ฉันคบกับลูกชายของแม่บ้าน เขาขโมยของๆ ฉัน!
สวัสดีทุกคนฉันชื่อ “โลล่า” อายุ 15 ปีฉันยังคงสงสัยว่าทำไมผู้คนจะบอกว่าเราควรเป็นคนดีและมีเมตตาเพราะตอนนี้ฉันได้รับประสบการณ์บางอย่างที่ไม่ค่อยน่ายินดีนักซึ่งพนันได้เลยว่ามันจะไม่เกิดขึ้นถ้าพ่อแม่และฉันไม่เป็นคนดีมากเกินไปอย่างแรกที่คุณควรจะรู้เลยคือครอบครัวฉันนั้นร่ำรวยพวกเราอาศัยอยู่ในบ้านหลังใหญ่บริเวณชานเมืองที่มีทั้งสวนและสระน้ำพ่อแม่ของฉันมีหน้ามีตาในสังคมส่วนพี่สาวและฉันมีทุกอย่างที่อยากได้แต่อย่าเพิ่งคิดว่าเราหยิ่งยโสนะมันกลับกันเลยล่ะจริงๆแล้วแม้จะไม่บ่อยนะแต่ฉันได้ยินคนอื่นพูดถึงครอบครัวของเราทุกคนรักเรามากๆชื่นชมความจริงที่ว่าพ่อแม่และสามารถจัดการการใช้เงินของพวกท่านได้อย่างไร้ที่ติแล้วพวกท่านก็เลี้ยงดูฉันและ “อลิส” พี่สาวของฉันให้เติมโตมาอย่างดีด้วยมันช่างน่ายินดีใช่ไหมล่ะอันที่จริงแล้วมีคนที่ช่วยเหลือเราหลายคนซึ่งช่วยดูแลเราและทรัพย์สินของพวกเราและในบรรดาพวกเขาคนที่สำคัญที่สุดและใกล้ชิดครอบครัวเราที่สุดคือแม่บ้าน “ลอนดา” ซึ่งเราเจอเธอเมื่อ 5 ปีก่อนและหลังจากนั้นเราก็ไม่เคยมีปัญหาอะไรกันเลยเธอทำอาหารเก่งเก็บข้าวของทุกอย่างเป็นระเบียบและเป็นคนที่จิตใจดีสุดๆ
เธอทุ่มเทเพื่อครอบครัวตัวเองและเรียกฉันกับพี่สาวว่าสาวน้อยแสนล้ำค่าของเธอวันหนึ่งในระหว่างช่วงเวลาหลังอาหารค่ำตามปกติของเรา “ลอนดา” ได้มาหาพ่อและขอให้ท่านช่วยอะไรบางอย่าง “ลอนดา” จากประเทศบ้านเกิดของตัวเองมาเพื่อหาเลี้ยงครอบครัวเธอทำงานกับเราและปล่อยให้ลูกชายอยู่กับสามีของเธอแต่เมื่อไม่นานมานี้เกิดอุบัติเหตุกับสามีที่กำลังทำงานอยู่ที่ลานเก็บไม้โชคไม่ดีเขาเสียชีวิตลงนั้นแหละ “ลอนดา” จึงไม่สามารถปล่อยให้ลูกชายที่เพิ่งจบจากโรงเรียนอาศัยอยู่คนเดียวโดยไม่มีอนาคตไม่มีโอกาสและไม่มีพ่อได้ดังนั้นเธอจึงขอยืมเงินจำนวนหนึ่งกับพ่อเพื่อซื้อตั๋วให้ “อลิส” และขออนุญาตให้เขาอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้กับเธอ เธอยังรับประกันด้วยว่าลูกชายของเธอนั้นเป็นหนุ่มฉลาดและขยันซึ่งอาจจะมาช่วยทำงานเป็นคนสวนได้หรือไม่ก็ดูแลสระน้ำหรืออะไรก็ตามที่เราต้องการซึ่งในจะเป็นโอกาสที่เขาจะได้เริ่มต้นอนาคตของตัวเอง แน่นอนพ่อบอกว่ายินดีที่จะช่วย “ลอนดา”
ประมาณ 1 สัปดาห์จากนั้นเราก็ได้ผู้ช่วยคนใหม่ดูเหมือนคนที่เพิ่งออกมาจากปกนิตยสารหรืออะไรทำนองนั้นเขาสูงมีผมสีเข้มดวงตาสีเขียวและตอนที่ได้ทำสวนครั้งแรกในตอนที่เขาถอดเสื้อตัวเองออกสายตาของฉันก็ได้เหลือบมองกล้ามท้องของเขาอย่างช่วยไม่ได้ไม่แปลกเลยที่ฉันจะรู้สึกเหมือนหลงเสน่ห์เขาได้ทันทีสิ่งที่เป็นแรงบันดาลใจยิ่งกว่าการดูเขาทำงานคือภาพลักษณ์ที่น่ามองของเขามันน่าสนใจสุดๆและบอกได้เลยว่าฉันถูกเขาดึงดูดความสนใจเข้าแล้วมีครั้งหนึ่งที่ฉันอับอายมากหลังจากการฝึกฝนเทนนิสฉันยังคงใส่ยูนิฟอร์มสีขาวสดใสและตัดสินใจไปกินข้าวเที่ยงหญิงชราคนหนึ่งที่ไม่สนใจอะไรได้วางจานที่มีบราวนี่ไว้บนเก้าอี้และฉันไม่สังเกตเห็นจนกระทั่งนั่งลงไปคุณคงจะคิดภาพช็อกโกแลตที่บี้และแบนติดกระโปรงสีขาวออกใช่ไหมเมื่อฉันกลับมาถึงบ้าน “อเล็ก” ทำงานอยู่ในสวนฉันพยายามซ่อนแถวๆก้นของฉันเพื่อไม่ให้เขาเห็นแต่ก็ไม่เป็นผลฉันไม่รู้เลยว่าตัวเองอายที่อยู่ใกล้เขาหรือเพราะวันนี้มันไม่ใช่วันของฉัน ฉันสะดุดและลื่นจนจะล้มลงเขารีบวิ่งเข้ามาคว้าตัวฉันและเห็นรอยเปื้อนสีน้ำตาลจากบราวนี่ที่กระโปรง เข้ายิ้มกลุ้มกลิ่มและเริ่มกลั้นหัวเราะแต่ด้วยความที่ฉันรีบวิ่งเข้าไปในบ้านด้วยความอับอายสุดๆสาบานได้เลยว่าฉันได้ยินเขาคืนทำบางอย่างเกี่ยวกับชั้นที่เข้าห้องน้ำไม่ทัน
นี้เป็นครั้งแรกที่เขาเข้าใกล้ฉันและฉันไม่สามารถปล่อยให้เขาจำเกี่ยวกับความผิดพลาดของฉันได้ดังนั้นฉันจึงตัดสินใจจะไปคุยด้วยดีๆและอธิบายว่าทำไมกระโปรงของฉันถึงเป็นแบบนั้นและเนื่องจากฉันต้องหาข้ออ้างในการไปหาเขาเลยไม่ให้เขารู้ว่าฉันชอบเขามากๆฉันต้องชงชาเย็นๆแล้วเอาออกไปให้ต้องบอกเลยว่ายังไม่ทันได้อธิบายอะไรเลยเขาก็หัวเราะฉันซะแล้วแต่เอาเถอะนี่เป็นอะไรที่นำไปสู่ความสนิทสนมของเราในอนาคตฉันหมายถึงนี่กลับกลายเป็นว่าทำให้คุยกับเขาง่ายขึ้นเขาเล่าให้ฉันฟังเกี่ยวกับชีวิตของเขาและทุกๆอย่างซึ่งตอนนี้ฉันก็รู้ตัวแล้วว่าได้ตกหลุมรักเขาซะแล้วหลังจากนั้นมันเป็นค่ำคืนที่ฉันไม่เคยลืมเลยพ่อแม่ฉันได้เป็นโฮสให้กับแขกจำนวนหนึ่งและฉันไม่สนใจที่จะออกไปเที่ยวกับพวกเขาดังนั้นหลังจากอาหารค่ำฉันจึงกลับไปห้องตัวเองและปีนออกจากหน้าต่างขึ้นไปยังหลังคาบางครั้งฉันก็ทำแบบนี้แหละเพื่อออกไปสูดอากาศน่ะและฉันก็ต้องตกใจมากๆไม่มีใครบางคนมาแตะไหล่เขาคือ “อเล็ก” ชายหนุ่มที่สังเกตเห็นฉันอยู่บนหลังคาและเมื่อพ่อแม่ฉันและแม่ของเขากำลังยุ่งกับแขกอยู่เขาจึงปีนขึ้นมาหาฉันเพื่อทำสิ่งที่เขาอยากทำมานานแล้วหลังจากนั้นเขาก็เอนตัวมาใกล้ๆและจูบฉัน
