แฟนสาวทำให้ผมเป็นสาเหตุให้งานของพ่อย่ำแย่

สวัสดีทุกคน ผมชื่อ “มาร์ค” แล้วพ่อของผมพึ่งเสียโอกาสสำคัญไปเพราะผมเอง ผมอธิบายทุกอย่างได้โอเคผมไม่ได้ตั้งใจทำแบบนั้นผมแค่ตาบอดข้อความรักแล้วไม่คิดว่ามันจะส่งผลเสียใดๆ ok มาเริ่มกันเลยผมมีเพื่อนชื่อว่า “เจนิส” เธอเป็นเพื่อนที่วิทยาลัยที่ฉลาดมากๆคนนึงเธอเป็นนักศึกษาที่เก่งที่สุดของระดับชั้นนอกจากนี้ยังสามารถแบ่งเวลาไปทำงานเป็นเด็กฝึกงานของบริษัทดีๆได้อีกด้วย โอ้วผมลืมบอกไปเธอสวยสุดๆแล้วไม่เหมือนคนเนิร์ดเลยด้วยซ้ำแน่นอนผู้ชายในชั้นเรียนต่างก็ตกหลุมรักเธอแล้วผมก็ด้วยแต่มันเป็นเรื่องน่าเศร้าเพราะไม่มีโอกาสที่ผมจะไปอยู่ในสายตาเธอคงไม่ใช่คนที่โดดเด่นก็นะผู้หญิงแบบเธอคงไม่มองมาที่ผมหรอกผมเป็นแค่ผู้ชายโรแมนติกธรรมดาคนหนึ่งแล้วก็เป็นได้แค่เพื่อนด้วยคิดไม่ออกเลยว่าจะพัฒนาความสัมพันธ์อย่างไรแต่วันหนึ่งโอกาสก็มาถึงผมอยู่ที่ออฟฟิศของพ่อเขาเป็นหัวหน้าสำนักงานกฎหมายของเมืองผมต้องรีบเอาเอกสารไปให้พ่อซึ่งพ่อไม่ชอบมากๆครับผมไปช้าผมวิ่งไปตามทางเดินมุ่งหน้าไปยังออฟฟิศพ่อเข้ากับผู้หญิงคนหนึ่งที่ปรากฏตัวขึ้นจากไหนก็ไม่รู้แผ่นเอกสารมากมายกระจายไปชั่วขณะที่เราสองคนล้มลงบนพื้นไม่นานผมก็นึกขึ้นได้ว่าเธอคือ “เจนิส”

ผมหยุงตัวเธอขึ้นและขอโทษเนื่องจากผมรีบเอาเอกสารไปให้พ่อจนไม่ดูตาม้าตาเรือผมรีบเอาเอกสารไปให้พ่อได้กลับมาหา “เจนิส” เราพูดคุยกันนิดหน่อยแล้วรู้ว่าเธอเป็นเด็กฝึกงานที่สำนักงานของพ่อโลกช่างกลมเหลือเกินแล้ววันนั้นก็เป็นคนที่ทำให้ผมได้ออกจากเฟรนซ์โซนสักทีเพราะไม่นานผมก็รวบรวมความกล้าและขอคบกับเธอคิดดูซิว่าผมดีใจแค่ไหนเธอตอบตกลงเพื่อนผู้ชายในชั้นเรียนต่างอิจฉาผมทุกอย่างกำลังไปได้สวยมากผมรู้จักเธอมากขึ้นผมก็ได้รู้ว่าเธอนั้นเป็นคนดีกว่าที่คิดซะอีกดูเหมือนว่าเธอจะชอบผมมากๆด้วยเพราะว่าความสัมพันธ์ของเรานั้นพัฒนาอย่างรวดเร็วและคงต้องแนะนำตัวให้รู้จักกับพ่อแม่ของผมผมกังวลมากๆเนื่องจากพ่อเป็นคนเข้มงวดเขาสร้างสำนักงานของเขาขึ้นมาและประสบความสำเร็จอย่างดีงามฉะนั้นเขาจึงเข้มงวดกับทุกคนแม้กระทั่งผมและแม่ผมพยายามเตรียมความพร้อมให้กับ “เจนิส” ประหนึ่งเตรียมสอบสัมภาษณ์ผมพยายามเข้มงวดเหมือนพ่อและ “เจนิส” ก็พยายามรับมือผมคิดว่ามันดูตลกมากกว่าเพราะผมเดาไม่ได้ว่าพ่อจะทำอย่างไรพอจะเงียบและเคร่งขรึมหรือจะโหดเหมือนสายฟ้าฟาดซึ่งผมก็ไม่รู้จะทำยังไงได้แต่รอเวลาสักวันผมจะพา “เจนิส” ไปกินข้าวที่บ้านของผม

