไปบอกว่าฉันกำลังจะไปโรงพยาบาลแล้วรีบไปหา “นาน่า” เขาคิดว่าฉันมีความจำเป็นที่จะต้องพบแพทย์และด้วยความที่ฉันลืมโทรศัพท์ไว้ที่บ้านเขาจึงไม่สามารถติดต่อฉันได้และเขาก็เริ่มเป็นห่วงแล้วรีบตามฉันมาที่โรงพยาบาลฉันได้อธิบายทุกอย่างให้เขาฟังแล้วบอกว่าฉันเสียใจที่ทำให้เขาต้องกังวลแต่ดูเหมือนว่าเขาก็ยังโกรธและไม่พอใจอยู่ดีช่วงเสี้ยววินาทีหนึ่งฉันคิดว่าเขาควรจะเห็นใจฉันบ้างเพราะฉันกำลังจะสูญเสีย “นาน่า” ของฉันแต่แล้วฉันก็เลิกคิดอะไรแบบนั้นยังไงซะฉันก็ชินแล้วกับความก้าวร้าวและความอารมณ์ร้อนของเขาและฉันกำลังจะไปสอบปลายภาคในอีก 2 ชั่วโมงแถมฉันยังต้องดูแลแมวให้คุณทวดอีกคุณคงรู้ว่าฉันยุ่งขนาดไหนกับเรื่องพวกนี้
อีก 2-3 วันถัดมามันเป็นเหมือนฝันร้ายสำหรับฉัน ฉันต้องไปเยี่ยม “นาน่า” ให้อาหารแมวและทำธุระบางอย่างให้พ่อแม่และอื่นๆ แต่ด้วยความโชคร้ายรถของฉันเกิดเสียขึ้นมามันเลยทำให้ฉันทำอะไรล่าช้าไปหมดและ “นิค” นี้ก็ตัดสินใจเลือกวันนี้เป็นวันแสดงอารมณ์โกรธที่แย่ที่สุดของเขาออกมาเขาส่งข้อคหาฉันทุกชั่วโมงว่าเขาผิดหวังในตัวฉันแค่ไหนหรือบอกว่าโกรธฉันหรือบอกว่าฉันลืมเขาแล้วด้วยเหตุนี้มันทำให้ฉันรู้สึกโกรธมากที่สุดในชีวิตดังนั้นฉันจึงไปที่สนามฝึกซ้อมฟุตบอลที่เขารักและตะโกนใส่เขาว่าเราเลิกกันเถอะต่อหน้าคนอื่นๆทั้งทีม
ฉันเดาว่าฉันจะไม่มีวันลืมใบหน้าในตอนนั้นของเขาที่เต็มไปด้วยความสับสนและความอับอายเพราะทันทีที่ฉันหมุนตัวกลับและเดินออกไปฉันได้ยินทุกคนเริ่มหัวเราะเยาะเย้ยเขาแต่ในใจลึกๆแล้วฉันยังคงรู้สึกได้ถึงความโล่งใจและภูมิใจในสิ่งที่ฉันได้ทำลงไปแต่มันจะฟังดูแปลกๆแต่ฉันไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าฉันมีความเครียดแค่ไหนกับความสัมพันธ์ครั้งนี้ในขณะที่ฉันกำลังขับรถไปหา “นาน่า” เพื่อให้อาหารแมวโทรศัพท์ของฉันก็ดังขึ้นฉันคิดว่าคงเป็นนี้ที่โทรมาเพื่อขอโทษหรืออะไรทำนองนั้นฉันคิดขึ้นมาในใจทันทีว่าฉันยังจะคงยืนยันคำเดิมอีกครั้งว่าเราจบกันแล้วจริงๆ แต่มันกลับไม่ใช้ “นิค” เป็นแม่ของฉันโทรมาเพื่อบอกว่า “นาน่า” จากพวกเราไปแล้วแน่นอนว่ามันยังรู้สึกแยกได้ยากที่จะต้องได้ยินคำนี้แปลว่าฉันจะเตรียมใจไว้แล้วก็ตาม
หลังจากงานศพชั้นนำเจ้า “สโนว์บอล” มาอยู่กับฉันที่ห้องด้วยฉันรู้สึกได้เลยว่ามันเองก็คงคิดถึง “นาน่า” มากเช่นกันทุกครั้งที่มันเห็นฉันนั่งหรือนอนบนเตียงมันจะเข้ามานอนใกล้ๆฉันเหมือนอยากให้ฉันลูบขนมันคุณรู้ไหมใครๆก็บอกว่าฉันดูเหมือนคุณทวดตอนที่เธอยังเป็นสาวมากๆฉันก็เลยคิดว่ามันก็คงคิดแบบนี้ด้วยเหมือนกันแต่แล้วมันก็มีเรื่องที่ทำให้ฉันรำคาญใจเกิดขึ้นจนได้เกี่ยวกับการเรียกร้องความสนใจของ “นิค” ดูเหมือนเขาจะเพิ่งคิดได้ว่าชีวิตของเขามันอ้างว้างแค่ไหนเมื่อไม่มีฉันแล้วเพิ่งรู้ว่าเขาเพิ่งทำอะไรที่นี่เง่าไว้กับฉันบ้างเขาถึงกับส่งดอกไม้มาให้ฉันจะฉันกลับไม่รู้สึกอะไรกับเขาอีกแล้วฉันคิดว่ามันคงเหมือนคำพูดที่ว่าระหว่างความรักกับความเกลียดมันมีแค่เส้นบางๆกั้นอยู่แน่นอนว่าฉันไม่ได้ถึงกับเกลียดเขาแต่มันแค่รู้สึกว่าเขานะรำคาญและฉันก็ตัดสินใจที่จะเมินเฉยกับเขาทุกทางนอกจากนั้นฉันยังคิดว่าเขามันบ้าไปแล้วที่มาหาฉันที่บ้านตอนตี 3 ร้องไห้และอ้อนวอนขอให้ฉันให้อภัยเขาฉันรู้สึกสงสารเขาอยู่เหมือนกันแต่ว่าฉันตัดสินใจเด็ดขาดไปแล้วดังนั้นฉันจึงปฏิเสธที่จะคืนดีกับเขาอีกและจากนั้นเขาก็เกรี้ยวกราดขึ้นมาทันทีและยืนยันว่าฉันจะต้องเสียใจกับการตัดสินใจของฉัน
ต่อมาฉันได้เห็นเขาอยู่กับผู้หญิงคนอื่นๆอยู่ 2-3 ครั้งฉันคิดว่าเขาคงพยายามทำให้ฉันหึงแต่ฉันมีเรื่องต้องทำอีกมากมายเกี่ยวกับการเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัยและในขณะเดียวกันฉันเองก็เริ่มกลับมาใช้เวลากับเพื่อนๆของฉันอีกครั้งและนั่นมันทำให้ฉันมีความสุขมากเพราะมันทำให้ฉันรู้ว่าพวกเราคิดถึงกันมากแค่ไหนถึงตอนนี้มันผ่านมาเกือบเดือนแล้วนับจากวันที่ฉันได้รับข้อความจาก “นิค” แล้วก็มีบางอย่างเกิดขึ้นและนั่นมันกลายเป็นช่วงเวลาที่น่ากลัวที่สุดที่เคยเกิดขึ้นในชีวิตของฉัน
กลางดึกคืนนั้นฉันอยู่บ้านคนเดียวและไม่ทันได้สนใจว่าเจ้า “สโนว์บอล” อยู่ที่ไหนแต่แล้วฉันก็สังเกตเห็นว่ากระโปรงท้ายรถของฉันถูกเปิดทิ้งเอาไว้มันแปลกมากเพราะฉันแน่ใจว่าฉันได้ปิดมันแล้วแต่ยังไงก็ตามฉันก็ออกไปเพื่อเช็คดูว่าทุกอย่างเรียบร้อยดีและทุกอย่างมันก็ไม่มีปัญหาอะไรก็แค่กระโปรงท้ายรถมันเปิดขึ้นเท่านั้นฉันกลับเข้ามาในบ้านและพยายามนึกทบทวนดูว่าทำไมฉันถึงได้ลืมปิดมันอาจเป็นเพราะก่อนหน้านี้ฉันไปร้านของชำมาพูดถึงร้านของชำมันทำให้ฉันนึกขึ้นได้ก็ต้องให้อาหารเจ้า “สโนว์บอล” แต่ฉันก็หามันไม่พบแล้ว โอ้ พระเจ้าฉันจะต้องเปิดประตูทิ้งไว้แล้วมันคงจะวิ่งหนีออกไปแน่ๆช่างเป็นวันที่แปลกมากเกี่ยวกับการเปิดประตูเลยใช่ไหมฉันไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงนอกจากถือไฟฉายออกไปส่องหาเขาจนทั่วละแวกบ้านฉันโกรธตัวเองที่ไม่สามารถทำตามคำขอร้องสุดท้ายของ “นาน่า” ได้แค่ดูแลแมวตัวเดียวฉันก็ทำไม่ได้ผ่านไปชั่วโมงนึงกับการค้นหาที่เปล่าประโยชน์ของฉัน ฉันได้แต่ภาวนาในใจให้เธอยกโทษให้กับฉันและพอฉันกลับมาที่บ้านฉันก็พบกับกระดาษแผ่นนึงที่หน้าบันไดเข้าบ้านดูเหมือนว่ามันจะเป็นจดหมายจากโจรลักพาตัว