พระเจ้านี่เป็นจูบแรกจริงๆของฉันและไม่อยากเชื่อเลยว่าชายคนที่ฉันชอบก็รู้สึกแบบเดียวกับที่ฉันรู้สึกเกือบ 1 ชั่วโมงที่เราใช้เวลาร่วมกันบนหลังคาแล้วเขาก็พูดคุยเกี่ยวกับความรู้สึกของเขาความสวยของฉันและทุกๆอย่างซึ่งฉันเองก็ทำเพียงแค่นั่งมองเขาฉันพนันได้เลยว่าหากมีใครมาเห็นพวกเขาคงจะรู้แน่ๆว่าเพิ่งเกิดอะไรขึ้นโดยดูจากสีหน้าที่มีความสุขสุดๆของฉันคุณน่าจะได้แหละหลังจากนั้นเราก็คบกันและไม่เจอกันโดยแอบซ่อนอยู่ที่ไหนสักแห่งยามค่ำคืนก็นะเนื่องจากเราทั้งคู่ยุ่งมากๆในช่วงกลางวันอีกทั้ง “อเล็กซ์” ค่อนข้างแน่ใจว่าถ้าพ่อแม่ฉันรู้เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเราพวกท่านจะต้องโกรธและอาจถึงขั้นไล่เขาและแม่ออกในทางตรงกันข้ามกันข้างมั่นใจว่าอะไรแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นเพราะฉันรู้ว่าพ่อแม่ไม่ใช่คนอคติหรือแบ่งชนชั้นอะไรทำนองนั้นอีกทั้งฉันเกลียดการหลบซ่อนตัวฉันต้องการอวดแฟนหนุ่มสุดหล่อให้คนอื่นได้รู้จักวันหนึ่งฉันได้ทำบางอย่างและเป็นสาเหตุของปัญหามากมายซึ่งไม่เคยคาดคิดมาก่อนฉันกลับบ้านเร็วกว่าปกติเนื่องจากชั้นเรียนเทนนิสถูกยกเลิกและฉันเห็น “อเล็กซ์” อยู่ที่สระน้ำเขากำลังซ่อมอะไรบางอย่างอยู่ดังนั้นเพื่อเป็นการเซอร์ไพรส์ฉันจึงยอมไปด้านหลังแล้วปิดตาเขาด้วยมือของฉันตกใจมากจนถอยหลังฉันจึงพยายามจูบเขา
ทันใดนั้นฉันสังเกตได้ว่าพี่สาวของฉันกำลังนอนอาบแดดอยู่ที่สระน้ำแน่นอน “อลิซ” เข้าใจสถานการณ์ได้ทันทีรีบเข้ามาหาชั้นจับมือดึงฉันเข้าไปในบ้านแม้ว่า “อลิซ” จะดูกลัวมากและ “อลิซ” กำลังโกรธมากแต่ฉันกลับรู้สึกมีความสุขและโล่งใจในที่สุดความจริงทั้งหมดกำลังถูกเปิดเผยซึ่งหมายถึงไม่ต้องหลบซ่อนอีกต่อไป “อลิซ” พูดถึงความต่างฐานะของฉันกับ “อเล็กซ์” อีกทั้งเธอยังบอกว่าความสัมพันธ์ของเราจะไม่มีทางคืบหน้าไปไหนแล้วเธอจะเอาเรื่องทั้งหมดไปบอกพ่อแม่ว่าสิ่งเหล่านี้ไม่ได้สะทกสะท้านต่อความสุขของฉันเลยเปล่าถึงพูดเถียงกันบางทีนี่อาจจะรุนแรงที่สุดเท่าที่เคยมีมาแต่ความรักทำให้ฉันกล้าแกร่งเมื่อเธอบอกให้ฉันกลับห้องไปฉันไม่พูดอะไรแต่ทำท่าภูมิใจเดินออกไปหา “อเล็กซ์” แทนฉันพยายามปลอบเขาบอกว่า “อลิซ” ไม่สามารถทำอะไรความสัมพันธ์ของเราได้ก็จะไม่มีใครถูกไล่ออกทั้งนั้นหารู้ไม่ว่าวันต่อไปจะเป็นวันที่ฉันรู้สึกแย่และผิดหวังที่สุดในชีวิตวันต่อมาหลังจากเลิกเรียนฉันตรงไหนยังบ้านพักที่ “อเล็กซ์” อาศัยอยู่ฉันรู้ว่า “อลิซ” ต้องบอกพ่อกับแม่แน่ๆ และแน่นอนหากเธอยังไม่ได้บอกฉันก็ตัดสินใจแล้วว่าไม่มีอะไรต้องหลบซ่อนอีก