มันต้องเป็นช่วงเย็นที่ยากลำบากพ่อแม่ของผมเปิดประตูออกมาแล้วพ่อก็ประหลาดใจเป็นอย่างมากเขาไม่ได้คาดหวังว่าจะเจอเด็กฝึกงานของเขาที่นี่แต่ผมก็บอกเขาว่าเราเรียนอยู่ที่เดียวกันซึ่งพวกเรารู้จักกันมานานพอสมควรเมื่อเวลาอาหารค่ำมาถึงพ่อก็เริ่มทดสอบแฟนของผมพ่อพยายามถามคำถามกวนๆและทำให้เธอสับสนแต่ “เจนิส” เก่งมากเธอสามารถตอบคำถามของพ่อได้อย่างเชี่ยวชาญพ่อจึงเริ่มถามคำถามส่วนตัวมากยิ่งขึ้นเพราะถามว่าเธอเห็นอะไรในตัวผมแล้วทำไมถึงคบกับผมก็หนึ่งคาดหวังคำตอบบางอย่างอยู่ก็นะมันค่อนข้างน่าอายที่ได้ยินคำถามแบบนี้กับพ่อของตัวเองหลังจากนั้นพวกเขาก็คุยกันเรื่องงานจะเริ่มโต้แย้งกันอย่างหนักเกี่ยวกับกฎหมายบางอย่างผมคิดว่าพ่อทำตัวเหมือนสารานุกรมเล่มยักษ์และพยายามทำให้แฟนผมอึดอัดแต่หลับกลายเป็นว่า “เจนิส” ชนะการโต้แย้งหนีผมไม่เคยเห็นพ่อแพ้การโต้แย้งแบบนี้มาก่อนเขาจะพิสูจน์ว่าตัวเองถูกอยู่เสมอหรือพยายามต้อนฝ่ายตรงข้ามด้วยระดับความโกรธที่ทำให้พวกเขาต้องยอมแพ้ไปเองและคราวนี้แฟนผมชนะซึ่งภูมิใจในตัวเธอมากณ จุดนี้ผมมองแม่กระทุ้งศอกใส่พ่อเบาๆเพื่อให้สัญญาณว่าการทดสอบควรจะอยู่ได้แล้วโดยรวมนั้นทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดีผมไปส่ง “เจนิส” ที่บ้านและกลับมาหาพ่อแม่พร้อมพูดให้ความหวังว่า เออ..พ่อคิดว่ายังไงบ้างพอตอบกลับมาแค่ว่าก็โอเคนะเธอฉลาดดีเธอฉลาดแค่นี้ใช้แน่นอนเพราะยังไงก็เป็นพ่อเขาไม่ค่อยชอบแสดงอารมณ์สักเท่าไหร่ก็นะก็ดีเหมือนกันการมาพบพ่อเป็นอะไรที่ดีต่อ “เจนิส”

