เวลาของเรื่องเล่า

ฉันสังเกตเห็นเขาอยู่ในทุกรูปที่ฉันถ่าย เขาจะเอาไงกันแน่?!

ไงฉันคือ “แพทริค” แต่เพื่อนของฉันเรียกฉันว่า “แพทตี้” ฉันฝันอยู่เสมอว่าอยากจะเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงแบบซุปเปอร์สตาร์หรืออะไรทำนองนั้นเวลาที่ใครๆ เห็นฉันก็จะกระซิบว่า “เฮ้ผู้หญิงคนนั้นไง” แบบนั้นแหละ ปีที่ผ่านมาฉันพยายามอย่างมากเพื่อที่จะให้ฝันของฉันเป็นจริง แต่มันก็ดูจะเป็นจริงแล้วแค่เหมือนจะนะ ทุกอย่างเริ่มขึ้นเมื่อฉันเห็น บล็อกเกอร์ คนหนึ่งในอินเทอร์เน็ตฉันประหลาดใจมากกับการใช้ชีวิตและความสามารถของพวกเขาหมายถึงในแง่การเงินนะสำหรับฉันดูเหมือนมันเป็นหนทางที่ง่ายที่สุดในการประสบความสำเร็จแต่เป็นคนนี้ชื่อเสียงดังนั้นฉันจึงตัดสินใจลองเป็น บล็อกเกอร์ เอง

อย่างไรก็ตามฉันเผชิญกับปัญหาแรกทันทีที่เริ่มเพราะฉันไม่รู้ว่าจะเริ่มเป็น บล็อกเกอร์ ยังไงฉันแค่โพสทุกสิ่งทุกอย่างลงไปทำนองว่าฉันกำลังไปโรงเรียนหรือ “เฮ้ดูอาหารกลางวันของฉันวันนี้สิและอื่นๆ” แน่ล่ะฉันมีผู้ติดตามอยู่บ้างน่าจะประมาณ 500 คนแต่พวกเขาเป็นเพื่อนไม่ก็ครอบครัวของฉันเองหรือไม่ก็เป็นพวกแอคเค้าท์โฆษณาฉันจึงไม่ได้รู้สึกพอใจนัก ครั้งหนึ่งฉันเคยกระทั้งให้พื้นที่ในบล็อกโพสถึงหนูแฮมเตอร์ของฉันชื่อ “พอลลี่” แต่เธอไม่ใช่สัตว์ที่ชอบการพบปะผู้คนนักไอเดียนี้ฉันล้มเหลวไม่เป็นท่า

ครั้งหนึ่งฉันอยู่ในบ้านดูหน้าบล๊อกของตัวเองและโพสต์ในนั้นฉันแค่รู้สึกสลดที่บล็อกฉันดูจะห่างไกลกับหน้าของพวก บล็อกเกอร์ ที่ฉันชื่นชอบและแน่นอนว่าข้อความในบล๊อกฉันไม่ได้มีอะไรที่ดูคมๆ เลยฉันเกือบจะล้มเลิกความคิดอยู่แล้วทันใดนั้นฉันก็ตระหนักว่ามีใครสักคนปรากฏตัวอยู่ในทุกรูปและวีดีโอที่ฉันถ่ายที่บ้านนอกตัวฉันเองนั่นคือ “อลัน” เพื่อนบ้านที่ดูน่าขนลุกที่อยู่บ้านฝั่งตรงข้ามเขากับครอบครัวเพื่อยายไม่อยู่ไม่นานนี้และยังเป็นคนประหลาดสุดๆ ไม่ว่าเมื่อไหร่ที่ฉันเห็นเขาเขาจะส่งเสื้อแขนยาวแบบเดิมตลอดเท่าที่ฉันรู้ที่โรงเรียนไม่มีใครคุยกับเขาบางคนถึงขนาดคิดว่าเขามีความผิดปกติทางจิต