ฉันรู้ว่าในเวลานั้น “อเล็กซ์” จะต้องอยู่คนเดียวในบ้านดังนั้นจึงเปิดประตูบ้านโดยไม่เคาะประตูก่อนและต้องตะลึงเป็นไก่ตาแตกเนื่องจากเห็นแฟนของตัวเองหรือสร้อยคอที่เป็นมรดกของครอบครัวซึ่งยายเคยให้ฉันตอนงานเลี้ยงวันเกิดอายุ 15 ปีแน่นอนอันเล็กไม่รู้ว่ามันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงเขาสาบานว่าเขาไม่เคยเห็นสร้อยเส้นนี้มาก่อนมีบางอย่างแล่นเข้ามาในหัวฉันต้องเป็น “อลิซ” แน่ๆเธอจงใจเอาสร้อยมาวางไว้ที่นี่เพื่อพยายามลดความน่าเชื่อถือของ “อเล็กซ์” ต่อหน้าพ่อแม่และทำให้เขาถูกไล่ออกเพราะระหว่างการเจรจากันดีๆของเราแสดงออกอย่างชัดเจนว่าฉันไม่อยากจบความสัมพันธ์กับเขาและ “อลิส” รู้ดีที่สุดว่าพ่อแม่ฉันจะต้องไม่ต่อต้านความรักนี้เพียงกับเขามาจากครอบครัวธรรมดาๆ นี่มันทำให้ฉันหัวเสียสุดๆฉันตรงดิ่งไปยังห้องของ “อลิซ” และคาดคั้นคำอธิบายกับทุกอย่างคุณต้องเห็นสีหน้าที่สงสัยสุดๆของเธอมีทำให้เธอตะโกนเสียงดังใส่ชั้นเนื่องจากเธอไม่เข้าใจเรื่องที่ฉันพูดแล้วทำไมต้องมาตะคอกใส่และขู่ว่าจะทำให้ชีวิตของเธอได้เจอกับฝันร้าย
จากนั้นเธอบอกให้ฉันใช้เวลาและคิดให้ดีๆว่าทำไมเธอจะต้องยอมเสียสละมรดกของตระกูลเพียงเพื่อลดความน่าเชื่อถือของ “อเล็กซ์” ถ้าเกิดฉันไม่ยอมจบกับเขาและเขาขายมันไปนะครอบครัวเราต้องสูญเสียสร้อยเส้นนี้ไปล่ะคำพูดของเธอทำให้ฉันเงียบทันใดนั้นฉันก็นึกอะไรออกตอนที่ฉันเข้าไปในห้องของตนเองและเจอช่อดอกไม้สวยๆที่มาจากดอกไม้ในส่วนของตัวเองบนเตียง “อเล็กซ์” อยากเซอร์ไพรส์ฉันเขามีโอกาสที่จะเข้าไปในห้องฉันได้ง่ายๆบางทีอาจจะเป็นตอนนั้นที่เขาขโมยสร้อยไปหรือเปล่าฉันไม่อยากเชื่อเลยว่านี่จะเป็นเรื่องจริงดังนั้นฉันต้องหาคำตอบให้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นและตัดสินใจกลับไปที่บ้านพักเขาอีกครั้งแต่คราวนี้ “อลิซ” มากับฉันด้วยอย่างที่คาดการณ์ไว้เมื่อ “อเล็กซ์” เห็นเราเขาก็เข้าใจได้ทันทีว่าไม่มีทางหนีแล้วเขาก็พยายามปฏิเสธข้อกล่าวหาของ “อลิซ” แต่เห็นได้ชัดว่าเขาไม่มีเวลาในการคิดคำอธิบายว่าทำไมสร้อยคอถึงอยู่กับเขาเขาบอกว่านี่เป็นครั้งแรกที่ทำแบบนี้เนื่องจากต้องการขายมันเพื่อจะได้มีเงินสำรองและสามารถพาฉันออกจากบ้านนี้ไปได้
กลายเป็นว่าแม่ของเขาได้เก็บเงินค่าจ้างทั้งหมดที่พวกเขาได้จากเราและเขาไม่สามารถขอให้แม่เอาเรื่องเงินมายุ่งกับความสัมพันธ์ของเราได้และเขายังสัญญาว่าจะไม่ทำอะไรแบบนี้อีกหมายถึงขโมยของน่ะแต่สำหรับฉันมันไม่สำคัญแล้วไม่ว่าครอบครัวของฉันจะเข้าใจเรื่องนี้และมีเมตตาขนาดไหนฉันก็ไม่สามารถคบกับคนที่ขโมยของฉันได้อีกก็นะตอนนี้ “อลิซ” ยืนยันให้ฉันบอกเรื่องทุกอย่างกับพ่อแม่แต่ฉันก็ยังคิดไม่ตกค่ะพ่อตัดสินใจอะไร “อเล็กซ์” ออก “ลอนดา” อาจจะออกด้วยก็ได้
แล้วคุณล่ะคิดยังไงกับเรื่องนี้บ้างแชร์ความคิดของคุณในคอมเม้นสิและอย่าลืมกดติดตามด้วยนะใครจะรู้บางทีอาจจะมีภาคต่อก็ได้