พ่อบอกว่าเธอฉลาดมากแล้วเริ่มไว้ใจให้เธอทำงานที่สำคัญมากขึ้นแต่ความสัมพันธ์ของเรากลับแย่ลงนิดหน่อยมาให้พวกเรายังรักกันดีแค่ “เจนิส” ต้องให้เวลากับการทำงานมากขึ้นและผมคิดถึงช่วงเวลาที่ได้ไปไหนผมจึงเปิดบทสนทนาเธอบอกว่าควรจะให้เวลากับงานน้อยลงบอกเธอว่าควรจะให้เวลากับงานน้อยลงช่วยตอบกลับทำนองว่าเพราะเธอเป็นเด็กฝึกงานจึงได้งานที่ไม่จำเป็นเต็มไปหมดซะทุกอย่างก็เปลี่ยนถ้าผมไปคุยกับพ่อแล้วขอให้เลื่อนขั้นเธอจากนั้นเธอจะได้มีเวลาให้ผมมากขึ้น โอ้วมันยากเสมอที่จะคุยกับพ่อเกี่ยวกับเรื่องงานแต่ผมจะยอมทำเพราะผมรัก “เจนิส” ผมอยากให้เธอมีความสุขเย็นวันนั้นผมไปหาพ่อเริ่มพูดอ้อมๆว่าเธอสมควรจะได้เลื่อนขั้นซึ่งพ่อคาดเดาไม่ได้เขารู้ว่าเวลานี้ต้องมาถึงพ่อพูดว่า “เจนิส” คบกับผมเพื่อที่จะได้สนิทกับพ่อมากขึ้นและหากเธอต้องการเลื่อนขั้นเธอจะต้องเทและขยันทำงานไม่ใช่เพราะมีเส้นสายผมเริ่มทะเลาะกับพ่อก็บอกพ่อว่าความสัมพันธ์ของเราเริ่มแย่ลงพ่อใช้เวลาคิดสักครู่หนึ่งแล้วบอกให้ผมพา “เจนิส” มาที่บ้านพรุ่งนี้เพื่อคุยเกี่ยวกับการเลื่อนขั้น

พวกเรามาหาพ่อด้วยความกระตือรือร้นแต่ในขณะที่ผมเปิดปากพูดว่าชีวิตเป็นนักศึกษาที่ดีและเธอน่าจะควรค่าแก่การได้ตำแหน่งที่สูงกว่าในบริษัทของพ่อแต่พ่อกลับขัดผม การพูดแบบนี้ทำให้พ่อโกรธมากพอจะให้ผมไปรอหน้าห้องแล้วอยู่กับ “เจนิส” ตามลำพังผมพยายามแอบฟังแต่ก็ได้ยินเพียงเสียงโวกเวกโวยวายนี่เหมือนกับว่าพ่อให้เธอมาหาเพื่อรับรู้ว่าเธอไม่ได้รับสิทธิ์พิเศษหลังจากนั้นไม่นาน “เจนิส” วิ่งออกมาพร้อมน้ำตาผมต้องการพูดกับเธอแต่เธอเสียใจมากจนอยากอยู่คนเดียวทำให้ผมโกรธพ่อมากเพราะทำร้ายแฟนผมและความสัมพันธ์ของผมผมทะเลาะกับพ่อพยายามพิสูจน์ให้เห็นว่าพ่อคิดผิดสิ่งที่เขาพูดมีเพียงหากเธอรักลูกจริงพวกเธอทั้งสองจะยังคงเป็นแฟนกันอยู่แม้ว่าเธอจะตกงานก็ตามใช่ไหมล่ะในที่สุดผมก็ติดต่อเธอได้ผมบอกเธอว่าผมรู้สึกผิดในสิ่งที่พ่อทำพร้อมถามว่าจะทำอะไรเพื่อเธอได้บ้างเธอโกรธผมมากแล้วบอกว่าเธอคิดว่าอย่างน้อยผมจะอยู่และสนับสนุนเธอแทนที่จะปล่อยให้เธออยู่คนเดียวกับพ่อที่น่ากลัวเธอจะให้อภัยผมหากพวกเรากลับไปยังออฟฟิศของพ่อทันทีซึ่งผมตั้งใจจะทำอย่างไม่ลังเลผมก็พยายามออฟฟิศของพ่อแล้วไม่รอช้าที่จะเข้าประเด็นทันที