แน่นอนว่าเขาแค่ดูเหมือนติดเข้ามาในเลนส์กล้องฉันหรือปรากฏตัวที่มุมหรือมองมาจากสวนของเขา เวลาที่ฉันถ่ายเซลฟี่ในบ้านตัวเอง แต่ฉันก็รู้สึกแปลกๆ อยู่ดีฉันพูดถึงเรื่องที่ว่าบางทีฉันอาจถูกคนประหลาดในละแวกบ้านสะกดรอยตามและก็นั่นแหละผู้ติดตามของฉันดูอยากจะแบ่งปันหน้าของฉันกับเพื่อนๆ หรืออะไรทำนองนั้นเพราะอยู่ๆ เพียงไม่กี่สัปดาห์ต่อมาฉันก็ได้ผู้ติดตามเพิ่มหลายร้อยคนแน่นอนว่าเป็นแฟนส่วนใหญ่ของฉันคือคนที่อยู่ในเมืองเดียวกันแต่นั่นไม่สำคัญชื่อเสียงฉันมาหาแล้วครั้งนึงเด็กสาว 2 คนมาทักฉันในห้างเพื่อบอกว่าเขารู้จักฉันและเพื่อนบ้านประหลาดคนนั้นของฉัน

ฉันยังคงโพสต์รูปไปตามปกติแต่ครั้งนี้กลับเป็นภารกิจของผู้ติดตามที่จะมองหาคนแปลกหน้าท่ามกลางพวกเขาในช่องคอมเม้นต์ความตื่นเต้นไหลบ่าท่วมท้น ในที่สุดฉันก็มีชื่อเสียงสำหรับฉันไม่ถึง 2 สัปดาห์ฉันก็รู้ว่า “อลัน” เพื่อนบ้านคนนั้นสะกดรอยตามฉันจริงๆ และครั้งนี้ยังทำแบบนี้จุดมุ่งหมายฉันจะยกตัวอย่างให้ฟัง หนนึงฉันอยู่ในห้องครัวกำลังทานอาหารมื้อเย็นขณะที่สังเกตเห็น “อลัน” จ้องหน้าฉันจากหน้าต่างบ้านเขาฉันคิดว่านั่นเป็นเรื่องบังเอิญแต่ตอนที่ฉันไปห้องนอนแล้วไปนอกหน้าต่างฉันก็เห็นเขาอีกครั้งที่หน้าต่างห้องใต้หลังคายังคงมองมาที่ฉัน

ฉันเริ่มกลัวและกังวนขึ้นมาเล็กน้อยแต่ก็ยังพยายามสงบสติอารมณ์ฉันคิดว่าฉันแค่คงตาฝาดไปเองฉันเริ่มฝันร้ายมากๆ ว่าใครสักคนมองฉันตลอดเวลาหลายครั้งฉันตื่นมาพร้อมเหงื่อออกเต็มตัวเรื่องนี้เกือบทำให้ฉันเป็นบ้าดังนั้นฉันจึงตัดสินใจไปหาเขาและคุยกับผู้ชายประหลาดคนนี้เพื่อถามว่าทำไมเขาถึงจ้องสะกดรอยฉันฉันคิดว่าเขาจะปฏิเสธแต่เขาไม่ได้ทำแบบนั้นเลยเขาบอกว่าเขาเห็นฉันพยายามจะทำทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในชีวิตเขาเลยเกิดสนใจขึ้นมาและสงสัยว่าทำไมฉันถึงอยากทำอะไรแบบนั้นแต่พอเข้าไปดูในบล็อกของฉันบนอินเทอร์เน็ตและเห็นโพสต์ของฉันเกี่ยวกับเขาก็เลยรู้สึกขุ่นเคืองหลังจากนั้นก็เลยจงใจตามฉันมาทำนอองว่าเป็นการเอาคืน

ฉันไม่รู้ว่าทำไมแต่ฉันโกรธมากจริงๆ แล้วเริ่มตะโกนใส่เค้าว่าเขาไม่มีสิทธิ์ทำแบบนั้นเพราะเขาทำให้ฉันกลัวมากจากนั้นก็เริ่มขู่เขาบอกว่าถ้าเขาไม่เลิกทำแบบนี้ฉันจะเรียกตำรวจฉันเดินหนีมาและจะกลับบ้านได้ตอนที่ได้ยินเขาบอกว่าเขาไม่เห็นว่าการให้คนติดตามทางออนไลน์กับในชีวิตจริงต่างกันตรงไหนเลย ฉันกลับมาที่บ้านด้วยอารมณ์โกรธเกรี้ยวแม้แต่แม่ที่อยู่ในครัวก็ยังเห็นว่าฉันหงุดหงิดแค่ไหน ฉันไม่อยากบอกเรื่องนี้กับแม่ทั้งหมดดังนั้นเลยบอกแค่ว่าฉันว่าเกลียดผู้ชายน่าขนลุกที่อยู่ฝั่งตรงข้าม แม่จึงเล่าว่าแม่พึ่งบังเอิญเจอพ่อแม่ของ “อลัน”