คุณคงจะเคยเห็นตัวอักษรแบบนี้มาก่อนจากในภาพยนตร์ฮอลลีวูดที่คนร้ายจะฉีดตัวอักษรแต่ละตัวมาจากหนังสือพิมพ์หรือจากนิตยสารแล้วเอามาแปะเรียงเป็นจดหมายใช่ไหมนั่นแหละจดหมายที่ฉันได้รับมันเป็นแบบนั้นเลยตอนแรกฉันรู้สึกตกใจมากก็ตอนนั้นมันดึกมากแล้วแถมฉันก็อยู่คนเดียวด้วยและจดหมายนั่นมันหมายถึงว่ามีใครบางคนซุ่มอยู่แถวบ้านฉันแต่พอมาอ่านจดหมายนั้นฉันก็รู้ได้เลยว่าฉันต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบากแค่ไหนใจความจดหมายมันบอกว่าใครบางคนจะนำแมวมาคืนให้กับฉันถ้าฉันกลับไปคืนดีกับ “นิค” ฉันคิดว่าตอนนี้คุณคงพอจะเดาออกแล้วล่ะว่าใครบางคนคนนั้นเป็นใครฉันคิดว่านี่มันไม่ตลกเอาซะเลยละ “นิค” จะต้องหยุดทำเรื่องบ้าๆพวกนี้ซักทีฉันรีบกระโดดขึ้นรถแล้วรีบลงไปที่บ้านของเขาทันทีฉันพยายามโทรหาเขา แต่เขาก็ไม่ยอมรับสายตามปกติแล้วฉันเป็นคนขับรถช้าและเคารพกฎจราจรมากแต่ตอนนี้ฉันรู้สึกว่าอดีนาลีนมันไหลพลุ่งพล่านไปทั่วเส้นเลือดของฉันแล้วฉันไม่สนใจป้ายจราจรและป้ายกำหนดความเร็วอะไรทั้งนั้นและสุดท้ายคือฉันไม่สังเกตเห็นว่ามันมีหลุมที่ถนนกว่าฉันจะมองเห็นก็สายไปซะแล้วฉันหมุนพวงมาลัยไปทางขวาและ
เมื่อฉันลืมตาขึ้นมาก็พบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงในโรงพยาบาลที่ล้อมรอบไปด้วยแม่พ่อและ “นิค” ฉันรู้สึกเหมือนว่าร่างกายของฉันเป็นแผลฟกช้ำขนาดใหญ่และทุกส่วนก็เจ็บปวดมากพวกเขาบอกฉันว่าฉันขับรถไปชนกับต้นไม้รถพังเสียหายมากแต่ฉันรู้สึกดีใจที่รอดชีวิตมาได้ด้วยบาดเจ็บเพียงแค่บางส่วนเท่านั้นสมองของฉันกระทบกระเทือนเล็กน้อยและขาซ้ายหักแต่มันน่าแปลกใจตรงที่ฉันโชคดีมากที่บังเอิญ “นิค” ผ่านมาพบฉันจะเป็นคนโทรเรียกรถพยาบาลซึ่งนั่นอาจเป็นการช่วยชีวิตฉันได้ทันเวลาแน่นอนว่าพอพ่อแม่ของฉันออกไปจากห้องเขาก็รีบขอโทษฉันและสัญญาว่าจะจ่ายค่าประกันให้ฉันเขาบอกว่าเขาไม่ได้ตั้งใจให้ทุกอย่างมันลงเอยแบบนี้เขาก็อยากให้ฉันกลับมาหาเขาเท่านั้นและเขาก็ไม่รู้ว่าจะทำอะไรที่ดีไปกว่าการได้แบล็คเมล์ฉันเขารู้ว่าฉันรัก “สโนว์บอล” มากดังนั้นเขาจึงเปิดท้ายรถของฉันเพราะฉันออกจากบ้านจากนั้นก็รักพาตัว “สโนว์บอล” ออกไปแต่ซ่อนในรถของเขาที่จอดอยู่ที่หัวมุมถนนแต่พอเขาเห็นว่าฉันรีบขับรถออกไปเขาจึงตัดสินใจที่จะขับตามฉันไปแล้วเรื่องราวก็เกิดขึ้นอย่างที่ฉันเล่าให้ฟังไปแล้วแน่นอนว่าเขาขอร้องไม่ให้ฉันบอกใครเกี่ยวกับการกระทำที่โง่เง่าที่เขาได้ทำลงไป
ตอนนี้ฉันได้กลับมาบ้านแล้วแต่ขาของฉันยังคงเข้าเฝือกอยู่ “นิค” ก็ยอมถอยจากฉันแต่ก่อนหน้านี้เขาได้ให้เงินฉันเพื่อไปซ่อมรถมาตั้งแต่คืนนั้นฉันก็ไม่ได้เจอเขาอีกเลยยังไงก็ตามฉันได้ยินข่าวมาว่าเขาไปเป็นทหารและนั้นมันก็น่าจะดีสำหรับเขาจนกระทั่งทุกวันนี้ฉันก็ไม่เคยบอกใครในเรื่องที่เขาทำพระเจ้าสอนให้เรารู้จักอภัยและฉันคิดว่าวันหนึ่งฉันจะสามารถให้อภัยเขาได้จริงๆ
เอาละเพื่อนๆอย่าลืมกดปุ่มติดตามถ้าคุณไม่อยากพลาดเรื่องราวอื่นๆฉันพนันได้เลยว่าคุณจะต้องพบกับวีดีโอที่น่าสนใจอีกมากมายแล้วช่วยกดไลค์กันด้วยนะไว้พบกันใหม่ค่ะ