แต่ดูเหมือนว่าเขาของผมจะไม่ส่งผลกระทบใดตอบพ่อเลยพ่อฟังผมเงียบๆแล้วพูดว่าเขามีประชุมจากนั้นจึงเดินออกจากออฟฟิศไปผมยืนนิ่งด้วยความสับสนจากนั้น “เจนิส” จึงพูดว่าอะไรกันเธอไม่แม้แต่จะตามพ่อไปเลยเหรอดังนั้นผมจึงวิ่งตามพ่อไปแล้วพยายามพูดเรื่องเดิมอีกแล้วพ่อก็เย็นชาเหมือนน้ำแข็งเมื่อผมกลับไปหา “เจนิส” เธอบอกว่าผมอ่อนแอและผิดหวังในตัวผมมากทันใดนั้นผมจึงตระหนักถึงสิ่งที่พ่อพูดเกี่ยวกับเหตุผลที่เธอคบกับผมเพียงเพราะอยากเลื่อนขั้นเท่านั้นแน่นอนเธอไม่มีทางตกลงคบกับผมหากวันนั้นเราไม่ชนกันที่หน้าออฟฟิศของพ่ออย่างที่พ่อพูดเธอฉลาดแล้วรู้ได้รวดเร็วว่าผมจะช่วยให้เธอสนิทกับพ่อมากขึ้นผมรู้สึกพ่ายแพ้พ่อพูดถูกผมควรจะฟังพ่อแต่ปัญหาจริงๆเกิดขึ้นหลังจากนั้น 2-3 วันพ่อกลับบ้านเร็วแล้วเขาเสียใจมากเขาอยู่ในอารมณ์ขมขื่นทำให้แม่แล้วผมเริ่มเป็นห่วงจากนั้นพ่อจะเล่าให้ฟังว่าเกิดอะไรขึ้นวันนั้นพ่อต้องขึ้นศาลแล้วฝ่ายตรงข้ามก็รู้กลยุทธ์ของพ่อทั้งหมดพวกเขาเตรียมข้อโต้แย้งล่วงหน้าจึงรู้ว่าควรตอบโต้ยังไงพ่อแพ้ในคดีที่สำคัญมากๆและสูญเสียรายได้ครั้งใหญ่

ไม่ต้องพูดเลยว่าพ่อจะสูญเสียชื่อเสียงขนาดไหนเขาถามผมว่าผมได้ปล่อยให้ “เจนิส” อยู่ในออฟฟิศของพ่อตามลำพังหรือเปล่าใช่แล้วผมทำตอนนั้นที่ผมกำลังวิ่งตามพ่อไปเธอสามารถถ่ายรูปเอกสารบนโต๊ะของพ่อทั้งหมดได้และนำไปให้กับคู่แข่งของพ่อและนี่เป็นสิ่งที่เธอเอาคืนผมแล้วพ่อและลาออกไปหางานอื่นทำพวกเราไม่สามารถทำอะไรได้แม้ว่าเราจะพิสูจน์ได้ว่า “เจนิส” ขโมยข้อมูลของพ่อเธอเป็นแค่เด็กฝึกงานซึ่งนี่เป็นสิ่งที่พ่อควรจะมีความรับผิดชอบในการรักษาข้อมูลของตัวเองตอนนี้ผมไม่รู้ว่าบริษัทของพ่อจะยังอยู่ดีหรือล้มละลายชีวิตในการทำงานของเขากำลังอยู่ในช่วงเสี่ยงแล้วมันเกิดขึ้นเพราะผมเองพ่อเป็นคนฉลาดซึ่งผมควรจะฟังพ่อสิ่งเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นถ้าผมลืมหูลืมตาและตระหนักได้ว่าแฟนของผมใช้ผมเป็นเครื่องมือดังนั้นระวังตัวไว้นะหนุ่มๆ

ขอบคุณที่รับฟังจนถึงตอนนี้คุณรู้วิธีบอกความแตกต่างระหว่างความจริงใจและการใช้ใครสักคนเป็นเครื่องมือไหมบอกผมด้วยคอมเม้นด้านล่างสิอย่าลืมกดติดตามเพื่อที่จะได้ไม่พลาดเรื่องราวเจ๋งๆอีกมากมาย