และพวกเขาเชิญแม่ไปดื่มน้ำชาทักทายพูดคุยกันหรืออะไรแบบนั้นและกลายเป็นว่า “อลัน” เป็นเด็กพวกเขารับมาเลี้ยงพ่อแม่ที่แท้จริงของ “อลัน” ตายในเหตุไฟไหม้ครั้งใหญ่ในปีที่ผ่านมานั้นเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาดูแปลกแปลกและสวมเสื้อแขนยาวตลอดเวลาเขาแค่ซ่อนรอยแผลเป็นของตัวเองและแน่ละว่านั้นคือเหตุผลที่ทำให้เขาตีตัวออกห่างจากคนอื่น ฉันคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นตลอดทั้งวันฉันมองไปที่บ้าน “อลัน” ผ่านทางหน้าต่างห้องชั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าแต่ก็ไม่เห็นเขาอยู่ตรงไหนเลยฉันพยายามค้นหาเขาบนอินเทอร์เน็ตแต่ก็ไม่พบอะไร ฉันไปไล่ดูในหน้าเพจของฉันอีกครั้งแล้วรู้สึกละอายใจที่โพสต์ถึงเขาแบบนั้น และละอายที่คนคอมเมนต์มา

ฉันรู้สึกว่าต้องทำอะไรซักอย่างเพื่อช่วยคนๆนี้ ดังนั้นฉันจึงลบข้อความทั้งหมดก่อนหน้าและโพสต์ข้อความใหม่ที่แตกต่างออกไปโดยสิ้นเชิงฉันเล่าเรื่องราวของเขาและขอให้ผู้ติดตามของฉันทำดีกับคนที่พวกเขาคิดว่าดูแปลกๆ เอาไว้คุณคงนึกไม่ถึงเลยว่าจำนวนข้อความอวยพรและข้อความให้กำลังใจในคอมเม้นที่ฉันได้รับในช่วงไม่กี่วันนั้นมากขนาดไหน ผู้ติดตามบางคนที่รู้ที่อยู่ของฉันถึงขนาดส่งโปสการ์ดมาให้ “อลัน” และขอให้ฉันช่วยมอบให้เขา ฉันรู้สึกกระตือรือร้นและยินดีมากดังนั้นจึงรวบรวมข้าวของนั้นไปให้กำลังใจ “อลัน”

ฉันไปที่บ้านของเขาและทิ้งโปสการ์ดและคอมเม้นต์ให้ฉันปริ้นออกมาก่อนหน้านี้แนบด้วยจดหมายขอโทษจากฉันเองวางไว้ที่หน้าประตูบ้านของเขาเพราะฉันคิดว่าเขาคงไม่อยากพูดกับฉันอีกแต่ฉันก็ดีใจที่รู้ว่าฉันคิดผิด ตอนนี้ “อลัน” และฉันเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันฉันไม่ได้อยากเป็นคนดังอีกต่อไปแล้วเพราะในที่สุดฉันก็เข้าใจว่าเรื่องต่างๆ ในชีวิตจริงต่างหากที่สำคัญกว่าชื่อเสียงเหล่านั้น

ถ้าพวกคุณให้ความสนใจมากพอคงมองเห็นจำนวนผู้ติดตามก่อนที่ฉันจะสังเกตเห็น “อลัน” ในโพสต์และหลังจากนั้นเขียนคำตอบที่ถูกต้องลงในช่องคอมเมนต์ด้านล่างนี้ช่วยแชร์เรื่องราวนี้ให้กับเพื่อนๆของคุณเพื่อให้พวกเขากดติดตามเหมือนอย่างที่คุณทำด้วยนะ 

เรื่องเล่าที่เกี่ยวข้อง

0 0 votes
Article Rating
Subscribe
Notify of
guest
0 Comments
Inline Feedbacks
View all comments
Back to top button
0
Would love your thoughts, please comment.x
()
x

ปิดโปรแกรมบล็อคโฆษณา

กรุณาปิดโปรแกรมบล็อคโฆษณาก่อนนะ เพราะเว็บจะอยู่ได้ก็จากป้ายโฆษณา